เป็นฉันพับเอง ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วมองท่าทางประหลาดใจของผู้หญิงตรงหน้า “นกกระเรียนทุกตัวเป็นฉันพับเอง ชอบมั้ย?”
ชอบมันก็ชอบอยู่หรอก แต่ว่า…
ซูฉิงขมวดคิ้ว มองฮ่อหยุนเฉิงอย่างหมดคำพูด “ฮ่อหยุนเฉิง นายว่างขนาดนี้เลยเหรอ?”
ฮ่อหยุนเฉิงเอื้อมมือไปคลายคิ้วของเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแสร้งทำเป็นไม่พอใจเล็กน้อย “เธอไม่ได้พูดว่าอยากได้ความโรแมนติกหรือไง?”
โรแมติก…โอเค เธอก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง หมอนี่คิดเป็นจริงไปแล้วหรือไง?
แววตาของซูฉิงมีความได้ใจ “เชยมาก”
“เชยเหรอ?” ดวงตาที่ลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิงปรากฏรอยยิ้ม “เธอไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ยังมีอย่างอื่นอีก”
“อย่างอื่น?” ซูฉิงชะงัก หมอนี่จะทำอะไรอีก
ฮ่อหยุนฉฺงลุกขึ้น ก้าวไปด้านหน้าซูฉง ดึงมือของเธอ “มากับฉัน”
เขาพาซูฉิงปาข้างหน้าต่าง ชี้ไปข้างนอก “เธอมองตรงนั้น”
“หืม?” ซูฉิงมองไปทางที่ฮ่อหยุนเฉิงชี้ไป ก็เห็นเพียงแค่ความมืดทั้งหมด
“นี่มีอะไรน่าดูกัน…”
ก่อนที่คำพูดของซูฉิงจะจบลง ทันใดนั้นบนชายหาดก็มีเทียนหลายร้อยเล่มสว่างขึ้น เป็นรูปของดาวสองดวงที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันและถูกยิงด้วยลูกศรของคิวปิด
แสงเทียนพลิ้วไหวตามสายลม เปลี่ยนเป็นสีต่างๆ สวยงามมาก
ทันใดนั้น เทียนก็ดับลงและสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นตัวหนังสือห้าตัว “ซูฉิง แต่งงานกับฉันเถอะ!”
เมื่อเห็นซูฉิงมองไปที่ชายหาดด้านนอกในท่าทางตกตะลึง ฮ่อหยุนเฉิงก็กอดเอวคอดของเธอ ขยับริมฝีปากบาง “แบบนี้โรแมนติกมั้ย?”
ซูฉิงได้สติ กุมหน้าผากพูดว่า “นี่ยิ่งเชยเข้าไปอีก…”
“อ่อ อย่ารีบ ยังมี…” ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือชี้ไปที่ท้องฟ้าอีก
ซูฉิงรีบร้อนกดมือเขาไว้ “พอแล้ว นายอย่ามาลูกไม้เยอะนะ”
ทันทีที่พูดจบ ดอกไม้ไฟที่งดงามนับไม่ถ้วนก็ผลิบานบนท้องฟ้ายามราตรี ราวส่องแสงสว่างให้กับทะเล
ในเวลาเดียวกัน ฮ่อหยุนเฉิงก็หยิบกล่องแหวนกำมะหยี่รูปหัวใจสีแดงออกมาจากกระเป๋าของเขาราวกับมีเวทมนตร์ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง เงยหน้าขึ้น จ้องมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างเสน่หา “ซูฉิง ให้เธอ”
นัยน์ตาลุ่มลึกราวมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงสามารถทำให้ผู้คนจมน้ำตายได้
“พอแล้ว นายลุกขึ้นมาก่อนค่อยพูด” ซูฉิงมุมปากกระตุก ยื่นมือออกไปดึงฮ่อหยุนเฉิงขึ้น
สำหรับผู้ชายที่หยิ่งทะนงอย่างฮ่อหยุนเฉิง สามารถใช้สมองทำอะไรโรแมนติกได้มากมายขนาดนี้ บางทีเขาอาจจะมีใจจริงๆ
โดนเขาทุ่มเทให้ขนาดนี้ พูดว่าไม่ซึ้งและดีใจสักนิดก็ไม่ได้แล้ว
ใจของซูฉิง มีความหอมหวานแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย
แต่ว่า แต่งงานไม่ได้ เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะแต่งงานเร็วขนาดนี้
เธอครุ่นคิด พูดอบ่างจริงจังว่า “ฮ่อหยุนเฉิง การขอแต่งงานของนายครั้งนี้ ถือว่านายมีคุณสมบัติเพียงพอ แต่ว่าฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะแต่งงานเร็วขนาดนี้”
“ทำไมกัน?” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้วน้อยๆ “นี่ไม่โรแมนติกพอหรือไง?”
ชูฉิงเม้มปาก “ไม่เกี่ยวอะไรกับความรักหรอก เราเพิ่งรู้จักกันมาเดือนกว่าเอง ยังไม่รู้จักกันมากพอ ยิ่งกว่านั้น มีใครบ้างที่ไม่ทันได้คบหาก็แต่งงานกัน?”
ความคิดของซูฉิง ในเมื่อคนสองคนรักกันและตกลงคบหาดูใจกันแล้ว พวกเขาจึงควรรักษาความสัมพันธ์ที่ดี และการแต่งงานก็จะมีขึ้นมาเองโดยปริยาย
ตอนนี้ เธอเพิ่งตกลงที่จะคบหากับเขา แต่ไม่ต้องการที่ตกลงไปถึงขั้นแต่งงานโดยไม่ทันได้ไตร่ตรอง
“แบบนี้นี่เอง” ฮั่วหยุนเฉิงก้มศีรษะลงและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาข้างๆ หูของเธอ “ในเมื่อเธอยังไม่อยากแต่งงานเร็วนัก ฉันก็ไม่บังคับ แต่อย่างน้อยเราก็ต้องหมั้นหมายกันไว้ก่อน”
ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาถูกพ่นใส่ลำคอของเธอ ทำให้ใบหน้าของซูฉิงร้อนขึ้น
ยังไม่ทันที่ซูฉิงจะพูดอะไร ฮ่อหยุนเฉิงก็กุมมือของเธอ
ความเย็นที่ส่งผ่านมาจากมือ ซูฉิงหลุบตาลงก็เห็นฮ่อหยุนเฉิงสวมแหวนวงงามบนนิ้วนางของซูฉิงอย่างรวดเร็ว
“นายทำอะไรน่ะ” ซูฉิงมองดูแหวนในมือของเธอและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ภายใต้แสงไฟ แหวนบนมือของซูฉิงส่องสว่าง เพชรขนาดใหญ่วิจิตรเป็นประกาย ทำให้ดวงตาของซูฉิงพร่ามัว
“นี่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลฮ่อเรา คุณปู่ให้ฉันมอบมันให้กับหลานสะใภ้ของเขา ตอนนี้ฉันจะให้มันกับเธอ” ฮ่อหยุนเฉิงหยักริมฝีปากบาง ดวงตาลุ่มลึกของเขามีความนุ่มนวลที่มีแค่ซูฉิงเท่านั้นที่สามารถทำให้มันเผยออกมาได้ เอื้อมมือออกไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
หัวใจของซูฉิงซุกอยู่ในอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิงเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พยักหน้า “อย่างที่นายพูด เรามาหมั้นกันก่อน”
ที่จริงแล้วเรื่องหมั้นหมายเป็นคุณปู่และนายท่านฮ่อที่ตกลงหมั้นหมายให้แก่พวกเขามาก่อน แต่เป็นเพียงแค่การหมั้นด้วยวาจาของคุณปู่ทั้งสอง และตอนนั้นทั้งซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่ได้รู้จักกันเลยสักนิด
แต่ว่าตอนนี้เป็นความเต็มใจของเธอและฮ่อหยุนเฉิงแล้ว
เมื่อเห็นผู้หญิงในอ้อมแขนพยักหน้าตกลง ดวงตาลุ่มลึกของฮ่อหยุนเฉิงก็เป็นประกายประหลาดใจ “ซูฉิง ฉันยินดีที่จะรอจนถึงวันที่เธอพร้อมที่จะแต่งงานกับฉัน”
“งั้นนายก็รอไปนานๆเลย” ซูฉิงหน้าแดงอย่างไม่ยอมแพ้เล็กน้อย
“อย่าให้ฉันรอนาน” ฮ่อหยุนหยักริมฝีปากยิ้ม ก้มศีรษะจูบเธอ
วันต่อมาเป็นวันหยุด ฮ่อหยุนเฉิงพาซูฉิงกลับมาที่บ้านเก่าของตระกูลฮ่อ เพื่อไปเยี่ยมนายท่านฮ่อ
“นายน้อย คุณหนูซู” ลุงหลี่เปิดประตูเห็นฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงก็ตะโกนอย่างยินดี
ฮ่อหยุนเฉิงถามเรียบๆว่า “คุณปู่ฉันอยู่ที่ไหน?”
“ท่านผูเฒ่าฮ่ออยู่ที่ห้องหนังสือครับ” ลุงหลี่พาพวกเขามาที่ห้องหนังสือ เคาะประตู “นายท่าน นายน้อยกับคุณหนูซูมาครับ”
“เข้ามา” เสียงนายท่านฮ่อดังออกมาจากห้องหนังสือ
ฮ่อหยุนเฉิงผลักประตูเข้าไป ก็พบนายท่านฮ่อกำลังคัดตัวหนังสืออยู่ เดินไปตรงหน้าพูดว่า “คุณปู่”
นายท่านฮ่อวางดินสอในมือลง “หยุนเฉิง ฉิงฉิง พวกเธอมาแล้ว”
ซูฉิงเห็นสีหน้าของนายท่านฮ่อดีขึ้นมาก ก็ยิ้มอย่างห่วงใยถามว่า “คุณปู่ฮ่อ ร่างกายดีขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ?”
“ยังเรียกว่าคุณปู่ฮ่ออยู่อีกเหรอ?” นายท่านฮ่อหรี่ตาลงมองซูฉิงยิ้มๆ “ควรเปลี่ยนเป็นเรียกฉันว่าคุณปู่อย่างที่หยุนเฉิงได้แล้วมั้ง?”
เอ่อ คุณปู่…
ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงข้างกายก็เห็นว่าเขาเลิกคิ้ว “คุณปู่พูดไม่ผิดนะ”
ในสายตาที่มองมาอย่างกระตือรือร้นของนายท่านฮั่ว ซูฉิงเปิดปากเรียกว่า “คุณปู่”
“นี่ถูกแล้ว!” นายฮั่วลูบเคราของเขาและพูดอย่างประหลาดใจ “หยุนเฉิง นายกับฉิงฉิงจะแต่งงานกันเมื่อไหร่?”
แต่งงาน…
เอาเถอะ ต่อหน้าเรื่องแต่งงาน คนตระกูลฮ่อรีบร้อนกันหมดจริงๆ
ซูฉิงรีบพูดว่า “คุณปู่ พวกเรายังไม่ได้คิดจะแต่งงานกันค่ะ”
“หือ?”
นายท่านฮ่อขมวดคิ้ว กำลังจะพูดต่อ เสียงอันน่าดึงดูดของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังขึ้น “คุณปู่ ผมกับซูฉิงจะหมั้นกันก่อนครับ”