ตอนที่ 127 ยังอีกแปดครั้ง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

จวินโม่ซีตอบ “นอกเสียจากว่าเจ้าจะหาหม้อเทพนิรันดร์เจอ บางทีเจ้าอาจจะสามารถล้างพิษและทำให้ท่านอาของเจ้าลุกขึ้นยืนได้”

“หม้อเทพนิรันดร์ นั่นไม่ใช่หม้อยาหรอกหรือ ? มันสามารถล้างพิษได้รึ ?” มู่เฉียนซีถาม ใบหน้านางฉงนสงสัย

“เพียงแค่ทำให้หม้อเทพนิรันดร์ยอมรับเจ้า เช่นนั้นก็จะได้รับการสืบทอด บางทีในมรดกโบราณอาจมีวิธีล้างพิษ นอกจากนี้แล้ว ข้าไม่สามารถคิดวิธีอื่นออกเลยจริง ๆ” จวินโม่ซีโบกมือ

มู่เฉียนซีพยักหน้า “อืม ข้าเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องหาหม้อเทพนิรันดร์ให้พบ”

ไม่เพียงแต่เพื่อเพิ่มทักษะการปรุงยาของตนเอง แต่ยังเพื่อรักษาท่านอาเล็กให้หาย หม้อเทพนิรันดร์จำเป็นกับนางมาก เพียงแต่ว่าโลกนี้กว้างใหญ่เกินไป หากคิดจะหาสมบัติเทพโบราณ มันมิใช่เรื่องง่ายเลย

นางผูกพันธสัญญากับศาลานิรันดร์และศาลาเรือนรางเก้าชั้น มันล้วนเป็นเรื่องไม่คาดฝัน  ส่วนการได้รับแหวนมังกรเทพวารี นั่นก็เป็นจิ่วเยี่ยมอบให้

จวินโม่ซีหัวเราะคิกคัก กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นเช่นนี้มันถูกต้องแล้ว แต่การหาหม้อเทพนิรันดร์มันยากกว่าที่เจ้าคิดไว้มาก”

มู่เฉียนซีมองจวินโม่ซี “ดูเหมือนว่าเจ้าจะสนใจหม้อเทพนิรันดร์เป็นพิเศษนะ”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ข้าเคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่รึว่าหม้อเทพนิรันดร์เป็นสมบัติที่นักปรุงยาทุกคนใฝ่ฝันถึง ข้าเองก็เป็นนักปรุงยาเหมือนกับเจ้า” จวินโม่แสร้งทําเป็นพูด

มู่อวู่ซวงกินยาดอกบัววิญญาณไป เห็นได้ชัดว่าลมหายใจของเขาเสถียรมากขึ้น มู่เฉียนซีถอนหายใจ กลับไปที่เรือนสุ่ยซีของนาง  เมื่อเปิดประตู ก็เห็นชายผู้เย็นชานอนอยู่บนเตียงของนาง จ้องมองมาที่นางอย่างลึกซึ้ง

มู่เฉียนซี “จิ่วเยี่ย เจ้าฟื้นแล้ว”

เขาขยับเข้ามาใกล้ มองมู่เฉียนซีจากที่สูง “ข้าไม่เป็นไรแล้ว”

“อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” มู่เฉียนซียิ้มให้เขา  เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเหนื่อยล้าและต้องการที่จะนอนลงบนเตียงของนางอีกครั้ง

“จิ่วเยี่ย นี่เป็นห้องของข้า ถ้าเจ้าต้องการพักผ่อนอย่างสะดวกสบายกว่านี้ เจ้ากลับไปที่จวนเยี่ยอ๋องก่อนก็ได้”

คิ้วของจิ่วเยี่ยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “เจ้าไล่ข้าหรือ ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ห้องของข้าเล็กเกินไป เกรงว่าคงรับคนสองคนไม่ได้ ดังนั้นเจ้า…”

“พาข้ากลับไป”

จิ่วเยี่ยดึงมู่เฉียนซีเข้าไปในอ้อมกอดของเขาก่อนจะพานางออกไป

มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุก นี่ไม่ใช่การพาเขากลับไป แต่เป็นเขาที่ลักพาตัวนางไปต่างหาก นางขัดขืนอะไรไม่ได้ ถูกพาตัวมาถึงจวนเยี่ยอ๋อง เขาพานางเข้าไปในจวน ทว่านางเตรียมจะหนี

“จิ่วเยี่ย ข้าส่งเจ้ากลับมาถึงแล้ว งั้นข้าขอตัวก่อน”

“ไม่ได้ วันนี้เจ้าต้องอยู่ต่อ”

จิ่วเยี่ยคว้าร่างมู่เฉียนซีไว้ แสงจันทร์สาดส่องลงมากระทบบนใบหน้าของนาง ใบหน้างดงามน่าดึงดูดใจสะท้อนอยู่ในดวงตาจิ่วเยี่ย

“อยู่ต่อรึ ? เจ้าจะให้ข้าทำอะไร ?” มู่เฉียนซีกังวลอยู่ในใจ จิ่วเยี่ยคงไม่พูดเรื่องที่นางทำกับเขาหรอกใช่ไหม ?

ชัดเจนว่ากลัวอะไรได้อย่างนั้น

“เจ้าลองนึกคิดดูสิ ว่าเจ้าทําอะไรกับข้าไว้”

มือของจิ่วเยี่ยใช้แรงดึงนางไปบนเตียงไม้ในห้อง

เมื่อเห็นว่าเขาผู้นี้กําลังใกล้เข้ามา ดวงตาแข็งกร้าวราวกับเทพมาร มู่เฉียนซีรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี นางกล่าว “จิ่วเยี่ย สถานการณ์พิเศษต้องจัดการแบบพิเศษไงเล่า ตอนนั้นข้าต้องฉีดไปที่ตรงนั้น ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

มือเรียวยาวคู่นั้นของบุรุษชุดดำ วางลงบนลำคอของมู่เฉียนซี กลิ่นอายเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างของนาง  เขาพูดเสียงต่ำว่า… “หากคนอื่นทําแบบนี้กับข้า คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย  …เจ้าเป็นข้อยกเว้น”

แม้แต่จิ่วเยี่ยยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ว่าดวงตาสีฟ้าเย็นเยือกคู่นั้นของเขาฉายแววเอ็นดูออกมา

“เรื่องนี้ก็ถูกเปิดเผยแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ?” มู่เฉียนซีมองจิ่วเยี่ยด้วยความหวัง

เจิ่วเยี่ยดึงมือเรียวยาวของเขากลับมา ทําให้มู่เฉียนซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าเยี่ยอ๋องจะปล่อยนางไป  แต่ทว่า… คําพูดของจิ่วเยี่ยกลับทําให้นางตกจากเตียง

“ข้าคิดว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ใครทำข้าอย่างไร ข้าก็จะเอาคืนอย่างนั้น เจ้าคิดว่าอย่างไร ?” ริมฝีปากได้รูปสมบูรณ์แบบเปิดออก กล่าวประโยคนี้ออกมาอย่างช้า ๆ

มู่เฉียนซีกัดฟันพยุงร่างขึ้นมา  ฮึ่ม! เอาคืนก็เอาคืน  อย่างไรหมอปีศาจอย่างนางก็ไม่กลัวการฉีดยาอยู่แล้ว อีกทั้งผู้อาวุโสฮั่วอวิ๋นยังทําเข็มยาของนางออกมาอย่างประณีตและมันไม่เจ็บปวดเลยเวลาจิ้ม

มู่เฉียนซีหยิบเข็มยาที่เล็กกว่าเส้นผมออกมาเก้าเข็ม กล่าวขึ้น “จิ่วเยี่ย ข้าจะให้ยาเจ้า เจ้าฉีดข้าเพียงเก้าเข็ม ยากล่อมประสาทสามเข็ม ยาสะกดจิตสามเข็ม และยาแก้ปวดสามเข็ม  ยาถูกบรรจุเรียบร้อยแล้ว ถ้าเจ้าจะลงมือก็ลงมือเถอะ เร็วสิ!”

กล่าวออกไปเช่นนั้นแล้ว มู่เฉียนซีเอนตัวลงนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ  เห็นได้ชัดว่านางกําลังรอให้เยี่ยอ๋องฉีดยาตรงที่เดียวกับที่นางฉีดเขาอย่างยอมรับชะตากรรม

ทว่าจิ่วเยี่ยกลับยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะแตะต้องเข็มยานั่นเลย

มู่เฉียนซีหันกลับมา ถามขึ้นว่า “จิ่วเยี่ย เจ้า…”

“เก้าเข็มไม่พอ” สี่คําพูดออกมาอย่างเย็นชา

มู่เฉียนซีบ่นอยู่ในใจว่า ‘ท่านอ๋องผู้โหดร้ายนี่ คงไม่อยากเอาคืนเป็นสิบเท่ากระมัง ?!’

‘ถ้าสิบเท่าก็… เก้าสิบเข็มเช่นนั้นรึ ?! จะทิ่มให้กลายเป็นรังผึ้งเลยหรือไร ? ตาย… ข้าตายแน่’

“สิบเข็มก็พอแล้ว” มู่เฉียนซีหยิบเข็มยาออกมาอีกเข็ม ใช้แววตาเว้าวอนมองเขา  หวังว่าเขาจะไม่โหดเหี้ยมถึงขนาดสิบเท่าร้อยเท่าเช่นนั้นจริง ๆ

จิ่วเยี่ยกลับไม่ขยับ เขากดมู่เฉียนซีลงบนเตียงนุ่ม ๆ  ดวงตาสีฟ้าเย็นเยือกคู่นั้นมองนาง พลันมีประกายอันตรายบางอย่างทําให้มู่เฉียนซีรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

มือของจิ่วเยี่ยขยับจัดท่าให้มู่เฉียนซีนอนคว่ำหน้าลงบนเตียงนุ่ม ๆ  สุดท้าย…

— เพี๊ยะ! —

“อ๊อยยยย!” มู่เฉียนซีตะโกนเสียงแปลกประหลาดออกมาในทันใด ดวงตานางเบิกกว้าง ใบหน้าแดงก่ำ  นางโกรธจนทั่วร่างสั่น ตะโกนลั่น “จิ่วเยี่ย เจ้า… เจ้ากล้าตีก้นข้า!”

นางโตมาขนาดนี้ ชาติก่อนชาตินี้ไม่เคยถูกคนอื่นตีตรงนี้มาก่อน!

“สิ่งของพวกนั้นของเจ้า ข้าใช้ไม่เป็น ดังนั้นเช่นนี้มันจึงดีที่สุด” คําตอบของจิ่วเยี่ยเป็นคําตอบที่ซื่อสัตย์มาก เขายิ้มพึงพอใจ ความรู้สึกสัมผัสตรงฝ่ามือเมื่อครู่นี้ช่างนุ่มดีจริง ๆ

ทนไม่ไหวแล้ว!

มู่เฉียนซีเตรียมพร้อมที่จะต่อต้านความเผด็จการขององค์ชายซิวหลัวผู้โหดเหี้ยม ถูกตีเช่นนี้ช่างเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง  หากโดนเก้าสิบครั้งจริง ๆ นางคงต้องหนีเป็นแน่

มู่เฉียนซีระเบิดพลังทั้งหมดออกมา กระโดดขึ้นอย่างกะทันหัน พลิกตัวและคว้าแขนจิ่วเยี่ย ก่อนจะโยนเขาลงบนเตียงนุ่ม ๆ นี้บ้าง จากนั้นนางนั่งลงบนร่างของเขา มือทั้งสองข้างกดลงบนไหล่กว้าง  ใบหน้าแดงก่ำของนางยังคงไม่จางหายไป  นางกล่าววาจาคุกรุ่นอารมณ์โกรธ

“จิ่วเยี่ย เจ้าทําเกินไปแล้ว!  พ่อข้ายังไม่เคยตีข้าเลย แต่เจ้ากลับตีตรงนั้น”

จิ่วเยี่ยที่ถูกมู่เฉียนซีจับไว้ กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าเป็นคนทําเรื่องแบบนั้นกับข้าก่อนไม่ใช่หรือ ?”

มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุก “นั่นมันไม่เหมือนกัน มันเป็นการฉีดยา มันเป็นเรื่องปกติที่หมอยาจะฉีดยาบริเวณนั้น ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยพบเห็นมันมาก่อน”

ทันทีที่คําพูดของมู่เฉียนซีจบลง กลิ่นอายของท่านอ๋องผู้โหดร้ายก็กลายเป็นแผ่ความอันตรายถึงขีดสุด

ทันใดนั้นท้องฟ้าหมุนวน จิ่วเยี่ยมีความคิดริเริ่มที่จะปราบมู่เชียนซีอีกครั้ง

“อีกแปดครั้ง มานี่”

ไอร้อนพ่นออกมาจากหูของมู่เฉียนซี ทันทีที่เขาพูดประโยคนั้นออกมา

มู่เฉียนซีอยากจะร้องไห้เสียจริง ๆ

.