บทที่ 359 ควรรู้สึกพอใจ
มือหนิงเมิ่งเหยาเกร็งขึ้นมา นางมองหลินจือโยว แววตาดำทะมึนของนางค่อยๆ เข้มขึ้น สุดท้ายแล้วก็เป็นคำสั่งของหลิงหลัว
หลิงหลัวอยากฆ่าบุตรของนาง ทำไมจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าของนาง นางจะปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายได้เช่นไร
“จริงหรือ”
“ขอรับ” หลินจือโยวผงกศีรษะ เดิมเขากังวลว่ามีคนใส่ร้ายหลิงหลัว แต่หลังจากสืบความเพิ่ม เขาก็ยืนยันได้ว่านี่เกี่ยวข้องกับหลิงหลัวจริง
หนิงเมิ่งเหยาผงกศีรษะ “ข้าเข้าใจแล้ว”
นางเคยคิดว่าหลังจากบอกทุกอย่างให้กระจ่างแจ้ง เขาจะปฏิบัติกับเซียวจื่อเซวียนและลูกของเขาอย่างดี แล้วเรื่องก็จะจบ ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะทำเช่นนี้
เฉียวเทียนช่างขมวดคิ้วเมื่อเห็นหนิงเมิ่งเหยาทำท่าทางเช่นนี้ เขามองคนรอบข้าง แล้วโบกมือให้พวกเขาออกไป
หลังจากทุกคนไปแล้ว เฉียวเทียนช่างก็สวมกอดหนิงเมิ่งเหยา “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่หรือ”
“เขาทำเช่นนี้ได้ลงคอได้อย่างไร” หนิงเมิ่งเหยาพึมพำเสียงแผ่ว นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้คนที่อ่อนโยนคนนั้นจะกลายมาเป็นคนพรรค์นี้
เฉียวเทียนช่างมีความรู้สึกแปลกๆ ในใจ ตั้งแต่ที่หลิงหลัวมาหาในครั้งนั้น เขาสังหรณ์ว่ามีบางอย่างระหว่างหลิงหลัวและหนิงเมิ่งเหยาที่เขาไม่รู้ แต่เขาไม่เคยถาม
“เทียนช่าง ให้ข้าเล่าเรื่องให้เจ้าฟังเถอะ” หนิงเมิ่งเหยาถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็เล่าเรื่องอดีตและชีวิตในอดีตของนางกับหลิงหลัวให้เฉียวเทียนช่างรับรู้
นางมองสีหน้าตกใจของเฉียวเทียนช่างหลังพูดจบ “เจ้าไม่เชื่อหรือ”
“นิดหน่อย แต่เหยาเหยา ข้ารู้สึกโชคดีมาก” โชคดีที่นางมาที่นี่แล้วกลายเป็นภรรยาของเขา
หนิงเมิ่งเหยาตัวแข็งเกร็งไปชั่วขณะ แต่แล้วก็ยิ้ม รอยยิ้มนางต่างจากในยามปกติ แต่เฉียวเทียนช่างบอกไม่ถูกว่าต่างกันอย่างไร
นางไม่ได้บอกเฉียวเทียนช่างเพราะนางไม่อยากเสี่ยง แต่นางได้รู้แล้วว่าตนคิดมากเกินไป
“ข้าเคยคิดว่าเขาเป็นชายที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ ข้ารู้ตัวแล้วว่าข้าตามืดบอด เขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเข้ากับโลกยุคนี้ไปแล้ว” นางยังคงยืนหยัดในหลักการของตนเอง ทั้งสองจึงแยกทางกันแล้วกลายมาเป็นศัตรูในตอนนี้
เฉียวเทียนช่างพยักหน้าอย่างจริงจัง “เขาไม่ใช่คนที่เจ้าจะฝากชีวิตไว้ได้”
“เจ้ากำลังบอกว่าเจ้าคือคนที่ข้าฝากชีวิตไว้ด้วยได้หรือ” หนิงเมิ่งเหยานึกขบขันเมื่อนางมองเฉียวเทียนช่าง ดวงตาของนางมีรอยยิ้ม
เฉียวเทียนช่างเลิกคิ้ว “แล้วข้าไม่ใช่หรือ”
“เจ้าคือคนๆ นั้น’
หลังจากนั้น เฉียวเทียนช่างก็ถามหนิงเมิ่งเหยามากมายเกี่ยวกับโลกยุคปัจจุบัน หนิงเมิ่งเหยาค่อยๆ อธิบายให้เฉียวเทียนช่างฟัง นางยังเล่าถึงสิ่งที่นางเคยทำในชีวิตก่อนอีกด้วย
เขาพูดไม่ออกเมื่อได้รู้ว่าหนิงเมิ่งเหยาในชีวิตก่อนทำงานเป็นนักชิมไวน์
สมแล้วที่นางดื่มได้มากขนาดนี้ เขาไม่เคยเห็นนางเมามาก่อน สุราที่นางกลั่นก็รสชาติดียิ่ง
เขาเข้าใจในที่สุดจากคำอธิบายของนางว่านักชิมไวน์จะอยู่กับสุราเสมอ เป็นไปได้ว่าสุราที่นางเคยดื่มอาจจะมีมากกว่าที่เขารู้จักเสียอีก
“ร้านที่เจ้าอยากเปิดก็มีในชีวิตก่อนของเจ้าหรือ”
“ถูกต้องแล้ว มีร้านเช่นนั้นอยู่มากมายในยุคนั้น มีโรงอาบน้ำ สระว่ายน้ำ แล้วก็นมผง” หนิงเมิ่งเหยาอธิบายถึงสิ่งเหล่านั้นให้เฉียวเทียนช่างฟัง จากนั้นก็เอ่ยอย่างเสียดาย “น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้วิธีทำนมผง ไม่อย่างนั้นข้าก็จะได้ทำเพิ่มขึ้นมาได้”
เฉียวเทียนช่างเอื้อมมือไปลูบศีรษะของหนิงเมิ่งเหยา “เจ้าควรจะพอใจได้แล้ว” เขาไม่แปลกใจที่ทงเป่าไจใหญ่ขนาดนี้
หญิงนางนี้มาจากตระกูลพ่อค้าในชีวิตก่อน นางเป็นอัจฉริยะ นางย่อมขึ้นเป็นใหญ่ในที่นี่ได้อย่างมิต้องสงสัย นางซ่อนสิ่งต่างๆ ไว้เพราะกลัวว่าหลิงหลัวจะเจอเข้า
“จริงด้วย ข้าควรจะรู้สึกพอใจได้แล้ว” หนิงเมิ่งเหยายิ้มและพยักหน้า
จริงๆ แล้วนางไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไรมากนัก นางแค่อยากจะใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน ที่นางไม่สามารถทำได้ในชีวิตก่อน แต่นางมีโอกาสจะทำเช่นนั้นในชีวิตนี้
ร่วมกันกับชายที่เอาอกเอาใจและรักนาง และบุตรที่ยังไม่เกิดมา ครอบครัวสามชีวิตนี้จะมีชีวิตที่ผาสุก
“เทียนช่าง หลังจากนี้ ข้าอยากให้เรากลับไปหมู่บ้านไป๋ซาน เมื่อลูกของเราเติบโตขึ้น เราจะพาเขาท่องเที่ยวไปทุกแห่ง” หนิงเมิ่งเหยาเชื่อว่าเดินทางหมื่นลี้ดีกว่าอ่านหนังสือหมื่นเล่ม
เพราะสุดท้ายแล้ว ในยามออกเดินทาง พวกนางจะได้เรียนรู้สภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งหมดล้วนมีประโยชน์อย่างยิ่ง
บทที่ 360 ตั้งครรภ์จริงหรือ
“ตกลง”
ในตอนนี้ เฉียวเทียนช่างเห็นด้วยกับทุกคำพูดของหนิงเมิ่งเหยาเสมอ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หลิงหลัวต้องการจะพรากชีวิตลูกของเขาไป สายตาของชายหนุ่มก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“เหยาเหยา ข้าต้องการชีวิตของหลิงหลัว” ทันใดนั้นชายหนุ่มก็มองไปที่นางแล้วกล่าวอย่างจริงจัง
หนิงเมิ่งเหยาผงกศีรษะ “เขากับข้าไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว”
เฉียวเทียนช่างเม้มปากจนกลายเป็นรอยยิ้ม “อืม ข้ารู้”
หลังจากที่ชายหนุ่มรู้แผนการของหลิงหลัว เขาก็อยู่ใกล้ชิดกับหนิงเมิ่งเหยาเสมอ เว้นแต่ตอนที่นางนอนหลับเท่านั้น ชายหนุ่มให้ชิงซวงตรวจสอบอาหารก่อนรับประทาน ถึงกระนั้น เขาก็ยังกังวลว่าอาจจะมีข้อผิดพลาดบางอย่างเล็ดลอดสายตาไป
หลิงหลัวเฝ้ารอข่าวจากหมิงฟางมาหลายวัน แต่เขาก็ยังไม่มีข่าวใดๆ ท่าทางสุขุมของหลิงหลัวจึงกลายเป็นเคร่งขรึมในทันที
“หมิงฟาง เกิดอะไรขึ้น” หลิงหลัวเอ่ยถามอย่างเย็นชา ขณะมองอีกฝ่าย
หมิงฟางมองนายน้อยของตนอย่างหมดหนทาง “ข้าติดสินบนคนๆ หนึ่งจากจวนแม่ทัพใหญ่ขอรับ แต่ได้ยินมาว่าเขานำเงินและยานั้นไปมอบให้กับแม่ทัพเฉียว ทำให้ตอนนี้พวกเขาปกป้องดูแลเด็กอย่างแน่นหนา ข้าจึงไม่มีโอกาสที่จะกระทำการใดๆ ขอรับ”
จริงๆ แล้ว แผนการนั้นมีอยู่หลายหนทาง แต่หมิงฟางกลับเลือกใช้วิธีที่โง่เขลาที่สุด อันที่จริงก็เพราะมีจุดประสงค์ เพื่อเตือนเฉียวเทียนช่างและคนอื่นๆ
แม้ว่าหมิงฟางจะไม่ใช่คนมีศีลธรรมสูงส่ง แต่เขาก็ไม่อาจทำร้ายเด็กในครรภ์ได้
นอกจากนี้ แม่นางหนิงยังเป็นคนดี และก่อนหน้านี้ หญิงสาวเคยแท้งลูกเพราะเซียวจื่อเซวียนมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากเจอปัญหาอุปสรรคมากมาย ตอนนี้หญิงสาวก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนใหม่ แต่หากต้องแท้งอีกครั้ง นางจะเสียสติเพียงใดกัน
‘นายน้อยลืมไปแล้วหรือ ว่าก่อนหน้านี้ทงเป่าไจกดดันพวกเขาอยู่’
“หมิงฟาง ทำไมเจ้า!” ทันใดนั้น หลิงหลัวก็ชกอกของอีกฝ่าย
เขามิใช่คนโง่เขลา จึงรู้เหตุผลว่าทำไมหมิงฟางถึงทำเช่นนั้น
หลิงหลัวมองหมิงฟางอย่างเย็นชา แล้วนั่งยอง ก่อนจะกระชากคอเสื้อของเขา “เจ้าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของข้า”
หมิงฟางยิ้มเยาะเย้ยตนเอง “นายท่านขอรับ ถ้าเช่นนั้น ได้โปรดฆ่าข้าเถิดขอรับ”
หลิงหลัวมองไปที่หมิงฟางอย่างดุร้าย หมิงฟางเติบโตมาพร้อมกันกับเขา และยังเป็นองครักษ์ส่วนตัวของเขาอีกด้วย แต่ตอนนี้เขาอยากจะฆ่าอีกฝ่ายเพราะคนเหล่านั้น
“หมิงฟาง ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ฆ่าเด็กนั่นเสีย แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” หลิงหลิงยังไม่พร้อมจะฆ่าอีกฝ่าย
หมิงฟางส่ายศีรษะ “ให้อภัยข้าด้วยขอรับ นายน้อย แต่หมิงฟางผู้นี้มิอาจทำเช่นนั้นได้ขอรับ”
“เจ้ารนหาที่ตายแท้ๆ พวกเจ้าจับตัวเขาไว้ และเจ้าจะออกมาได้ก็ต่อเมื่อยอมลงมือทำมัน” เขาเหวี่ยงคอเสื้อของอีกฝ่าย ก่อนจากไป
หมิงฟางเช็ดเลือดตรงมุมปาก ดวงตาคู่นั้นบ่งบอกว่าเขากำลังเย้ยหยันตนเอง ‘นายน้อยเปลี่ยนไปอย่างมาก เขามิใช่คนเดิมที่หมิงฟางเคยรู้จัก’
เฉียวเทียนช่างรู้สถานการณ์ของหลิงหลัวอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มไม่มีความเห็นเกี่ยวกับหมิงฟาง เขาเพียงแค่เยาะเย้ยความตั้งใจของหลิงหลัวเท่านั้น
หมิงฟางกับฟลิงหลัวนั้นเติบโตมาด้วยกัน เขาช่วยเหลือหลิงหลัวไว้มากมาย ทั้งยังเคยช่วยชีวิตของหลิงหลัวอีกด้วย แต่ตอนนี้เขากลับพบจุดจบเช่นนี้ แม้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นๆ ของหลิงหลัวจะไม่พูดอะไร แต่พวกเขาก็รู้สึกได้ว่านายน้อยนั้นทำเกินกว่าเหตุ
หากหลิงหลัวยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นแน่ โชคร้ายนักที่เขายังไม่รู้ตัว
“จับตาดูหลิงหลัวต่อไป” เฉียวเทียนช่างโบกมือและส่งผู้ใต้บังคับบัญชาออกไปทำภารกิจ
สามวันต่อมา อวี้เฟิงและคนอื่นๆ ก็มาถึงด้วยสภาพเนื้อตัวเปื้อนฝุ่น เพียงเหลือบตามอง ก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขามิได้หยุดพักระหว่างทางเลย
เมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของพวกเขา เฉียวเทียนช่างก็ทำอะไรไม่ถูก “พวกเจ้าใจเย็นก่อน จวนแม่ทัพใหญ่ไม่ได้หายไปไหน ทุกคนไปล้างตัวและพักผ่อนกันสักครู่เถิด ตอนนี้เหยาเหยากำลังนอนหลับอยู่”
“ได้”
เฉียวเทียนช่างให้ท่านยายฉินจัดเตรียมห้องพักสำหรับแขกสองสามคน ก่อนจะเตรียมอาหารและน้ำร้อนให้พวกเขา
หลังจากเติมพลังกันเสร็จ อวี้เฟิงจึงมองเฉียวเทียนช่าง “เสี่ยวเหยาเอ๋อร์ตั้งครรภ์จริงๆ หรือ”
“ใช่ เกือบสองเดือนแล้ว” ชายหนุ่มยิ้มและพยักหน้า
อวี้เฟิงรู้สึกผิดหวังในใจ ทั้งๆ ที่เขาแต่งงานก่อน แต่ทำไมถึงยังไม่มีลูกเลยสักคน ส่วนคนที่เพิ่งแต่งงานทีหลังนั้น กำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว
เขามองเหมยรั่วหลินด้วยสายตาที่เศร้าหมอง แต่กลับถูกอีกฝ่ายมองข้ามไป