ตอนที่ 140 ขัดขวาง
“เหตุใดสะใภ้หวังจึงมีโลหิตไหลเล่า ? ”
หลี่ซื่อกรีดร้องออกมาและรีบตะโกนเรียกสาวใช้ทันที “เร็วเข้า พวกเจ้ารีบไปตามท่านหมอมารักษาสะใภ้หวังเดี๋ยวนี้ ในครรภ์นางมีบุตรอยู่ จักให้เกิดเรื่องผิดพลาดมิได้เด็ดขาด”
สาวใช้คนสนิทของหลี่ซื่อเฉลียวฉลาดจึงรีบวิ่งออกไปจากเรือนทันที ในขณะเดียวกันก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น “แย่แล้ว ! เกิดเรื่องร้ายกับนายหญิงรอง รีบไปตามท่านหมอมาเร็วเข้า”
เสียงตะโกนของสาวใช้ผู้นั้นดังออกไปด้านนอกเรือนฉีอู๋ มิว่าความหมายเยี่ยงไรก็บ่งบอกว่าหวังซื่อกำลังแท้งบุตร เป็นเหตุให้หวังซื่อที่ได้ยินก็รู้สึกหวาดกลัวและโมโหยิ่งกว่าเดิมทำให้เลือดยิ่งไหลเร็วขึ้น
สายตาหลี่ซื่อหยุดอยู่ที่คราบโลหิต แววตาแฝงด้วยความประหลาดใจพร้อมกันนั้นก็ยกยิ้มมุมปากขึ้น แต่แล้วท่าทางพวกนี้ก็หายไปอย่างรวดเร็ว นางกลับมาทำร้อนรนอีกครา “เกอเอ๋อ เหตุใดสะใภ้หวังเลือดไหลได้เล่า คงมิได้เป็นเพราะเรือนของเจ้ามีอันใดมิดีอยู่หรอกนะ”
อันหลิงเกอมิมีใจทะเลาะกับนางจึงทำเพียงหันไปออกคำสั่งกับหมิงซิน “รีบไปที่ห้องเก็บสมุนไพรแล้วนำ*หญ้าหมาเจี่ยนไปต้มกับน้ำเร็วเข้า”
หมิงซินเพิ่งเคยเจอสถานการณ์เยี่ยงนี้เป็นครั้งแรกก็อดตื่นตระหนกมิได้ แต่หลังจากเห็นท่าทีหนักแน่นของคุณหนูใหญ่ นางก็สงบจิตใจได้ในที่สุดและมิรู้ว่าความหวาดหวั่นในใจมลายหายไปตั้งแต่เมื่อไร
นางพยักหน้ารับ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตู
ทว่าหลี่ซื่อเข้ามาขวางตรงหน้าหมิงซินไว้และเชิดหน้ากล่าวกับอันหลิงเกอว่า “เกอเอ๋อ เจ้าคิดทำอันใด เจ้าให้สาวใช้ไปทำลายหลักฐานหรือ ? ”
“หลี่อี๋เหนียงจักกล่าวสิ่งใดต้องมีหลักฐานด้วย” อันหลิงเกอกวาดตามองอย่างเรียบเฉย แต่แววตาคู่งามที่จ้องมองกลับทำให้หลี่ซื่อหลบสายตาอย่างมิรู้ตัว
มิว่ามองกี่ครั้งนางก็รู้สึกว่าดวงตาของอันหลิงเกอน่ากลัว มันทำให้นางมิกล้าสบตาสู้
อันหลิงเกอเห็นหลี่ซื่อมิได้เถียงกลับจึงเริ่มกล่าวกับปี้จูที่อยู่ด้านข้างอีกครั้ง “ปี้จูไปเอา*ใบจื่อซูมา 3 ชั่ง *ดีบัว 2 ชั่ง *ฉวนฉงครึ่งหัวแล้วต้มรวมกับผลไม้ที่มีรสหวาน”
อันหลิงเกอเข้าใจการปรุงยาด้วยหรือ ?
หลี่ซื่อมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา นางเริ่มกังวลว่าอันหลิงเกอจักรักษาหวังซื่อได้จริงจึงรีบยึดประตูไว้อย่างมั่นคง มิปล่อยให้หมิงซินและปี้จูออกไปข้างนอก
“หากท่านยังมิหลีกทางก็อย่าหาว่าบ่าวของข้าเสียมารยาท”
ท่าทางของอันหลิงเกอเย็นชา คำพูดที่ออกมาก็น่าหวั่นเกรง
พลันทำให้หลี่ซื่อรู้สึกหวาดกลัวอย่างอธิบายมิถูก แต่ก็ยังดื้อดึงดังเดิม “ข้าแค่กลัวว่าเกอเอ๋อจักส่งคนไปทำลายหลักฐาน หากเจ้ามิอธิบายให้ชัดเจนแล้วสาวใช้สองคนนี้อย่าคิดออกไปไหนทั้งนั้น ! ”
“หมิงซิน ปี้จู” อันหลิงเกอเรียกเบา ๆ พวกนางก็มิลังเลที่จักพุ่งไปด้านหน้าแล้วผลักตัวหลี่ซื่อออก มิสนว่าอีกฝ่ายล้มแล้วร้องออกมาเยี่ยงไร พวกนางวิ่งไปที่ห้องเก็บยาโดยมิหันกลับมามองแม้แต่น้อย
หลี่ซื่อมองนางสองคนวิ่งไปจากตรงหน้า พลันทำให้ความโกรธพลุ่งพล่านจนทำให้ใบหน้างดงามเคร่งขรึม
นางลุกขึ้นจากพื้นด้วยความโมโห “เกอเอ๋อ เจ้าสั่งสอนคนใช้เยี่ยงนี้หรือ ? ถ้าอยู่ที่เรือนข้า สาวใช้เยี่ยงนี้ต้องโดนขายออกไปนานแล้ว”
“แต่ที่นี่คือเรือนของข้า” อันหลิงเกอตอบอย่างมิเบามิแรงเกินไป จากนั้นก็คุกเข่าลงด้านข้างหวังซื่อแล้วเอื้อมมือไปจับชีพจรของอีกฝ่าย
ชีพจรหวังซื่อปั่นป่วนมาก เต้นเร็วเต้นช้ามิเป็นจังหวะ บางเวลาก็อ่อนบางครั้งก็แรง ทำให้จับจุดมิได้
อันหลิงเกอรู้สึกได้เยี่ยงนั้นก็แสดงสีหน้ากังวลออกมา “อาสะใภ้รองมีอาการเยี่ยงนี้เพราะทานสิ่งที่มิควรเข้าไป”
หลังจากนั้นอันหลิงเกอก็ไปหยิบกระเป๋าเข็มทองจากชั้นวางด้านข้างและรีบฝังเข็มให้หวังซื่ออย่างแม่นยำ
ท่าทางมั่นอกมั่นใจนี่ตกอยู่ภายใต้สายตาหลี่ซื่อ ทำให้หลี่ซื่อมั่นใจในความคิดตนเองยิ่งกว่าเดิม
สตรีชั้นต่ำเยี่ยงอันหลิงเกอรู้วิธีรักษาจริง !
นางตกใจเล็กน้อย หลังจากนั้นก็รู้สึกได้ถึงลางร้าย
มิได้การ นี่เป็นแผนที่นางวางไว้อย่างดิบดี หากปล่อยให้อันหลิงเกอรักษาหวังซื่อสำเร็จแล้วจักทำให้ความสัมพันธ์ของพวกนางร้าวฉานได้เยี่ยงไร จักโยนความผิดให้อันหลิงเกอได้เยี่ยงไร ?
“เกอเอ๋อทำอันใดลงไป สะใภ้หวังมีสภาพเป็นเยี่ยงนี้แล้วจักทำอันใดสุ่มสี่สุ่มห้ามิได้ หรือเจ้าต้องการทำร้ายนางให้ตายถึงพอใจ ? ”
นางก้าวมาด้านหน้าสองก้าวแล้วเอื้อมมือผลักอันหลิงเกอไปด้านข้างอย่างเย่อหยิ่ง ในเวลาเดียวกันก็บีบเข็มทองในมือของอันหลิงเกอให้คดงอ หวังซื่อที่เพิ่งรู้สึกดีขึ้นจึงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง
“เจ้าดูสิ ใบหน้าสะใภ้หวังซีดจนเป็นเยี่ยงนี้แล้ว เกอเอ๋อยังทรมานนางอีก เจ้านี่มัน…”
หลี่ซื่อแสร้งทำเคียดแค้น แต่อันหลิงเกอมิมีอารมณ์มาแสดงละครกับนาง เมื่อเห็นเลือดของหวังซื่อไหลออกมาเรื่อย ๆ ใบหน้าของนางก็เหมือนถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นชา
“ไสหัวออกไป ! ”
อันหลิงเกอมิเคยทำเสียงดุเยี่ยงนี้มาก่อน หลี่ซื่อได้ยินจึงตกใจและรีบถอยออกไปโดยมิรู้ตัว
อันหลิงเกอเดินมาอยู่ข้างกายหวังซื่ออีกครา นางนำเข็มทองอันใหม่ออกมา หาจุดแล้วฝังเข็มลงไปอีกครั้ง คราวนี้ความเจ็บปวดของหวังซื่อลดลงไปมาก
“อาสะใภ้รอง ตอนนี้รู้สึกเยี่ยงไรบ้าง ? ” อันหลิงเกอถามพร้อมรินน้ำแล้วป้อนให้หวังซื่อ
เมื่อครู่หวังซื่อเลือดออกจำนวนมาก ใบหน้าจึงซีดขาวยิ่งกว่าอันใด หลังได้ดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่ก็รู้สึกว่าอาการเวียนศีรษะทุเลามาก “ดีขึ้นมากแล้ว”
พอกล่าวประโยคนี้จบก็นึกอันใดขึ้นมาได้ ใบหน้าของนางกลับมาซีดยิ่งกว่าเดิม “ลูกของข้า ! เหตุใดท่านหมอยังมิมา ? ”
อันหลิงเกอกุมมือที่สั่นเทาของนางเอาได้พร้อมกล่าวปลอบประโลม “อาสะใภ้รองวางใจได้ คราวนี้ท่านทานของผิดสำแดงจึงส่งผลต่อครรภ์ แต่เมื่อครู่ข้าเพิ่งฝังเข็มห้ามเลือดให้ท่านแล้ว ขอแค่ท่านดื่มยาบำรุงสามชุดและดูแลร่างกายดี ๆ ก็จักมิมีปัญหาใหญ่อันใดตามมา”
“จริงหรือ ? ” แม้อันหลิงเกอช่วยห้ามเลือดให้นาง แต่หวังซื่อก็ยังมิสบายใจเนื่องจากมิเคยรู้มาก่อนว่าอันหลิงเกอรู้วิชาแพทย์ เมื่อเทียบกับสตรีที่มิออกเรือน นางจึงเลือกเชื่อท่านหมอมากกว่า
อันหลิงเกอพยักหน้า “จริงอยู่แล้วเจ้าค่ะ หากท่านหมอมาถึงแล้ว อาสะใภ้รองยังมิวางใจก็ให้ท่านหมอช่วยตรวจอีกที”
วิธีนี้มิเลว หวังซื่อจึงสบายใจขึ้นและรอการมาถึงของท่านหมอ
แต่รอแล้วรอเล่า รอจนหมิงซินและปี้จูเตรียมยาเสร็จหมดแล้ว ท่านหมอก็ยังมิถึงเรือนเสียที
“หลี่อี๋เหนียง สาวใช้ที่ท่านส่งไปเรียกท่านหมอมิใช่ว่าหลงทางในจวนโหวหรอกนะ”
อันหลิงเกอกล่าววาจาเชิงประชดประชันทำให้ใบหน้าของหลี่ซื่อแย่อย่างเห็นได้ชัด นางอ้าปากอยากเถียงกลับ แต่มิรู้ว่าควรกล่าวอันใดออกมา
วันนี้นางวางแผนทำให้หวังซื่อแท้ง หลังจากนั้นค่อยโยนความผิดให้อันหลิงเกอ สาวใช้จึงแสร้งทำไปอย่างนั้น หากมิครบ 2 ชั่วยามก็มิมีทางพาท่านหมอเข้ามาแน่นอน
ตอนนี้อันหลิงเกอกำลังสร้างความลำบากให้ นางได้แต่ยิ้มและอ้างว่า “อาจเพราะหมอไปที่เรือนผู้อื่น สาวใช้ของข้าจึงต้องเดินไกลหน่อยจึงมาช้า”
ก่อนหน้านี้หลี่ซื่อเข้าไปขวางหมิงซินและปี้จูไว้ ตอนนี้สาวใช้ที่ส่งไปยังมิพาท่านหมอมาอีก หวังซื่อจึงเกิดความสงสัยขึ้นมาทันใด
….
*หญ้าหมาเจี่ยน มีสรรพคุณในการขับพิษ
*ใบจื่อซู มีสรรพคุณรักษาภาวะแท้งบุตรง่าย
*ดีบัว มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต
*ฉวนฉง หรือโกฐหัวบัวมีสรรพคุณรักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต