“แฟนฉันซื้อบ้านให้อยู่ กำลังอยู่ในช่วงตกแต่ง ตอนนี้ฉันอยู่หอของที่ทำงาน—”
“นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะมาอวดเรื่องทรัพย์สินอีก ฉันว่าเธอคงไม่ได้ร้อนใจจริงๆสินะ ก็ได้ ไม่ต้องมาทำหน้ายักษ์ใส่ฉัน ฉันรู้ว่าเธอเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เธอเห็นแก่หน้าตัวเองมากกว่าคนปกติ แต่นับจากนี้ไปเธอต้องฟังฉัน”
ศาสตราจารย์หลิวเห็นเสี่ยวเชี่ยนพูดจนเย่เสียวอวี่ไปไม่ถูกก็รู้สึกขำในใจ เสี่ยวปืนเหล็กนี่ใจแคบจริงๆ อวี๋ไข่เหล็กเคยตีเทนนิสกับเขาสมัยเรียนตอนนี้ก็ยังจะคอยหาโอกาสเหยียบอีกฝ่ายอยู่อีก อีกทั้งตอนเหยียบยังได้ทำการรักษาคนไข้ไปในตัวด้วยไม่ให้เสียเวลา ทำได้แนบเนียนหาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ
“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าสิ่งที่เธอพูดมันถูก…” ตอนที่เย่เสียวอวี่เห็นท่าทีที่มีต่อกันระหว่างเสี่ยวเชี่ยนกับน้องสาวตัวเองก็เริ่มรู้สึกนับถือเสี่ยวเชี่ยนหน่อยๆแล้ว เพียงแต่ปากไม่ยอมรับ
แต่ประธานเชี่ยนไม่เคยแค่ร์คนปากไม่ตรงกับใจมาแต่ไหนแต่ไร เคสคนไข้แปลกๆที่เคยผ่านมือเธอมีเยอะแยะมากมาย ระดับอย่างเย่เสียวอวี่ไม่พอให้เธอชายตามองนาน
“พนันกันไหมล่ะ? ไม่แต่งหน้าสองเดือน?”
“ว่ามาจะให้ฉันทำอะไร!” เย่เสียวอวี่เกิดความรู้สึกเหมือนถูกเสี่ยวเชี่ยนขี่คอแต่กลับทำอะไรไม่ได้
“ข้อหนึ่ง หลังจากที่น้องเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันจะไปตรวจดูอาการพร้อมกับหมอประสาท จากนั้นก็จะวางแผนรักษา ซึ่งอาจจะใช้เวลารักษานาน เพราะอาการจะมีเกิดซ้ำขึ้นเป็นระยะ มีแค่ฉันรักษาไม่ได้ และพ่อแม่เธอก็ไม่เหมาะจะดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ดังนั้นเธอต้องให้ความร่วมมือกับฉัน”
“แต่ฉัน…มีงานต้องทำนะ!”
“แล้วแต่เธอ นี่เด็กบ้านเธอ ถ้าเธอไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดเขาก็ไม่มีความหวังแล้ว หรือเธอจะส่งเขาไปอยู่โรงพยาบาลประสาทก็ได้นะ แต่เท่าที่รู้มาช่วงสองปีนี้บ้านเรายังไม่เก่งเรื่องนี้เท่าไร”
ไม่มีครอบครัวอยู่เป็นเพื่อน เตียงของโรงพยาบาลประสาทก็แออัด ทำได้แค่เอาเวยเวยไปรวมกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคนอื่น ชั้นล่างเป็นผู้ป่วยแบบเวยเวย ชั้นบนเป็นผู้ป่วยอาการหนักที่วันๆเอาแต่ส่งเสียงร้องโวยวาย สำหรับเด็กตัวแค่นี้คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
“เรื่องงานฉันจะไปช่วยพูดกับหัวหน้าสถานีให้ช่วยปรับตารางงานเธอเอง” ศาสตราจารย์หลิวพูด
เย่เสียวอวี่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล
“ข้อสอง เธอต้องย้ายไปอยู่หมู่บ้านเดียวกับฉัน ดูเหมือนคอนโดบ้านตรงข้ามฉันกำลังปล่อยเช่า เธอพาเวยเวยย้ายเข้ามาอยู่ซะ”
“อะไรนะ?!” เย่เสียวอวี่ทำสีหน้าเหมือนกินแมลงวันเข้าไป ต้องไปเจอหน้าเหม่ยเหวยทั้งวัน นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่าไม่แต่งหน้าออกจากบ้านอีกนะ!
แม้แต่ศาสตราจารย์หลิวยังเลิ่กคิ้วขึ้น เธอนึกออกว่าเสี่ยวเชี่ยนจะลงมือ แต่นึกไม่ถึงว่าจะเอาถึงขั้นนี้ นี่มันดูไม่ค่อยเหมือนสไตล์ของเสี่ยวเชี่ยนเลยนะ
“ฉันมีแผนรักษาเวยเวยที่สมบูรณ์แบบ ต้องพยายามให้เวลากับเขาเยอะๆ มาอยู่ใกล้ๆฉันจะได้มั่นใจด้วย รู้จักพอเถอะน่า นี่ถ้าไม่ติดที่ชื่อคล้ายอายุพอๆกันฉันไม่มีทางทำขนาดนี้หรอก” เสี่ยวเชี่ยนเชิ่ดคางขึ้นอย่างได้ใจ
“ก็ได้…แต่ว่า เธอห้ามเอาเรื่องฉันไปบอกน้องสาวนะ โดยเฉพาะเรื่อง…กับอวี๋หมิงหลาง แล้วก็เรื่องที่ฉันชิงดีชิงเด่นกับเธอที่สถานี เหม่ยเหวยเธอจะทำอะไรกับฉันก็ได้ แต่เธอห้ามเอาเรื่องฉันไปพูดกับน้อง”
เสี่ยวเชี่ยน อ้อ ออกมา แล้วมองเย่เสียวอวี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ เย่เสียวอวี่เห็นเสี่ยวเชี่ยนทำแบบนั้นก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
“ทำอะไรเล่า!”
“ฉันนึกถึงคำพูดโบราณ ในความชั่วยังมีความดี เธอทำเรื่องแย่ๆยังรู้จักกลัวคนอื่นรู้ ยังคงมีจิตใจที่ละอายอยู่บ้าง นั่นก็แสดงว่าเธอยังไม่ถึงขั้นหมดทางรักษา เธอยังรู้ว่าการแย่งสามีคนอื่นเป็นเรื่องไม่ดี เลยไม่อยากให้น้องสาวรู้ แล้วทำไมยังจะคิดอ่อยเสี่ยวเฉียงของฉันไม่เลิก?”
“เหม่ย เหวย!” เย่เสียวอวี่สองมือกำหมัดแน่น อยากต่อยสักทีทำไงดี!
“เรียกชื่อฉันเสียงดังทำไม ฉันไม่ได้หูตึงนะ จริงสิ ฉันขอบอกเรื่องค่ารักษาก่อน”
“รักษาไม่ดีฉันไม่จ่ายเงินหรอกนะ!”
“เขาเป็นลูกศิษย์ที่เก่งที่สุดของฉัน เขาทำได้แน่นอน” ศาสตราจารย์หลิวยืนดูก็รู้สึกสนุก ลูกศิษย์เธอหึงได้น่าสนใจมาก พูดออกไปตรงๆ ใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย
“ไม่ต้องรีบ พวกเราทำสัญญากันได้ รักษาไม่หายฉันจะไม่เอาเงินเธอสักแดงเดียว ปกติค่ารักษาฉันอยู่ที่เท่านี้” เสี่ยวเชี่ยนชูห้านิ้ว เย่เสียวอวี่รีบพยักหน้า
“ห้าพันใช่ไหม? ได้!” อันที่จริงเงินเดือนเธอไม่สูง เดือนๆนึงไม่รวมโบนัสก็ได้แค่พันกว่า ต่อให้มีเงินช่วยบางอย่างให้ก็ได้ไม่เท่าไร อีกทั้งเธอยังชอบซื้อเรื่องสำอาง เงินเก็บที่มีไม่ได้เยอะ ถึงแม้เงินห้าพันจะไม่น้อย แต่ก็พอมี
เสี่ยวเชี่ยนมองศาสตราจารย์หลิวอย่างเกรงๆ แล้วแกล้งไอ “นั่นเป็นค่ารักษารายชั่วโมง…”
ศาสตราจารย์หลิวถลึงตาใส่เสี่ยวเชี่ยน ไอ้ศิษย์คนนี้นี่! กล้าเก็บแพงขนาดนั้นเลยเรอะ!
เสี่ยวเชี่ยนกล้าบอกอาจารย์ที่ไหนกันว่า ชั่วโมงละห้าพันนี่เป็นราคาปกติแล้ว ถ้าเจอแกะตัวอ้วนๆราคาเป็นหมื่นด้วยซ้ำ
พอเห็นสีหน้าอาจารย์ไม่พอใจ เสี่ยวเชี่ยนก็รีบยิ้มแล้วพูดเสริม “กลไกตลาด ตั้งราคาตามใจชอบ ไม่บังคับซื้อขาย ทุกอย่างทำด้วยความสมัครใจ!”
“เดี๋ยวกลับไปค่อยคิดบัญชีกัน!” ศาสตราจารย์หลิวส่งสายตาอาฆาตให้เสี่ยวเชี่ยน มิน่าล่ะถึงได้เห็นเสี่ยวเชี่ยนทำตัวเป็นเศรษฐีใหม่ เดี๋ยวก็ซื้อบ้านเป็นว่าเล่น ที่แท้ก็รักษาคนอย่างหน้าเลือด!
“มากเกินไปแล้วนะ ฉันจะไปฟ้องสคบ.!” เย่เสียวอวี่ช็อคหนักกับราคาของเสี่ยวเชี่ยน
“ไม่ต้องเครียดขนาดนั้น เธอเป็นเพื่อนเก่าของเสี่ยวเฉียง เดี๋ยวฉันคิดราคาอดีตศัตรูหัวใจให้”
ราคาอดีตศัตรูหัวใจ…ฟังดูไม่เหมือนเรื่องดีเท่าไร
เย่เสียวอวี่มุมปากกระตุก เสี่ยวเชี่ยนอธิบายต่อ
“ฉันก็ไม่ได้จะเอาเงินเธอหรอกนะ นักจัดรายการวิทยุแสนยากจน จนถึงขนาดที่เธอต้องมาแย่งจัดรายการฉัน แล้วจะให้ฉันเอาเงินเธอได้ยังไง?”
“พอได้แล้วเหม่ยเหวย!” นี่จะมารักษาคนไข้หรือจะมาแซะเธอ?
ถ้าย้อนเวลากลับได้ ถ้าเย่เสียวอวี่รู้ว่าเทพบุตรของเธอในอนาคตจะได้จอมทำลายล้างเป็นแฟน อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ยังเป็นเพียงคนเดียวที่รักษาน้องสาวเธอได้ เธอจะไม่มีทางคิดเกินเลยกับอวี๋หมิงหลาง ใครมีเรื่องกับเหม่ยเหวยน่ารำคาญใจที่สุด เอาแต่พูดจาเสียดแทงใจอยู่ได้!
เสี่ยวเชี่ยนไม่สงสารเธอเลยสักนิด ผ้าอนามัยกับเสี่ยวเฉียงล้วนเป็นสิ่งที่ให้ยืมไม่ได้ เสี่ยวเฉียงมาอยู่ในมือเธอแล้ว ถ้าไม่จัดการเล่นงานเย่เสียวอวี่ให้ตัดใจอย่างสิ้นซาก งั้นต่อไปเธอจะอยู่ในวงการจอมโหดได้ยังไง ไม่ผิดต่อภาพลักษณ์ที่ตัวเองอุตส่าห์สร้างขึ้นมาเหรอ?
“ค่ารักษาของฉันไม่ใช่เงิน ฉันรักษาน้องเธอหนึ่งชั่วโมงเธอก็มาทำงานพาร์ทไทม์ให้ที่บ้านฉันหนึ่งชั่วโมง เช่นซักผ้า ทำกับข้าว จ่ายตลาด เก็บบ้าน ล้างส้วม เช็ดกระจก เช็ดรถ ซ่อมไฟ ล้างท่อ…”
เสี่ยวเชี่ยนชูนิ้วขึ้นมานับพลางพูด เย่เสียวอวี่หน้าบึ้งหนักกว่าเดิม
ศาสตราจารย์หลิวเห็นค่ารักษาที่ทั้งโหดร้ายทั้งน่ารักก็เกือบหลุดหัวเราะออกมา
ไม่เคยเจอคนคิดแค้นคนไหนที่เหมือนเสี่ยวเชี่ยนเลย
“อาจารย์ หนูไม่ได้ทำเกินไปใช่ไหมคะ? หมออย่างพวกเรารักษาคนไข้อย่างต่ำๆก็ชั่วโมงละเกือบสิบหยวน ตอนนี้ราคางานพาร์ทไทม์ก็ประมาณนี้ใช่ไหมล่ะคะ? พวกเราจ่ายด้วยแรงงาน ไม่ต้องติดค้างกัน!”
บังอาจอยากได้เสี่ยวเฉียงมันก็ต้องเจอแบบนี้!