ตอนที่ 323 ตัดสินใจว่าจะตั้งใจทำงานไม่ใช่หรือไง? / ตอนที่ 324 วิธีพบหน้ากันอย่างถูกต้องและเปิดเผย

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 323 ตัดสินใจว่าจะตั้งใจทำงานไม่ใช่หรือไง?

 

 

หัวใจที่อยู่ใต้ฝ่ามือนั้นเต้นอย่างรวดเร็วทว่าทรงพลัง ร้อนแรงตรงข้ามกับความสงบเยือกเย็นที่ชายหนุ่มมีตอนปกติโดยสิ้นเชิง…

 

 

หลินเยียนยืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ดึงสติกลับมาไม่ได้…

 

 

ตอนนี้หัวสมองเธอพองโตราวกับมีอะไรยัดอยู่ รู้สึกสับสนไปหมดแล้ว

 

 

เสียงเตือนซึ่งเดิมทีดังขาดๆ หายๆ มาตลอดจู่ๆ เหมือนจะหยุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก…

 

 

และขณะนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูที่แผ่วเบายิ่งดังมาจากข้างหลัง

 

 

หลินเยียนตกใจสะดุ้งโหยง หันกลับไปมองที่ประตูด้วยสีหน้าระแวดระวัง

 

 

จบกัน!

 

 

ทำไมยังมีคนมาที่สถานที่ที่มันลึกลับขนาดนี้ได้อีกนะ?

 

 

ขณะที่หลินเยียนกำลังตกใจและลนลานอยู่นั้น ขณะนั้นเองก็มีเสียงที่แสนจะคุ้นเคยดังอยู่ที่ประตู “พี่สะใภ้ใหญ่…”

 

 

“ราชาภาพยนตร์เผย?”

 

 

เมื่อหลินเยียนได้ยินเสียงของเผยหนานซวี่ก็โล่งอกในบัดดล รีบเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องเก็บของ

 

 

“ราชาภาพยนตร์เผย เธอมาได้ยังไง?” หลินเยียนถาม

 

 

เผยหนานซวี่มองหลินเยียน จากนั้นก็มองพี่ชายตัวเอง

 

 

ตอนนี้ ทั้งสองคนยังกุมมือกันอยู่…

 

 

เผยหนานซวี่มองพี่ชายของตัวเองซึ่งกำลังแผ่ความเย็นชาออกมาทั่งร่างอย่างเห็นได้ชัดด้วยสีหน้าลำบากใจ

 

 

เขาไม่อยากมารบกวนในเวลาแบบนี้เหมือนกัน เพียงแต่ห้ามส่งผลกระทบต่องานของหลินเยียนก็เป็นคำสั่งของพี่ใหญ่เหมือนกันนี่นา!

 

 

เผยหนานซวี่ทำได้แต่ฝืนอธิบาย “พี่สะใภ้ใหญ่ งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้ว ถ้าไม่กลับไปนานเกินไปมันจะไม่ค่อยดีนะครับ แถมจะถูกคนที่ตั้งใจสังเกตรู้เรื่องได้ง่าย เมื่อกี้ผมเพิ่งโทรหาพวกพี่ แต่ไม่มีใครรับ แถมผมก็ไม่วางใจที่จะใช้ให้คนอื่นมา ดังนั้นเลยได้แต่มาแจ้งพี่ด้วยตัวเอง…”

 

 

เมื่อหลินเยียนได้ยินจึงมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองโดยอัตโนมัติ ถึงพบว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์หมดแล้วนั่นเอง

 

 

พอได้ยินคำพูดของเผยหนานซวี่ หลินเยียนก็รู้สึกซาบซึ้งใจเหลือเกิน

 

 

นี่เป็นสุดยอดน้องชายแฟนแห่งศตวรรษแบบไหนกันเนี่ย!

 

 

ช่างเอาใจใส่เกินไปแล้วนะ!

 

 

ไอดอลของเธอช่างเป็นเหมือนเทพบุตรลงมาจุติซะจริงเชียว!

 

 

“ขอโทษๆ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้…” หลินเยียนรีบเอ่ยปากพลางมองเผยอวี้เฉิงแล้วพูดว่า “คุณเผย งั้นฉันขอตัวไปก่อนนะคะ…”

 

 

เวรกรรมซะจริงเชียว เธอมีความรักของเธออยู่ดีๆ แล้วทำไมทำไปทำมากลับเหมือนแอบคบชู้ได้ล่ะ?

 

 

ที่แย่ที่สุดก็คือ กลับต้องรบกวนให้ไอดอลผู้เป็นสุดยอดแห่งวงการบันเทิงของเธอมาปิดบังเรื่องให้เธออีกด้วย…

 

 

ถึงอย่างนั้นโชคยังดีที่เผยหนานซวี่โผล่มากะทันหัน ทำลายความกระอักกระอ่วนใจของเธอไป

 

 

หลินเยียนกล่าวกับเผยอวี้เฉิง จากนั้นก็ก็เตรียมตัวเผ่นแน่บออกไป

 

 

ผลก็คือเธอเพิ่งจะก้าวออกไปได้แค่ก้าวเดียว ร่างกายกลับขยับเขยื้อนไม่ได้เสียแล้ว

 

 

 

 

 

วินาทีต่อมา พอเธอก้มหน้าลงถึงพบว่ามือของตัวเองยังคงถูกฝ่ามือของเผยอวี้เฉิงยึดเอาไว้ ไม่ได้คลายออกไป

 

 

“เอ่อ…” หลินเยียนร่างกายแข็งค้าง เธอหันหน้ากลับไปมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างตัว

 

 

ใบหน้าชายหนุ่มซุกซ่อนอยู่ในเงามืด ถึงกระนั้นแม้จะมองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน แต่หลินเยียนรู้สึกถึงแรงกดดันต่ำๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของชายหนุ่มในเวลานี้ได้

 

 

และนาฬิกาข้อมือที่กว่าจะหยุดส่งเสียงได้เมื่อครู่บนข้อมือของชายหนุ่มก็เริ่มส่งเสียงดัง ‘ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด’อย่างบ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

เผยหนานซวี่ “…”

 

 

เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ เลือกที่จะเดินออกไปก่อนอย่างรู้งานยิ่ง

 

 

รักกันอย่างถูกต้องเปิดเผยแท้ๆ แต่กลับต้องลำบากเผยอวี้เฉิงให้มาพบหน้ากันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ตอนนี้เพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่นานเท่าไหร่ เธอก็ต้องไปอีกแล้ว

 

 

หลินเยียนมองชายหนุ่มผู้สวมชุดที่เปื้อนฝุ่นไปทั้งตัวซึ่งกำลังยืนอยู่ในห้องอันมืดมิดและคับแคบห้องนี้ก็รู้สึกใจอ่อนลงอย่างน่าประหลาด…

 

 

“ไม่อย่างงั้น…ฉันหาเหตุผลมาสักอย่างหนึ่ง แล้วไม่ไปก็ได้นะคะ?”

 

 

หลินเยียนเพิ่งจะพูดประโยคนี้จบก็เริ่มน้ำตาไหลพรากเพราะรังเกียจตัวเอง

 

 

ตัดสินใจไปแล้วว่าจะปฏิเสธให้สวยๆ แล้วตั้งอกตั้งใจทำงานไม่ใช่หรือไง?

 

 

 

 

ตอนที่ 324 วิธีพบหน้ากันอย่างถูกต้องและเปิดเผย

 

 

เผยอวี้เฉิงมองสีหน้าที่ทั้งหงุดหงิดทั้งอับจนปัญญาของหญิงสาว ยกมือข้างที่จับมือหญิงสาวอยู่ขึ้นมาแล้ววางลงบนศีรษะของเธอพร้อมขยี้เบาๆ “ไม่ต้อง”

 

 

“แต่ว่าคุณ…” หลินเยียนจ้องมองนาฬิกาข้อมือของเผยอวี้เฉิง

 

 

แต่เจ้านี้มันยังดังอยู่ตลอดเลยนี่นา

 

 

ตั้งแต่อัตราการเต้นของหัวใจเผยอวี้เฉิงไปจนถึงเสียงร้องเตือนของนาฬิกาเรือนนี้ เธอต้องยอมรับอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเหมือนเธอจะมั่นใจแล้วว่าตัวเองส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเผยอวี้เฉิง

 

 

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ดีแล้วล่ะ” เผยอวี้เฉิงตอบ

 

 

ผ่านไปอีกราวหลายวินาที ในที่สุดนาฬิกาบนข้อมือเผยอวี้เฉิงก็หยุดดัง

 

 

อารมณ์พลุ่งพล่านที่มีอยู่เหล่านั้น คล้ายถูกผู้เป็นนายฝืนสะกดลงไป…

 

 

หลินเยียนเห็นเผยอวี้เฉิงเอาใจใส่แบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกละอายใจและโทษตัวเองอย่างหาได้ยาก “ขอโทษค่ะ ทั้งที่พวกเรากำลังคบหากัน แต่เพราะเหตุผลส่วนตัวของฉัน กลับต้องให้คุณทำตาม ต้องแอบมาเจอหน้าฉันอย่างลับๆ ล่อๆ เสมอเลย”

 

 

ประกายดำมืดฉายวาบภายในดวงตาเผยอวี้เฉิง เขาหัวเราะเบาๆ พร้อมเอ่ยว่า “มีวิธีที่จะได้พบหน้ากันอย่างถูกต้องและเปิดเผยอยู่นะ”

 

 

หลินเยียน “หา? วิธีอะไรคะ”

 

 

เผยอวี้เฉิงไม่ตอบ เขามองไปด้านหลังเธอแล้วพูดว่า “ไปเถอะ”

 

 

“อ้อ…” หลินเยียนถึงผงกศีรษะ ผลักประตูแล้วเดินออกไป

 

 

เผยหนานซวี่กำลังทำหน้าที่เฝ้าอยู่ไม่ไกลจากประตูอย่างเคร่งครัด คงเพราะคิดว่าถ้ามีคนผ่านมา เขาจะได้แจ้งเตือนล่วงหน้าได้ง่าย

 

 

“ราชาภาพยนตร์เผย รบกวนเธอแล้วนะ!” หลินเยียนซาบซึ้งอย่างยิ่ง

 

 

“พี่สะใภ้ใหญ่เกรงใจไปแล้ว สมควรแล้วล่ะครับ” เผยหนานซวี่กล่าวระคนยิ้ม

 

 

เผยหนานซวี่เดินไปพลาง มองสำรวจหลินเยียนหลายรอบไปพลาง จากนั้นจึงเอ่ยปากถามเลียบเคียงออกมาว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ความสัมพันธ์ของพี่กับพี่ชายผมดีมากจริงๆ นะครับ พอพี่ชายผมกลับมาก็ร้อนใจอยากเจอคุณทันที! ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเขาใส่ใจใครมากขนาดนี้มาก่อนเลย!”

 

 

“แค่ก งั้นเหรอ…” หลินเยียนหน้าแดงเล็กน้อย

 

 

“อ้อ ยังมีลูกน้องที่ทำอะไรโดยพลการคราวก่อนคนนั้นอีก พี่ชายผมลงโทษเธอไปแล้ว พี่อย่าถือสาเลย วันหลังเรื่องทำนองนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่ครับ” เผยหนานซวี่เอ่ย

 

 

ตอนนี้กว่าพี่ชายเขาจะคืนดีกับหลินเยียนได้นั้นไม่ง่ายดายเลย เขากลัวว่าหลินเยียนจะโวยวายขอเลิกเพราะเรื่องอะไรเข้าอีก

 

 

เมื่อหลินเยียนได้ยินก็หรี่ดวงตาทั้งสองข้างแล้วถามว่า “หืม เด็กผู้หญิงคนนั้น…ชอบพี่ชายเธอใช่ไหม”

 

 

เผยหนานซวี่ได้ยินก็ตกใจ “แค่กๆๆ…จะเป็นไปได้ยังไง…ไม่ใช่หรอกน่า…”

 

 

“งั้นเหรอ?”

 

 

สายตาที่มองเผยอวี้เฉิงร้อนแรงจนแทบจะปิดไม่มิดมากขนาดนั้นแท้ๆ

 

 

“แน่นอนครับ พวกเขาเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องธรรมดาๆ เท่านั้น” เผยหนานซวี่กลัวว่าหลินเยียนจะเข้าใจอะไรผิดจึงรีบพูดอธิบาย จากนั้นก็เบี่ยงเบนหัวข้อ “พวกเรารีบไปกันเถอะครับ ไม่อย่างนั้นออกมานานเกินไป หากมีคนรู้เข้า…”

 

 

เผยหนานซวี่คุยกับหลินเยียนไปพลาง เร่งฝีเท้าเดินไปที่ห้องจัดงานเลี้ยงของกองถ่ายไปพลาง ทันทีที่เดินขึ้นบันไดไปที่ห้องจัดเลี้ยงขั้นที่หนึ่ง วินาทีต่อมา คิดไม่ถึงว่ากลับบังเอิญเจอคนคนหนึ่งที่ทางเดิน…

 

 

กลางทางเดินบันไดที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน เฉินเจามู่ยืนอยู่ตรงหัวมุม มือถือบุหรี่ไว้มวนหนึ่ง กำลังสูบและพ่นควันออกมา

 

 

ส่วนหลินเยียนกับเผยหนานซวี่ก็กำลังเดินเคียงคู่กันขึ้นมา…

 

 

ชั่วพริบตานั้นดวงตาสามคู่ก็มาประสานกัน สามคนต่างนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น

 

 

เผยหนานซวี่ “…”

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

เฉินเจามู่ “…”

 

 

เมื่อเห็นหลินเยียนกลับปรากฎตัวด้วยการเดินเคียงคู่กับเผยหนานซวี่อยู่กลางบันไดที่ไร้ผู้คน ปากที่คาบบุหรี่ของเฉินเจามู่ก็อ้าออกทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จ้องมองคนทั้งสองด้วยอาการตื่นตะลึง…

 

 

พับผ่าสิ! หลินเยียน…หลินเยียนกับ…เผย…เผยหนานซวี่!?