บทที่ 228
บางสิ่งที่ไม่กล้าจะสังเคราะห์
ลั่วเสี่ยนหยุนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินกลับไป
จากนั้นลั่วอู๋และจี๋กุยก็เดินกลับเข้ามาที่สำนักโล่พิทักษ์ ผู้คนในสำนักโล่พิทักษ์ต่างก็คิดว่าจี๋กุยเป็นคนช่วยลั่วอู๋ไว้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความขอบคุณออกมา
จี๋กุยได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ
แม้ว่าเขาจะปรากฏตัวออกมาหรือไม่ก็ตาม มันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับลั่วอู๋
จี๋กุยรับดาบเลือดเดือดทั้ง 5,000 เล่มกลับไป และทิ้งหินที่ส่องแสงสีเงินไว้ให้กับลั่วอู๋ “นั่นคือหินทะลวงมิติ หัวหน้าของข้าขอให้ข้ามอบมันให้กับเจ้า”
“อย่างน้อยมันก็เป็นหินวิญญาณระดับเพชร ที่มีคุณสมบัติในการสร้างพื้นที่หินพิเศษ”
“แน่นอนว่า ยังไม่เคยมีใครใช้มันในการต่อสู้จริง แต่เมื่อใดที่หินนี้ถูกบดขยี้ หัวหน้าของข้าก็จะรู้สึกได้ทันที มันถูกสร้างด้วยวิธีที่ยากลำบากมาก และมีเพียงชิ้นเดียว เจ้าต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี ถ้าเกิดมันหายไป แม้ว่าเจ้าจะต้องการแค่ไหน เจ้าก็มีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวในการเรียกท่านผู้บัญชาการมาพบตรง ๆ”
ลั่วอู๋เก็บหินทะลวงมิติชิ้นนี้ไว้ ราวกับว่ามันคือสมบัติชิ้นหนึ่ง
นี่คือของขลังที่เอาไว้ช่วยชีวิตในยามคับขัน
หลังจากจี๋กุยออกไปแล้ว ลั่วอู๋ก็กลับไปที่ห้องของเขา
เมื่อเขากลับเข้าสู่มิติไห เขาได้พบกับความประหลาดบางอย่าง หินทะลวงมิตินั้นไม่สามารถถูกนำเข้าไปในมิติไหได้
“หืม นี่มันแปลกมาก”
เขาไม่สามารถนำสิ่งของที่มีคุณสมบัติเชิงพื้นที่เข้าสู่มิติไหได้อย่างงั้นหรือ?
โชคดีที่สิ่งของชิ้นนี้มีขนาดเล็กและง่ายต่อการพกพา มันจึงไม่สำคัญว่าเขาจะเข้าไปในมิติไหได้รึเปล่า
ในมิติไห
ลั่วอู๋ตรวจสอบแต้มเซียนของเขา เขาได้รวบรวมแต้มเซียนไว้กว่า 2500 แต้ม จากการสังเคราะห์ดาบเลือดเดือดตลอดทั้งวันทั้งคืน
มันไม่ง่ายเลย
เนื่องจากการเปิดหอคอยสีขาวนั้น ลั่วอู๋จะต้องใช้แต้มเซียนกว่า 10000 แต้ม และตอนนี้เขาอดไม่ได้ที่อยากจะเปิดใช้หอคอยสีขาว
“มาลองกัน จากนี้เราน่าจะต้องเดินทางออกจากสำนักโล่พิทักษ์สักพัก ต้องเตรียมฝากของไว้กับที่ร้านซะแล้ว” ลั่วอู๋มองไปที่ สมุนไพร, สัตว์วิญญาณ และ ยารวบรวมพลังวิญญาณจำนวนมาก
ตั้งแต่เปิดทำการมา ลั่วอู๋ก็ไม่ได้ใช้ความพยายามเพื่อโหยหาสินค้าต่าง ๆ เพิ่มเติม เพราะการหาสูตรในการสังเคราะห์นั้นต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
ตอนนี้แม้ว่าจะมีหอคอยสีขาวอยู่ มันก็ยังคงยากเหมือนเดิม
แต่ด้วยทรัพยากรที่น่าจะเพียงพอ จึงเป็นไปได้ที่เขาจะค้นพบสูตรมากขึ้นไปอีก
หอคอยสีขาวก็ได้ถูกเปิดทำงาน
แสงสีขาวส่องสว่างไปทั่วมิติไหอีกครั้ง
ลั่วอู๋หลับตาลงและทำจิตใจให้สงบลง ทันใดนั้นหัวใจของเขานั้นก็สั่นไหวอย่างรุนแรง
เขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นมานานแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่เขามีความรู้สึกเช่นนี้ คือตอนที่เขาได้พบกับสูตรสังเคราะห์มังกรกระดูกผี
“พบสูตรที่น่ากลัวอีกแล้วงั้นหรือ?” ลั่วอู๋ลืมตาขึ้นและเริ่มมองหาบางสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้น
เขาสบตาเข้าไปที่วิญญาณมืดมิด
เมื่อมองไปที่วิญญาณมืดมิด ที่เต็มไปด้วยโคลนของสัตว์วิญญาณ ลั่วอู๋ยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งเพื่อยืนยันว่ามันใช้ส่วนผสมจริง ๆ รึเปล่า และอีกสิ่งหนึ่งมันคืออะไร
หลังจากค้นหาอยู่นาน ลั่วอู๋รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างอยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขาก็ไม่พบมันเสียที จนในที่สุด เขาก็ได้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งนั้นในร่างกายของเขา
“อะไรน่ะ?” ลั่วอู๋ดึงมันออกมา เขาได้พบว่าตัวเองหยิบหินสีเข้มสองชิ้นออกมา
หินแก่นวิญญาณเป็นหินวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างมาก มันหาได้ยากมาก และสร้างความรู้สึกอันอึดอัดและเย็นชาต่อผู้คนรอบข้าง
หินแก่นวิญญาณทั้งสองชิ้นนี้ เขาได้รับมาจากฉูจงฉวนที่นำออกมาจากสุสานราชาวิญญาณ เพราะเขาไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไร ลั่วอู๋จึงได้เก็บพวกมันเอาไว้
หินแก่นวิญญาณถือกำเนิดจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณ และเป็นหินวิญญาณที่บริสุทธิ์ที่สุดระหว่างสวรรค์และโลก
เหตุผลที่หินวิญญาณทำให้ผู้คนก็รู้สึกอึดอัด เพราะมันมีส่วนผสมของไอวิญญาณ ความขุ่นเคือง และความโกรธ แต่หินวิญญาณที่บริสุทธิ์นั้นจะแตกต่างออกไป
เพราะสิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้นล้วนประกอบไปด้วยหยินและหยาง มันจึงหักล้างกันได้
“วิญญาณมืดมิดกับหินวิญญาณ ?” ลั่วอู๋ความคาดหวังบางอย่างไว้ในใจ แต่เขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะควบคุมมังกรกระดูกผี เมื่อมังกรกระดูกผีถูกสังเคราะห์ขึ้น โชคดีที่มันยังไม่ได้สร้างปัญหาให้กับมิติไห แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว
ใครจะไปรู้ว่าหากเขาสังเคราะห์สัตว์วิญญาณระดับนั้นออกมาได้อีกละก็จะเกิดอะไรขึ้น? อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกในครั้งนี้กับในครั้งก่อนก็ยังคล้ายกันเกินไป
ดังนั้นลั่วอู๋จึงลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าจะสังเคราะห์มันออกมาไหม
“เมื่อใดที่ข้าเลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงและความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นแล้วละก็ ข้าจะสังเคราะห์มันออกมาดูก็แล้วกัน” ลั่วอู๋วางหินแก่นวิญญาณเอาไว้ และสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทำให้ใจสงบลง
ด้วยเป้าหมายนั้นทำให้ลั่วอู๋มีแรงจูงใจมากขึ้น
อย่าลืมเชียวล่ะ
อาการใจสั่นได้หายไป หลังจากที่วางหินแก่นวิญญาณลง
จากนั้นลั่วอู๋ก็ทำตามความรู้สึกและเริ่มมองหาสูตรใหม่ ๆ
“หยุนเสี่ยวหัวและไป่ทูยี่ ทั้งสองชนิดนั้นเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับสวรรค์” ลั่วอู๋โยนสมุนไพรวิญญาณทั้งสองชนิดนี้ลงไปในไหปีศาจ
ครั้งนี้ก็ขอให้เขาโชคดีด้วย
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เขาพบสูตรดี ๆ และมันค่อนข้างจะดีมาก
[ได้รับ ยามิติวิญญาณระดับ 6 ชงลู่ (ระดับสวรรค์) แต้มเซียน + 10]
ยาชงลู่สามารถใช้เพื่อเพิ่มพลังวิญญาณได้ มันสามารถใช้ได้กับสัตว์วิญญาณที่มีระดับต่ำกว่าระดับเพชรทั้งหมด น่าเสียดายที่มันไม่มีประโยชน์กับผู้ใช้พลังวิญญาณเท่าไหร่ และมูลค่าของมันก็ลดลงแล้วด้วย
ลั่วอู๋กลืนยาเข้าไป ยาเม็ดนั้นกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์ทันทีหลังจากไหลลงท้องของเขา จากนั้นก็ไหลผ่านไปทั่วร่างกายผ่านทางเส้นเลือด
“ผลลัพธ์นี้เยี่ยมมาก” ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
อย่างน้อยมันก็สามารถทำให้ลั่วอู๋รู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นประสิทธิภาพที่ดีมาก
ลั่วอู๋ไม่ต้องการขายยาเม็ดนี้ เพราะความต้องการนั้นมากเกินไป มันไม่ใช่เพื่อตัวเขาเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลี่หยิน หลิวหู และมู่เถา ด้วย
“หยุนเสี่ยวหัวและไป่ทูยี่ นั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 40 หินวิญญาณ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป” ลั่วอู๋ตัดสินใจที่จะซื้อสมุนไพรวิญญาณทั้งสองชนิดนี้มาจำนวนมาก
มันไม่สำคัญว่าจะเก็บไว้ในมิติไหรึเปล่าแล้วตอนนี้ เพราะพื้นเก็บในร้านนั้นมีขนาดใหญ่มากพอ
การสังเคราะห์ยังคงดำเนินต่อไป
ลั่วอู๋ใช้งานแต้มเซียนทั้งหมด เพื่อเปิดหอคอยสีขาวอีกครั้ง
5 ชั่วโมงผ่านไป
ผลของหอคอยสีขาวยังคงทรงพลัง แม้ว่าความรู้สึกที่มากเกินไปจะมาคอยรบกวนลั่วอู๋ แต่ลั่วอู๋ก็ได้ค้นพบสูตรใหม่เกือบร้อยสูตร
อย่างไรก็ตาม มันก็มีสูตรธรรมดากว่า 70 สูตรที่ไม่สามารถช่วยลั่วอู๋ได้ในตอนนี้ ดังนั้นแม้ว่าจะพบ สูตรพวกนี้ก็ไม่มีความหมาย
22 สูตรที่เหลืออยู่นั้น ลั่วอู๋คิดว่าน่าจะมีประโยชน์อย่างมาก
ยาเม็ด 7 ชนิด
สัตว์วิญญาณชนิดใหม่ 5 ชนิด แต่ก็ไม่มีชนิดไหนอยู่ในระดับเพชร
สูตรสมุนไพร 4 ชนิด
อาวุธและชุดเกราะ 3 ชนิด ตราวิญญาณชนิดใหม่ 2 ชนิด
นอกจากนี้ ยังมีสูตรสมุนไพรวิญญาณ ซึ่งใช้สมุนไพรวิญญาณระดับสูง หญ้าพระนอนและหยกขาวที่หายากอย่างมาก เพื่อสร้างเป็นหญ้าพระธาตุ
หญ้าพระธาตุนั้นไม่ได้หมายถึงพระธาตุของคนผู้นั้น
พระธาตุนั้นไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากการตายของเหล่าพระในศาสนาพุทธ แต่มันเป็นสิ่งสร้างขึ้นมาตามธรรมชาติระหว่างสวรรค์และโลก
ว่ากันว่าถ้ามีคนมาพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ และเข้าใจกฎของทุกสรรพสิ่งก็มีโอกาสมากที่จะมีหญ้าพระธาตุขึ้นอยู่รอบตัวเขาตอนตาย
การกลืนหญ้าพระธาตุลงไปนั้น จะส่งผลให้ผู้ที่กลืนมันเข้าสู่สภาวะไร้ตัวตน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการสลายสิ่งอุดตันในร่างกาย
“มันเป็นเรื่องดี แต่น่าเสียดายที่หญ้าพระนอนและหยกขาวนั้นหายากมาก จนไม่สามารถหามาได้มากนัก” ลั่วอู๋รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
เป็นเวลานานที่ลั่วอู๋ได้สร้างหลายสิ่งในมิติไห
ด้วยรายการเหล่านี้จะช่วยให้การลงทุนพัฒนาสำนักโล่พิทักษ์มั่นคงยิ่งขึ้น และมีเงินเพียงพอมันจึงไม่สำคัญว่าสิ่งของเหล่านี้จะหมดลงในสักวันหนึ่ง
สองเดือนต่อมา ลั่วอู๋ได้รับแจ้งข่าวจากสำนักเฉียนหลง
การทดสอบคัดเลือกเฉียนหลงรอบที่ 3 นั้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ตอนต่อไป →