ตอนที่ 193 เสียใจภายหลัง

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

โค้ชถึงกับผงะ แต่พอรู้สึกตัวก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาคือเพื่อนๆ ของฉินหร่านที่เพิ่งเจอในห้องพักรับรอง

 

 

“ฉินเสี่ยวหร่าน พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ ฉันจะกลับไปให้สัมภาษณ์” โค้ชก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมสัมภาษณ์ เขากำลังจะพาฉินหร่านกลับไปที่ห้องพักรับรองแล้วค่อยกลับไป

 

 

แต่พอเห็นพวกเฉิงเจวี้ยนมากันแล้ว จึงไม่ได้ตามฉินหร่านไป

 

 

เขาปลีกตัวกลับไปหาอี้จี้หมิงและคนอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการให้สัมภาษณ์อยู่

 

 

โค้ชทีมWATอยู่ในห้องพักรับรองของตัวเอง ยังไม่ออกมา

 

 

แต่สมาชิกทีมWATยังอยู่

 

 

เมื่อlungได้ยินเสียงก็เหลือบมองฉินหร่าน ในตาเขาไม่มีแววตาแห่งความผิดหวังเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูตื่นเต้นเหมือนเจอคู่ต่อสู้อย่างไรอย่างนั้น “หวังว่าคราวหน้าจะได้สู้กับเธอและหยางเฟยอีก!”

 

 

ฉินหร่าน “…” ครั้งหน้าเธอคงไม่เล่นแล้ว

 

 

รอจนกระทั่งโค้ชและสมาชิกทีมWATเดินไป เฉิงเจวี้ยนที่เป็นอัมพาตที่หน้าอยู่แต่เดิมก็มีเลือดสูบฉีด

 

 

เขาพลันนึกถึงคำพูดของฉินหร่านขึ้นมาได้…อธิบาย? เธอยังจะอธิบายอะไรได้อีก?!

 

 

ตั้งแต่ฉินหร่านล็อกอินไอดีเกม ลู่จ้าวอิ่งก็ยังตัวลอยจนถึงตอนนี้

 

 

เขาเชื่อเหลือเกินและเชื่อมาตลอดว่าฉินหร่านเล่นแค่ไพ่เสริมเท่านั้น แล้วที่บอกว่าอันดับคะแนนไม่ได้สูงมากของฉินเสี่ยวหร่านล่ะ คืออะไร?

 

 

ทำไมจู่ๆ ถึงได้กลายมาเป็นลูกพี่แห่งโซนหนึ่งที่ให้ไพ่เทพสามใบกับเฉิงเจวี้ยนไปได้?

 

 

เล่นไพ่โจมตีหกใบยังไม่พอ เธอยังพุ่งเข้าใส่ศัตรูเพื่อสังหารlungแล้วยังหลบหนีออกมาตัวปลิวได้ง่ายๆ ? !

 

 

ตอนที่ลู่จ้าวอิ่งเจอฉินหร่านครั้งแรก เขาก็รู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจเธออย่างอธิบายไม่ถูก ดังนั้นเขากับเฉิงเจวี้ยนจึงไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลของเธอและยังให้เธอเข้ามาอยู่ในห้องพยาบาลประจำโรงเรียนอีกด้วย

 

 

คำพูดที่พูดกับฉินหร่านยังคงแน่วแน่ไม่เปลี่ยน

 

 

คนที่ฉลาดและมีไหวพริบอย่างลู่จ้าวอิ่ง…ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉินหร่านจะโกหกเขาได้น่าอนาถขนาดนี้!

 

 

ลู่จ้าวอิ่งรู้สึกเวียนหัวไปหมดจนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจนถึงตอนนี้ อาจเป็นเพราะมีความสุขบนความทุกข์ของเจียงตงเย่มากเกินไป

 

 

แต่เฉิงเจวี้ยนกลับยิ้ม เขาเอนตัวไปข้างๆ พลางพยักหน้า ดวงตาสีเข้มคู่นั้นไม่เปลี่ยนไปจากเดิม จากนั้นไม่นานเขาก็ยืดคอและดูเหมือนจะยิ้มเล็กน้อย “อืม ไหนพูดมาซิ”

 

 

“ฉันเริ่มเล่นเกมนี้ตั้งแต่เปิดเซิร์ฟเวอร์ ดูเหมือนว่า…จะได้อันดับค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นจึงมีคนชักชวนให้ไปแข่งขันระดับมืออาชีพ” ฉินหร่านกล่าว

 

 

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เฉิงเจวี้ยนมักจะรู้สึกได้ว่าคำพูดของฉินหร่านไม่มีน้ำหนัก ราวกับว่าใครก็สามารถเข้าร่วมการแข่งขันระดับมืออาชีพได้

 

 

ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ เขากระตุกมุมปากอีกครั้ง

 

 

เฉิงเจวี้ยนตอบเพียง “อืม” เขาหรี่ตาลงมองฉินหร่าน “พูดต่อสิ”

 

 

“เห็นๆ กันอยู่ว่าฉันถอนตัวแล้ว แต่โค้ชคนเก่าของทีมOSTกลับไม่ได้แก้ชื่อฉันออก!” เฉิงเจวี้ยนเลิกคิ้วมองเธอ ดวงตาใสแจ๋วเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ในที่สุดฉินหร่านก็ก้มหน้าลงแล้วไม่อธิบายต่อ

 

 

ตอนนี้การแข่งขันเพิ่งจบลง บริเวณรอบๆ ล้วนแล้วแต่เป็นพวกทีมงาน

 

 

เฉิงเจวี้ยนพยักหน้า บีบมือที่ห้อยอยู่ทั้งสองข้างและใช้ความพยายามอย่างหนักในการระงับมัน จากนั้นก็มองมาทางฉินหร่าน “ไปห้องพักรับรองกันก่อน”

 

 

ฉินหร่านฟังออกถึงอะไรบางอย่าง กลับไปแล้วค่อยคุยกันดีๆ

 

 

**

 

 

พื้นที่แถลงข่าว

 

 

เจ้าภาพและผู้บรรยายต่างก็อยู่ด้วย

 

 

“เทพอี้ ไม่ทราบว่าพวกคุณไปตามหาลูกทีมเทพๆ อย่างสาวน้อยคนเมื่อกี้ได้ที่ไหน ? !” เจ้าภาพและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังต่างก็รู้สึกผิดหวังอย่างมากเมื่อไม่เจอฉินหร่าน

 

 

ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ผิดหวัง ชาวเน็ตที่ชมการถ่ายทอดสดมาตลอดต่างก็ผิดหวังเช่นกัน

 

 

ก่อนหน้านั้นตอนที่หยางเฟยไม่ได้ปรากฏตัวกับสมาชิกทีมOST ทุกคนต่างก็คิดว่าคราวนี้ทีมOSTต้องแพ้แน่ๆ

 

 

เพราะถึงอย่างไรผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งสองคนก็ไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาก่อน และยังมีอีกคนที่ไม่ได้เป็นเด็กฝึกหัดเสียด้วยซ้ำ

 

 

การที่อัตราการต่อรองของชาวเน็ตอยู่ที่ 9.9 ต่อ 1 นั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

 

 

ในท้ายที่สุดฉินหร่านก็ทำให้lungแพ้จนได้ ถ้าจะให้พูดด้วยความเป็นธรรม การแข่งขันครั้งนี้ lungก็ไม่ได้ดูผ่อนคลายแม้จะเผชิญหน้ากับผู้เล่นหน้าใหม่

 

 

ภายใต้สถานการณ์นี้ยังสามารถเอาไพ่สองใบไปจากเขาได้ ซึ่งนี่ก็อธิบายได้ว่าฉินหร่านมีความสามารถในการควบคุมไพ่และยังมีทักษะการคำนวณอีกด้วย

 

 

ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงตอนที่เธอระเบิดศักยภาพออกมา

 

 

ใครก็ตามที่สามารถแข่งรายการจิ่วโจวอีสปอร์ตทัวร์นาเมนต์ได้นั้นล้วนทราบกันดีว่าภายใต้สถานการณ์ประเภทนี้ แม้กระทั่งหยางเฟยที่อยากจะได้ไพ่ของlung ก็ไม่แน่ว่าจะถอนตัวได้

 

 

ความสามารถของlungล้วนเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับ

 

 

ไม่ว่าแข่งสนามไหน เขาก็สามารถพาตัวเองไปสู่จุดสูงสุดได้

 

 

มีหลายครั้งต่อหลายครั้งที่หยางเฟยถูกตัดสินให้ชนะเพียงเพราะช่องว่างเล็กๆ น้อยๆ

 

 

ไม่มีใครคิดว่าlungทำหน้าที่ได้ไม่ดีหรือเล่นแบบปล่อยปละละเลย

 

 

มีคนเคยโอดครวญว่าถ้าlungเกิดเร็วกว่าหยางเฟยอีกไม่กี่ปี ทุกอย่างคงไม่เป็นเหมือนอย่างตอนนี้และเขาก็จะถูกกำหนดให้เป็นบุคคลแห่งยุคของตัวเอง

 

 

ปัจจุบัน ทีมOSTมีหยางเฟยยังไม่พอ ทั้งยังมีQRเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคน เดิมทีพวกเขายังอยู่ในตำแหน่งที่แทบจะไม่แพ้ใครในรายการแข่งขันจิ่วโจวอีสปอร์ตทัวร์นาเมนต์อยู่แล้ว ทว่าตอนนี้ยังจะมีใครที่สามารถแข่งกับทีมOSTได้อีก?

 

 

QRคนนี้คือใคร ไม่เพียงแค่เจ้าภาพและผู้บรรยายเท่านั้นที่อยากรู้

 

 

ชาวเน็ตที่นั่งเฝ้าหน้าจอก็อยากจะรู้ด้วยเช่นกัน

 

 

“ผู้เล่นหน้าใหม่?” อี้จี้หมิงส่ายหน้า เขาชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้ม “เธอไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ เธอเข้าทีมในช่วงเวลาเดียวกันกับพวกเรา แต่เกิดเหตุการณ์บางอย่าง เธอจึงไม่ได้อยู่ในทีมต่อ พอดีวันนี้เทพพระอาทิตย์มีปัญหานิดหน่อยก็เลยจำเป็นต้องบังคับให้เธอลงสนาม ในอนาคตน้อยมากที่จะมีโอกาสแบบนี้ แน่นอนว่าผมก็รู้สึกขอบคุณเทพพระอาทิตย์ด้วยเช่นกัน”

 

 

ขณะนี้หยางเฟยก็กำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่ในห้องทดลองของกู้ซีฉือ “…” เขาก้มลงอ่านเวยป๋อ

 

 

วินาทีที่แล้วแฟนคลับของเขายังร้องไห้กันระงม เอาแต่พูดว่าเทพพระอาทิตย์เป็นอะไรไป เทพพระอาทิตย์ไปไหน เทพพระอาทิตย์ไม่เป็นอะไรใช่ไหม

 

 

แต่ในวินาทีถัดมากลับบอกว่า “ขอบคุณเทพพระอาทิตย์” “ถ้าเทพพระอาทิตย์ไม่เป็นไร วันหลังก็หายตัวไปหลายๆ วันก็ได้” “ที่รัก ขอร้องคุณช่วยบังคับเธอให้ลงสนามอีกหลายๆ ครั้งได้ไหม” 

 

 

แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่หยางเฟยอยากเห็นมากที่สุด แต่ตอนนี้ก็ทนไม่ได้อยู่หน่อยๆ “…” นี่เป็นแฟนคลับของเขาจริงๆ เหรอเนี่ย?

 

 

แน่นอนว่าคนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากงานนี้คือคนที่วางถั่ว 9.9 เท่าก่อนเริ่มงาน

 

 

คนเหล่านั้นล้วนทุ่มสุดตัวให้กับทีมWAT ทางฝั่งชาวเน็ตทุกคนต่างกลับตาลปัตร : เสียใจแล้ว เสียใจแล้วจริงๆ ทำไมตอนนั้นไม่เชื่อในศักยภาพของทีมOSTกันนะ?

 

 

หลังจากทีมOSTให้สัมภาษณ์เสร็จ ชาวเน็ตก็ยังสงบจิตสงบใจไม่ลง

 

 

มีคนถามในเว็บไซต์ทางการของทีมOSTและบนเวยป๋ออี้จี้หมิงหรือของหยางเฟยเป็นต้น——

 

 

(เวยป๋อของสาวน้อยคนนั้นล่ะ?)

 

 

หลังจากถามอยู่นานก็มีคนออกมาบอกอย่างเงียบๆ

 

 

(ทุกคนยังจำเทพพระอาทิตย์แท็กชื่อ@qrคนนั้นเมื่อเดือนที่แล้วได้ไหม…)

 

 

**

 

 

ตอนที่โค้ชและพวกเขากลับมา

 

 

ลู่จ้าวอิ่งก็ยังไม่ได้สติ เขานั่งทบทวนชีวิตบนเก้าอี้เกมของหยางเฟย

 

 

เฉิงมู่ยังดีกว่าเขาเล็กน้อย

 

 

“ไหนเธอบอกว่าระดับของเธอสูงไม่มากพอ เล่นคู่กับฉันไม่ได้ไง?” ลู่จ้าวอิ่งมองฉินหร่านอย่างเงียบๆ

 

 

ฉินหร่านไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย “ฉันมีดาวขั้นจักรพรรดิยี่สิบดวง ต้องมีดวงเดียวถึงจะเล่นคู่กับนายได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะเล่นคู่กับนายจะต้องตัดระดับปรมาจารย์ทิ้ง ที่บอกไปแบบนั้น ฉันไม่ได้โกหกนายเสียหน่อย” 

 

 

ลู่จ้าวอิ่ง “…” เขาถูกมีดเสียบหัวใจอย่างแรง

 

 

“เธอรู้มาตั้งนานแล้วเหรอว่าคุณชายเจวี้ยนเป็นเพื่อนเธอ?” ลู่จ้าวอิ่งไม่ค่อยแน่ใจ เขานึกถึงตอนที่ฉินหร่านล็อกอินเข้าไอดีเกมของเฉิงเจวี้ยนเป็นครั้งแรก เงียบไปสักพัก

 

 

ฉินหร่านกระแอมเสียงและไม่ได้บอกไปตรงๆ

 

 

ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว เธอจึงตกลงกับลู่จ้าวอิ่งว่าจะเอาไพ่เทพสามใบให้เขา ลู่จ้าวอิ่งถึงได้พยักหน้าพลางทำหน้าเศร้าเพื่อแสดงให้เห็นถึงความใจกว้างที่มากพอที่จะยกโทษให้เธอ

 

 

เฉิงเจวี้ยนเหลือบมองเขาพลางเลิกคิ้วอย่างเงียบๆ

 

 

เป็นเวลาพอดีที่โค้ช อี้จี้หมิง และคนอื่นๆ ผลักประตูเข้ามา

 

 

“yanนั่นอยู่ไหน?” ฉินหร่านลุกจากเก้าอี้พลางหรี่ตาลงเล็กน้อย

 

 

โค้ชได้ไตร่ตรองเรื่องนี้ไว้แล้วก่อนลงแข่ง แต่เพราะขณะนั้นยังต้องคิดถึงเรื่องการแข่งขัน เขาจึงไม่ได้คุยอะไรกับyan พอตอนนี้ฉินหร่านพูดขึ้นมา เขาจึงพยักหน้าแล้วบอกว่า “อยู่ห้องพักรับรองอีกห้องหนึ่ง”

 

 

ฉินหร่านพยักหน้ายิ้ม ทว่ากลับมีเพียงสายตาที่เย็นยะเยือก เธอเชิดคางให้โค้ช “ไปกันเถอะ”

 

 

อี้จี้หมิงได้โทรศัพท์หาหยางเฟยแล้ว พอรู้ว่าตอนนี้เขาไม่เป็นอะไรถึงจะโล่งอกได้

 

 

เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างฉินหร่านกับโค้ช เขาก็เม้มริมฝีปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความมืดมน หน้าตาอึมครึม “เราไปหาเขากันเถอะ”

 

 

โค้ชไม่ได้ยิน แต่เขากลับได้ยินสิ่งที่เฉิงเจวี้ยนพูดมาก่อนหน้านี้

 

 

ถ้าไม่มีเพื่อนคนนั้นของเทพฉิน หยางเฟยจะต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และในท้ายที่สุดจะทิ้งผลข้างเคียงไว้ที่มือ…

 

 

สำหรับผู้เล่นอีสปอร์ต นี่คือระเบิดที่สามารถทำลายทุกสิ่งอย่าง!

 

 

ห้องพักรับรองสำหรับตัวสำรองของทีมOST

 

 

yanไม่ได้ลงสนามและไม่ได้ไปชมการแข่งขัน เขาแค่นั่งชมการถ่ายทอดสดอยู่ที่ห้องพักรับรองเท่านั้น พอเห็นบรรยากาศการแข่งขัน

 

 

เดิมทีเขาเห็นว่าโค้ชดูใจเย็นมาก จึงคิดว่ายาที่เขาใส่ให้หยางเฟยจะไม่ได้ผล

 

 

จนกระทั่งฉินหร่านและคนอื่นๆ ลงสนาม เขาถึงตระหนักได้ว่าเขาวางยาหยางเฟยได้สำเร็จ

 

 

ในตอนนั้นyanเกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว เขาไม่รู้จักฉินหร่านแต่เขารู้จักเสี่ยวอวี๋ เขารู้มากถึงขนาดที่ว่าอี้จี้หมิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของlung

 

 

เขายังคิดไปถึงว่าทีมOSTจะต้องแพ้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

 

 

แต่กลับไม่คิดว่าในความเป็นจริงแล้วการแข่งขันดำเนินไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ฉินหร่านก็จบเกมโดยใช้เวลาเพียงยี่สิบนาที

 

 

ระดับความเชี่ยวชาญในการใช้ไพ่หนี่วาของเธอสูงกว่าหยางเฟยเสียอีก!

 

 

yanรู้สึกหน้ามืดเล็กน้อย พอเขาได้ยินที่อี้จี้หมิงให้สัมภาษณ์หลังจากจบเกมการแข่งขัน เขาก็หยิบโทรศัพท์เปิดดูเวยป๋อ

 

 

จากการติดตามของชาวเน็ต เขาพบเวยป๋อที่หยางเฟยโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้โดยที่เขาแทบจะไม่ต้องออกแรงหาเลย

 

 

สปีดมือเร็วกว่าหยางเฟย อยากเห็นเธออยู่บนเวทีเดียวกับหยางเฟย เคยเป็นสมาชิกทีมOST เทพเจ้าแห่งโซนหนึ่งที่กุมไพ่เทพสามใบ

 

 

ทั้งหมดทั้งมวลล้วนชี้ไปที่จุดเดียวกัน

 

 

yanไม่ใช่กลุ่มชาวเน็ต เขาคือคนในทีม ย่อมรู้มากกว่าชาวเน็ตทั่วไปและยังรู้อีกว่าทีมไม่ได้เป็นผู้จัดหาไพ่เทพสามใบนั้นให้ แต่เป็นไพ่ส่วนตัว…