ตอนที่ 226 ขโมยนาโนแมชชีนสนุกจังโว้ย!

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

ฝีมือหมาป่า? ไม่น่าใช่

งูเงินของทหารมีกล้องพิเศษที่จะส่งภาพกลับมายังผู้ใช้งานผ่านการเชื่อมประสาทกับนาโนแมชชีน ดังนั้นแม้ว่าเงานั่นจะรวดเร็วมากจนภาพเบลอไปหมด เขาก็มั่นใจว่าไม่ใช่หมาป่า

หัวหน้าโจวหันมามองเขาด้วยความงุนงง “ถ้าไม่ใช่หมาป่าแล้วเป็นตัวอะไร”

“เหมือนจะเป็น…เงาคน” ลูกหน่วยว่า แต่ตอนนั้นเอง เขาก็อุทานออกมา “ไม่นะ งูเงินผมจะออกจากระยะควบคุมแล้ว!”

จากนั้นเขาก็วิ่งออกไป พยายามจะให้ตัวเองอยู่ในระยะควบคุมงูนาโนเงิน แต่ว่าฝีเท้าเขาช้ากว่าอีกฝ่าย วิ่งไปได้แค่สองก้าว การเชื่อมต่อประสาทระหว่างงูเงินกับเขาก็ขาดไป!

ใบหน้าหัวหน้าโจวดำคล้ำ เขาไม่คิดเลยว่าพวกตนจะมาเจออันตรายอะไรที่นี่ ใครจะคิดว่าขึ้นเขามาไม่ถึงสามชั่วโมงก็เสียนาโนแมชชีนไปส่วนหนึ่งแล้ว!

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร และลงมือด้วยเหตุอะไร!

ถ้าอีกฝ่ายมนุษย์ ทำไมจะต้องขโมยงูนาโนเงินไปด้วย ใช่ว่าเอาไปแล้วจะใช้ได้เองเสียหน่อย!

“หัวหน้า เอาไงต่อดีครับ” มีคนถาม

หัวหน้าโจวพูดเสียงเย็น “เขาวิ่งไปทางไหน”

“ไปทางตะวันตกเฉียงใต้!” ลูกหน่วยผู้นั้นว่า

“ไล่ตาม!” หัวหน้าโจวพูด “แค่คนเดียวใช่ไหม แจ้งป้อมสังเกตการณ์ถัดไปผ่านวิทยุ บอกพวกเขาว่าเราเจอเป้าหมายใหม่ที่น่าจะสำคัญกว่าหมาป่า บอกพวกเขาด้วยว่าพวกเราจะไล่ล่าเป้าหมายด้วยทุกสิ่งที่เรามี และจะแยกตัวออกจากปฏิบัติการ ‘ล้อมหมาป่า’”

ที่จริงมีแค่หัวหน้าโจวที่รู้ว่าพวกตนส่งมาบนเขานี้ทำไม ไม่ต้องไปรีบล้อมปราบหมาป่าหรอก ที่สำคัญกว่าคือต้องมั่นใจว่าพวกตนไม่สูญเสียนาโนแมชชีนไปต่างหาก

ขณะเดียวกัน เริ่นเสี่ยวซู่เพิ่งรับงูนาโนที่อยู่ในสภาพพักการใช้งานมาจากร่างแยกเงา เขานึกว่าตนเองกว่าจะได้นาโนแมชชีนมาต้องผ่านสงครามอย่างดุเดือดเลือดสาดเสียอีก ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเคงไม่คุ้มค่าเท่าไร เขาชอบที่จะลอบโจมตีทหารนาโนแมชชีนที่แยกออกจากกลุ่มทีละนายๆ มากกว่า…

แต่บางครั้ง โชคก็เหมือนยามง่วงคนยื่นหมอนให้ ไม่นึกเลยว่าจะมีคนส่งนาโนแมชชีนมาถึงมือเขาแบบนี้…

แค่สองวินาที พระราชวังก็คืนนาโนแมชชีนให้กลายเป็นค่าโรงงาน ล้างระบบการเชื่อต่อระยะไกลและชุดคำสั่งอื่นๆ หุ่นยนต์งูนาโนสีเงินแปรเปลี่ยนกลายเป็นเหล็กไหลและหลอมรวมเข้ากับนาโนแมชชีนที่เหลือในร่างกายของเริ่นเสี่ยวซู่

นาโนแมชชีนชุดใหม่ได้มาง่ายๆ เช่นนี้เลย…

แต่เริ่นเสี่ยวซู่ยังเศร้าอยู่ เจ้างูเงินนี่มันตัวเล็กเกินไปแล้ว กว่าจะควบคุมร่างแยกเงาจนเจองูสักตัวไม่ง่ายเลย กว่าจะตามหาได้อีก ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกกี่ปี

ไม่สิ! ตาของเริ่นเสี่ยวซู่พลันทอประกายวิบวับ!

หลินชีและคนอื่นๆ มุ่งลึกเข้าไปในป่าเขา ทว่าพวกเขาไม่ได้มุ่งขึ้น แต่กลับเดินเรียบไปทางหุบเขา

“หัวหน้า พวกเราไม่ตามต่อดีกว่าไหมครับ” หลินชีถามด้วยความกังวลเล็กน้อย “ก็แค่งูเงินตัวเดียวเอง ถ้าเราเดินไกลไปผมกลัวว่าจะเกิดเรื่อง”

หัวหน้าโจวมองเขาตาขวาง “ถ้ากลัวตายแล้วจะมาเป็นทหารทำไม ฝูงหมาป่าไม่ได้อยู่ทางเรา จะกลัวอะไรหา เดินหน้าต่อ!”

เพิ่งพูดจบ ทหารในหน่วยก็กระซิบเสียงดัง “หัวหน้า ดูที่หุบเขานั่นสิ!”

ทุกคนหันไปทางหุบเขา และเห็นเงาหนึ่งโผล่ออกมาพอดี ‘คน’ ผู้นั้นเหมือนจะเพิ่งพักเสร็จ และไม่คิดว่าพวกหัวหน้าโจวจะไล่ตามมาถึงที่นี่!

“อย่าให้เขาคลาดสายตา!” หัวหน้าโจวสั่งอย่างดุร้าย

พริบตานั้น งูนาโนอีกสี่ตัวก็เลื่อยพุ่งไปทางจุดที่ร่างแยกเงาหายตัวไป ขณะเดียวกันทหารนายอื่นก็รุดเข้าไปในป่าพร้อมประกายสีเงินฉายออกมาตามเส้นเลือด

เพียงความคิดเดียวจากผู้ใช้งาน ก็ทำให้นาโนแมชชีนวิ่งไปทั่วร่าง กลายเป็นเครื่องจักรซับซ้อนที่คอยสนับสนุนเพิ่มพูนพละกำลังของพวกเขา ว่าง่ายๆ ก็คือพละกำลังและความเร็วของทหารนาโนแมชชีนตอนนี้นั้นเกินกว่าขอบเขตของมนุษย์ธรรมดาไปแล้ว พวกเขาเป็นยอดมนุษย์จากผลผลิตของเทคโนโลยีอย่างแท้จริง!

บรรดาทหารนาโนแมชชีนพุ่งผ่านภูมิประเทศสูงต่ำราวพื้นราบ ทหารบางคนถึงกับกระโจนนับสิบเมตรจากการกระโดดเพียงครั้งเดียว!

ระหว่างไล่ล่า ปืนคอยเล็งยิงใส่ร่างแยกเงาไม่หยุด ราวกับพวกเขาคิดจะสาดกระสุนเป่าร่างแยกเงาให้กระจุย

แต่ถึงร่างกายพวกเขาจะแข็งแกร่งมากเพียงไร พวกเขาก็ยังเป็นแค่ทหารใหม่ที่ยังไม่ได้ผ่านการฝึกยิงปืนมา ตอนที่เคลื่อนตัวด้วยความไวสูงนั้น ท่าเล็งยิงพื้นฐานยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ

“อย่าเปลืองกระสุน” หัวหน้าโจวแค่นเสียง “จับเขาให้ได้ก่อนค่อยจัดการ”

ระหว่างการไล่ล่า มีเพียงทหารนายที่ควบคุมหุ่นยนต์งูนาโนที่รู้สึกไม่ชอบมาพากล ดูเหมือนว่าร่างเงานี้จะหนีช้ามากกว่าตอนที่ฉกงูไป

แต่เขามีประสบการณ์ต่อสู้จริงเพียงน้อยนิด ย่อมไม่กล้าตัดสินอะไรโดยพลการ

ระยะระหว่างพวกเขากับร่างแยกเงาเข้าใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ งูเงินเองก็เข้าใกล้เช่นกัน ทันใดนั้นร่างแยกเงาก็กวาดมือไปข้างหลัง ไม่มีใครรู้ว่ามันกวาดมือไปยังอะไรกันแน่ แต่จู่ๆ ร่างแยกเงาก็เร่งฝีเท้าและหายวับไป!

การเผ่นหนีอย่างเร็วรี่แบบนี้ทำเอาพวกหัวหน้าโจวตะลึงไป นี่แม่*ยังเป็นมนุษย์อยู่เปล่าวะ เอ็งเป็นตัวอะไรกันแน่ ถ้าวิ่งเก่งขนาดนี้ ทำไมเพิ่งมาเร่งฝีเท้าล่ะโว้ย

แต่วินาทีต่อมา ทหารนาโนแมชชีนที่คอยควบคุมงูนาโนเงินก็ตามมาถึงกลุ่ม เขาหอบหายใจ “แย่แล้ว!”

นาโนแมชชีนทั้งหมดของเขาก่อรูปเป็นหุ่นยนต์งูนาโนไว้ใช้สำหรับงานลาดตระเวน ดังนั้นเขาจึงถูกรั้งท้ายตอนที่ทั้งหน่วยไล่ตามสุดฝีเท้า

หัวหน้าโจวขมวดคิ้วมุ่น “มีอะไร”

ทหารนาโนแมชชีนเอ่ยพร้อมหน้าซีดขาว “งูเงินโดนเขาเอาไปหมดแล้วครับ…”

ตอนนี้เองทุกคนถึงได้รู้ตัว ยอดมนุษย์ฝั่งตรงข้ามดูเหมือนจะใช้ยุทธวิธีแสร้งช้าล่อให้งูเงินเข้าใกล้ จากนั้นจะได้รวบจับพวกมันในทีเดียว

คู่ต่อสู้ของพวกเขาเล็งหุ่นยนต์งูนาโนไว้ตั้งแต่ต้น

เชี่ยไรวะเนี่ย ขี้เกียจใช้เวลานานนมไล่จับทีล่ะตัวงั้นสิ แค่นั้นไม่พอใจงั้นสิ?

หัวหน้าโจวที่ยืนอยู่บนโขดหินดูทอดถอนใจ

ก่อนที่จะทันได้ประมือกับหมาป่า ทหารนาโนแมชชีนคนหนึ่งก็เสียนาโนแมชชีนไป เป็นทหารนาโนแมชชีนแต่ไม่มีนาโนแมชชีน มันได้ด้วยเหรอ

ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่านำนาโนแมชชีนมาใช้ภายนอกเป็นอุปกรณ์ลาดตระเวนนั้นเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย เพราะมันเพิ่มประสิทธิภาพในการลาดตระเวนมาก

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หัวหน้าโจวคิดว่าตนต้องกลับไปแจ้งเสนาธิการว่าวิธีการนี้ใช้ไม่ได้แล้ว มีคนเชี่ยวชาญด้านการขโมยนาโนแมชชีนเอาสนุก

“ถอยกันก่อน” หัวหน้าโจวพูดเสียงเย็น “ตามล่าต่อแบบนี้ไม่ได้หรอก”

หลังจากชั่งน้ำหนัก เขารู้สึกว่าตามล่าต่อมีแต่จะเสียหายหนักกว่าเดิม พวกตนไม่อาจต่อกรกับคู่ต่อสู้ได้เลย มีแต่ต้องตัดความเสียหายในอนาคตไปแต่เนิ่นๆ

แต่ตอนนี้เอง เสียงหมาป่าก็ดังมาจากเนินเขาไม่ไกล ใบหน้าหัวหน้าโจวคล้ำเขียว