คำวิจารณ์พวกนี้ ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ก็ไม่อะไรนักหรอก
คนที่ไม่ได้ติดต่ออะไรกันแล้ว และทั้งสองยังไม่ชอบกันอีกนั้น เขาน่าจะไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรหรอก คงเมินเฉยไม่สนใจ
แต่ว่า ที่ทำให้เคแอบรู้สึกท่าไม่ดีก็คือ——
อารมณ์ของประธานเขาในวันนี้ผิดปกติมาก!
“คีบอาหารให้เอง?”
“ไม่……น่าจะไม่ใช่แบบนี้นะ……”
“ที่แท้จุดประสงค์ที่เธอมาวันนี้ก็แบบนี้นี่เอง ดีจัง เส้นหมี่ ผมดูถูกคุณจริงๆ ไม่เจอกันห้าปี คุณรู้จักหากิ๊กเป็นแล้ว!”
เขาดูเฉียบคม หน้าคมชัดเจน ดูเยือกเย็นไปหมด ระหว่างคิ้วที่เย็นชา เหลือเพียงความบูดบึ้ง
เคไม่ได้ตอบเขา
เพราะเขาคิดว่าคำนี้แรงไป และไม่น่าฟังนัก ผู้หญิงคนนั้นยังไงก็ไม่ใช่คนแบบที่เขาพูดถึง
“ประธาน คุณใจเย็นก่อนนะครับ ผมว่า……คุณเส้นหมี่เธอไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่งั้น ตอนนี้ผมไปหาเธอ?ให้เธอมาพูดกับคุณให้ชัดเจน?”
“ทำไมผมต้องให้เธอมาด้วย?เธอมาก็ทำที่ผมสกปรกหมด!”
คิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆผู้ชายคนนี้จะปฏิเสธให้เขาไปหาเส้นหมี่ และยังใช้คำพูดที่แทงใจอย่าง——สกปรกนี้อีก!
สุดท้ายเคก็พูดไม่ออก
ดังนั้นพอผ่านไปหลายนาที เส้นหมี่ที่กำลังกินข้าวกับรองประธานแผนกธุรกิจการค้าในโรงอาหาร จู่ๆโทรศัพท์ก็มีข้อความเข้ามา แจ้งว่าเธอถูกหิรัญชากรุ๊ปไล่ออก
ถูกไล่ออก?
เธอไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม เธอเพิ่งมาตอนเช้า ก็ถูกไล่ออกแล้ว?!!
ไม่ ไม่สิ เธอไม่ได้มาทำงานที่หิรัญชากรุ๊ปจริงๆจังๆซะหน่อย ไล่ออกอะไรกัน?ไอ้ผู้ชายระยำนั่นบ้าหรือไง?
เส้นหมี่เอาโทรศัพท์มาโทรออกไปทันที
“ขอโทษค่ะ สายที่ท่านเรียกไม่อาจติดต่อได้ในขณะนี้”
“ขอโทษค่ะ สายที่ท่านเรียกไม่อาจติดต่อได้ในขณะนี้”
“……”
ห่า!
ดันมาบล็อกเธออีก!!
เส้นหมี่โมโหแล้ว ผลักอาหารไปตรงหน้า แล้วเธอก็ยืนขึ้นมา
รองประธาน:“คุณจะไปไหน?คุณยังไม่ได้กินอาหารสักคำเลย คุณจะไปไหน?”
ไปไหน?
แน่นอนว่าไปจัดการไอ้คนบ้าคนนั้น จริงๆเลย!!
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนสุดอย่างยึดมั่นในความบริสุทธิ์ จากนั้นก็ตกอยู่ในสายตาของทุกคนในชั้นสำนักงานของห้องประธาน เธอพุ่งเข้ามา แล้วถีบประตูห้องทำงานของประธานออก
ทุกคนก็กลัวขึ้นมา!
นี่คนแบบไหนกันแน่?ไม่ได้บอกว่ากำลังได้รับการเอาอกเอาใจของรองประธานแผนกธุรกิจการค้าหรอกเหรอ?แม้แต่อาหารก็ยังคีบให้กับตัว ทำไมแป๊บเดียวก็วิ่งขึ้นมาที่ห้องทำงานของประธานอีก?
และยังกล้าถีบประตูห้องทำงานของประธานแบบนี้อีก!
พวกเขามองไปเหมือนโดนฟ้าผ่า กลับเห็นว่า หลังจากผู้หญิงคนนี้ถีบเข้ามา แป๊บเดียวก็ได้ยินเธอด่าอยู่ด้านในว่า:“แสนรัก คุณบ้าหรือเปล่า?คุณส่งข้อความนี้หาฉันหมายความว่าไง?ฉันมาทำงานที่บริษัทคุณเหรอ?”
ทุกคน:“……”
ช่างน่าระทึกขวัญเลยใช่ไหม?!!
ในห้องทำงาน ในที่สุดเส้นหมี่ที่เห็นคนบ้านี้ กลับยืนอยู่ตรงนั้นกำลังรอคำตอบอย่างเดือดจัดทั่วใบหน้า
แต่ที่ทำให้เธอแปลกใจมากก็คือ เธอไม่เกรงใจขนาดนี้แล้ว ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่างกระจกบานสูงไม่มีการตอบสนองเลยสักนิด จนผ่านไปสิบกว่าวินาที เธอถึงเห็นเขาค่อยๆหันมา
“ไสหัวไป!”
เขามีสีหน้าเรียบเฉย พ่นคำนี้ออกมาจากฟันเขา เยือกเย็นจนทำให้คนตัวสั่นได้
เส้นหมี่ตะลึงเล็กน้อย:“ไสหัวไป?คุณหมายความว่าไง?แสนรัก ระวังคำพูดคุณด้วย ฉันไม่ได้มาทำงานที่บริษัทคุณจริงๆ ฉันแค่มาเพราะลูกชาย ตอนนี้คุณมาพูดกับฉันแบบนี้ คุณหมายความว่าไง?”
“คำนี้เข้าใจชัดเจนดีนี่?คำนี้คือให้คุณไสหัวไปจากหิรัญชากรุ๊ป เส้นหมี่ สถานที่ของผมแสนรัก ไม่ใช่เอเจนซี่ช่วยคุณหาคู่ให้ และก็ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะมาหากิ๊กหรือไต่เต้าขึ้นไปได้ คุณทำให้ผมขยะแขยงที่สุด!”
เขาก็ยังไม่แสดงอาการอะไรออกมา
แต่ว่า ในดวงตาดำคล้ำคู่นั้นไม่มีแสงใดๆสักนิด เพราะว่าประโยคนี้ จึงปรากฏความเกลียดชังและขยะแขยงอันมหาศาล เหมือนว่าเส้นหมี่สกปรกจนถึงขั้นว่าเขาไม่อาจดูต่อได้อีก
what?!!
เส้นหมี่โกรธจนนิ้วสั่น เธอก้มหน้ามองซ้ายขวา สุดท้ายเห็นว่ามีงานศิลปะที่ทำจากเหล็กชิ้นหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากเธอ ดังนั้นเลยเดินไปอุ้มมันขึ้นมา
แสนรักหรี่ตาทันที:“คุณอุ้มมันมาทำไม?”
“ฉันจะอุ้มมันมาทุ่มใส่คุณให้ตาย!!”เส้นหมี่ตะโกนไปอย่างโมโห!
“คุณมันประสาท มาหาว่าฉันหากิ๊ก?ฉันไปหากิ๊กที่ไหนกัน?ฉันคือผู้หญิงที่คุณเคยนอนด้วย คุณดูถูกตัวเอง หรือคิดว่าคนน่าเกลียดพวกนั้นของบริษัทคุณแข็งแกร่งกว่าคุณกันแน่?สมองคุณมีปัญหาใช่ไหม?ฮะ?ไอ้สารเลว!!”
เส้นหมี่โกรธจะบ้าตายอยู่แล้ว เธออุ้มสิ่งนั้นไว้พร้อมกับต่อว่าอย่างโกรธเคือง และจะทุ่มลงมาด้วย
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เธอยกขึ้นนั้น——
“30KG ถ้าคุณยกมันขึ้นมาทุบใส่ผมได้ หนีไปถือว่าผมแพ้”จู่ๆผู้ชายคนนี้ก็อารมณ์ดีขึ้นมา มองเธอยกสิ่งนี้ขึ้น กลับมองเธอนิ่งๆแล้วพูดออกไปประโยคหนึ่ง
ทันใดนั้น เส้นหมี่หายใจไม่ออก ของที่กอดไว้ในมือก็ดัง“ตุ้ม——”ตกลงไปอย่างแรง
ไอ้ห่าเอ๊ย!