อาจารย์เต้ากวงตื่นเต้นจนพูดไม่ออก สบถในใจไม่หยุดว่า “ฉันเกือบจะฆ่าลู่ฝานตาย ถ้าอาจารย์ยังอยู่ แล้วรู้ว่าฉันเกือบฆ่าผู้สืบทอดสายเลือดหนึ่งเดียวตาย เขาต้องฆ่าฉันตายแน่ๆ!”

สายตาที่ทั้งสองมองลู่ฝานเหมือนซาตานเห็นคนงาม อีกทั้งยังเป็นสาวงามที่นอนเปลือยกายอยู่บนเตียงด้วย ประกายในแววตาเหมือนเปลวไฟลุกโชน

ศิษย์พี่หานเฟิงตั้งสติได้ ต่อมา หานเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “ดูทำท่าเข้า ให้ตายเถอะ ถ้าไม่หาเรื่องใส่ตัว ก็ไม่ต้องเจอสถานการณ์ยากลำบาก นายไม่รู้เหรอ อวดดีสมควรเจอฟ้าผ่า ต้านทานไม่ได้แม้แต่กระบี่เดียว นายยังกล้าทำอวดดี นายคิดว่าตัวเองเป็นฉันหรือไง! ศิษย์น้องลู่ฝาน จัดการเขาสุดกำลังไปเลย ให้เขาอีกสักกระบี่”

สีหน้าฉู่เทียนโหดเหี้ยมขึ้นมา หลินฉีเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีกับเขา เมื่อปีก่อน แม้ตอนนั้น เขาไม่ได้ใช้ดาบเทียนควบ เคล็ดวิชาบู๊ระดับดิน แต่ตอนนั้นหลินฉีไม่ได้สู้สุดชีวิตเช่นกัน จากเบื้องลึกของคณะบังเหิน หลินฉีมีเคล็ดวิชาบู๊ระดับดินก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ศิษย์น้องลู่ฝานสามารถจัดการหลินฉีจนเป็นแบบนี้ด้วยกระบี่เดียว งั้นแสดงว่าเขาสามารถจัดการตัวเองได้ จนไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉู่เทียนถอนหายใจออกมา ศิษย์น้องลู่ฝานมาคณะหนึ่งเดียวแค่ครึ่งปี แค่ครึ่งปีเท่านั้น!

คนคณะบังเหินพูดอะไรไม่ออก หวังเพียงว่าหลินฉีจะไม่แพ้แค่กระบี่เดียวแบบนี้ นายรีบลุกขึ้นมาสิ!

เหมือนคำขอของพวกเขาได้ผล หลินฉีลุกขึ้นมาช้าๆ

รอยแผลจากกระบี่ตรงหน้าอก ฉีกจนเห็นกล้ามเนื้อด้านใน

หลินฉียกมือสัมผัสแผลของตัวเอง เมื่อเห็นเลือด ผมของหลินฉีชี้ขึ้น

“ลู่ฝาน!”

เหมือนหลินฉีพูดลอดไรฟันออกมา

พลังปราณระเบิดออกมา ดาบยาวในมือขวา ใหญ่ขึ้นหนึ่งเท่า

เมื่อดาบออกมา เหมือนหลินฉีเป็นหนึ่งเดียวกับดาบ พุ่งเข้าไปฆ่าลู่ฝาน พลานุภาพที่ไม่สิ้นสุด เต็มไปด้วยความอาฆาต

อะไรที่ว่าพอเป็นพิธี อะไรที่ว่ามิตรภาพในคณะ ตอนนี้เป็นแค่สิ่งบ้าบอในสายตาหลินฉี

ฆ่า!ฆ่า!ฆ่า!

เหมือนเสียงคำรามของสัตว์อสูร พลานุภาพของหลินฉีในตอนนี้ ไม่ต่างจากนักบู๊แดนปราณนอกแล้ว

ดาบยาวฟาดลงมา พลังปราณแหลมคมเป็นอย่างมาก

ลู่ฝานสุขุม ไร้ความเกรงกลัว ยกกระบี่หนักเข้าไปรับ

หนึ่งดาบ ห้าดาบ สิบดาบ ร้อยดาบ

ทันใดนั้น หลินฉีสะบัดออกมาเป็นร้อยดาบ

พลังดาบอันน่ากลัวทำให้พื้นใต้เท้าลู่ฝาน ยุบลงไปเรื่อยๆ

แต่ลู่ฝานไม่เป็นอะไรสักนิด กระบี่หนักในมือเหมือนสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าหลินฉีจะใช้ดาบอย่างไร เขาสามารถต้านทานได้หมด

การเคลื่อนไหวของหลินฉีดูช้าลงในสายตาลู่ฝาน เมื่อมองออกชัดเจน ลู่ฝานสามารถต้านทานได้

ชำนาญวิชาใดวิชาหนึ่ง ก็จะชำนาญวิชาที่เกี่ยวข้องไปด้วย ลู่ฝานใช้วิชากระบี่ขั้นพื้นฐานของตัวเองต้านทานการโจมตี การมองคู่ต่อสู้ออกแบบนี้ วิชากระบี่ที่โจมตีและป้องกันอย่างสบายๆ ทำให้หลินฉีแทบกระอักเลือด

หลินฉีกัดฟัน ดาบยาวในมือ โดนฟันจนเกิดประกายไปทั่ว แต่ไม่สามารถทำอะไรลู่ฝานได้เลย

ทำไมลู่ฝานมีผลการฝึกตนแค่ระดับแดนปราณในชั้น4 พลังป้องกันของพลังปราณกลับเวอร์ถึงขั้นนี้

ทำไมการเคลื่อนไหวของลู่ฝานช้าจนเหมือนคนแก่รำไทเก็ก แต่กลับล็อกการโจมตีของเขาได้ทั้งหมด

หลินฉีไม่เข้าใจ ดูไม่ออก สิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวคือ โจมตีอย่างบ้าคลั่ง

ลู่ฝานไม่ได้โจมตีกลับอย่างรวดเร็ว ปราณชี่ปกคลุมร่างกาย ลู่ฝานกำลังทดสอบปราณชี่ของตัวเอง

พลังป้องกันไม่เลว นักบู๊ที่เกือบจะเข้าสู่แดนปราณนอก โจมตีอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้ ลู่ฝานยังรู้สึกว่าตัวเอง เคลื่อนไหวได้สบายๆ

ความสามารถในการฟื้นฟูยิ่งน่าตกใจ ลู่ฝานรู้สึกว่าถึงตัวเองสู้กับหลินฉีสามวันสามคืนก็ไม่เหนื่อย แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า หลินฉีจะสามารถอยู่ได้ถึงสามวัน

การเคลื่อนไหวทุกครั้ง ลู่ฝานยังรู้สึกว่าพลังร่างกายตัวเองแข็งแกร่งตามไปด้วย กล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ทำให้เขาคิดไปว่า ไม่ต้องใช้พลังปราณก็สามารถสู้กับหลินฉีได้สามร้อยรอบ

พลังโจมตีมั่นคง ไม่เห็นว่ามีอะไรแปลกไป

อย่าบอกนะว่านี่คือจุดอ่อนเดียวของปราณชี่เหรอ หรือเขายังไม่เชี่ยวชาญวิธีโจมตีของปราณชี่

ลู่ฝานคิดเช่นนี้ และลองโจมตีกลับอีกครั้ง

อย่าดูแค่การโจมตีของหลินฉีรวดเร็ว พลังปราณดุดัน

แต่ในสายตาลู่ฝาน กระบวนท่าโจมตีของเขาล้วนมีช่องโหว่

กระบี่หนักสะบัด ต้านทานได้อีกสิบดาบ ลู่ฝานหลับตา หมุนตัวสะบัดกระบี่

เมื่อสะบัดกระบี่ออกไป ลู่ฝานสัมผัสถึงรูปแบบการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลง โจมตี ของปราณชี่ได้อย่างชัดเจน

ทันใดนั้น ลู่ฝานรู้สึกว่าตอนปราณชี่ของตัวเองพุ่งออกไป พลังฟ้าดินเคลื่อนไหว เหมือนพวกมันไม่เต็มใจขัดขวางปราณชี่ของลู่ฝาน

ใช่แล้ว จู่ๆ ลู่ฝานนึกขึ้นมาได้ ปราณชี่ของเขาคือพลังปราณผสานกับพลังชี่

พลังปราณ คือพลังที่หล่อหลอมฟ้าดิน ฝึกออกมาจากตัวนักบู๊ แต่พลังชี่ คือการเปลี่ยนแปลงของพลังฟ้าดินแบบแท้ๆ

ถ้าตอนที่เขาออกกระบี่ แล้วขจัดพลังฟ้าดินออกไป ไม่เจอการขัดขวางของพลังฟ้าดินจะเป็นอย่างไรนะ

คิดได้เช่นนี้ ลู่ฝานรีบเคลื่อนไหวพลังฟ้าดินรอบๆ

จิตเคลื่อนไหว เบญจธาตุเคลื่อนไหว นี่เป็นทักษะของผู้ฝึกชี่

ลู่ฝานใช้อย่างเงียบๆ แทบจะไม่เคลื่อนไหวร่างกายเลย

พลังฟ้าดินที่ขวางอยู่หน้ากระบี่หนัก ถูกขจัดออกไป กระบี่หนักที่ลู่ฝานแทงออกไป เร็วขึ้นเป็นสิบเท่า

ราวกับลำแสงหนึ่ง ชนกับตัวหลินฉี