บทที่ 112 มาแลกเปลี่ยนหยกเสี้ยวจันทร์อีกแล้ว

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

“ท่านอาจารย์ ตอนนี้ท่านอาจารย์ซ่างกวนเป็นผู้บรรยาย” กู้ชูหน่วนเตือน

อาจารย์ร่วมฟังจะยุ่งมากไปหน่อยแล้วกระมัง?

โดยไม่คาดคิด อาจารย์ซ่างกวนค่อยๆขยับเสื้อสีขาวราวหิมะ ยิ้มแล้วพูดว่า“เวลาเรียนไม่ตั้งใจฟัง แล้วยังกวนสหายร่วมชั้นเรียนคนอื่นๆ การกระทำนี้ผิดต่อคุณธรรมสูงส่ง ลงโทษวิ่งรอบราชวิทยาลัยสี่สิบรอบแล้วกัน”

สะ…สี่สิบรอบ?

เท่าตัวหนึ่ง?

กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลม

นางลืมไป ผิวเผินซ่างกวนฉู่ดูน่าสงสารไปหมด แต่ที่จริงกลับเป็นคนชั่วช้าเจ้าเล่ห์

“ท่านอาจารย์ ศิษย์ขออนุญาตไปเปลี่ยนเสื้อ”

สีหน้าของเย่เฟิงซีดเผือดและดูแย่เล็กน้อย

“ไปเถอะ”

กู้ชูหน่วนยกมือขึ้น “ท่านอาจารย์ เสื้อข้าก็ถูกเกี่ยวขาดเช่นกัน ข้าก็อยากไปเปลี่ยนเสื้อ”

“ไม่อนุญาต”

แม่เจ้า!

ซ่างกวนฉู่ จะลำเอียงเกินไปหน่อยแล้วมั้ง

ทุกคนในราชวิทยาลัยพากันหัวเราะ

“ดูท่าทางร้อนใจของคุณหนูสามกู้แล้ว สิ คงจะอยากแอบดูเย่เฟิงเปลี่ยนเสื้อสินะ เฮ้อ เสียทีที่ข้าชื่นชมนางไปขนาดนั้นเมื่อหลายวันก่อน”

“ก็นั่นนะสิ ความสามารถทางวรรณกรรมของนางดีมาก แต่ทำไมครั้งนี้ถึงได้ดูไม่น่าเชื่อถือเลยนะ”

“ข้ารู้สึกเหมือนถูกหลอก ข้าสงสัยจริงๆว่านางแต่งบทกวีเหล่านั้นเองจริงหรือ?”

“หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน ไม่เพียงแต่ฉีกเสื้อผ้าของบุรุษ แต่ยังอยากดูบุรุษเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกด้วย นี่…นี่มันจะไร้ยางอายเกินไปแล้วกระมัง?”

เซียวหยู่เซียนพูดอย่างโกรธเคือง “เจ้าพูดอะไร แน่จริงก็ลองพูดอีกรอบสิ!”

ฝูงกาบินผ่านสายตาของกู้ชูหน่วนไป

นางเนี่ยนะจะอยากดูเย่เฟิงเปลี่ยนเสื้อ?

นางเพียงแค่อยากจะแน่ใจว่าเย่เฟิงคือเด็กหนุ่มคนนั้นเฉยๆ

“ไทเฮาเสด็จ”

ทุกคนประหลาดใจ

ทำไมไทเฮาเสด็จมาอีกแล้ว?

ซ่างกวนฉู่นำทุกคนทำความเคารพ “ถวายพระพรไทเฮา ขอองค์ไทเฮาอายุยืนพันปี พันๆปี”

“ลุกขึ้น”

ไทเฮาสวมชุดหงส์ผ้าแพรทั้งชุด ประดุจดาวล้อมเดือน องค์หญิงตังตังวิ่งเหยาะๆมาคว้าแขนของนาง พูดด้วยความยินดี “เสด็จแม่ ท่านเสด็จมาที่นี่ได้อย่างไรเพคะ?ท่านเสด็จมาหาหม่อมฉันหรือเพคะ? ”

ไทเฮาทรงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วลูบศีรษะเล็กๆของนาง

ซ่างกวนฉู่พูด “ไม่ทราบว่าที่ไทเฮาเสด็จมา ทรงมีประสงค์อันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ไทเฮาทรงมองไปยังกู้ชูหน่วน แล้วยกยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจ “ข้ามาหาคุณหนูสาม”

“คุณหนูสามกู้ หยกจันทร์เสี้ยวชิ้นนั้นเป็นของที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงทิ้งไว้ให้องค์หญิงตังตัง และมีความสำคัญต่อพวกเราแม่ลูกเป็นอย่างมาก ดังนั้น…คุณหนูสาม หรือเจ้าจะเอ่ยเงื่อนไข ขอเพียงแค่ข้าทำได้ ต้องทำให้เจ้าแน่นอน”

“ไทเฮาทรงอยากแลกเปลี่ยนหยกจันทร์เสี้ยวกับหม่อมฉันหรือเพคะ?”

กู้ชูหน่วนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม

นางกล้ารับประกันเลยว่าในกลุ่มนักฆ่าที่ลอบฆ่านางเมื่อวาน อย่างน้อยหนึ่งในนั้นต้องมีคนของไทเฮาแน่ๆ

เนื่องจากไม่สามารถแย่งหยกจันทร์เสี้ยวมาจากนางได้ ดังนั้นครั้งนี้จึงเอาผลประโยชน์มาแลกเปลี่ยนกับนาง

ไทเฮายิ้มเรียบ ยิ้มจนกระทั่งดูมีเมตตาเป็นมิตร “ถูกต้อง”

คนในราชวิทยาลัยต่างก็อิจฉากู้ชูหน่วน

ไทเฮามาสองครั้งแล้ว แล้วยังใช้ทั้งเงินทองมาแลกเปลี่ยนกับหยกจันทร์เสี้ยวเป็นจำนวนมาก กู้ชูหน่วนยังไม่ยอมมอบให้นางอีก?

นั่นเป็นโอกาสดีที่จะได้มีสัมพันธ์อันดีกับองค์ไทเฮาเชียวนะ

อีกทั้งครั้งที่แล้วองค์ไทเฮายังเสนอเงินตั้งห้าสิบล้านตำลึงแน่ะ

กู้ชูหน่วนรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “ไทเฮาทรงเสด็จมาถึงสองครั้งแล้ว หากครั้งนี้หม่อมฉันยังไม่ถวายอีก ก็คงจะไม่รู้ความเกินไปแล้วนะเพคะ”

ไทเฮาดีใจเล็กน้อย ลมหายใจหนักขึ้นอีกบางส่วน “ถ้าเช่นนั้น เจ้ายินดีจะมอบให้ข้าแล้วใช่หรือไม่?”

“แน่นอนอยู่แล้วเพคะ องค์ไทเฮา ครั้งก่อนทรงตรัสว่าจะแลกเงินห้าสิบล้านตำลึงกับหยกเสี้ยวจันทร์ใช่มั้ยเพคะ? เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะมิทรงขออะไรมาก ขอแค่เงินห้าสิบล้านตำลึงก็พอเพคะ ”

องคืหญิงตังตังตัวสั่นด้วยความโกรธ “เสด็จแม่ เงินห้าสิบล้านตำลึงแลกกับหยกเพียงชิ้นเดียว นางกำลังรีดไถเราชัดๆ”

นางไม่กล้าบอกว่าไม่ต้องการแลกเปลี่ยนแล้ว เพราะครั้งก่อนนี้เสด็จแม่ทรงพิโรธมาก

ไม่ว่านางจะโง่เขลาแค่ไหน แต่นางก็รู้ดีว่าหยกเสี้ยวจันทร์นั้นไม่ธรรมดา แต่นางเพียงคิดไม่ตก ไม่ว่าจะยังมีสมบัติชิ้นไหน ก็เป็นไปไม่ได้ว่าจะมีค่าถึงเงินห้าสิบล้านตำลึง