ตอนที่ 206 ความร่วมมืออันเป็นมิตร

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

เวลาในการสำแดงการกู้ชีพศักดิ์สิทธิ์ของออกัสมีจำกัด หลังหอไข่มุกระเบิดแล้วก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

ร่างของทุกคนกลับมาชัดเจนอีกครั้ง จากนั้นก็ถูกคลื่นพลังงานโจมตี…

แม้พลังงานจะลดลงไปมากแล้ว แต่อานุภาพยังคงน่ากลัวอย่างยิ่ง ทั้งหกคนต่างก็ถูกระเบิดจนกระเด็นกระดอนอย่างไม่ปรานี

อันหลินถูกกระแทกจนกระอักเลือดกลิ้งหลุนๆ บนพื้น

รอบข้างมีฝุ่นตลบอบอวล เต็มไปด้วยเสียงร้องโอดโอย

สายลมโชยมา พัดฝุ่นจนกระจาย หลุมขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นตรงหน้า

เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากขอบหลุมอย่างยากลำบาก กวาดสายตามองรอบทิศอย่างหวาดระแวง ยังมีตัวแทนของหอสร้างโลกอยู่ในละแวกนี้ จะประมาทไม่ได้เป็นอันขาด

เชอรีลกอดออกัสที่สลบไสลไว้ มือส่องแสงสีขาวบริสุทธิ์ กำลังรักษาอาการบาดแผลภายนอกของเขา

ใจกลางของก้นหลุม มีสิ่งมีชีวิตสีเหลืองทอง นัยน์ตาปล่อยประกายไฟแปลบปลาบ

มันสั่นระริก ของเหลวสีทองซึมออกจากผิวหนัง ควันขาวผุดออกมา หายใจหอบไม่หยุด

อันหลินชักกระบี่พิชิตมารออกมาทันใด ร่างกายเกร็งไปทั้งตัว

เบื้องหน้าเขาเป็นหวงส่าน ตัวแทนแกนนำของหอสร้างโลก!

“โชคดีที่ข้ามีอาวุธวิเศษคุ้มกัน มิเช่นนั้นคงถูกระเบิดจนตกรอบแน่ แค่กๆ…” หวงส่านถ่มเลือดออกมาหลายคำ นัยน์ตาเย็นเยือกเหลือบมองบริเวณหนึ่ง ตรงนั้นมีมนุษย์หินที่ถูกระเบิดจนล้มอยู่บนพื้น

ฟิ้ว! มันกลายเป็นสายฟ้าสีทองเส้นหนึ่ง พุ่งไปอยู่ข้างหงโต้วในพริบตา ยกเท้าแล้วเตะออกไปโดยพลัน

ตูม! ชั่วขณะที่พลังงานระเบิด หงโต้วก็ร้องโหยหวน ร่างกายสูงใหญ่ก็ลอยขึ้นฟ้า

หวงส่านจ้องมองท้องฟ้าแล้วพุ่งขึ้นไปอีกครั้ง นกนางแอ่นที่เนื้อตัวดำเกรียมก็บินทะยานตามไปด้วย ทิ้งร่องรอยอันเย็นเยียบไว้…

อันหลิน “…”

“อันหลิน อย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้!” หวังเสวียนจ้านตะโกนลั่น

อันหลินได้สติ ดูเหมือนหวงส่านกำลังสั่งสอนเพื่อนร่วมทีม แท้จริงแล้วกำลังฉวยโอกาสหลบหนีต่างหาก!

เขาขี่ก้อนอิฐเหาะไปหาตงเยี่ยน หันมองหวังเสวียนจ้านแวบหนึ่ง กลับพบว่าหวังเสวียนจ้านกำลังโรมรันพันตูกับงูเหลือมที่มีพลังแก่กล้า ปลีกตัวมาไม่ได้

“เอ่อ…จะให้ข้าไปตามพวกมันทั้งสามเพียงลำพังหรือ ท่านแน่ใจนะว่าจะไม่ไปส่ง” มุมปากของอันหลินกระตุก พูดด้วยความมึนงง

น่าเสียดายที่ไม่มีใครตอบคำถามเขา

สิ่งที่ตอบเขา มีเพียงสายฟ้าสีทองที่ฟาดมาแต่ไกลเท่านั้น…

เปรี้ยง!

ในช่วงเวลาคับขัน เขาใช้ก้อนอิฐกำบังกาย ขัดขวางการโจมตีที่โผล่มากะทันหันไว้

ขณะที่สายฟ้าระเบิด ก้อนอิฐชองเขาก็ถูกกระเทือนจนชะงักไป

อันหลินชะโงกหน้ามา กลับพบว่ามีคมดาบน้ำแข็งนับร้อยกำลังพุ่งตรงมา

เขาหดหัวทันที หลบอยู่หลังก้อนอิฐต่อไป

แรงกระแทกรุนแรงทำให้ก้อนอิฐเกิดเสียงดังกึก ไอเย็นเยือกอบอวลไปทั่วพื้นที่ หนาวเย็นจนเขาตัวสั่นเทิ้ม

ให้ตายเถอะ! จะไล่ตามอย่างไรอีก!

“ลำแสงสุดท้าย!”

ในตอนนั้นเอง พลังงานสีชมพูพุ่งเฉียดร่างกายอันหลินไปพร้อมกับกลิ่นอายที่ร้อนระอุ

ตูม! มีเสียงหวีดร้องของนกนางแอ่นแว่วมาไกลๆ

“ฮาย! วีรสตรีมาช่วยหมีควายแล้ว!” หลิวเชียนฮ่วนขี่คทาขนนกมา ผมสั้นประบ่าสีชมพูพลิ้วไหวไปตามลม ใบหน้าขาวผ่องงดงามเปื้อนยิ้ม

อันหลินที่ถูกมองเป็นหมีควายอัดอั้นใจยิ่งนัก ไม่ชายตามองหลิวเชียนฮ่วน แต่มองไปทางตงเยี่ยนที่หนีไป

ตัวแทนของหอสร้างโลกเรื่องอื่นไม่ว่า แต่ด้านการหลบหนี พวกมันเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน

แม้ตงเยี่ยนจะถูกลำแสงสุดท้ายโจมตี แต่ยังคงว่องไวดุจสายลม หายลับไปในเส้นขอบฟ้าภายในเสี้ยววินาที

“ไปกันเถอะ! ครั้งนี้ปล่อยพวกมันไปก่อน พวกเราไปช่วยศิษย์พี่หวังเสวียนจ้านจัดการงูเหลือมกัน”

หลิวเชียนฮ่วนเห็นตัวแทนของหอสร้างโลกเผ่นแน่บไปไวปานนี้ ก็หมดความคิดจะไล่ล่าต่อ จึงพูดพลางโบกมือส่งๆ

ณ จัตุรัสฟ้าคราม การร่วมมือระหว่างสวนเอเดนกับสรวงสวรรค์ ทำให้บรรยากาศในจัตุรัสคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

“ในที่สุดเทพอันก็สำแดงเดชอีกแล้ว หมัดปรมาณูอัสนีของเขา ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งก็ตะลึงทุกครั้ง!”

“ออกัสก็เท่มากเหมือนกัน ระหว่างที่พวกเขาสองคนทลายหอคอยนั่น ต่างก็มีบทบาทที่สำคัญกันทั้งคู่”

“ฮ่าๆ ดูเจ้าพวกหอสร้างโลกสิ คราวนี้กรรมตามสนองแล้วละ” เหล่าผู้ชมเห็นตัวแทนของหอสร้างโลกบาดเจ็บเพราะคลื่นลูกหลงจากแรงระเบิดของหอไข่มุก ต่างก็ปรบมือกันเกรียวกราว

“เสียดายที่พวกมันหนีไปได้”

“หงโต้วมาขายความโง่…”

“ปล่อยให้พวกมันดิ้นรนอีกสักพักก็คงไม่เป็นไร อย่างไรเสียคะแนนก็รั้งท้ายอยู่ดี”

เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของนักเรียนสรวงสวรรค์กับชาวปีกปัณฑูรแล้ว อากัปกิริยาของผู้ติดตามจากหอสร้างโลกบูดบึ้งกว่าเยอะโข

ไม่ง่ายเลยกว่าพวกมันจะพันธนาการทั้งสองอิทธิพล กุมบังเหียนได้ ไม่คิดเลยว่าสวนเอเดนกับสรวงสวรรค์จะร่วมมือกันอย่างน่าประหลาดใจเช่นนี้ ทลายพันธนาการได้ไม่พอ ยังชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย…

ราชสีห์ตบโต๊ะอย่างแรง ใบหน้ามีแต่ความเสียดาย “ไอ้งั่งหงโต้ว!”

มันถูกเรื่องเลวร้ายพวกนี้ทำเอาโมโหจนอึดอัดใจไปหมด แต่ก็ไม่รู้จะโทษใคร ทำได้เพียงระบายอารมณ์กับหงโต้ว

ณ เทือกเขาจงหลง หงโต้วที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะซึ่งกำลังหลบหนีอยู่นั้น รู้สึกเสียวสันหลังวาบ จากนั้นก็จามออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

มันเหลียวมองข้างหลัง กลับพบว่าหวงส่านกำลังจับจ้องมันด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม

หงโต้ว “…”

หวงส่านมองหงโต้ว ทำท่าเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “เหอะๆ หงโต้ว ไว้ข้าจะคิดบัญชีหอไข่มุกกับเจ้าทีหลัง”

หงโต้วสะดุ้งเมื่อได้ยิน ร่างกายสูงใหญ่หดเล็กเหมือนกระต่ายน้อย น้ำตาคลอเบ้า

สามารถจินตนาการได้ว่า สภาพหลังจากนี้ของมันจะขมขื่นปานใด

อีกบริเวณหนึ่งของสมรภูมิรบ กำลังมีศึกเดือดปะทุ

งูเหลือมเปลวเพลิงคลานลดเลี้ยว พายุเปลวเพลิงก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งสามร้อยหกสิบองศา อุณหภูมิสูงจนหลอมผิวดินให้เป็นโคลน แผดเผาจนดำเกรียมอย่างสิ้นเชิง

หวังเสวียนจ้านเปิดม่านกำบังวารีทันที ประจันหน้ากับพายุเพลิงไม่ยอมถอย

เขาพุ่งทลายเปลวไฟ หอกสีเงินห้อมล้อมด้วยกระแสไฟ ทะลวงร่างของงูเหลือมตรงหน้าราวกับสายฟ้าฟาด

เปรี้ยง!

งูเหลือมเปลวเพลิงคล่องแคล่วยิ่งนัก หลบหลีกการโจมตีของหวังเสวียนไปได้อย่างหวุดหวิด

แต่ชั่วขณะนั้นเอง ศรคมสีทองก็ทะลุทะลวงด้วยความเร็วที่น่ากลัวกว่าความเร็วเสียงหลายเท่าตัว ทิ้งร่องรอยสีทองไว้กลางอากาศเป็นสาย ปักเข้าที่ศีรษะของงูเหลือม!

“ซี่…” ชั่วขณะที่เลือดสาดกระเซ็น งูเหลือมก็แผดเสียงร้อง

“พันธนาการแห่งแสง!” หลิวเชียนฮ่วนควงคทาขนนก วงแสงปรากฏล้อมรอบงูเหลือมแล้วปล่อยแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ออกมา

“เอกฐานแห่งแสง ลำแสงสุดท้าย!” คทาของนางปล่อยลำแสงที่น่าตะลึงอย่างต่อเนื่อง ดวงแสงกับพลังเลเซอร์โจมตีที่หัวของงูเหลือมอย่างพร้อมเพรียงกัน

การระเบิดของดวงแสงทำให้งูเหลือมมึนงงเล็กน้อย ลำแสงสุดท้ายมาเยือนในพริบตา อานุภาพที่ยิ่งใหญ่แทบจะทะลุทะลวงหัวของมันแล้ว

“ซี่…” งูเหลือมหวีดร้อง เนื้อตัวแดงก่ำขึ้นทุกที

ในตอนนั้นเอง อันหลินที่กำลังขี่ก้อนอิฐอยู่บนเวหาก็พุ่งลงมา

“หมัดสะเทือนขุนเขา!”

หมัดสีทองทะยานลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับสายฟ้า กระแทกหัวของงูเหลือมเข้าอย่างจัง

เปรี้ยง! ศีรษะของงูเหลือมถูกโจมตีอีกครั้งจนหน้าจุ่มดิน

“เขี้ยวอัสนี!” หวังเสวียนจ้านแปลงร่างเป็นสายฟ้า ไปโผล่เหนือร่างของงูเหลือม

เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยเกล็ด พลังแห่งสายเลือดถูกกระตุ้น หอกยาวเป็นดั่งเขี้ยวของมังกรอัสนีจะกัดลำคอของงูเหลือม

ฉัวะ…ศีรษะขนาดใหญ่ของงูเหลือมถูกหวังเสวียนจ้านตัดด้วยหอกอย่างไม่ลังเล

เลือดสีแดงคล้ำพุ่งกระฉูด กลายเป็นหมอกสีเลือดกระจายไปทั่ว

“ยินดีด้วย สรวงสวรรค์ได้ไปหนึ่งคะแนน!”

มีเสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง

การต่อสู้สิ้นสุดลง หวังเสวียนจ้านถือจอกศักดิ์สิทธิ์แล้วโยนให้หลิวเชียนฮ่วน

จากนั้นเขาก็เบนสายตามองอาเธอร์แล้วกล่าวขอบคุณ “ขอบใจนะ!”

ลูกศรด้ามเมื่อครู่นี้ช่วยพวกเขาไว้มากโข และลูกศรด้ามนี้ ก็มาจากอาเธอร์ที่หาโอกาสยิงออกมานั่นเอง

อาเธอร์พยักหน้าเมื่อได้ยิน ไม่พูดอะไร

เขากับเชอรีลพยุงออกัสแล้วทะยานขึ้นฟ้าเหาะเหินไปไกล

อันหลินทอดมองร่างของพวกเขาแล้วรู้สึกหดหู่ในใจ

ร่วมมือกับพวกเขาช่างดีเหลือเกิน มีแม้กระทั่งช่วยโจมตี ครั้งหน้าจะกล้าลงมือกับพวกเขาได้อย่างไร…