ตอนที่ 175 โค่นตระกูลหลิ่วที่ร่ำรวย

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ใบหน้าเย่เฉินผุดรอยยิ้มออกมา

จะรับมือกับคนที่มีนิสัยไม่ดีพวกนี้คุณหาเพื่อนร่วมทางได้ง่ายดายมากจริงๆ

เพราะหากว่าชายหนุ่มคนหนึ่งเจ้าชู้ ไม่มีทางจะเจ้าชู้กับผู้หญิงแค่คนเดียวแน่นอน เขาจะต้องทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน

ดังนั้นเย่เฉินจึงเปิดโน้ตในโทรศัพท์มือถือ แล้ววางแผนกล่าวโทษหลิ่วอวี่เจ๋อให้เหม่ยฉีด้วยตนเอง

แน่นอนว่าเพื่อทำให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสของตระกูลหลิ่ว เขาจะต้องฉวยโอกาสนี้ลากปู่ของหลิ่วอวี่เจ๋อให้ซวยไปด้วย

เหม่ยฉีเป็นดาราดัง เขาต้องใช้ยอดทราฟฟิคมหาศาลของเหม่ยฉีมาโจมตี สร้างความเสียหายหลายๆ ด้านให้กับบริษัทมูลค่าแสนล้านของตระกูลหลิ่ว

หลังจากเขียนเสร็จแล้ว เย่เฉินก็ส่งให้เหม่ยฉีดูบอกให้หล่อนท่องจำ

เหม่ยฉีดูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไรแต่ก็ยังถามต่อ “ทำไมต้องถ่ายคลิปด้วย? พิมพ์เวยป๋อเอาไม่ได้เหรอ?”

เย่เฉินกล่าววว่า “ตัวหนังสือไม่สามารถเห็นความรู้สึกใดๆ ได้ เวยป๋อของคุณถูกบริษัทดูแล ทันทีที่หลิ่วอวี่เจ๋อหาวิธีจัดการบริษัทคุณได้ เวยป๋อที่คุณแชร์ก็จะถูกลบทิ้ง จากนั้นบริษัทก็จะบอกว่าบัญชีคุณโดนแฮค คุณไม่ได้เป็นคนแชร์ แต่ถ้าเป็นคลิปวีดีโอมันจะต่างออกไป คนในคลิปคือตัวคุณเอง ต่อให้เวยป๋อถูกลบแต่ก็จะมีคนแชร์ออกไปอยู่ดี”

เหม่ยฉีพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

เย่เฉินก็กล่าวต่ออีกว่า “อีกเดี๋ยวตอนอัดคลิป คุณก็ทำท่าทางเสียใจสักหน่อย ให้มันดูเสียใจจากการโดนผู้ชายเจ้าชู้เล่นกับความรู้สึก ร้องไห้ไปพูดไปทำได้ไหม?”

เหม่ยฉีส่ายหน้า “ทำไม่ได้ไม่งั้นคุณช่วยตบฉันหน่อยสิ”

“???”

ใบหน้าเย่เฉินเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้ชอบโดนตบหรือไง?

เหม่ยฉีหัวเราะเจ้าเล่ห์

เงื่อนไขแบบนี้เย่เฉินเองก็เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

เย่เฉินไหนเลยจะกล้าตบหล่อน ถ้าเกิดตบแล้วเป็นลมขึ้นมา อยากนั้นก็ได้ไม่คุ้มเสียน่ะสิ

แต่ในเมื่อดาราดังยังกล้ายื่นเงื่อนไขแบบนั้น เย่เฉินจึงไม่เกรงใจอีกต่อไป เขายื่นมือออกมาแล้วหยิกเข้าที่ขาเหม่ยฉี

“โอ้ย เจ็บจัง!”

เหม่ยฉีผลักเย่เฉินออกไป น้ำตาพรั่งพรูออกมาทันที

“อยู่ในสภาพนี้ต่อไปนะ พวกเราจะเริ่มอัดคลิปกันแล้ว!”

เย่เฉินรีบหยิบมือถือออกมาถ่ายวีดีโอทันที

เหม่ยฉีกล่าวโทษเย่เฉินในใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เริ่มร่ำไห้คร่ำครวญกับกล้องทันที

“สวัสดีค่ะทุกคนฉันคือเหม่ยฉีนะคะ ฉันรู้ว่าแฟนๆ ของฉันมากมายต่างก็กำลังเป็นห่วงเป็นใยฉัน ทุกคนก็คงอยากจะรู้ว่าความจริงคืออะไร ตอนนี้ฉันจะบอกกับทุกคนค่ะ ความจริงก็เป็นเหมือนกับข่าวที่ถูกปล่อยออกมา เมื่อคืนวานฉันอยู่กับคุณชายทายาทรุ่นที่สามของตระกูลหลิ่วจริงๆ ค่ะแล้วบนรถ…

ฉันรู้ว่าแฟนๆ มากมายต่างก็ผิดหวังในตัวฉันมากค่ะ แต่ฉันก็อยากจะบอกพวกคุณว่าฉันถูกหลอก ฉันไม่ได้เป็นมือที่สามนะคะ! เมื่อครึ่งปีก่อนหลิ่วอวี่เจ๋อตามจีบฉัน เขาตามจีบฉันอยู่นานกว่าฉันจะตกปากรับคำจะเป็นแฟนเขา ฉันคิดว่าเขาชอบฉันจากใจจริงก็เลยตกลงคบหาดูใจกับเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะกลับไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นลับหลังฉัน เมื่อคืนวานฉันก็ยังคิดว่าฉันเป็นแฟนเพียงคนเดียวของเขา!

ฉันรู้ว่าตระกูลหลิ่วทรงอิทธิพล ปู่ของเขาเป็นผู้บริหารของบริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสถือเป็นคนทรงอิทธิพลระดับประเทศเลยทีเดียว ฉันเองก็รู้ค่ะว่าคลิปสีดีโอนี้อาจจะถูกลบทิ้งไปอย่างรวดเร็ว แล้วฉันอาจจะโดนแบนตลอดไป

แต่ว่าฉันจำเป็นต้องบอกความจริงให้ทุกคนได้รับรู้ ให้แฟนคลับที่ชอบฉันได้รับรู้ ฉันวังเหม่ยฉีไม่เคยทำเรื่องละเมิดศีลธรรมค่ะ!”

คลิปวีดีโอใช้มือถือของวังเหม่ยฉีถ่าย เมื่อถ่ายเสร็จเย่เฉินก็ดูอีกรอบ พอรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไรก็แชร์ลงในเวยป๋อทันที

จากนั้นทั้งสองคนก็คอยดูปฏิกิริยาของชาวเน็ต

สมแล้วที่วังเหม่ยฉีเป็นศิลปินที่โด่งดังในวงการบันเทิง ในวินาทีแรกที่ปล่อยคลิปวีดีโอออกมาก็ถูกส่งต่อไปทะลุสองพันครั้ง!

สองนาทีต่อมา ทั้งการแชร์และความคิดเห็นก็ทะลุห้าหมื่นไปแล้ว!

พอกดดูความคิดเห็นทั้งหมดเป็นความเห็นของพวกแฟนคลับและชาวเน็ต

“เหม่ยฉี พวกเราจะสนับสนุนคุณตลอดไป! คนที่ควรถูกแบนควรจะเป็นหลิ่วอวี่เจ๋อคนเจ้าชู้นั่น! คุณไม่ได้ทำอะไรผิด!”

“แม่งเอ้ย หลิ่วอวี่เจ๋อเป็นใครกันแน่มีเงินแล้วใหญ่มากนักเหรอ? มีเงินก็จะสามารถล้อเล่นกับความรู้สึกใครก็ได้เหรอ?”

“อ๊าๆ คิดไม่ถึงว่าเหม่ยฉีของเราจะถูกหลอก ร้องไห้เสียใจขนาดนี้ ฉันอยากจะฆ่าไอ้เดียรัจฉานคนนั้นจริงๆ!”

……

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ในงานแต่งงานของหลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยา บรรดาแขกเหรื่อต่างก็กินอาหารกันเป็นเวลานานอย่างมาก ความขลุกขลักที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ถูกพวกเขาค่อยๆ ลืมไปจนหมดสิ้นแล้ว

ส่วนหลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยาต่างก็ถือแก้วเหล้าไปไล่คำนับแขกทุกโต๊ะ

แและในเวลานี้เองพนักงานของโรงแรมคนหนึ่งอายุไม่มาก น่าจะประมาณ 20 ต้นๆ จู่ๆ ก็ถือมีดมาพุ่งพรวดเข้ามาหาหลิ่วอวี่เจ๋อ!

“แม่งเอ้ย ไอ้หลิ่วอวี่เจ๋อคนเจ้าชู้! ฉันจะแก้แค้นให้เหม่ยฉี!”

พนักงานบริกรชายคนนี้เป็นแฟนคลับของวังเหม่ยฉี ชอบอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง เขากดติดตามวังเหม่ยฉีเป็นพิเศษ ดังนั้นทันทีที่เหม่ยฉีแชร์เวยป๋อเขาจึงเห็นทันที

เมื่อดูเสร็จ เพลิงโทสะก็ลุกโชนขึ้นในใจ หยิบมีดพุ่งไปหาหลิ่วอวี่เจ๋อ

ในตอนนี้หลิ่วอวี่เจ๋อยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“อ๊า!”

หลิ่วอวี่เจ๋อลนลานเขาทุบขวดเหล้าขาวในมือใส่หน้าพนักงานริการคนนั้น แต่ว่ามือของเขาก็ยังโดนคมมีดบาดเลือดสดๆ ไหลออกมาเป็นทาง

“ที่รัก!” หวังเจียเหยาอุทานอย่างตกใจ

เหล่าแขกเหรื่อคนอื่นๆ ต่างก็ผุดลุกยืนขึ้นด้วยอารามตกใจ คนพวกนี้ต่างก็เป็นเศรษฐีที่มีมูลค่าบริษัทราคาเกินร้อยล้าน ทุกชีวิตต่างก็มีมูลค่าที่สูงลิ่ว

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยไปในสถานที่อโคจร แทบไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้าก่อน

หลิ่วเฟิงเคยอยู่ในกองทัพมาก่อน แถมยังเป็นคนทีเคยฝึกวิชาป้องกันตัว เขารีบปราดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ในตอนที่บริกรผู้นั้นเตรียมจะแทงอีกฝ่ายเป็นครั้งที่สองนั้นเองก็รีบเข้ามาขวาง

“พูดมา ใครส่งแกมา! ใช่เย่เฉินหรือเปล่า!”

หลิ่วเฟิงคว้าแขนสองข้างของบริกรแล้วเค้นถาม

บริกรผู้นั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่เฉินคือใคร เขาเพียงแค่ตะโกน “หลิ่วอวี่เจ๋อล้อเล่นกับความรู้สึกของนางฟ้าของผม แกต้องไม่ตายดีแน่!”

ตอนนี้เองในกลุ่มแขกก็มีคนตะโกน “แย่แล้วๆ หลิ่วอวี่เจ๋อติดเทรนด์เวยป๋ออีกแล้ว ไม่ใช่แค่หลิ่วอวี่เจ๋อ คุณหลิ่ว หลิ่วหย่วนหางเองก็ติดเทรนด์ด้วยนะครับ แถมไม่พอยังมีบริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสของคุณก็ตามไปติดเทรนด์ด้วย!”

“อะไรนะ?” หลิ่วหย่วนหาง หลิ่วเฟิงและหลิ่วอวี่เจ๋อต่างก็ตกตะลึง

เขารีบเปิดมือถืออย่างรวดเร็วจากนั้นก็เห็นคลิปร้องไห้ของเหม่ยฉี

“สนับสนุนเหม่ยฉี! ล้มตระกูลหลิ่ว!”

“ต่อไปภายหน้าทุกคนอย่าใช้ชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสแล้ว ปู่เขาคงไม่ใช่คนดีอะไรนักหรอก ถึงได้สั่งสอนหลานที่เจ้าชู้แบบหลิ่วอวี่เจ๋อได้น่ะ!”

“แบนบริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรส! อย่าคิดว่าพวกคุณเป็นตระกูลเศรษฐีแสนล้านแล้วจะสามารถแบนเหม่ยฉีของพวกเราได้นะ!”

ความคิดเห็นต่างๆ เต็มอินเตอร์เน็ตไปหมด หลังจากที่เหม่ยฉีแฉหลิ่วอวี่เจ๋อแล้ว ทุกคนต่างก็พุ่งเป้าไปที่หลิ่วหย่วนหางและบริษัทของเขา

“คุณปู่ หุ้นของพวกเราดิ่งหนักมากเลยครับ!”

หลิ่วเฟิงเปิดโทรศัพท์ดูราคาหุ้นบริษัทครั้งแรกก็พบว่าตลาดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในทันที

หลิ่วหย่วนหางกัดฟันกรอด ในตอนที่มองหลิ่วอวี่เจ๋อนั้นก็คาดโทษ “กระทั่งดาราคนเดียวยังควบคุมไม่ได้ ต่อไปอย่าได้คิดจะดูแลบริษัทของตระกูลเลย!”