ตอนที่ 423 เป็นเขา...เป็นเขาจริงๆ... / ตอนที่ 424 หมดกัน หมดกัน!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 423 เป็นเขา…เป็นเขาจริงๆ…

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบแล้วก็กัดริมฝีปาก สีหน้าดูลังเลขึ้นทันใด

 

 

เธอไม่ได้บอกซ่างซิน ว่าตอนที่เธอเจอกับอันตราย คนที่ออกโรงช่วยเธอก็คือถังหยวนซือ

 

 

ถึงแม้เรื่องนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่เธอก็ลืมไม่ลง

 

 

ยังมีเรื่องโทรศัพท์มือถือสิบเครื่องที่สั่งทำพิเศษของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าอีก ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่เธอเป็นคนวางแผนงาน เธอจึงรู้ดีกว่าใครๆ ว่าโทรศัพท์มือถือสิบเครื่องนั้นอยู่ในมือใครบ้าง

 

 

ถ้าเขาไม่สนใจซ่างซินจริงๆ ทำเขาต้องทำอะไรมากขนาดนั้นด้วย

 

 

แต่ถ้าถังหยวนซือใส่ใจซ่างซินจริงๆ ทำไมเขาต้องผลักไสเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วย

 

 

ยังมีคำเตือนของอวี๋เยว่หานอีก…

 

 

ในคำเตือนนั้นมีสิ่งที่เธอคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจอยู่มากมาย

 

 

ครั้นหญิงสาวเห็นซ่างซินเศร้าสร้อยเพราะถังหยวนซือ เธอก็รู้สึกไม่พอใจเลยจริงๆ

 

 

แทนที่จะทรมานกันทั้งสองฝ่าย ทำไมไม่พูดกันให้ชัดเจนไปเลย!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตัดสินใจเงยหน้าขึ้นทันที

 

 

ซ่างซินดึงสติกลับมาจากคำพูดของเหนียนเสี่ยวมู่แล้ว แววตาของดาราสาวพลันเป็นประกาย ก่อนจะมองตรงไปที่เหนียนเสี่ยวมู่ “เสี่ยวมู่มู่ คุณหมายความว่ายังไง คุณรู้เรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่าคะ”

 

 

พนักงานยกเครื่องดื่มสองแก้วมาเสิร์ฟ ทว่าซ่างซินกลับไม่สนใจมัน

 

 

เธอจับมือของเหนียนเสี่ยวมู่อย่างแรง น้ำเสียงดูร้อนใจมาก “เสี่ยวมู่มู่!”

 

 

แม้พวกเธอจะรู้จักกันมาไม่นานเท่าไหร่ แต่กลับเหมือนรู้จักกันมานานมากแล้ว

 

 

ซ่างซินเห็นเหนียนเสี่ยวมู่เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง และเหนียนเสี่ยวมู่ก็ห่วงใยซ่างซินเช่นกัน

 

 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เหนียนเสี่ยวมู่ก็กำชับว่า “ฉันบอกคุณได้ทุกอย่าง แต่คุณต้องสัญญากับฉัน ไม่ว่าคุณคิดจะทำอะไร ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีเสมอ ทำได้ใช่ไหมคะ”

 

 

“ได้ค่ะ!” ซ่างซินพยักหน้าอย่างแข็งขัน

 

 

เธอเป็นคนที่ชัดเจน พูดแล้วก็ทำได้ทั้งนั้น

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากอย่างเชื่องช้า เพื่อบอกเล่าเรื่องที่ซ่างซินถูกลักพาตัวไปเมื่อครั้งก่อน และสารภาพความลับกับเธอทุกอย่าง…

 

 

“แม้ฉันจะไม่รู้ว่าทำไมถังหยวนซือถึงช่วยคุณ และไม่ยอมให้คุณรู้ แต่สถานการณ์ในตอนนั้นทำให้ฉันรู้สึก ว่าเขาเป็นห่วงคุณมากๆ แทบจะไปช่วยคุณด้วยตัวเองโดยที่ไม่ลังเลเลย…ดังนั้นถ้าต่อไปคุณอยากยอมแพ้ ฉันก็ขอโน้มน้าวคุณ”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เม้มปาก แล้วคนกาแฟในแก้วอย่างเบามือ

 

 

เธออยากพูดสิ่งเหล่านี้ให้ซ่างซินฟังตั้งแต่ตอนนั้น

 

 

แต่อวี๋เยว่หานพูดชัดเจนมาก ว่าถังหยวนซือตัดสินใจยอมแพ้แล้ว ขืนซ่างซินพยายามต่อไปก็ไม่เป็นผลดีต่อตัวเธอ

 

 

เรื่องของความรัก คนนอกเข้าไปยุ่มย่ามด้วยไม่ได้

 

 

ดังนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ถึงได้ลังเล…

 

 

เธอคิดไม่ถึงว่าความลังเลของเธอ จะทำให้ซ่างซินเจ็บปวดถึงขนาดนี้

 

 

ถ้ารู้อย่างนี้ เธอคงจะบอกซ่างซินเร็วกว่านี้

 

 

สิ่งที่ทำให้ดาราสาวเสียใจ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าได้คบกันหรือต้องแยกจากกัน

 

 

แต่เรื่องแบบนี้ อยากจะยอมแพ้ก็ยาก อยากจะรักษาไว้ก็ยากเช่นกัน…

 

 

ความรู้สึกเสียใจเดี๋ยวมาเดี๋ยวหายแบบนี้ อาจจะทำให้คนเป็นบ้าได้!

 

 

“เป็นเขา…เป็นเขาจริงๆ…” ซ่างซินตกตะลึงอยู่บนที่นั่งของตัวเอง

 

 

ในหัวของเธอมีภาพมากมายฉายขึ้นมา

 

 

ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ขอเพียงเจอกับอันตราย เขาจะเป็นคนแรกที่มาถึงตัวเธอเสมอ

 

 

เขาเคยพูดไว้ ว่าเขาจะอยู่กับเธอไปตลอด…

 

 

แต่หลังจากที่เขาไปอยู่ในตระกูลถังแล้ว เขาก็ไม่ยอมเจอเธอ

 

 

เธอคิดว่าเขาลืมคำสัญญาที่เคยให้ไว้แล้ว

 

 

ที่แท้เขาไม่เคยลืมเลย…

 

 

เขายังเป็นห่วงเธอ

 

 

และเขาไปช่วยเธอในทันที

 

 

อย่างนั้นก็หมายความว่าตอนนั้นเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ แต่ทำไมเขาไม่ปรากฎตัวล่ะ

 

 

คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของซ่างซินทันที

 

 

ซ่างซินผุดชุกขึ้นจากที่นั่งโดยพลัน “ไม่ได้แล้ว ฉันต้องไปถามเขาให้รู้เรื่อง!”

 

 

 

 

ตอนที่ 424 หมดกัน หมดกัน!

 

 

“ซ่างซิน!” เหนียนเสี่ยวมู่รีบยืนขึ้นตาม ก่อนจะยื่นมือไปรั้งอีกฝ่ายไว้

 

 

เพราะเธอกังวลว่าอารมณ์ชั่ววูบจะทำให้ซ่างซินเสียใจ

 

 

ในเมื่อถังหยวนซินไม่ยอมให้เธอรู้ตั้งแต่ตอนนั้น ถึงเธอจะไปหาเขาในตอนนี้ก็คงจะไม่ได้คำตอบอะไร

 

 

ถ้าถังหยวนซือถูกบีบเค้นจนพูดจาทำร้ายจิตใจออกมา เธอจะทำอย่างไร

 

 

พอเหนียนเสี่ยวมู่คิดถึงตรงนี้ เธอพลันกัดฟัน “คุณไปคนเดียวฉันไม่สบายใจหรอกค่ะ ฉันไปกับคุณด้วยแล้วกัน!”

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่เป็นไร” ซ่างซินกลับใจเย็นลง หลังจากได้ยินคำพูดของเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

“หลังจากเขากลับไปที่ตระกูลถัง เขาก็หลบหน้าฉันตลอด ฉันได้ยินคำพูดทำร้ายจิตใจต่างๆ นาๆ มาหมดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้เปราะบางขนาดนั้น”

 

 

ก่อนหน้านี้เธอไม่เชื่อคำพูดพวกนั้น

 

 

และตอนนี้รู้แล้วว่าในใจพี่เสี่ยวซือของเธอยังมีเธออยู่ เธอก็ยิ่งไม่เชื่อ!

 

 

ซ่างซินปาดน้ำตาบนใบหน้าทิ้ง ก่อนจะยิ้มขึ้นมา

 

 

อยู่ๆ เธอก็เข้ามากอดเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

“เสี่ยวมู่มู่ ขอบคุณนะ!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

จากนั้นซ่างซินก็จากไปอย่างรวดเร็ว

 

 

ในร้านกาแฟเหลือเพียงเหนียนเสี่ยวมู่ หญิงสาวมองอีกฝ่ายจากไป รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง

 

 

เธอคิดดูแล้วจึงจ่ายเงิน แล้วถือกระเป๋าเดินออกไปข้างนอก

 

 

หญิงสาวเรียกรถแท๊กซี่กลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลอวี๋

 

 

ครั้นพ่อบ้านเห็นเธอ เขาก็กล่าวเตือนทันที “คุณเหนียน คุณชายกลับมาแล้วครับ ตอนนี้อยู่ในห้องรับแขก”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เดินเข้าไปข้างใน

 

 

แต่เพิ่งเดินเข้าไปในห้องรับแขก เธอก็เห็นชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟาหนังแ

 

 

รูปร่างสูงโปร่งของเขาพิงอยู่บนพนักพิง ขาเรียวยาวทั้งสองข้างซ้อนทับกันอย่างเกียจคร้าน พลางหนุนแขนด้วยมือข้างเดียว และอ่านนิตยสารไปด้วย

 

 

หล่อจนน่าโมโหจริงๆ

 

 

กระดุมสองเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตถูกปลดออก เผยให้เห็นหน้าอกแกร่งสีน้ำผึ้ง แถมยังมีรอยแดงเกิดจากเล็บข่วนให้เห็นรางๆ หลายรอย…

 

 

รอยพวกนั้นทำเอาเหนียนเสี่ยวมู่หน้าแดงระเรื่อ

 

 

ในหัวของเธอปรากฏภาพที่เด็กไม่ควรได้เห็นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตรงเอวก็เริ่มเมื่อยขึ้นมานิดๆ อีกแล้ว

 

 

ทันใดนั้นเธอนึกถึงของขวัญที่เขาส่งให้เธอตอนที่อยู่บริษัท

 

 

ดอกกุหลาบแดงหนึ่งช่อ ช็อคโกแล็ตหนึ่งกล่อง เขาอยากแก้ตัวเรื่องที่รังแกเธอเหรอ ฝันไปเถอะ!

 

 

ดวงตาสดใสของเหนียนเสี่ยวมู่กลอกไปมา ก่อนจะเดินไปข้างหน้า

 

 

แล้วหย่อนก้นนั่งลงตรงหน้าเขา

 

 

สุดท้ายแล้วก็นั่งไขว่ห้างพิงโซฟา เลียนแบบท่าทางของเขา

 

 

เธอกำลังรอเขาเอ่ยปาก

 

 

แต่รออยู่สักพักแล้ว อวี๋เยว่หานแค่มองเธอเท่านั้น แต่ไม่คิดจะพูดอะไร กลับยื่นมือออกมาหา อยากจะกอดเธอ

 

 

หญิงสาวปัดแขนเขาออกโดยไม่ต้องคิด

 

 

ก่อนจะพูดชัดเจนทีละคำ

 

 

“เมื่อก่อนฉันคิดแหละว่าดอกกุหลาบแดงสวยจริงๆ แต่ตอนนี้ฉันว่ามันน่าเกลียดมา ก็เลยทิ้งไปแล้ว!”

 

 

“…” อวี๋เยว่หานตะลึงไป แล้วเลื่อนสายตาขึ้นมองเธอ

 

 

สีหน้าของเขายากจะอธิบายได้ในคำพูดเดียว

 

 

เขาเผยอริมฝีปากบางอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เหนียนเสี่ยวมู่กลับชิงพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิมเสียก่อน

 

 

“ช็อคโกแล็ตก็พอได้ แต่ฉันไม่ได้ชอบมาก ก็เลยให้เพื่อนร่วมงานกินไปแล้ว”

 

 

“…”

 

 

“อย่าคิดว่าจะหากลเม็ดอะไรบนอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยเปื่อยก็ง้อฉันได้ นางฟ้าไม่ได้ง้อง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!” เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ เธอก็กอดอกพิงโซฟา ก่อนจะยืดตัวตรงมองไปที่เขา

 

 

เธอเอ็นดูเขาไม่ได้แล้ว

 

 

หากไม่ได้อบรมสักวัน คงได้ไปรื้อหลังคาบ้านเล่นแล้ว!

 

 

ในห้องรับแขกเงียบเชียบในพริบตา

 

 

ทั้งสองคนนั่งประชันหน้ากัน แต่ไม่มีใครพูดอะไร

 

 

ราวกับกำลังแข่งว่าความอดทนของใครมากกว่า…ไม่ใช่สิ ทำไมสีหน้าของเขาเหมือนจะดูไม่ดีอยู่บ้าง

 

 

เขาจับจ้องเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยดวงตาสีดำเย็นชา ทำเอาเธอหนาวสันหลังวาบขึ้นมาทันควัน ก่อนจะถามด้วยความไม่พอใจ “อวี๋เยว่หาน คุณไม่มีอะไรอยากอธิบายให้ฉันฟังเลยเหรอ”

 

 

“มี” อวี๋เยว่หานขยับริมฝีปากบาง แล้วพูดออกมาเรียบๆ “วันนี้ผมไม่ได้ส่งดอกไม้กับช็อคโกแล็ตไปให้คุณ