ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 7

“ นายคือ…ฮาร์วี่ย์งั้นหรอ?”

โฮเวิร์ด สโตน จ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างสงสัย เขายิ้มเยาะออกมา หลังจากนั้นเขาจอดรถแล้วเดินตรงเข้าไปในโรงแรม

ฮาร์วี่ย์มีสีหน้าเจื่อนๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าโฮเวิร์ดจะทำตัวเมินเฉยต่อเขา

ทั้งสองเข้าไปในห้องจัดงานเลี้ยงที่เป็นอย่างส่วนตัวทีละคน เวลานี้เพื่อนร่วมชั้นทุกคนอยู่ที่นั่นแล้ว ทุกคนมายังประตูเมื่อประตูเปิดออก

“นี่ใช่หัวหน้าห้องของพวกเราใช่ไหม? หัวหน้าห้องกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งนี่! เขาหล่อมาก!” เสียงในหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา แน่นอนว่าในวันนี้โฮเวิร์ทนั้นสวมสูทและรองเท้าหนังคู่หนึ่ง โดยมีกุญแจรถ Audi คันหรูห้อยอยู่ที่เอวของเขา เขาดูหล่อมากในตอนนี้

ไม่นานก็มีคนเห็นฮาร์วี่ย์ที่เดินตามหลังโฮเวิร์ดเข้ามา ถึงแม้ว่าชุดสูทที่เขาใส่อยู่นั้นจะไม่พอดีตัวเขา แต่ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์

เพื่อนร่วมชั้นเห็นอย่างนั้นแล้วก็ยิ้ม “ฮาร์วี่ย์ดูเหมือนคุณจะทำได้ดีเช่นกันนะ มาเถอะที่นั่งสองที่นั่งนี้จองไว้สำหรับคุณและหัวหน้าห้องของเรา!”

โฮเวิร์ดเหลือบมองฮาร์วีย์แล้วหัวเราะเยาะ เขาส่ายหัวและไม่พูดอะไรอีกเลย เขาไม่ได้เปิดเผยความจริงที่ว่าฮาร์วี่ย์นั้นเพียงแค่ขี่จักรยานไฟฟ้าเท่านั้น

ฮาร์วี่ย์ตอบรับ แต่ไม่ได้สนใจที่นั่งนั้น เขามองไปรอบๆ ในชั้นเรียนของเขานั้นไม่ค่อยจะมีสาวสวยเลย อย่างไรก็ตามเวนดี้ก็ยังสวยเหมือนเดิม เธอควรจะเป็นเทพธิดานางฟ้าเสียจริงๆ

เวนดี้แต่งตัวมาในมากนักธุรกิจ ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเธอเผยออกมาอย่างไร้ที่ติเหมือนกับลูกพีชที่สุกงอม มันช่างเย้ายวนและน่าดึงดูด

แม้แต่โฮเวิร์ดผู้เยือกเย็นก็สังเกตเห็นเวนดี้ เขารู้สึกประทับใจ เขาเดินเข้ามายิ้มทักทายและพูดว่า “โอ้นี่คุณเหรอ เทพธิดาของเรา ผมไม่ได้เจอคุณมานานแล้ว ทำไมคุณไม่มาพบหรือติดต่อผมมาเลย? ตอนนี้คุณทำงานที่ไหนเหรอครับ”

เวนดี้ยิ้มเขินๆ และพูดเบาๆ ว่า“ ฉันยังทำได้ไม่ดีเหมือนคุณ คุณยังมีรถ Audi ขับด้วยซ้ำ”

แววตาของโฮเวิร์ดแพรวพราวขึ้นเมื่อเขาได้ยินประโยคนั้น ดูเหมือนเขาจะมีโอกาสแล้วสิ ดูเหมือนว่าแม่เทพธิดาจะโปรดปรานรถ Audi ของเขา ซึ่งมันเป็นรถที่เขาซื้อผ่านสินเชื่อผ่อนชำระ

แต่เมื่อเขาต้องการจะพูด หญิงสาวข้างๆเขาก็ยิ้มกว้างแล้วพูดว่า “หัวหน้าห้องอย่าหลงกลเวนดี้ละ ตอนนี้เธอเป็นผู้จัดการฝ่ายบริหารของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ บริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในนิอัมมี่เชียวน่ะ มีข่าวว่าเร็วๆนี้ เธอจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปแล้วนะ!”

“ว้าว…”

ทุกคนต่างรู้สึกหวาดหวั่น นั่นเพราะพวกเขารู้ดีว่า ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ มีอำนาจมากแค่ไหน ธุรกิจและผู้ประกอบอาชีพอิสระจำนวนมากได้รับเงินทุนจากพวกเขา แม้ว่าบริษัทนี้ไม่ได้ทำธุรกิจทุกบทบาท แต่อิทธิพลของบริษัทก็ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ

ถ้าเวนดี้กลายเป็นผู้จัดการทั่วไปตั้งแต่อายุยังน้อยเธอก็จะมีอำนาจอย่างแท้จริง ใครก็ตามที่เข้าหาเธอสำเร็จ ไม่เพียงแต่จะมีสาวงามไว้ในอ้อมแขนของเขาเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมายที่ไม่สามารถประเมินค่าได้

ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงคนนี้ก็สวยมากไม่น้อยไปกว่าดาราหญิงเกรด Aระดับต้นๆเลยทีเดียว ผู้ชายในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวต่างรู้สึกกระดากอายและอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ

ในตอนแรกฮาร์วี่ย์ไม่ได้สนใจเวนดี้มากนัก แต่เขาเริ่มสนใจเมื่อได้ยินเกี่ยวกับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ซึ่งตอนนี้มันเป็นของเขาแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งเวนดี้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา อย่างไรก็ตามเธอมีความสามารถขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอสามารถเป็นผู้จัดการทั่วไปได้เลยเหรอ?

ฮาร์วี่ย์ยิ้มและคิดเรื่องนี้ระหว่างที่เขาเดินเข้าไปหาเวนดี้ เขานั่งลงข้างๆเวนดี้และพร้อมที่จะคุยกับเธอ

เวนดี้ยิ้มในตอนแรก แต่ไม่นานเธอก็ขมวดคิ้วยุ่ง หลังจากมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอก็พูดว่า “ฮาร์วีย์คุณนั่งตรงนี้ไม่ได้หรอกนะ”

“อ่ะ? มีคนนั่งตรงนี้แล้วงั้นเหรอ?” เขายืนขึ้นและถามเเธอ

“เปล่าหรอก ฉันแค่ไม่อยากให้คุณนั่งข้างๆฉัน” เวนดี้กล่าว “ใส่สูทก็ดูดีนะ แต่ฉันคิดว่าคุณลืมเรื่องรองเท้าของคุณไปนะ เป็นไปได้ไหมที่คุณยืมชุดสูทคนอื่นเขามาใส่”

ทันทีที่คำพวกนี้เปล่งออกมา หลายคนสังเกตว่าสูทของฮาร์วี่ย์ไม่พอดีกับตัวเขาถึงแม้ว่ามันจะมีเนื้อผ้าที่ดีก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาสวมรองเท้าแตะที่เป็นรู และน้วหัวแม่เท้าข้างซ้ายของเขาก็ยื่นโผล่ออกมาให้เห็น มันดูเป็นการแต่งตัวที่ยุ่งเหยิงมาก

ฮาร์วี่ย์ค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก ‘ฉันควรจะซื้อรองเท้าสักคู่ สิ่งนี้ดูไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ‘

“ฮ่าๆๆ เวนดี้คุณมีตาเฉียบคมดุจเหยี่ยว ตอนแรกฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เนื่องจากเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นมาก่อน แต่ก็มีคนมั่นใจมากเกินไปและโหยหาในสิ่งที่เขาไม่สมควรได้รับ ฉันคิดว่าจำเป็นต้องให้ทุกคนรู้ถึงความจริงของเขา” ฮาเวิร์ดเดินออกมาจากด้านหลังและยิ้มให้เวนดี้อย่างไม่พอใจ

“ฮาร์วีย์เพื่อนร่วมชั้นของเรามาที่นี่ด้วยรถจักรยานไฟฟ้า ตอนแรกฉันคิดว่าเขาแค่ขี่จักรยานไฟฟ้าชั่วครั้งชั่วคราวเพราะอาจจะไม่สะดวกที่จะจอดรถ แต่เขานั้นสวมสูทแบรนด์ระดับไฮเอนด์ แต่คาดไม่ถึงว่าเขาลืมเรื่องรองเท้าของเขาไปได้อย่างไร มันน่าอายมาก…”

โฮเวิร์ดทำราวกับว่าเขามองทะลุความลวงโลกของฮาร์วี่ย์ได้ “ฮาร์วีย์เป็นไปได้ไหมว่าที่นายซื้อชุดสูทนี้จากส่วนลดของที่ไหนสักแห่ง? ดูนายในสภาพแบบนี้ฉันพนันได้เลยว่านายคงยังไม่ได้แกะป้ายราคาออกด้วยซ้ำ ไปเถอะ ส่งคืนชุดหลังจากงานเลี้ยงรุ่นโอเคไหม?”

“ฉันคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ…”

“ถึงยังไงดูเหมือนว่าเขามาที่นี่ด้วยรถจักรยานไฟฟ้าจริงๆนะ ฉันเห็นกุญแจรถของเขา!”

“แล้วนี้ยังเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยเปลี่ยนรองเท้าแตะที่เคยสวมใส่มาหลายปี…”

“ใช่…”

เพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้นเริ่มซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที มีไม่กี่คนที่ต้องการอวดเบ่งต่อหน้าเวนดี้ผู้เลอโฉมอย่างเทพธิดา แต่ในช่วงเวลานี้พวกเขากำลังวิพากษ์วิจารณ์ฮาร์วี่ย์อย่างรุนแรง

เมื่อฮาร์วีย์ต้องการจะอธิบาย เชอร์ลีย์อดีตเพื่อนร่วมโต๊ะของเขากลับลุกขึ้นยืนและพูดเสียงดังว่า “พวกคุณอยู่เหนือชั้นกว่าคนอื่นหรือไง เราต่างเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แม้ว่าสไตล์ของเขาจะดูแปลกไปหน่อย แต่คุณจำเป็นต้องพูดแบบนั้นหรือ?”

เชอร์ลีย์ มีรูปร่างที่ดูดีและสง่างาม เธอดูเหมือนคนที่มาจากครอบครัวที่ดีและมีเกียรติ ฮาร์วี่ย์มักจะชอบลอกการบ้านของเธอเมื่อสมัยพวกเขาอยู่ในมหาวิทยาลัย ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังคงดี ฮาร์วี่ย์ไม่เคยคิดเลยว่าเชอร์ลีย์จะมาช่วยพูดออกแทนเขา

จู่ๆโฮเวิร์ดก็ก้าวไปข้างหน้าและคว้าคอเสื้อของฮาร์วี่ย์เมื่อเขาเห็นผู้หญิงหน้าตาดีคนอื่นในชั้นเรียนของพวกเขาช่วยออกตัวแทนไอ้ขยะนี่ เขารีบดึงป้ายราคาออกมาอย่างรวดเร็วและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เชอร์ลีย์คุณยังต้องการช่วยเขาอยู่ไหม? คุณเห็นหรือไม่ว่าเขายังไม่ได้ถอดป้ายราคาออกด้วยซ้ำ! ชิ้นนี้ชิ้นเดียวแต่มันหลายหมื่น! คุณคิดว่าเขาสามารถซื้อเสื้อผ้าแบบนี้ได้เหรอ! และถ้าฉันจำไม่ผิดฮาร์วี่ย์ได้เป็นลูกเขยของครอบครัวซิมเมอร์เมื่อสามปีก่อนใช่ไหม? เป็นแค่ลูกเขยที่ไปขออาศัยพวกเขาและยังสวมชุดสูทระดับไฮเอนด์ของ Armani อีกเนี่ยนะ ฮ่า ๆ ๆ …”

“บางทีเสื้อผ้าของผู้ชายคนนี้อาจจะขโมยมาจากคนในตระกูลซิมเมอร์ก็ได้ มันจึงไม่พอดีกับตัวเขา…”

“ฮาร์วี่ย์คุณต้องอยู่กับความเป็นจริงนะ ทั้งเมืองนิอัมมี่รู้ว่าคุณเป็นแค่ลูกเขยที่ขออาศัยบ้านของตระกูลซิมเมอร์ คุณไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อหน้าเราก็ได้ เราต่างเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน จะอวดอ้างไปทำไม!”

ฮาร์วี่ย์ยกมือขึ้นผลักมือโฮเวิร์ดออกไปให้พ้นทางและจ้องมองเขาอย่างเยือกเย็น

โฮเวิร์ดเห็นฮาร์วี่ย์จ้องมองก็หัวเราะเยาะ “นายอยากต่อยฉันใช่ไหม ที่ฉันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของนาย หรือนายจะบอกฉันว่าชุดสูทนี้เป็นของนาย? ถ้านายพิสูจน์ได้ฉันจะคุกเข่าลงตรงหน้านาย!”

ฮาร์วี่ย์กำลังจะพูด แต่จู่ๆโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

เขารีบหยิบโทรศัพท์รุ่นเก่าออกมา ทุกคนหัวเราะก่อนที่เขาจะรับโทรศัพท์ด้วยซ้ำ

มันตลกมาก นี่ไม่ใช่โทรศัพท์รุ่นเก่าเมื่อสามปีที่แล้วเหรอ ซึ่งราคามันก็แค่ 99 ดอลลาร์เองใช่ไหม?

ฮาร์วี่ย์ใช้โทรศัพท์แบบนี้ แล้วเขายังกล้าใส่ Armani มาอวดได้ยังไง?

เขาบ้าไปแล้วเหรอ? หรือว่าเขากลายเป็นคนโง่หลังจากได้กลายเป็นลูกเขยที่ไปขออาศัยบ้านเขาอยู่งั้นหรอ?

ฮาร์วี่ย์ไม่สนใจปฏิกิริยาของคนอื่น แต่เขากดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากปลายสายนั่นคือเสียงของลิเลียน แม่ยายของเขา “ฮาร์วี่ย์นายไปไหน? ทำไมยังไม่ล้างห้องน้ำ”

เวรแล้ว! เขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร! ฮาร์วี่ย์รู้สึกหมดหนทางเขาไม่ควรมางานเลี้ยงรุ่นนี้เลย

“คุณเป็นลูกเขยที่ไปขออาศัยบ้านเราจริงๆสินะ เพียงแค่มางานเลี้ยงรุ่น แต่คุณก็ยังโดนด่ามาทางโทรศัพท์เลย!”

“ดูเหมือนแม่ยายของเขากำลังดุเขาและสั่งให้เขากลับไปล้างห้องน้ำนะ”

“ใช่! ให้ผู้ชายทำเรื่องแบบนี้ ฉันยอมทุบหัวตัวเองตายดีกว่าไปล้างห้องน้ำ ถึงแม้จะหาเงินไม่ได้ แต่ก็ไม่ยอมเป็นแค่ลูกเขยที่ไปขออศัยอยู่ในบ้านเขาหรอก แม้ว่าจะโดนทุบตีให้ตายฉันก็ไม่ทำ!”

“ความยากจนยับยั้งความทะเยอทะยานของผู้ชาย ฉันไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นคนไม่มองการณ์ไหลขนาดนี้!”

ทุกคนที่นั่นพูดถึงแต่เรื่องนี้ ในตอนนี้เชอร์ลีย์ก็ทำได้เพียงถอนหายใจเล็กน้อย เธอรู้สึกแย่ที่เห็นฮาร์วี่ย์ต้องอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อนบ้านของเธอเพิ่งรับสมัครเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อที่ผ่านมานี้เอง ดูเหมือนว่าเธอจะต้องช่วยฮาร์วี่ย์หางานทำ กลัว่าเขาจะไม่มีงานอะไรทำจนทให้ไม่มีเงินซื้อรองเท้าสักคู่

“เอาล่ะ แค่ออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก็พอ ที่นี่ไม่ต้อนรับเศษขยะเหมือนคุณ!”

โฮเวิร์ดเหลือบมองเขาด้วยความรังเกียจ จากนั้นเขาก็เดินไปหาเวนดี้แล้วส่งยิ้มให้ “แม่เทพธิดาที่รักของผม อย่าปล่อยให้อารมณ์ความสนุกของคุณถูกทำลายเพราะคนน่ารังเกียจบางคนเลยนะครับ ร้านอาหารนี้เปิดโดยเพื่อนสนิทของลูกพี่ลูกน้องของผมเอง”

“พูดถึงลูกพี่ลูกน้องของผม คุณน่าจะรู้จัก ตอนนี้เขาทำงานที่บริษัทของคุณ เขาชื่อ ดอน แซนเดอร์ เพื่อนสนิทของเขาน่าจะช่วยเหลือกับเราได้เพราะถือว่าเห็นแก่แซนเดอร์ บางทีผมอาจขอให้โรงแรมนำไวน์ที่ดีที่สุดมาที่นี่ก็ได้”

เขากดกริ่งบริการแล้วก่อนที่เวนดี้จะตอบกลับ เมื่อบริกรมาถึงเขาก็ดูไม่พอใจและพูดว่า “บริการแบบนี้คืออะไร? ทำไมช้าจัง? รีบไปนำไวน์ที่ดีที่สุดของโรงแรมมาที่นี่สองขวด…”

บริกรตะลึงไปชั่วขณะ แต่แล้วบริกรก็พูดว่า “คุณผู้ชายครับ ไวน์ที่ดีที่สุดในโรงแรมของเรามีราคาแพงมาก ผมกลัวว่า…”

ตุบ! โฮเวิร์ดโยนกุญแจรถ Audi จากเอวของเขาไปที่โต๊ะ “พวกเราดูยากจนและไม่สามารถจ่ายเงินตามที่สั่งได้หรือ? ดอน แซนเดอร์ เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน แกรู้หรือไม่ว่าเขาคือใคร? เขาเป็นเพื่อนของเจ้านายแก! ทำไมแกยังไม่รีบไปเอาไวน์มาที่นี่ล่ะ?”

โฮเวิร์ดเหลือบมองใบหน้าของเวนดี้อย่างใจเย็นและเห็นเทพธิดานางฟ้าของเขากำลังประหลาดใจ แต่เขาก็แสร้งทำเป็นไม่แยแส คืนนี้เขาได้รับความสนใจจากเธอเป็นอย่างมาก เขาแน่ใจมากว่านางฟ้าของเเขาาจะมีความประทับใจในตัวเขา

ฮาร์วี่ย์ไม่คาดคิดว่าโฮเวิร์ดเป็นลูกพี่ลูกน้องของดอน พวกเขาสองคนมีบุคลิกที่เหมือนกันซึ่งทำให้เขาพบว่ามันน่าสนใจ เขาสนใจมากที่จะดูว่าโฮเวิร์ดกำลังจะทำอะไร

ไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็หยิบไวน์ขึ้นมาสองขวด จากนั้นเขาก็พูดอย่างสุภาาพว่า “คุณผู้ชายครับ ผมนำไวน์มาแล้ว แต่…”

“เงียบแล้วเปิดมันซะ!” โฮเวิร์ดหัวเราะและโบกมือสั่งอย่างไม่ไยดี “ถ้าคืนนี้คุณไม่เมาก็ไม่ต้องกลับบ้านนะครับ มานี่สิทุกคน มาาดื่มอวยพรให้เราทุกคน”

เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและมองไปที่ฮาร์วี่ย์ที่ไม่มีอะไรเลย เขาขมวดคิ้ว “ฮาร์วี่ย์แม้ว่าเราทุกคนจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แต่คุณมองไม่ออกเหรอ ว่าคุณไม่ได้รับการต้อนรับที่นี่ คุณอยากจะดื่มกับเราไหมล่ะ”