“มันเกิดอะไรขึ้น?” ชีอ้าวชวางสงสัย “เผ่ามังกรเข้ามายุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ไม่ใช่หรือ? ก็ครั้งที่แล้วเทพเจ้ามังกร…”
“หยุด!” เบนยกมือห้ามชีอ้าวชวางไว้ จากนั้นก็เดินไปนั่งเก้าอี้แล้วหาวออกมา “ข้าก็ไม่ได้บอกนะว่าพวกเราจะเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้ เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดเมื่อครู่หรือ?”
“ใช่ เบนกับเหล่ามังกรของเขาก็แค่ผ่านมาแล้วก็มาเที่ยวชมก็เท่านั้นเอง” คามิลล์ยิ้มราวกับฤดูใบไม้ผลิแล้วเดินไปนั่ง
คนที่อยู่ในห้องหนังสือต่างพากันตกตะลึง หลงซ่าซือที่เพิ่งกลับเข้ามาได้ยินประโยคนั้นก็อึ้ง เผ่ามังกรมาเที่ยวชมจริงๆ หรือ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
“ฝ่าบาท เชิญทางนี้…” คามิลล์รีบกวักมือเรียกหลงซ่าซือที่ยืนนิ่งอึ้งอยู่หน้าประตู
หลงซ่าซือเดินเข้าไปแบบเกร็งๆ
“ฝ่าบาท มีเผ่ามังกรอยู่มากมายขนาดนี้ ท่านคิดว่าจะทำให้ประชาชนของท่านวางใจได้หรือยัง? คิดว่าจะทำให้ประชาชนชาวลากัควางใจได้หรือไม่?”คามิลล์ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอันตราย
หลงซ่าซือพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พยักหน้าด้วยความมึนงง
ชีอ้าวชวางตะลึง นางมองคามิลล์สลับกับเบนอย่างอึ้งๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วถามคามิลล์ “หรือว่านี่จะเป็นแผนของท่าน?”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน” คามิลล์รีบพูดด้วยท่าทีไม่มีความผิด “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้านะ เบนมาหาข้าเองต่างหาก”
สายตาของชีอ้าวชวางเคลื่อนไปที่เบน เบนเองก็เหลือบตามองมาเช่นกัน
“ใครคิดแผนนี้?” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วถาม
“ข้าเอง” เบนพูดด้วยรอยยิ้ม
ชีอ้าวชวางเดินเข้าไปใกล้เบนแล้วขยับเข้าไปพูดใกล้หูของเขา “เจ้าน่ะเงียบไปเลย ไอคิวของเจ้าไม่ถึงระดับนี้ด้วยซ้ำ”
“โห! นี่เจ้าว่าข้างั้นหรือ!” ท่าทางของเบนดูน้อยใจมาก
“บอกมาว่าใครคิด?” ชีอ้าวชวางมองสายตาลอกแลกของเบนแล้วคิดเรื่องที่เทพเจ้ามังกรพาตัวเขาไปแต่เขากลับมาปรากฎตัวอยู่ที่นี่ในตอนนี้ นางครุ่นคิด หรือนี่จะเป็นแผนของเทพเจ้ามังกร? ไม่น่าใช่นะ! เทพเจ้ามังกรจะทำแบบนี้ไปทำไมกัน?
“เหอะๆ ดูท่าทางเจ้าจะเดาได้แล้วนะ ชายแก่นั่นบอกว่าชอบเจ้ามาก อีกอย่างเขาก็ไม่ชอบหญิงผู้นั้นมาแต่เดิมแล้ว แต่พวกเราก็ยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงว่าจะไม่ทำร้ายมนุษย์และที่อยู่ของมนุษย์นะ ดังนั้นพวกเราเลยมาเที่ยวชมนี่อย่างไร ครึ่งหนึ่งของเผ่ามังกรมาเที่ยวชมที่นี่ อีกครึ่งหนึ่งเที่ยวชมอยู่ที่ลากัค” เบนยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาชีอ้าวชวางมองแล้วหัวตึงไปหมด
เหี้ยมมาก! ร้ายมาก! เทพเจ้ามังกรนี่สุดยอดไปเลย! ชีอ้าวชวางได้ข้อสรุปแล้ว มังกรกลุ่มใหญ่ขนาดนั้นแค่ยืนเฉยๆ ก็ทำให้คนตัวสั่นได้แล้ว ยังจะต้องลงมืออะไรนอกจากนี้อีกล่ะ? เทพเจ้ามังกรร้ายเกินไปแล้ว เขาให้ราชามังกรพากองทัพมังกรไปเฝ้าที่โยซาลี่และลากัคโดยใช้คำว่าเที่ยวชมมาบังหน้า นี่ถือเป็นการสนับสนุนโดยนัยแล้ว! อำนาจที่น่ากลัวเช่นนี้เหนือกว่าอำนาจของวิหารแห่งแสงอยู่มาก
“คราวนี้เรื่องราวก็คงจะง่ายขึ้นมากแล้วสินะ?” คามิลล์ยิ้ม “อ้าวชวาง เจ้าไปเที่ยวชมลากัคกับเบนสิ ใกล้จะประกาศสงครามกันแล้ว เดี๋ยวลากัคกับอันพาแกรนด์คงจะปะทะกัน ตอนนี้เจ้าไปกำจัดกองกำลังแห่งแสงที่อยู่ในลากัคได้แล้ว”
“ข้าเชื่อว่าคงไม่มีใครคัดค้านหรอก” คามิลล์เสริมด้วยรอยยิ้ม
หน้าผากของหลงซ่าซือมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมา ในสายตาของเขา รอยยิ้มของคามิลล์ในเวลานี้คือรอยยิ้มของปีศาจ สายตาของหลงซ่าซือค่อยๆ เคลื่อนไปที่ชีอ้าวชวางแล้วก็รู้สึกตกใจ หญิงสาวผู้นี้มีตัวตนแบบไหนกันแน่? ทำไมถึงมีคนมากมายวนอยู่รอบตัวนาง? ทำไมแม้แต่เผ่ามังกรที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจน่ากลัวขนาดนั้นก็ยืนหยัดสนับสนุนนางอยู่เบื้องหลัง? เขาได้รู้เรื่องราวของชีอ้าวชวางก่อนหน้านี้มาบ้างแล้ว เขารู้ว่าหญิงสาวตรงหน้านี้ถูกวิหารแห่งแสงและอันพาแกรนด์ร่วมมือกันใส่ร้าย หากตอนนี้วิหารแห่งแสงและอันพาแกรนด์ได้รู้ว่าเรื่องราวมันเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้แล้ว พวกเขาจะเสียใจมากไหมนะ?
“เหลิ่งหลิงยวิ๋น เจ้ากับชีอ้าวชวางออกเดินทางกันวันนี้เลย เจ้าคงจะรู้แน่ชัดถึงสิ่งที่เจ้าต้องทำแล้วใช่หรือไม่?” คามิลล์ถามด้วยรอยยิ้ม
“อืม” เหลิ่งหลิงยวิ๋นรับคำเรียบๆ “บันทึกลับของวิหารแห่งแสงและบันทึกการสังหารมนุษย์ ข้าจะพยายามเขียนออกมาให้ ถึงเวลานั้นเจ้าจัดการเรื่องที่เหลือได้เลย”
“ข้าจะจัดการคัดลอกแล้วเอาไปแจกจ่ายเอง เจ้าควรเขียนเวลา สถานที่ และเหตุผลลงไปด้วยจะดีที่สุด” คามิลล์พยักหน้าเบาๆ พร้อมรอยยิ้มสดใส “ไม่รู้ว่าหากเหล่าผู้ที่ศรัทธาเห็นสิ่งเหล่านี้จะรู้สึกเช่นไร”
“คนโง่เหล่านั้นไม่มีทางเชื่อหรอก” วัลโดสบโอกาสก็แซะตามคามิลล์ไปเลย
“ข้าไม่ได้ต้องการให้คนเหล่านั้นเชื่อหรอก ขอแค่ให้พวกเขาสงสัยก็เพียงพอแล้ว” คามิลล์มองวัลโดด้วยรอยยิ้มแล้วพูด “สงครามจิตวิทยาที่ลึกซึ้งเช่นนี้ คนที่มองอะไรผิวเผินอย่างเจ้าคงจะไม่มีทางเข้าใจหรอก”
วัลโดกัดฟันกรอด เขาจ้องเขม็งไปที่คามิลล์และชี้นิ้วสั่นๆ อยู่นาน แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
ผู้คนที่อยู่ที่นั่นก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจแผนการของคามิลล์ เวลานี้หลงซ่าซือเข้าใจแผนการของคามิลล์แล้วก็ยิ่งตกใจ คนผมบลอนด์ตาฟ้าที่อยู่ตรงหน้านี้ เขาคงจะเป็นคนที่เก่งเรื่องการเมืองที่สุดในห้องนี้แล้ว! ชีอ้าวชวางแปลกใจมาก คามิลล์เข้าใจด้านที่เปราะบางและด้านมืดของมนุษย์เป็นอย่างดีเลย เขาถึงไม่ต้องการความเชื่อจากพวกนั้น แต่ขอแค่ความสงสัยเท่านั้นก็พอ!
“จริงสิ พวกเจ้ารู้ไหมว่าผู้ที่ก่อตั้งทวีปของเราคือใคร?” คามิลล์จัดทรงผมของตัวเองพลางถามเรียบๆ พร้อมรอยยิ้ม
สายตาของชีอ้าวชวางมองดาบที่เอวของจินเหยียน ดาบแห่งความตาย! ดาบเล่มนั้นคือดาบของกษัตริย์ผู้ต่อตั้งทวีป ตอนอยู่ที่อาณาจักรปีศาจ นายน้อยแห่งโลกปีศาจพานางไปที่วังใต้ดิน ที่นั่นอาจจะเป็นวังของกษัตริย์ผู้นั้นใช่หรือไม่? แต่คามิลล์พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมล่ะ? จินเหยียนนึกขึ้นได้จึงจับดาบที่เอวของเขา ดาบเล่มนี้คือดาบที่กษัตริย์ผู้ก่อตั้งใช้ในตอนนั้น
“รู้แน่นอน” หลงซ่าซือตอบเสียงเรียบ “กษัตริย์ผู้ก่อตั้งทวีปนี้คือพระราชาเลโอผู้เป็นวีรบุรุษที่แท้จริง พระองค์จะอยู่ในใจของประชาชนตลอดไป เขาคือผู้ที่ต่อสู้อุปสรรคเพื่อมนุษยชาติ เขาคือผู้รวมทวีปให้เป็นหนึ่งเดียว”
“เหอะๆ ใช่เลย เขาคือวีรบุรุษที่แท้จริง” คามิลล์รับคำด้วยรอยยิ้มที่ไม่คล้ายยิ้ม “แต่ว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจุดจบของพระราชาเลโอเป็นอย่างไร?”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” หลงซ่าซือพอจะฟังความหมายในคำพูดของคามิลล์ออก
“พระราชาเลโอผู้นี้เป็นวีรบุรุษในใจของทุกคน แต่หากพวกเขาได้รู้ว่าวีรบุรุษในใจของพวกเขาถูกวิหารแห่งแสงข่มเหงรังแกไม่หยุดหย่อน พวกเขายังจะยืนอยู่ข้างวิหารแห่งแสงอีกหรือ?” คามิลล์พูดพลางเดินไปข้างโต๊ะแล้วรินชาใส่ถ้วยด้วยท่าทางสง่างาม เขาส่งถ้วยชาถ้วยหนึ่งให้ชีอ้าวชวางและถืออีกถ้วยไว้เอง จากนั้นก็ค่อยๆ จิบชา
คามิลล์ไม่รีบร้อน แต่คนที่รีบร้อนแทบแย่ก็คือทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น
“การที่วังของพระราชาเลโอหายไปในชั่วข้ามคืน ส่วนเขาและอัศวินผู้ติดตามเขาทั้งแปดก็หายสาบสูญไปอย่างประหลาด แท้ที่จริงแล้ววิหารแห่งแสงเป็นผู้ลงมือ พวกเขาต้องการจะขยายอำนาจของตัวเอง และพระราชาเลโอก็คืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นความยิ่งใหญ่นั้นจึงทำให้ทุกอย่างหายไปในชั่วข้ามคืน” คามิลล์ดมกลิ่นชาแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม
สิ้นคำของคามิลล์ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที
หลงซ่าซือพูดอย่างลำบากใจ “ถ้าช่นนั้น ตำนานนี้ก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ ตำนานที่ว่าพระราชาเลโอและวังของเขาหายไปในชั่วข้ามคืนน่ะ” ข่าวเรื่องนี้น่าตกใจมากจนหลงซ่าซือลืมถามคามิลล์ไปเลยว่ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
“อืม” คามิลล์พยักหน้าอย่างไม่แยแส
“หรือว่าวังใต้ดินที่อยู่ในอาณาจักรปีศาจนั่นจะเป็นวังของพระราชาเลโอจริงๆ?” ชีอ้าวชวางเอ่ยปากถาม
“อ้อ เจ้าเคยเข้าไปแล้วหรือ?” คามิลล์เหลือบมองชีอ้าวชวาง ชีอ้าวชวางพยักหน้า นางเคยเข้าไปตอนที่ไปตามหาคลิฟครั้งนั้น
“ที่อาณาจักรปีศาจ?!” หลงซ่าซือมองชีอ้าวชวางด้วยแววตาเหลือเชื่อ จากนั้นความเกลียดชังและความโกรธก็ค่อยๆ ปะทุขึ้นในใจของเขา พระราชาเลโอผู้ก่อตั้งทวีปคือวีรบุรุษในใจของคนตั้งมากมาย เขาคือผู้ที่ยุติสงครามที่ไม่สิ้นสุดแล้วทำให้เกิดความสงบสุขและมั่นคงแก่มวลมนุษย์ วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้หายตัวไปอย่างลึกลับ หลังจากนั้นผู้คนก็ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆ นานา แต่ก็ไม่มีคาดเดาไปถึงวิหารแห่งแสงว่าเป็นผู้กระทำเลย
“เจ้า เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?” หลงซ่าซือเรียกสติกลับมาได้ก็มองไปที่คามิลล์ ในใจของเขาก็ยิ่งสงสัยว่าคนตรงหน้านี้มีความลับอยู่มากเท่าไหร่กัน? หลงซ่าซือไม่ได้สงสัยในคำพูดของคามิลล์เลย เพราะในสายตาของเขาไม่มีเรื่องไหนที่คามิลล์ทำไม่ได้
“เจ้าไม่ต้องสนใจหรอกว่าข้ารู้ได้อย่างไร เจ้าแค่เอาคำพูดพวกนี้ออกไปเผยแพร่ก็เท่านั้น” คามิลล์ยิ้ม นี่ยังคงเป็นแผนการแบบเดิมคือไม่ต้องการให้พวกเขาเชื่อ เพียงแค่ให้พวกเขาสงสัยก็พอแล้ว
ชีอ้าวชวางครุ่นคิด พระราชวังที่ใหญ่โตและดาบแห่งความตายที่อยู่ในวังนั้น รวมทั้งกระดูกเหล่านั้นด้วย พอคามิลล์พูดเช่นนี้ ชีอ้าวชวางก็มั่นใจเกี่ยวกับตัวตนของกระดูกเหล่านั้นแล้ว ที่แท้วังนั้นก็เป็นวังของพระราชาเลโอผู้ก่อตั้งทวีป หากดูจากนิสัยของวิหารแห่งแสงแล้ว มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะใช้วิธีนี้เพื่อจัดการพวกเขา อำนาจกษัตริย์ในเวลานั้นยิ่งใหญ่มาก เป็นราวกับภูเขาสูงที่อยู่ต่อหน้าของอำนาจเทพเจ้า
ครั้งนี้ คามิลล์ได้บอกเรื่องทั้งหมดออกมาแล้ว! วัลโดได้แต่ตบหน้าอกของตัวเองด้วยความกลัว เห็นจากครั้งนี้ ดูเหมือนว่าคามิลล์จะเป็นคนประเภทที่ถ้าไม่ทำก็จะปล่อยไปเลย แต่หากจะทำเขาก็จะทำอย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว คนๆ นี้ช่างน่ากลัวจริงๆ วัลโดกลืนน้ำลาย โชคดีที่คนๆ นี้ยืนอยู่ข้างพวกเขา หากคนๆ นี้เป็นคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามล่ะก็ ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าผลจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ทุกคนในห้องต่างก็มีเรื่องที่สงสัยอยู่ในใจว่าคามิลล์เป็นใครกันแน่ และเขามีความลับอีกมากแค่ไหนที่ไม่มีใครรู้?
“ทางด้านวิหารแห่งความมืด สีเฉ่าซื่อรับผิดชอบงานที่ลากัค สิ่งที่เหลิ่งหลิงยวิ๋นเขียนออกมา เจ้ารับผิดชอบเรื่องเอาไปคัดลอกนะ อย่าลืมเรื่องที่พระราชาเลโอผู้ก่อตั้งทวีปถูกวิหารแห่งแสงรังแกด้วยล่ะ” คามิลล์สั่งเรียบๆ