บทที่ 11 เกลียดที่ไม่ได้อยู่ร่วมยุคเดียวกันกับจอมจักรพรรดิ

จอมบงการเทพยุทธ์

‘เจ้าได้รับแต้มตกใจ +9,999 จากเสวี่ยหรูเยียน❗️’

‘เจ้าได้รับแต้มตกใจ +888 จากเย่หลิงเสวี่ย❗️’

เมื่อมองเข้าไปข้างในดินแดนลับ ทั้งเสวี่ยหรูเยียนและเย่หลิงเสวี่ยต่างก็ตกใจจนอธิบายอะไรไม่ถูก ฉินมู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอยู่ในลำคอ

นี่คือเส้นทางสู่การเป็นจักรพรรดิของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญที่เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้าง

จอมจักรพรรดินีผู้ทรงอำนาจได้สร้างความอัศจรรย์ไปทุกยุคทุกสมัยและยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้มีพรสวรรค์เป็นอันดับหนึ่งมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ประสบการณ์ชีวิตของบุคคลที่สูงส่งเช่นจักรพรรดินีได้ถูกบอกเล่าเป็นภาพๆเบื้องหน้าพวกนาง

อย่าว่าแต่เสวี่ยหรูเยียนและเย่หลิงเสวี่ยเลย ใครก็ตามที่มาที่นี่ย่อมต้องตกใจอย่างมาก❗️

“จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ…”

เมื่อมองไปยังจิตรกรรมฝาผนังเบื้องหน้านาง สติของเสวี่ยหรูเยียนก็ดูเหมือนจะถูกย้อนไปในอดีตกาล นางเห็นจอมจักรพรรดินีผู้ไร้เทียมทานยืนอยู่บนสวรรค์ทั้งเก้า ปกครองทั้งโลก

ในที่สุดนางก็เข้าใจความหมายของประโยคที่ว่า ‘ไม่ใช่เพื่อความเป็นอมตะ แต่เพื่อคอยการกลับมาของคนคนหนึ่งในโลกมนุษย์’

นางเป็นคนที่เหี้ยมหาญยิ่งนัก และยังเป็นผู้หญิงที่รับมือได้ยากที่สุดในสมัยโบราณ เพื่อที่จะตามหาพี่ชาย นางไม่ลังเลที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก

นางได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใดนอกจากเพื่อการตามหาพี่ชายแท้ๆ ของนาง

“ด้วยร่างกายที่อ่อนแอกว่าคนทั่วไป แต่ท้ายที่สุดนางก็ยืนอยู่จุดสูงสุด จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง❗️”

เย่หลิงเสวี่ยก็พลันตกตะลึง

แม้ว่านางจะฝึกฝนมาอย่างพากเพียร

แต่นางมักจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องไร้พรสวรรค์

แต่บัดนี้ นางก็ได้รู้แล้ว

ในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์เมื่อนานมาแล้ว เคยมีผู้หญิงเช่นนั้น

ร่างกายของนางนั้นไม่แข็งแรงเท่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ การฝึกฝนนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก และไม่มีสำนักใดเต็มใจที่จะรับนาง

แต่ด้วยพรสวรรค์อันน่าอัศจรรย์ นางได้สร้างศิลปะอสูรกลืนสวรรค์ เอาชนะฟ้าดิน สังหารราชันทั้งหมดและกลืนกินแก่นพลัง และสุดท้ายก็นั่งลงบนบัลลังก์สวรรค์อันสูงส่ง ปกครองเหนือสวรรค์หลายยุค❗️

เมื่อเปรียบเทียบกับจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ สถานการณ์ของนางยังดีกว่ากันมาก

แต่เทียบกับจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญแล้ว ผลงานของนางนั้นช่างห่างไกลยิ่งนัก❗️

ฮัม——

มิติเกิดความผันผวน

มีผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เข้ามาในดินแดนลับตามหลังเสวี่ยหรูเยียนและเย่หลิงเสวี่ยอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกับพวกนาง ผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เข้ามาในดินแดนลับในภายหลังก็ถูกดึงดูดด้วยเนื้อหาบนจิตรกรรมฝาผนัง

ต่อจากนั้นก็เป็นการเดินทางอันน่าตื่นใจที่จะทำให้ผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ตื่นเต้น❗️

จอมจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้อยู่เหนือสวรรค์ทั้งเก้าก็คือผู้ที่เดินทางอยู่บนโลงศพ

ชีวิตของนางค่อยๆ ถูกเปิดเผยต่อทุกคน❗️

นางเป็นจอมจักรพรรดินีที่น่าอัศจรรย์และมากพรสวรรค์ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และยังเป็นผู้ที่เหี้ยมหาญที่สุดมาหลายๆ ยุคด้วย

นางไม่ได้มีพรสวรรค์เพียงพอที่ฝึกยุทธได้ แต่สุดท้ายนางก็ได้สร้างความโกลาหลไปทั่วทั้งแผ่นดิน ท้าทายฟ้าดิน บรรลุร่างแห่งเทพเจ้า เอื้อมมืออันไร้เทียมทานเข้าไปในยุคต่างๆ และเจิดจ้าอยู่เหนือสวรรค์ทั้งเก้า❗️

นางสั่งสอนโดยการฆ่า สังหารไปทั่วสวรรค์ทั้งเก้าและดินแดนทั้งสิบ ทำให้ทั่วทั้งฟ้าดินสั่นสะท้าน และสรรพสัตว์ทั้งปวงในโลกล้วนสักการะนาง

นางได้กวาดล้างทั่วทุกสารทิศ ยืนอยู่จุดสูงสุดของมนุษย์ กลืนกินภูเขาและแม่น้ำ ปกครองทั่วทั้งโลก❗️

ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดที่เข้าสู่ดินแดนลับ จิตวิญญาณจะถูกดึงดูดด้วยจิตรกรรมฝาผนังทั้งสองด้าน

นี่คือประวัติความเป็นมาของจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์ในอดีต และยังเป็นวันอันรุ่งโรจน์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์❗️

“จอมจักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ❗️”

“เผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้า เคยมีผู้ไร้เทียมทานเช่นนี้อยู่บนจุดสูงสุดของมนุษยชาติแล้วจริงๆ❗️”

“ผ่านเรื่องต่างๆด้วยร่างกายที่อ่อนแอเช่นนั้น ราวกับเป็นเพียงตำนานจริงๆ…”

ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายพึมพำกับตนเอง และอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลงคำนับภาพจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญบนจิตรกรรมฝาผนัง

หัวใจของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความตกใจหาที่ใดเทียบไม่ได้

ก่อนหน้านี้ ร่างจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญปรากฏตัวขึ้นในดินแดนลับ และยังโผล่มาพร้อมกับเก้ามังกรลากโลง แม้ว่าจะสร้างความตกใจอย่างมากให้กับผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์

ถึงนั่นจะน่าตกใจแต่ก็ยังไม่เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

ถ้าบอกว่า ร่างของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญก่อนหน้านี้นั้นไม่มีมูลพอ

เช่นนั้นด้วยภาพจิตรกรรมหินบนฝาผนังเหล่านี้ย่อมเป็นหลักฐานได้ ภาพของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญราวกับมีชีวิต

‘เจ้าได้รับแต้มตกใจ +568 จาก เฉินอู๋ฉาง❗️’

‘เจ้าได้รับแต้มตกใจ +600 จาก หลี่หยาง❗️’

‘เจ้าได้รับแต้มตกใจ +457 จาก โม่ชูเสี่ยว❗️’

‘เจ้าได้รับแต้มตกใจ+812 จากเย่อู๋เฉิน❗️’

‘เจ้าได้รับแต้มตกใจ+777 จาก เจียงอู๋หลิว❗️’

…………

แต้มตกใจที่ฉินมู่มีนั้น ได้ถูกปรับปรุงและเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

มันใช้เวลาไม่นาน ก็คืนทุนแต้มตกใจที่เขาใช้ไปในการสร้างดินแดนลับแห่งที่สองนี้ และยังเพิ่มไปมากกว่าสองแสนแต้มแล้ว

และความเร็วในการเพิ่มของแต้มตกใจนั้นไม่ได้ลดลงเลย มันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

สองแสน…

สองแสนหนึ่งหมื่น…

สองแสนสามหมื่น…

มันไม่มีเหตุผลอื่นใด สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ไม่เคยมีผู้ที่บรรลุเต๋าสุดยอดอยู่ในประวัติศาสตร์ จู่ๆ ก็มีการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ตกตะลึงเป็นอย่างมากก็เท่านั้น

และตอนนี้ ด้วยหลักฐานของจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญก็ราวกับมีชีวิต

นางไม่ใช่ตำนานที่บอกเล่ากันปากเปล่า แต่มันได้ปรากฏขึ้นจริงๆในประวัติศาสตร์ และความเฉลียวฉลาดของนางได้ส่องผ่านยุคสมัย❗️

…………

“ท่านจอมจักรพรรดินีโบราณ คงจะดีถ้าท่านเกิดมาในโลกยุคนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราจะอยู่รอดไปได้”

ผู้ฝึกยุทธ์สูงวัยอดไม่ได้ที่จะก้มลงกับพื้นพร้อมด้วยน้ำตาไหลนองใบหน้า

เขาคุกเข่าคำนับภาพของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญบนจิตรกรรมฝาผนัง และยังคงคำนับลงอย่างต่อเนื่อง จนหน้าผากของเขาปริออกและมีเลือดไหลออกมา แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุด

ชายชราคนนี้มีชีวิตที่น่าเวทนายิ่งนัก

ญาติสนิทมิตรสหายของเขาหลายคนตกเป็นทาสและถูกรังแกจนตายโดยเผ่าพันธุ์โบราณ แต่เขานั้นอ่อนแอมากจนไม่อาจแม้แต่จะแก้แค้นได้

แต่ถ้าจอมจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้สูงส่งบนจิตรกรรมฝาผนังนี้ยังมีชีวิตอยู่ล่ะ❓

เผ่าพันธุ์มนุษย์ย่อมอยู่เหนือสุดในโลก ทุกเผ่าพันธุ์ย่อมยอมศิโรราบโดยไม่ขัดขืน❗️

ในเวลานั้น แม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อ่อนแอก็กล้าเดินบนแผ่นดินโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกปล้น จับเป็นทาส ถูกรังแก หรือแม้แต่ถูกกินเป็นอาหาร

ข้าเกลียดที่ไม่ได้เกิดในอดีตกาล มีชีวิตอยู่ร่วมกับจอมจักรพรรดินีโบราณ สัมผัสพลังของจอมจักรพรรดินีด้วยตาตนเอง และเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขไปตลอดชีวิต❗️

บางทีอาจเป็นเพราะรู้สึกถึงเสียงเรียกของผู้ฝึกยุทธ์สูงวัยคนนี้ ที่ปลายทางเดิน มีแสงสว่างอันวิจิตรส่องออกมาราวกับดึงดูดผู้คนให้เข้ามา

ผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์มากมายเริ่มย่างก้าว เมื่อเดินไปจนสุดทาง ก็เกิดประกายความหวังขึ้นในดวงตาของพวกเขา

จอมจักรพรรดินีผู้สูงส่งคนนี้ ผู้ที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ จะทิ้งมรดกอะไรไว้ให้พวกเขารึไม่