บทที่ 125 หยกแขวนเดือนเสี้ยว

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

บทที่ 125 หยกแขวนเดือนเสี้ยว

 

ในหินหยินมีปราณหยินแฝงอยู่ ตามระดับแล้ว จะสูงกว่าพลังฟ้าดินจิตทั่วไป แต่ว่าตอนนี้หลัวซิวยังไม่คิดจะใช้หินหยินมาฝึกเพื่อบรรลุขั้น เพราะว่าถ้าหากไม่สามารถบรรลุแดนพรสวรรค์ได้ล่ะก็ ก็จะเสียดายหินหยินที่หามาอย่างยากลำบากเสียเปล่าๆ

อีกอย่าง ผลการฝึกตนของเขาเพิ่งบรรลุมาจากแดนชี่ไห่ขั้น6มาจนถึงขั้น9 ยังจะใช้เวลาเพื่อทำให้มันมั่นคงก่อน

นอกจากนี้ ก่อนที่จะฝึกเพื่อบรรลุแดนพรสวรรค์นั้น หลัวซิวจะต้องเตรียมตัวอย่างมาก เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ได้ผลโหวหยางมา4เม็ดจากในเทือกเขากวนเหลย ถ้าสามารถกลั่นเป็นยาจิ้นเทียนได้ล่ะก็ อาศัยพลังของยาจิ้นเทียน บวกกับหินหยิน อัตราการบรรลุก็สูง

เท่าที่หลัวซิวรู้มา จอมยุทธ์ระดับแดนชี่ไห่ขั้น9ขั้นสูงนั้น ล้วนจะต้องฝึกเพื่อบรรลุหลายครั้ง มีเพียงอัจฉริยะที่มีคุณสมบัติโดดเด่นจริงๆ ถึงจะสามารถบรรลุได้

หลัวซิวู้ดีว่าคุณสมบัติของตนเองไม่ดีพอ ไม่อย่างนั้นตอนที่ตนเองอายุ10-11ปี ก็คงจะไม่ฝึกได้แค่แดนกลั่นร่างขั้น2หรอก

ถ้าไม่มีลูกแก้วความเป็นตาย บางทีเขาก็อาจจะถูกสำนักยุทธ์ชิงหยุนละทิ้งไปแล้ว จากนั้นก็กลับไปหมู่บ้านผานฉือกับพ่อตนเอง แล้วก็เหมือนกับคนทั่วไป ที่ไม่มีผลงานอะไรเลย ใช้ชีวิตไปวันๆ แล้วก็ตายไป

เดินออกมาจากห้องลับ หลัวซิวหยิบสมบัติค่ายกลขั้น4ออกมา2อัน แล้วก็แลกกับองค์กรเพื่อเอาหินพลังจิต2หมื่นเม็ด จากนั้นก็ใช้ หินพลังจิต2พันเม็ด แลกยาย้ายร่างไขกระดูกมา1ขวด

ยาย้ายร่างไขกระดูกเป็นยาระดับ3 หลังจากใช้แล้ว สามารถเปลี่ยนใบหน้าตนเองได้ ยกเว้นปรมาจารย์ฝึกจิตที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีใครมองออก

ตอนนี้หลัวซิวบุกนอกสำนักเซียวเหยา ก็ใช้พลังของยาย้ายร่างไขกระดูกนี่แหละ

ด้วยสมาชิกขั้นเหลืองระดับล่าง อย่างหลัวซิว ก็มีสิทธิ์ที่จะแลกยาระดับ3ได้ หนึ่งในนั้นก็มียาจิ้นเทียน สิ่งสำคัญของการที่จะบรรลุแดนพรสวรรค์

จะบรรลุจากแดนชี่ไห่ไปแดนพรสวรรค์ ต่อให้มีพรสวรรค์มากแค่ไหน ถ้าไม่มียาจิ้นเทียน อัตราการบรรลุได้สำเร็จก็จะน้อยมาก ไม่รู้ว่ามีจอมยุทธ์แดนชี่ไห่ขั้น9มากมายแค่ไหน ที่ค้นหาทั่วทิศเพื่อต้องการเอายาจิ้นเทียนมาได้สักเม็ดหนึ่ง

ถ้าหลัวซิวซื้อยาจิ้นเทียนได้ที่องค์กรนักล่ายุทธ์ล่ะก็ หินพลังจิตชั้นล่างหมื่นเม็ด แลกยาจิ้นเทียน1เม็ด

และที่เขารู้มา ราคาของยาจิ้นเทียนปกติในตลาด มีราคาหนึ่งหมื่นห้าพันหินพลังจิตชั้นล่าง

ยาจิ้นเทียนสามารถใช้ผลโหวหยางแลกได้ ผลโหวหยาง1เม็ดสามารถแลกยาจิ้นเทียนได้1เม็ด

เดิมทีหลัวซิวยังคิดที่จะรวบรวมยาที่จะทำยาจิ้นเทียน จากนั้นก็ไปแก๊งนักกลั่นยา ตามหานักกลั่นยาขั้น3มากลั่นยาจิ้นเทียน ในเมื่อองค์กรนักล่ายุทธ์สามารถแลกได้ หลัวซิวก็เลยหยิบผลโหวหยางออกมา3เม็ด แล้วก็แลกเป็นยาจิ้นเทียนทั้งหมด

มียาจิ้นเทียน4เม็ดนี้ บวกกับหินหยินที่แฝงปราณหยินเอาไว้1ก่อน หลัวซิวก็อาจจะเพียงพอที่จะบรรลุแดนพรสวรรค์ได้แล้ว

ใช้ยาย้ายร่างไขกระดูกไปหนึ่งเม็ด แล้วหลัวซิวก็เดินออกมาจากองค์กรนักล่ายุทธ์

เขาพบว่ามีจอมยุทธ์หลายคนมาวนเวียนอยู่แถวหน้าประตูใหญ่ขององค์กรนักล่ายุทธ์ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นคนที่เล่อเผิงเฉิงส่งมาจับตาดูตนเอง

แต่ว่าของเพียงเล่อเผิงเฉิงไม่อยู่ทีนี่ จอมยุทธ์ชี่ไห่ธรรมดาและจอมยุทธ์พรสวรรค์ก็ไม่มีทางมองออก ว่านี่คือพลังของยาย้ายร่างไขกระดูก

แล้วหลัวซิวก็ไปสืบข่าวในเมือง รู้มาว่าตอนที่เขาปิดขังฝึกตนที่องค์กรนักล่ายุทธ์นั้น ลู่เมิ่งเหยาได้ออกไปจากเมืองโจว๋ซิงแล้ว ไปสำนักเหลยหวู่ของเขตการปกครองโตว้ไห่แล้ว

ช่วงเวลานี้เขาก็ไม่ได้ออกมา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเล่อเผิงเฉิงจะไปด้วยหรือเปล่า แต่ว่าหลัวซิวรู้สึกว่า ถ้าเล่อเผิงเฉิงสนใจในความลับของตัวตนเขาจริงๆ ล่ะก็ คงจะไม่ไปไหนแน่

และหลัวซิวยังรู้สึกอีกว่า ข่าวที่เมิ่งเหยากลับออกไป ก็คงจะเป็นเพราะเล่อเผิงเฉิงตั้งใจปล่อยข่าวออกมา จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะทำให้เขาคิดว่าเล่อเผิงเฉิงจากไปแล้ว แบบนี้เขาก็จะได้ปลอดภัย แต่จริงๆ แล้วเล่อเผิงเฉิงไม่ได้จากไปไหน และกำลังรอให้เขาปรากฏตัวออกมาเอง

ในโลกนี้ใจคนมันอันตราย หลัวซิวจะต้องป้องกันไว้ก่อน ดังนั้นหลังจากกินยาย้ายร่างไขกระดูกไป ค่อยเดินออกมาจากองค์กรนักล่ายุทธ์

เวลาต่อจากนี้อีก1เดือน หลัวซิวก็ฝึกฝนอยู่ที่ในเทือกเขากวนเหลย อาศัยพลังของกระแสสัมผัสพลังชีวิต เขาตามล่าอสูรกายระดับ3ไปทั่ว และระหว่างที่ต่อสู้กับอสูรกายพวกนั้นหลัวซิวก็ได้ฝึกฝนพลัง และวิชายุทธ์ของตนเอง

ผลการฝึกตนเพิ่มขึ้นเร็วมาก ทำให้หลัวซิวมั่นใจมาก ก็เลยลองที่จะตามหาอสูรกายระดับ4สักตัว เพื่อดูว่าตนเองยังห่างจากปรมาจารย์ฝึกจิตอีกมากแค่ไหน

พอเผชิญหน้า เขาก็แทบสู้ไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่วิชาท่าร่างเศษเงาสิบช่องมีความเร็วมาก ก็เกรงว่าคงจะตายภายใต้ปากของอสูรกายไปแล้ว

หลัวซิวมองดูพลังของตนเอง อาจจะเทียบได้กับระดับพรสวรรค์ขั้น7โดยประมาณ ถ้าสามารถบรรลุแดนพรสวรรค์ล่ะก็ ก็จะสามารถเทียบกับระดับพรสวรรค์ขั้น9ได้ จนกระทั่งรับมือกับระดับฝึกจิตครึ่งได้

เวลาหนึ่งเดือนนี้ หลัวซิวฆ่าอสูรกายระดับ3ไปร้อยกว่าตัว บางครั้งก็เจอตัวเก่งๆ ในระดับ3 ก็ได้รับบาดเจ็บบ้าง จนกระทั่งเกือบเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้ง

“โฮก!”

หมีดำดวงตาสีแดงตัวหนึ่งยืนขึ้นสองขา อ้าปากคำราม เคี้ยวแหลมคม

ไม่ไกลจากหมีดำตัวนี้ หลัวซิวเดินออกมาจากเงาต้นไม้ ชุดสีดำบนตัวเขาขาดวิ่นไปไม่น้อย แต่ดวงตาทั้งสอง หลับมีสมาธิ และมีความตั้งมั่นอย่างมาก

หมีดำ อสูรกายระดับ3ตัวนี้ มีพลังเทียบเท่ากับพรสวรรค์ขั้น5 บางทีอาจจะกลัวพลังที่น่ากลัวของมนุษย์ตรงหน้า มันดูเหมือนจะคำรามอย่างน่ากลัว แต่ลำตัวใหญ่ๆ ของมันกลับถอยหลังไปเรื่อยๆ

อสูรกายมีสัญชาตญาณของความอันตรายเป็นอย่างดี บนร่างของมนุษย์นี้ มีพลังอาฆาตแพร่ออกมา มันสามารถรับรู้ได้ถึงพลังของอสูรกายที่ไม่ได้ด้อยกว่าตัวมันเอง แต่กลับตายด้วยเงื้อมมือของมนุษย์ผู้นี้

การฝึกตนจะขาดทรัพยกรไม่ได้ การล่าอสูรกาย ไม่เพียงเป็นการฝึกพลังฝีมือเท่านั้น วัสดุที่ได้จากบนตัวของอสูรกายก็สามารถเอาไปแลกเป็นหินพลังจิตได้ ดังนั้นช่วงเวลานี้หลัวซิวก็เลยล่าอสูรกายระดับ3ไปไม่น้อย

ในแหวนเก็บของเต็มไปด้วยวัสดุระดับ3ทุกรูปแบบ น่าจะมีราคาหลายพันหินพลังจิตชั้นล่างแล้ว

ตอนที่หลัวซิวกำลังจะเตรียมฆ่าหมีดำระดับ3ตัวนี้นั้น ก็มีเสียงเท้ารีบร้อนเข้ามา จากนั้นก็มีชายวัยรุ่นคนหนึ่ง เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด วิ่งสะดุดออกมาจากพุ่มไม้ แล้วล้มลงพื้น

หลัวซิวจ้องมองไป พบว่าพลังชีวิตบนตัวขอวัยรุ่นชายคนนี้เหลือน้อยมาก ผังลายเส้นชีวิตก็แทบจะสลายไปหมดแล้ว สภาพแบบนี้ นอกเสียจากจะมียาวิเศษที่ฝืนชะตาฟ้าได้ ไม่อย่างนั้นก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ต้องตายแน่นอน

ตอนที่จุดสนใจของหลัวซิวกำลังถูกชายวัยรุ่นคนนี้ดึงดูดไปนั้น หมีดำระดับ3ตัวนั้นก็เหมือนถูกปล่อยตัว หันหลังวิ่งหนีไปทันที

หลัวซิวไม่ได้ตามไปฆ่าหมีดำตัวนั้น แต่ก้าวเท้าเดินไปข้างชายวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บคนนั้น

เขาฆ่าคนมาก็ไม่น้อย แต่หลัวซิวก็ไม่ใช่คนที่ไร้น้ำใจ

บนโลกที่แก่งแย่งชิงดีแบบนี้ แทบทุกวินาทีล้วนมีคนต้องจบชีวิตไป สำหรับการมีลูกแก้วความเป็นตาย และฝึกกฎการเวียนว่ายตายเกิดได้อย่างหลัวซิว ตามที่พลังได้สูงขึ้นเรื่อยๆ หลักการที่เขาเข้าใจมันก็มีมากขึ้น

“เพื่อนท่านนี้ ได้โปรดช่วยเหลือด้วย…….”

ชายวัยรุ่นเลือดท่วมตัวคนนี้ พอเห็นหลัวซิวเดินมา ก็เอ่ยพูดอย่างอ่อนแรง[1][1]