ตอนที่ 245 ปัญหาอยู่ที่ใคร

แม่สาวเข็มเงิน

วันนี้โจซื่อไม่อยู่บ้าน นางพาเจียงเอ้อยาไปดูตัว ส่วนเจียงอีหนิว ช่วงนี้เขามักมั่วสุมอยู่ข้างนอกไม่ค่อยกลับบ้านเลย นอกจากนี้แล้ว พวกคนในตระกูลเจียงที่เหลือก็อยู่ที่นี่กันหมด

หลีโผจื่อกลอกตาใส่เจียงป่าวชิง นางตาขวาง เดินเข้าไปกระชากแขนเจียงเหมยฮัว “นางบ้า! เจ้าแต่งงานกลายเป็นคนของตระกูลเมิ่งแล้ว ใครใช้ให้เจ้าหนีกลับมาห๊ะ ? เจ้าทำให้ตระกูลเจียงของเราอับอายขายขี้หน้า!”

เจียงเหมยฮัวรู้สึกเจ็บจนต้องส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ

“ยัง ยังจะร้องอีก นี่เจ้ายังมีหน้ามาร้องอีกเรอะ ?!”

หลีโผจื่อง้างฝ่ามือจะตบเจียงเหมยฮัว แต่เจียงป่าวชิงต้านฝ่ามือของหลีโผจื่อไว้ได้ก่อน

ชีวิตนี้หลีโผจื่อไม่เคยให้ความสำคัญกับเจียงป่าวชิงเลย เมื่อนางเห็นเจียงป่าวชิงกล้างัดข้อกับนาง ความโมโหแล่นเข้าเกาะกุมใจนางจนโทสะแทบระเบิดอยู่รอมร่อ “ไอ้ตัวเลวร้าย! ข้ายังไม่ได้จัดการกับเจ้า แต่เจ้ากลับกล้างัดข้อกับข้าอย่างนั้นรึ ?!”

พูดเสร็จ นางปล่อยแขนเจียงเหมยฮัวแล้วพลิกมือไปกระชากเจียงป่าวชิงแทน

เจียงป่าวชิงสะบัดหลีโผจื่อออกพลางรีบหลบหลีกไปด้านข้าง นางพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ท่านป้าเล็กถูกทุบตีที่บ้านสามี อยู่ที่บ้านพ่อแม่ตัวเองก็ยังมีแววถูกทุบตีเช่นกัน นี่พวกท่านร่วมมือกัน ต้องการทุบตีนางให้ได้เลยใช่ไหม ?”

หลีโผจื่อรู้ว่าเมิ่งเถี่ยทุบตีเจียงเหมยฮัวที่บ้าน แต่นางใส่ใจเรื่องนั้นที่ไหนกันเล่า ?!

นางถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างไม่สนใจ “นั่นเป็นเพราะเหมยฮัวไม่มีบุญวาสนา มีลูกไม่ได้ แบบนี้จะโทษใครได้ล่ะ ?!”

เจียงเหมยฮัวตัวสั่น นางพูดอะไรไม่ออก

เจียงเหลียนฮัวพูดขึ้นเช่นกัน “นี่น้องเล็ก ข้าก็ไม่ได้อยากจะว่าเจ้าหรอกนะ เจ้าแต่งออกไปครึ่งปีแล้วแต่เจ้าไร้วี่แววตั้งท้องมาโดยตลอด น้องเขยเขาคงเป็นกังวล ข้าเข้าใจเขา เจ้าอย่าไปโทษที่น้องเขยลงไม้ลงมือกับเจ้าสิ ผู้ชายมักเป็นเช่นนี้กันทั้งนั้นแหละ เจ้าดูอย่างข้าสิ ตอนนี้พอมีลูกชายกับลูกสาวแล้ว มันก็จะนำพาชีวิตดี ๆ มาให้เองนั่นแหละ”

คนหนึ่งพูดว่า ‘จะโทษใครได้’ ส่วนอีกคนพูดว่า ‘ข้าเข้าใจเขา’

ไม่น่าเชื่อว่านี่คือครอบครัวของนาง

หยาดน้ำตาใสไหลลงมาจากดวงตาที่ไร้ความรู้สึกของเจียงเหมยฮัวอย่างช้า ๆ ครอบครัวนางเอาแต่ด่า กลับเป็นแม่เฒ่ากัวที่ตบแผ่นหลังของเจียงเหมยฮัวอย่างเงียบ ๆ

ดูเหมือนว่าหลีโผจื่อจะเพิ่งเห็นแม่เฒ่ากัว ทันทีที่นางเห็น นางก็ชักสีหน้าใส่แม่เฒ่ากัว

เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วเจียงโหย่วฉายมีไข้ หลีโผจื่อเชิญแม่เฒ่าเซียนเว่ยมาเต้นระบำเทพ และด่าว่าแม่เฒ่ากัวเป็นนักต้มตุ๋นหลอกเอาเงินทองผู้อื่น สุดท้ายนางต้องเป็นฝ่ายไปขอร้องให้แม่เฒ่ากัวตรวจดูอาการให้เจียงโหย่วฉาย หลังจากเหตุการณ์นั้น หลีโผจื่อกับแม่เฒ่ากัวก็ไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่

ตอนนี้หลีโผจื่อทำหน้าทำตาแปลกประหลาด ดูแล้วบิดเบี้ยวชอบกล นางเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้ที่บ้านเราโชคไม่ดีเท่าไหร่ มีพวกคนนอกวิ่งแจ้นมาที่บ้านอย่างไม่รู้เวล่ำเวลาเช่นนี้ เหอะ!”

ทว่าคำพูดนี้กลับเป็นการด่ารวมไปถึงเมิ่งเถี่ยกับครอบครัวของเจียงเหลียนฮัวด้วยเช่นกัน

สีหน้าของเจียงเหลียนฮัวคร่ำครึระคนซีดเผือด

เจียงป่าวชิงเดินเข้าไปหาเจียงเหมยฮัวก่อนจะพูดขึ้น “ข้าเป็นคนเชิญแม่เฒ่ากัวมาเอง เดิมทีเป็นเพราะท่านป้าเล็กถูกทุบตีอย่างรุนแรง ถ้าหากว่าไม่จัดการกับบาดแผลบนตัวนาง เกรงว่ามันจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ ในเมื่อพวกท่านพูดถึงเรื่องที่ป้าเล็กมีลูกไม่ได้ งั้นก็เชิญให้แม่เฒ่ากัวจับชีพจรตรวจดูสภาพร่างกายให้ท่านป้าเล็กต่อหน้าพวกท่านซะเลยสิ แล้วดูว่าร่างกายท่านป้าเล็กมีลูกไม่ได้จริงหรือเปล่า”

อันที่จริงเจียงป่าวชิงเคยจับชีพจรให้เจียงเหมยฮัวตั้งนานแล้ว แต่นางไม่อยากเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองชำนาญการตรวจร่างกายและรักษาโรคต่อหน้าคนพวกนี้ จึงต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นเด็กสิบสาวขวบธรรมดา ๆ

หัวใจของเจียงเหมยฮัวเหมือนขี้เถ้าของไฟที่ดับมอดไป เจียงป่าวชิงพูดอย่างไร นางก็ทำตามเจียงป่าวชิงอย่างนั้น

นางยื่นแขนออกมาตามคำพูดของเจียงป่าวชิง

แม่เฒ่ากัวคลำชีพจรของเจียงเหมยฮัวอยู่สักครู่แล้วพูดยืนยัน “ร่างกายของนางแข็งแรงพอที่จะตั้งท้องได้”

เมิ่งเถี่ยพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตั้งท้องได้ นี่ผ่านมาครึ่งปีแล้วแต่ยังไม่ท้อง แบบนี้จะไม่ให้โทษท้องที่ไม่เอาไหนของเจ้าได้ยังไง ?!”

แม่เฒ่ากัวมองเมิ่งเถี่ย “จุ๊ ๆ นี่สามีของเหมยฮัวไม่ใช่รึ ? ในเมื่อเจ้าเองก็อยู่พอดี งั้นข้าจะจับชีพจรให้เจ้าด้วยเช่นกัน มาสิ”

เมิ่งเถี่ยเหมือนถูกอะไรบางอย่างทิ่มแทงลงไปในใจ ใบหน้าของเขาค่อย ๆ กลายเป็นสีม่วง “จับทำไม ?! ข้าไม่ได้ป่วยสักหน่อย ทำไมต้องตรวจข้าด้วย ?”

แม่เฒ่ากัวพูดตรง ๆ “มีลูกได้หรือไม่ได้ใช่ว่าจะเป็นเรื่องของเหมยฮัวเพียงคนเดียว ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่นางคนเดียว บางทีปัญหาอาจอยู่ที่ตัวเจ้าก็ได้ หรือไม่ก็วาสนายังมาไม่ถึงเท่านั้นเอง”

เมิ่งเถี่ยพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด “แม่เฒ่าไม่ต้องพูดแล้ว คงเป็นเพราะวาสนายังมาไม่ถึงแน่ ๆ!”

แม่เฒ่ากัวชำเลืองมองเมิ่งเถี่ย “นี่พ่อหนุ่ม หากเจ้าบอกว่าวาสนายังมาไม่ถึง ถ้าอย่างนั้นเจ้าทุบตีเหมยฮัวทำไม ? ผู้หญิงดี ๆ กลับต้องมาถูกเจ้าทุบตีจนไม่เหลือเนื้อดีแล้ว ไม่เป็นผู้ชายเอาซะเลย”

แม่เฒ่ากัวเคยรับเลี้ยงทารกที่ถูกทิ้งคนหนึ่ง นางเลี้ยงดูเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นระยะเวลาหลายสิบปีถึงจะให้เด็กแต่งออกไปอย่างดี แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นแต่งออกไปได้ไม่นาน หลังจากที่เด็กผู้หญิงคนนั้นถูกสามีทุบตีครั้งหนึ่ง เด็กมันก็รู้สึกกลัดกลุ้มจนกลายเป็นโรคร้าย สุดท้าย ผ่านไปไม่เท่าไหร่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ตายจากไป

และนี่คือความเจ็บปวดที่นางเก็บซ่อนไว้มานานหลายสิบปี

คล้ายกับเมิ่งเถี่ยจะอับอายขายหน้าจนบันดาลโทสะ เขาตวาดขึ้นเสียงดัง “ข้าอายุสามสิบปีแล้ว ลูกชายของเพื่อนบ้านใกล้สู่ขอเมียแล้ว แต่ข้ายังไม่ได้อุ้มลูกตัวเองเลย แบบนี้ข้าจะไม่เป็นกังวลได้ยังไง ?”

เจียงป่าวชิงพูดขึ้นอย่างเยาะหยัน “นี่ลุงเมิ่งเถี่ย ถ้าลุงเป็นกังวลก็ให้แม่เฒ่ากัวช่วยดูให้ลุงด้วยเลยสิ ถ้าหากว่าลุงทำไม่ได้จริง ๆ…”

ผู้ชายคนใดที่ถูกตั้งแง่เกี่ยวกับความสามารถในการให้กำเนิดบุตรของตัวเองมักจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกันทั้งนั้น ยิ่งคนถามเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาค่อนข้างน่ารักจิ้มลิ้มด้วยแล้ว…

ถ้าหากว่าดูตามรุ่น เด็กผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาสะสวยคนนี้ควรเรียกเมิ่งเถี่ยว่าลุงอย่างที่นางพูดมาจริง ๆ

เมิ่งเถี่ยจะอดทนได้อย่างไรไหว เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นี่มันเหมือนเขาถูกเด็กอย่างเจียงป่าวชิงเหยียบหน้าต่อหน้าทุกคน

และคำพูดนางแทงเข้าไปถึงสิ่งที่เขากลัวที่สุดในหัวใจเช่นกัน

เป็นเวลาสิบปีติดต่อกัน ภรรยาทั้งสามคนของเขาไม่มีคนไหนที่สามารถตั้งท้องได้เลย และทุกคนต่างเคยไปหาหมอมาแล้วทั้งนั้น หมอเองก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แค่วาสนายังมาไม่ถึงเท่านั้น

หลายครั้งในตอนกลางดึกอันแสนเงียบสงัด เมิ่งเถี่ยเคยสงสัยในตัวเอง แต่ไม่นานเขาก็เลือกที่จะหลอกตัวเองว่าถ้าหากตัวเขามีปัญหาจริง ๆ แล้วทำไมเมื่อตอนที่เขายังหนุ่มกว่านี้ เขาถึงสามารถทำให้หญิงสาวหมู่บ้านข้าง ๆ ท้องได้

เรื่องอื้อฉาวนี้กลายเป็นคำปลอบใจที่ดีที่สุดของเมิ่งเถี่ย

ทว่าตอนนี้ เจียงป่าวชิงกลับพูดว่าเขา ‘ทำไม่ได้’ ต่อหน้าทุกคน เมิ่งเถี่ยไม่จำเป็นต้องใช้สุราเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขา ตอนนี้เขาก็อยากเข้าไปเล่นงานเจียงป่าวชิงอย่างรุนแรงแล้ว

ฟันของเมิ่งเถี่ยกระทบกันจนเกิดเป็นเสียงอยู่ในปาก

เจียงเหมยฮัวเดินไปข้างหน้าด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา ขณะนี้คนไร้ความรู้สึกและขลาดกลัวมาตลอดกลับกล้าเปิดปากพูด “เมิ่งเถี่ย เจ้าให้แม่เฒ่ากัวจับชีพจรซะสิ ถ้า… ถ้าหากว่าเจ้าไม่มีปัญหาเรื่องการมีลูกยากจริง ๆ ข้าจะกลับไปกับเจ้า”

สีหน้าเมิ่งเถี่ยดุร้ายขึ้นในชั่วพริบตา “ได้ เจ้าพูดเองนะ!”

เมิ่งเถี่ยยื่นแขนออกมาให้แม่เฒ่ากัวจับชีพจร

สีหน้าของแม่เฒ่ากัวยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อย ๆ

ผ่านไปสักพัก แม่เฒ่ากัวก็เก็บมือกลับมา นางมองเจียงเหมยฮัวอย่างเห็นอกเห็นใจ “เฮ้อ… ช่างน่าสงสารจริง ๆ”

เจียงเหมยฮัวคิดว่าตัวเองต้องกลับไปกับเมิ่งเถี่ย นางหน้าซีดเผือดทันที

เมิ่งเถี่ยยังไม่ทันได้ลำพองใจ แม่เฒ่ากัวก็มองเมิ่งเถี่ยแล้วพูดขึ้น “ผู้หญิงดี ๆ กลับต้องมาถูกเจ้าทุบตีมาได้ตั้งนาน ที่พวกเจ้าไม่มีลูกสักทีก็เพราะปัญหามันอยู่ที่เจ้า เจ้าน่ะไตไม่ดี นี่เป็นปัญหาที่มีตั้งแต่ออกมาจากในท้องแม่แล้วและยิ่งไม่เคยได้รับการรักษามาหลายปีแบบนี้ มันคงทำร้ายร่างกายของเจ้าไปโดยสิ้นเชิง มีลูกได้ก็ผีหลอกแล้ว”

เมิ่งเถี่ยรู้สึกราวกับถูกค้อนทุบศีรษะอย่างแรง