ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 11

“คุณไล่ผมออกงั้นเหรอ”

ฮาร์วี่ย์หัวเราะ พนักงานจะขอไล่เจ้านายออกไปได้อย่างไร?

“คุณไม่เข้าใจที่ฉันเหรอ ฉันไล่คุณออก! ไม่ว่าใครจะรับคุณเข้ามาก็ตามฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้ ออกไปซะเดี๋ยวนี้!” เวนดี้กัดฟันกรอด

หลังจากพูดจบเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและโยนมันลงบนพื้น เธอพูดอย่างดุดันว่า “คุณจะไม่ไปใช่ไหม หรือคุณต้องการเงิน? เอาเงินนี้แล้วออกไปซะ!”

ในขณะนี้เสียงแตรที่ดังขึ้นทำให้พนักงานก็แตกตัวแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพราะรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดตรงที่จอดรถของประธานบริษัท

จากนั้นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงหนังเนื้อละเอียดและผูกผมหางม้ารีบเดินลงมาพร้อมกับถือกระเป๋าในมือ

รูปร่างหน้าตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับเวนดี้ แต่นิสัยใจคอของเธอนั้นเทียบไม่ได้กับเวนดี้เลย

เธอไม่แม้แต่มองคนอื่นๆและรีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์ เธอโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะมิสเตอร์ยอร์ก พอดีจราจรติดขัดนิดหน่อย ทำให้ดิฉันมาช้า”

ฮาร์วี่ย์มองไปที่หญิงสาวหน้าตาคนนี้และจำได้ว่าเธอคืออีวอนน์ ซาเวียร์ เธอเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อตอนเขายังอยู่ที่ตระกูลยอร์ก เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะกลายเป็นเลขานุการของประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์

“นี่มันผ่านนานแค่ไหนแล้วนะ” ฮาร์วีย์พยักหน้า

“คุณซาเวียร์ ฉันคิดว่าคุณคงสับสนอะไรบางอย่าง” เวนดี้ก้าวไปข้างหน้า ใบหน้าที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ “ทุกคนก็รู้ว่าท่านประธานฯคือใคร ไม่ใช่ว่าจะเจอคนทำความสะอาดแล้วเรียกเขาอย่างนั้นไม่ได้!”

“คนทำความสะอาดงั้นเหรอ” อีวอนน์มองไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างสุขุม เธอเห็นใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเขา จากนั้นเธอก็หันไปมองเวนดี้อย่างเย็นชา “คุณเซอร์เรลลืมตาของคุณและตั้งใจฟังให้ดี เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมิสเตอร์ยอร์กจะเป็นประธานคนใหม่ของเรา”

“อะไรนะ?!” ทุกคนตกใจโดยเฉพาะหัวหน้ารักษาความปลอดภัย เขารู้สึกว่าขาของเขาไร้เรี่ยวแรง

เขาถีบรถของท่านประธานคนใหม่ นี่ …

“มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?! ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้!” เวนดี้กัดริมฝีปาก “คนๆนี้มีชื่อว่าฮาร์วี่ย์ ใช่ แต่เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาลัยของฉัน ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาทำอะไรที่ไหน เขาจะมาเป็นประธานบริษัทของเราได้อย่างไรกัน”

เวนดี้รู้สึกสับสนมาก ลูกเขยที่ไร้ระโยชน์อย่างเขาจะมาเป็นประธานบริษัทได้อย่างไร? ประธานบริษัทจะมาทำงานในชุดนี้ได้อย่างไร?

นอกจากนี้เขายังถูกจับได้ว่าสมรู้ร่วมคิดทำธุรกิจสีดำที่โรงแรมแพลตตินั่มเมื่อวานนี้อีกด้วย

คนอย่างฮาร์วี่ย์แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อคลุมมังกร แต่ยังไงก็ดูไม่เหมือนจักรพรรดิเลยด้วยซ้ำ

“คุณ ถึงแม้คุณจะมีตำแหน่งผู้จัดการ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินว่าเขาจะเป็นท่านประธานหรือไม่” อีวอนน์พูดเบา ๆ

อีวอนน์พูดคำว่าผู้จัดการออกมาค่อนข้างลำบาก

ล่าสุดมีข่าวลือว่าเวนดี้กำลังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไป มีหลายคนที่ประจบเธอ แต่ตอนนี้ …

หึ่งๆๆๆ…

ในตอนนี้เวนดี้ไม่สามารถคิดอะไรได้อีก ใบหน้าที่สวยงามของเธอซีดเซียว เธอรู้สึกว่าแม้แต่เท้าของเธอก็อ่อนแรงลง เธอไม่กล้ามองฮาร์วี่ย์เลยด้วยซ้ำ

เธอเป็นคนที่มีผลงานสูงและมีคอนเน็คชั่นมากใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เธอจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปแล้วด้วยซ้ำ

แต่วันนี้เธอต้องการที่จะไล่ท่านประธานออกไป แถมเธอยังโยนเงินกองหนึ่งให้กับเขาอีก…

“มิสเตอร์…มิสเตอร์ยอร์ก…ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น…” หลังจากที่นิ่งเงียบกันไปนาน เวนดี้ก็เดินเข้าไปหาฮาร์วี่ย์และพูดอย่างสั่นๆ

“เก็บเงินขึ้นมาเถอะ บางทีนี่อาจจะเป็นเงินใช้จ่ายของคุณในอนาคต” ฮาร์วี่ย์กล่าวอย่างเย็นชา

เวนดี้ตัวสั่นเธอไม่กล้าตอบอะไรกลับไป

ฮาร์วี่ย์ไม่สนใจเธอและมองไปที่หัวหน้ารักษาความปลอดภัย

ในขณะเดียวกันหัวหน้ารักษาความปลอดภัยก็ตกตะลึงและพร้อมใบหน้าของเขาที่หมองคล้ำลง

“คุณถูกไล่ออก” ฮาร์วี่ย์พูดอย่างใจเย็น และหันหลังเดินเข้าไปในบริษัททันที่

กลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินตามเขาไป พนักงานหลายคนเริ่มที่จะพูดถึงเรื่องนี้กันทั่ว

ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เป็นองค์กรขนาดใหญ่มีพนักงานเกือบห้าพันคน มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวประธานบริษัทอย่างกะทันหัน

หลังจากเหตุการณ์เสียงดังเอะอะโวยวายดังกล่าว ตอนนี้ทั้งบริษัทรู้เรื่องนี้แล้ว พนักงานหลายคนก้มหัวทักทายเขาตลอดทาง อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้ามองฮาร์วี่ย์เลยสักคน

ดอนก็โค้งคำนับท่ามกลางพนักงานเหล่านั้นด้วยเช่นกัน เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปยังประธานฯคนใหม่ แต่เขาเห็นเพียงแค่ด้านหลังของฮาร์วี่ย์เท่านั้น เขาตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ รู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาจำไม่ได้ว่าแผ่นหลังนี้คือใคร

ห้องทำงานของประธานบริษัทอยู่ชั้นบนสุดของตึกและทั้งชั้นนั้นคือพื้นที่ของเขาซึ่งได้รับการตกแต่งใหม่ตามสไตล์ของเขาภายในชั่วข้ามคืน

ฮาร์วี่ย์นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานาธิบดีด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ เขาพูดได้แค่ว่าโยนาธานเก่งมาก แม้แต่การจัดเตรียมก็ทำอย่างเรียบร้อยทำให้เขารู้สึกคุ้มค่าที่จ่ายเงินเป็นหมื่นล้านเพื่อมัน

เวนดี้ก็ยืนอยู่ในห้องทำงานกับฮาร์วีย์และอีวอนน์ด้วยสีหน้าเป็นกังวล

อีวอนน์ไม่สนใจเธอและหยิบเอกสารบางอย่างออกมา เธอวางเอกสารเหล่านั้นไว้ตรงหน้าฮาร์วี่ย์แล้วพูดว่า “มิสเตอร์ยอร์คะ เอกสารอยู่นี่ค่ะ บริษัทจะเป็นของท่านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

ฮาร์วี่ย์อ่านดูเอกสารอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีช่องโหว่ในสัญญาและลงนามลงไป

อีวอนน์หยิบแฟ้มเอกสารออกมาแล้วพูดว่า “มิสเตอร์ยอร์กคะ นี่เป็นโครงการใหญ่ไม่กี่โครงการในปีที่แล้วรวมถึงการลงทุนที่เพิ่งวางแผนไว้เมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้ นี่คือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเร็วๆ นี้ โปรดพิจารณาคะ”

“ผมไม่ต้องอ่านมันหรอก ช่วยยกเลิกการลงทุนที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมดและบอกพันธมิตรว่ามีการเปลี่ยนแปลงประธานคนใหม่” ฮาร์วี่ย์กล่าวนิ่งๆ ประโยคเดียวของเขาตัดสินชีวิตและความอยู่รอดของหลายครอบครัวนับไม่ถ้วนในนิอัมมี่

“และประกาศต่อสาธารณชนด้วยว่า บริษัทเพิ่มการลงทุนห้าพันล้านดอลลาร์กับโครงการที่ดีที่สุดในนิอัมมี่”

“สำหรับการเลื่อนตำแหน่งให้ชะลอไปก่อน รอจนกว่าผมจะได้รู้จักกับทุกคน”

“รับทราบค่ะ!” อีวอนน์ไม่กล้าพูดเรื่องอะไรที่ไร้สาระและรีบเดินออกจากห้องทำงานทันที

บึ้ม! มันเป็นการทิ้งระเบิดให้เวนดี้ที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง เธอรู้ว่าการเลื่อน นอกจากนั้นโครงการการลงทุนบางส่วนของเธอที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ก็ถูกปฏิเสธด้วย ความพยายามของเธอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไร้ประโยช์ เธออาจตกงานด้วยซ้ำ…

เวนดี้รู้สึกหดหู่เมื่อนึกถึงเรื่องเงินกู้รถยนต์และการจำนองซึ่งมันรวมแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลายหมื่นดอลลาร์ต่อเดือน

เธอไม่รู้ว่าความกล้าของเธอมาจากไหน เสียงของเธอนุ่มนวลราวกับปุยนุ่น “มิสเตอร์ยอร์ก ดิฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น คุณไม่ไล่ดิฉันได้ไหม เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน ดิฉันสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ!”

“คุณยอมที่จะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม” ฮาร์วี่ย์รู้สึกขบขัน เขามองไปที่เวนดี้และพูดว่า “งั้นบอกผมสิว่าผมควรจะทำอะไรกับคุณ”