ตอนที่ 403 เดิมพันครั้งสุดท้าย (3) / ตอนที่ 404 เดิมพันครั้งสุดท้าย (4)

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 403 เดิมพันครั้งสุดท้าย (3)

 

 

อวี๋กานกานหันไปเห็นผู้ชายสองคนที่ระยะห่างใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จึงหมดหวังไปชั่วขณะ

 

 

เรี่ยวแรงของผู้หญิงเดิมทีก็น้อยว่าแรงผู้ชายอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นกายภาพของชายสองคนนี้สูงกว่าคนทั่วไปเสียอีก

 

 

ตามองเห็นพวกเขากำลังจะไล่ตามตนเองทันแล้ว อวี๋กานกานก็หยุดวิ่งไปเสียอย่างนั้น

 

 

เธอโน้มตัวลงเท้าใช้มือสะเอว หอบหายใจไม่หยุดพลางพูดกับชายสองคนนั้นที่ตามมา “ไม่ต้องตามแล้วๆ ฉันไม่หนีแล้ว ฉันจะกลับไปกับพวกนายๆ…”

 

 

ชายร่างสูงใหญ่สองคนนั้นยังนึกว่าตนเองต้องลงมือสักรอบถึงจะจับผู้หญิงคนนี้ไปได้

 

 

ใครจะรู้ว่าเธอกลับว่านอนสอนง่ายเสียอย่างนั้น

 

 

พวกเขาคิดว่าอย่างนั้นก็ดี ประหยัดแรง

 

 

อวี๋กานกานหายใจหอบและพูดต่อไป “แต่ว่าตอนนี้ฉันเหนื่อยมากจริงๆ นายให้ฉันหายใจหายคอก่อน พอหายใจเสร็จแล้วฉันก็จะไปกับพวกนาย ฉันเป็นคนว่าง่ายมาก ไม่มีทางให้พวกนายลำบากเด็ดขาด”

 

 

ชายทั้งสองคนสบตากัน ต่างคนต่างใช้สายตาส่งความเข้าใจกัน

 

 

ชายหัวเกรียนมองอวี๋กานกานและเตือนด้วยเสียงโหดเ**้ยม “ถ้าเธอกล้าหลอกพวกเรา ระวังพวกเราจะได้เห็นดีกัน”

 

 

ชายอ้วนอีกคนหนึ่งเอ่ย “ขอเพียงเธอเชื่อฟังว่าง่าย พวกเราไม่ทำให้เธอลำบากอย่างแน่นอน”

 

 

อวี๋กานกานส่งยิ้มแห้งให้กับพวกเขา “ไม่มีทางๆ ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว ต่อให้หายใจทันก็วิ่งไม่ชนะพวกนาย ทำไมฉันจะต้องหาเรื่องลำบากให้ตัวเองด้วย พวกนายว่างั้นไหม”

 

 

นายหัวเกรียนหัวเราะเยาะ “ถือว่าเธอรู้ความ”

 

 

อวี๋กานกานเอ่ยอีกครั้ง “พี่ชายทั้งสองดูไม่เหมือนคนเลวเลย ในเมื่อพี่ชายทั้งสองเป็นคนดีแล้วทำไมถึงต้องช่วยทำงานให้เจียงไป่อันด้วยล่ะ เจียงไป่อันคนนั้นขี้เหนียวมากเลย เงินเดือนลูกน้องเขาไม่จ่ายให้เลยสักนิดอีกทั้งยังได้ยินว่ายังติดเงินคนอื่นเยอะมากเลย”

 

 

ชายอ้วนเผลอถามออกไป “ติดเงินเยอะเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า สีหน้าจริงจังมาก “ใช่เลย พวกนายไม่รู้เหรอ ชายหนุ่มผู้นี้หน้าตาสง่างามเหมือนกับทั้งสองคนเลย หน้าตาหล่อเหลา ช่วยงานให้เจียงไป่อัน รับคำสั่งเจียงไป่อันให้มาข่มขู่ฉัน หลังจากที่ข่มขู่ฉันแล้วผ่านไปไม่กี่วัน เขาก็มาหาฉันแล้วบอกว่าเขาจะขอถอนคำขู่ของตัวเองคืน ฉันก็งงไปเลย จึงถามเขาไปว่าเพราะอะไรกัน เขาบอกว่าเพราะเจียงไป่อันไม่ได้จ่ายเงิน คิวอาร์โค้ดก็ไม่สแกนให้ พอเขาโมโหเข้าก็เลยแตกหักกับเจียงไป่อัน”

 

 

ชายอ้วนมึนงง “มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานพูดด้วยสีหน้าโกรธเคือง “ใช่สิ พวกนายว่าเจียงไป่อันคนนี้เห็นแก่ตัวไหมล่ะ”

 

 

ชายอ้วนฟังคำพูดของอวี๋กานกานแล้วก็รู้สึกอยู่ลึกๆ จึงพยักหน้าไปด้วย

 

 

อวี๋กานกานถอนใจ “ฉันเห็นพี่ชายสองคนเป็นคนดี ดังนั้นถึงได้เตือนพวกพี่ด้วยความหวังดี พวกพี่ต้องระวังอย่างเด็ดขาดเลย จะต้องให้เจียงไป่อันจ่ายเงินเสียก่อน พวกพี่ค่อยช่วยทำงานให้เขา”

 

 

ชายอ้วนมองชายผมเกรียน ชายผมเกรียนยิ้มหยัน “…ถ้าเขากล้าติดเงินพวกเรา ลูกพี่ของพวกเขาไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่!”

 

 

อวี๋กานกานนิ่วหน้า “ก็กลัวว่าลูกพี่ของพวกนายจะโดนเขาหลอกน่ะสิ พวกนายจะลองโทรศัพท์ดูไหม ถามลูกพี่ของพวกนายดูว่าเจียงไป่อันจ่ายเงินแล้วรึยัง”

 

 

ชายหนุ่มสองคนมองกันไปกันมา

 

 

กลับลังเลขึ้นมาเสียนิดหน่อย

 

 

อวี๋กานกานจึงรีบพูดขึ้นมาอีก “แฟนของฉันค่อนข้างมีเงิน ถ้าหลังจากนี้พวกนายไม่มีงานแล้ว สามารถไปหาเขาได้ ให้เขาหางานให้พวกนาย เขาไม่มีทางค้างค่าจ้างอย่างแน่นอน เขาเป็นคนใจกว้างมาก ถ้าพวกนายช่วยแฟนของเขาเอาไว้ อยากได้เงินขอบคุณเท่าไหร่ก็ให้พวกนายได้”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 404 เดิมพันครั้งสุดท้าย (4)

 

 

ชายทั้งสองคนขมวดคิ้ว “…”

 

 

“พวกนายไม่เชื่อเหรอ ถ้าพวกนายไม่เชื่อก็โทรศัพท์ถามผู้ช่วยของแฟนฉันได้ ลองถามดูก็จะรู้ แฟนของฉันเป็นคนที่ค่อนข้างใจกว้างคนหนึ่งเลย เขามักจะโปรยเงินให้กับผู้ช่วยของเขาอยู่บ่อยๆ”

 

 

ชายอ้วนควักโทรศัพท์ออกมาจริง แต่ว่าโดนชายหัวเกรียนตีมือเข้าเสีย “นี่นายก็เชื่อเหรอ ยัยขี้เหร่นี่กำลังหลอกพวกเราอยู่ชัดๆ”

 

 

อวี๋กานกานรีบโบกมือ “เปล่านะๆ ไม่ได้หลอกพวกนายเลยสักนิด ที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”

 

 

ชายหัวเกรียนตะคอก “เธอ ยัยน่าเกลียด พูดไร้สาระให้มันน้อยหน่อย”

 

 

เขาว่าพร้อมกับฟาดมือมาทางอวี๋กานกาน

 

 

อวี๋กานกานรีบหลบไปข้างหลัง

 

 

ชายหัวเกรียนรีบพุ่งมาข้างหน้าทำให้อวี๋กานกานล้มลงกับพื้น

 

 

อวี๋กานกานถูกจับเท้าเอาไว้ มือของเธออยู่ในกระเป๋า พลันควักเข็มของตนเองออกมาและจิ้มไปที่มือของชายหัวเกรียนอย่างแรง

 

 

“อ๊าก!”

 

 

ชายหัวเกรียนเจ็บปวด ร้องเสียงดัง มือโดนจิ้มไปจึงปล่อยมือด้วยปฏิกิริยาตอบรับ

 

 

อวี๋กานกานพยุงตัวลุกขึ้นจะหนี ชายอ้วนเดินเข้ามาดึงผมของอวี๋กานกานเอาไว้

 

 

ออกแรงเหวี่ยงสะบัด

 

 

อวี๋กานกานเจ็บ นั่งลงไปกับพื้นอีกครั้ง

 

 

ชายหัวเกรียนที่เมื่อครู่ถูกเข็มทิ่ม นัยน์ตาฉายแววดุร้าย เขาพูดกับชายอ้วน “ระวังหน่อย ในมือผู้หญิงคนนี้มีเข็มอยู่”

 

 

สายตาของชายอ้วนแปรเปลี่ยนเป็นหื่นกาม “ดูแล้วเธอก็ค่อนข้างสวยทีเดียว หรือพวกเราสนุกสักหน่อยค่อยจับตัวไปดี”

 

 

รถอเนกประสงค์คันหนึ่งข้างหน้าขับมาด้วยความว่องไว

 

 

ชายหัวเกรียนมองเห็นก็เอ่ยเตือน “รีบจับตัวมา อย่าให้เป็นที่สังเกต”

 

 

เขาให้ชายอ้วนหลบรถคันนั้น ยกตัวอวี๋กานกานขึ้นมา อวี๋กานกานก้าวถอยหลัง ถือเข็มทิ่มไปทางพวกเขา…

 

 

ชายทั้งสองคนโกรธจัด ตอนที่กำลังจะก้มลงสั่งสอนอวี๋กานกาน รถอเนกประสงค์สีดำคันนั้นจอดลงข้างพวกเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า

 

 

เหมือนจะยังไม่ได้หยุดนิ่งดี ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งก็ปรี่ลงมาจากรถ

 

 

เตะใส่ชายอ้วนที่คว้ามือของอวี๋กานกานเอาไว้ปลิวไปในทันที

 

 

ชายหัวเกรียนตกตะลึง รีบประชันฝีมือกับชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ชายหัวเกรียนไม่ใช่คู่ต่อสู้เลยพอถูกต่อยตีไม่กี่ครั้งก็หมอบลงไปกับพื้นและส่งเสียงกรีดร้องสนั่นจากความตกใจสุดขีด

 

 

อวี๋กานกานเห็นชายหนุ่มที่ดูคุ้นตา มีนัยน์ตาร้อนรน ความหวาดกลัวที่อยู่กลางใจค่อยๆ สลายหายไป เธอรีบลุกขึ้นมาจากพื้น “ฟังจือหัน คุณมาได้ยังไง”

 

 

ฟังจือหันกอดเธอเอาไว้ นัยน์ตาฉายแววตื่นตระหนก “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”

 

 

อวี๋กานกานยิ้มพร้อมกับส่ายหัวให้เขา “ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่าอาจารย์ของฉัน เจียงไป่อันจะจับเขา”

 

 

ช่วงเวลาเคร่งเครียด อวี๋กานกานจูงมือฟังจือหันไปขึ้นรถ มุ่งหน้าขับออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

ตลอดทางนัยน์ตาและในใจของอวี๋กานกานเต็มไปด้วยความเป็นกังวล

 

 

เธอเห็นอาจารย์เหม่ยเหรินสะบักสะบอมไปทั้งร่างที่อยู่ไกลๆ และกำลังถูกเจียงไป่อันมัดแล้วโยนลงกับพื้น หน้าผากเป็นแผล มีเลือดสีแดงสดไหลออกมา

 

 

อวี๋กานกานเห็นแล้วหวาดกลัวสุดขีด “อาจารย์เหม่ยเหริน คุณอย่าให้เกิดเรื่องเด็ดขาดนะ”

 

 

ฟังจือหันกุมมือเธอเอาไว้ “ไม่ต้องห่วง”

 

 

รถจอดสนิท อวี๋กานกานอยากจะลงจากรถแต่ถูกฟังจือหันห้ามเอาไว้ “คุณรออยู่บนรถ”

 

 

หลังจากที่ตนเองเปิดประตูลงจากรถ เดินไปทางเจียงไป่อันทีละก้าว ท่าทางผึ่งผายภายใต้แสงแดด

 

 

เจียงไป่อันเห็นคนในรถชัดเจน หลังจากที่เป็นฟังจือหันแน่นอนก็โกรธจัด กัดฟันตะโกนชื่อเขา “ฟังจือหัน!”

 

 

ฟังจือหันมองเขา ในแววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “นี่นายกำลังทำอะไร”