ภาคที่ 2 บทที่ 220 สินเดิม

มู่หนานจือ

บิดาของเขาก็คิดมากเกินไปแล้วกระมัง?

คนที่แข็งแกร่ง กล้าหาญ และมีพลังอย่างหลี่เชียน ก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อออกตลอดเช่นกัน

บิดาของเขาไม่ได้กลัวหลานไม่รู้จักตนเอง ทว่าอยากเป็นพ่อสามีของท่านหญิงให้สมใจกระมัง?

หลี่เชียนที่รู้จักบิดาของตนเองเป็นอย่างดีถือโอกาสเปลี่ยนเรื่องทันที และเอ่ยกับเซี่ยหยวนซีว่า “ครั้งนี้ข้าเรียกเจ้ามา เพราะจะให้เจ้าช่วยเตรียมสินสอดให้ข้าหน่อย ข้ากลัวว่าพ่อบ้านหลี่คนเดียวจะทำไม่ทัน”

หลังจากหลี่ฉางชิงได้ข่าวเรื่องพระราชทานงานสมรส ก็ส่งหลี่ไท่ พ่อบ้านประจำตระกูลมารอฟังคำสั่งให้ไปทำงานนอกสถานที่จากหลี่เชียนทันที ส่วนทางกองบัญชาการซานซีก็เตรียมเรื่องการแต่งงานของหลี่เชียนด้วยตนเอง

หลี่ไท่กับเซี่ยหยวนซีมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน เวลานี้พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมเกาเซิงตรงถนนตะวันตกไม่ไกลจากกองบัญชาการต้าถง พกตั๋วเงินมาสองหมื่นตำลึง และกำลังรอให้หลี่เชียนไปตัดสินใจอยู่!

เซี่ยหยวนซีอดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้

พ่อบ้านหลี่เป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องมีเงินกับอำนาจแล้วจะเล่นตุกติก หลี่เชียนไม่ได้กลัวเขาทำไม่ทัน แต่กลัวว่าพ่อบ้านหลี่จะมีความรู้ไม่พอ และสะเพร่าจนเกิดความผิดพลาดขึ้นกระมัง?

คนที่แต่งงานกับคุณหนูตระกูลร่ำรวยและตระกูลขุนนางนั้นมีบ่อย ทว่าการที่คนธรรมดาแต่งงานกับราชวงศ์นั้นมีไม่บ่อยนัก

ต่อให้รากฐานแข็งแรงเหมือนตระกูลจินและตระกูลเซ่า ก็เกรงว่าจะไม่กล้าบอกว่าตนเองรู้มารยาทพวกนี้ดีเช่นกัน

เขาคิดว่าหลี่เชียนตอนที่ยังไม่ได้มาก็กลัวว่าจะไม่ได้ พอได้มาแล้วก็กลัวว่าจะสูญเสียไปอีก

เซี่ยหยวนซีเตือนหลี่เชียน “ข้าคิดว่าแทนที่เจ้าจะให้ข้าไปช่วยพ่อบ้านหลี่ สู้ขอให้ท่านกั๋วกงน้อยส่งคนมาช่วยพ่อบ้านหลี่ให้เจ้าสักคนดีกว่า”

หลี่เชียนเข้าใจทันที

ในเมื่อการแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องของตระกูลหลี่ แล้วทำไมจะไม่ใช่เรื่องของตระกูลเจียง

ตระกูลหลี่กลัวเสียมารยาท ตระกูลเจียงกลัวเสียหน้า

เขาเป็นคนที่พูดแล้วลงมือทำทันที จึงลากเซี่ยหยวนซีไปในทันใด “พวกเราไปหาท่านกั๋วกงน้อยกันตอนนี้เลย”

เจียงลวี่กำลังรู้สึกโกรธ

ไม่เพียงแต่ปล่อยหลี่เชียนไป เวลานี้บิดากับไทฮองไทเฮายังจะให้เจียงเซี่ยนออกเรือนที่ต้าถง และแต่งงานกับหลี่เชียนทันทีอีก

ต่อให้เป็นลูกสาวที่เกิดจากอนุภรรยาหรือเป็นลูกติด ก็ไม่มีเหตุผลที่จะแต่งงานอย่างลวกๆ แบบนี้เช่นกัน

เขาโยนสมุดบัญชีที่ท่านหูให้เขาดูลงบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวใหญ่ดังปัง และเอ่ยว่า “ท่านพ่อบอกว่ามอบทรัพย์สิน เหล่านี้ให้เป็นสินเดิมแก่เจียหนาน เจ้าฟังผิดหรือเปล่า?”

ท่านหูตกใจ

ในใจเขา เจียงลวี่ไม่ใช่คนขี้เหนียว ยิ่งกว่านั้นนี่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยของทรัพย์สินอันมากมายของตระกูลเจียง หากคุณชายรองเจียงเจิ้นอิงยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องแบ่งมากขนาดนี้เช่นกัน ท่านกั๋วกงเพียงแค่มอบส่วนที่คุณชายรองควรได้ให้ท่านหญิงเจียหนานเท่านั้นเอง

เขาคิดแล้วก็เอ่ยพลางครุ่นคิดว่า “คุณชายใหญ่ ท่านกั๋วกงบอกเช่นนี้ขอรับ และไม่เพียงเท่านี้ ท่านกั๋วกงยังเตรียมเงินส่วนตัวให้ท่านหญิงด้วย เรื่องนี้ฮูหยินก็ทราบเช่นกัน หากคุณชายใหญ่ไม่เชื่อ ก็สามารถไปถามฮูหยินได้…”

“ข้าไม่ได้ถามเจ้าเรื่องพวกนี้เสียหน่อย” เจียงลวี่เอ่ยอย่างไร้ความปรานี “ข้าหมายความว่า ในเมื่อท่านพ่อมอบทรัพย์สินส่วนนี้ให้เป็นสินเดิมแก่เจียหนานแล้ว เจ้าก็ควรเอาไปให้เจียหนานดูถึงจะถูก จะให้ข้าทำไม? เจ้าก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่า ข้าเบื่อที่จะดูของพวกนี้ที่สุดแล้ว”

ท่านหูรีบเอ่ยว่า “คุณชายใหญ่ ท่านกั๋วกงอยากให้ท่านคัดลอกเก็บไว้เป็นสำเนาชุดหนึ่ง สินเดิมที่ท่านกั๋วกงมอบให้ท่านหญิงนี้ถึงเวลานั้นจะบอกว่า หากท่านหญิงไม่มีทายาท พอท่านหญิงเสียชีวิตแล้ว จะต้องคืนสินเดิมนี้ให้แก่ตระกูลเจียงอีกครั้ง”

เจียงลวี่ได้ยินก็ยิ่งรำคาญ จึงเอ่ยว่า “ให้ไปแล้วก็ให้ไปแล้ว ยังจะคืนอะไรอีก? ยังกลัวว่าตระกูลเจียงของพวกเราขาดทรัพย์สินนี้ไปแล้วจะไม่มีข้าวกินอย่างนั้นหรือ? หากเจียหนานไม่มีลูก ต่อไปใครทำให้นางชอบ ก็แบ่งให้คนนั้นแล้วกัน ทำไมจะต้องคืนกลับมาด้วย? ทำให้เจียหนานอยากตกรางวัลก็ยังไม่มีเงิน จะทำให้คนหัวเราะเยาะเปล่าๆ”

“ไม่ใช่ขอรับ” ท่านหูจำเป็นต้องเอ่ยว่า “สินเดิมที่ท่านกั๋วกงมอบให้ท่านหญิงนี้ มีหลายอย่างเป็นทรัพย์สินของตระกูลเจียงที่เมืองชายแดนทางเหนือที่สำคัญทั้งเก้าแห่ง และมีประโยชน์กับตระกูลหลี่มาก ข้าคิดว่าท่านกั๋วกงต้องการให้ท่านหญิงใช้ทรัพย์สินนี้ควบคุมคนของตระกูลหลี่” เขาเอ่ยพลางเปิดสมุดบัญชีเล่มหนึ่งในนั้นและชี้ให้เจียงลวี่ดู “นี่คือคลังสินค้าแห่งหนึ่งระหว่างเหนือกับใต้ เพราะป้อมเต๋อเซิ่งที่ต้าถง ทั้งทำธุรกิจหนังสัตว์ ขายเกลือ และซื้อขายม้า ตระกูลเจียงยังมีคลังสินค้าแห่งหนึ่งที่เหมือนกับที่นี่อย่างกับแกะด้วย เพราะป้อมจางเจียโข่วที่เมืองเซวียน ท่านกั๋วกงจึงเก็บไว้ให้ท่าน ตามความคิดของท่านกั๋วกง ทุกคนในต้าถงล้วนเป็นคนของตระกูลเจียง มีพวกใต้เท้าฉีอยู่ ต่อให้ตระกูลหลี่คิดจะแอบเล่นตุกติกกับสินเดิมของท่านหญิง ก็ขึ้นอยู่กับว่าตระกูลเจียงจะยินยอมหรือไม่เช่นกัน แต่เมืองเซวียนไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนเพราะติดที่เฉาไทเฮา แล้วก็เพื่อปิดปากคน จึงยอมให้หม่าเซี่ยงหย่วนเป็นแม่ทัพเมืองเซวียน บวกกับมีหยางเหวินอิงที่ซื่อตรง ทั้งสองคนต่างเป็นพวกที่ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ ถึงชนกลุ่มน้อยทางเหนือจะมารุกราน เมืองเซวียนก็ไม่มีทางที่จะเกิดเหตุร้ายครั้งใหญ่อย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน นี่เป็นรากฐานของแคว้น ทว่าหม่าเซี่ยงหย่วนนั่นไม่เพียงแต่ไม่ค่อยยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ยังค่อนข้างใจแคบ และไม่ยอมอ่อนข้อให้ด้วย ไม่ใช่คนที่เข้ากับคนง่ายนัก ทรัพย์สินเหล่านี้ของตระกูลเจียงปิดบังคนในเมืองหลวงได้ แต่กลับปิดบังเจ้าพ่ออย่างหม่าเซี่ยงหย่วนได้ยากมาก”

“ดังนั้นท่านกั๋วกงจึงเก็บทรัพย์สินเหล่านั้นที่เมืองเซวียนไว้ให้ท่าน”

เจียงลวี่เข้าใจ

ป้อมเต๋อเซิ่งกับป้อมซินผิงของต้าถง ป้อมจางเจียโข่วของเมืองเซวียน และป้อมสุ่ยเฉวียนของซานซี ล้วนมีตลาดม้าที่เปิดโดยราชสำนัก

นี่เป็นรายได้ก้อนใหญ่

ตระกูลเจียงวางแผนและควบคุมต้าถงกับเมืองเซวียนมาหลายปี ทรัพย์สินเหล่านี้ล้วนผูกขาดโดยตระกูลเจียง ตอนหลังเพราะฉีเซิ่งซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อตระกูลเจียงมาโดยตลอด ตระกูลเจียงจึงมอบรายได้ของป้อมซินผิงให้ฉีเซิ่ง

ส่วนป้อมจางเจียโข่วของเมืองเซวียนยังคงอยู่ในมือของตระกูลเจียงเช่นเดิม หม่าเซี่ยงหย่วนอยากได้มากก็ทำไม่สำเร็จสักที

ทรัพย์สินนี้อยู่ในมือของตระกูลเจียง หม่าเซี่ยงหย่วนก็ไม่กล้าคิดร้าย ทว่าหากอยู่ในมือของเจียงเซี่ยน หม่าเซี่ยงหย่วนเห็นว่าเจียงเซี่ยนเป็นเพียงสตรี และตระกูลหลี่ก็ไม่มีรากฐาน ก็อาจจะไม่ได้ซื่อสัตย์ขนาดนั้น

เขาขานรับอย่างไม่สบอารมณ์ และเอ่ยว่า “ท่านพ่อยังคิดจะให้หม่าเซี่ยงหย่วนอยู่ที่กองบัญชาการเมืองเซวียนตลอดไปอีกอย่างนั้นหรือ?”

“นั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเลือกเหมือนกันนี่ขอรับ!” ท่านหูถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “เวลานี้คนที่สามารถทำสงครามได้น้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้หม่าเซี่ยงหยวนจะไม่ดี แต่ไม่ว่าอย่างไรก็สามารถนำทัพทำสงครามได้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็ยังไม่รู้ว่าจะรักษาเมืองเซวียนไว้ได้หรือไม่!”

“ให้ข้าไปเมืองเซวียนเสียเลยดีกว่า” เจียงลวี่คิดเรื่องพวกนี้แล้วก็รู้สึกว้าวุ่นใจ “เวลานี้เหล่าขุนนางในราชสำนักประจบประแจง และลอบวางแผนทำร้ายผู้อื่นกันอย่างร้ายกาจมากขึ้นทุกที ให้พวกเขานำทัพทำสงครามก็งงงันไปหมด ไม่ผลักแม่ทัพและทหารในมือออกไปรนหาที่ตาย ก็ฆ่าชาวบ้านทั่วไปและสวมรอยรับความดีความชอบในการรบ… หลายวันก่อนข้าได้ยินคนบอกว่า ขุนนางท้องถิ่นที่บ้านเกิดของตู้เซิ่งอนุญาตให้ตระกูลตู้สร้างศาลเจ้าให้ตู้เซิ่งได้! เจ้าว่าคนรับใช้ที่เคยถูกตอนอย่างเขากลับคิดแบบนี้เช่นกัน เขาไม่กลัวอายุขัยสั้นลงหรือ…”

ท่านหูไม่เอ่ยสิ่งใด

ตอนนั้นที่เฉาไทเฮากุมอำนาจทางการเมือง ก็มีคนเคยสร้างศาลเจ้าให้เฉิงเต๋อไห่ เพื่อประจบเฉิงเต๋อไห่เช่นกัน

ทว่าตอนหลังเพราะเฉาไทเฮาสูญเสียอำนาจ ศาลเจ้านั้นจึงถูกรื้อไปก็เท่านั้น

เวลานี้ใต้หล้าปรากฏความวุ่นวายขึ้นมาตรงหน้าอย่างต่อเนื่องแล้ว เพียงแต่คนที่เติบโตในสถานที่ที่ร่ำรวยอย่างซื่อจื่อยังไม่ได้คิดให้ลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้นเอง

ก็ไม่แปลกเช่นกันที่ท่านกั๋วกงยอมดองกับตระกูลหลี่แล้ว

ไม่ว่าอย่างไร ก็เป็นความจริงที่ตอนนั้นตระกูลหลี่โจมตีราชสำนักจนพ่ายแพ้ยับเยิน

และก็เป็นความจริงที่หลี่เชียนสามารถลักพาตัวท่านหญิงเจียหนานให้ตามเขาไปถึงซานซีได้

คนที่มีความสามารถ ขอเพียงมีโอกาส ก็ประสบความสำเร็จได้

เจียงลวี่กำลังโกรธ พอได้ยินเด็กรับใช้บอกว่าหลี่เชียนขอพบ ก็ตอบว่า “ไม่พบ” ทันทีโดยไม่ได้คิดด้วยซ้ำ

ท่านหูได้ยินก็ตกใจมาก เขารีบไอหลายครั้ง และเตือนว่า “คุณชายใหญ่ ถึงอย่างไรก็เป็นลูกเขยใหญ่ของพวกเรา พวกเราพักที่ตระกูลฉี ต่อให้ท่านไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องไว้หน้าลูกเขยใหญ่ของพวกเราบ้างเช่นกัน หากมีเรื่องอะไร สามีของน้องสาวกับพี่ชายของภรรยาอย่างพวกท่านค่อยหาโอกาสคุยกันให้ชัดเจนก็ได้”

เจียงลวี่หน้าแดงเล็กน้อย

รู้สึกว่าตนเองทำเกินไปหน่อย

เขาสั่งให้เด็กรับใช้ยกชาไปให้ในห้องโถง และชวนท่านหูไปพบหลี่เชียนด้วยกัน “ในเมื่อเป็นลูกเขยใหญ่ของพวกเรา ก็จะได้ฉวยโอกาสนี้แนะนำให้พวกท่านรู้จักด้วย”