บทที่ 11 ข้าจะให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 11 ข้าจะให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย
อวี๋เฟิงคว้าหมับท่อนไม้ไว้ทันที จับมาหักคามือ “เจ้าบังอาจนัก!”

ในเวลานี้เอง กู้โม่หานเข้าในคุกด้วยสีหน้าเดือดดาลหนักหนา กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันเน้นย้ำทีละคำว่า “หนาน ว่าน เยียน!”

“ท่านอ๋อง!” สาวใช้ที่เมื่อครู่ร้องปาวๆอยู่หน้าประตูคุกเหมือนเห็นวีรบุรุษช่วยชีวิตก็ไม่ปาน นางหันไปคารวะให้เขาอย่างตื่นเต้น “ท่านมาแล้ว!”

กู้โม่หานไม่สนใจนางสักนิด เขาซัดฝ่ามือใส่กลอนคุก และพุ่งเข้าไปปานลูกธนู เข้าไปบีบคอหนานหว่านเยียนอย่างไม่ยั้งมือเลย

“หนานหว่านเยียน เสด็จแม่ของข้าหรือกระทั่งโหรวเอ๋อร์ เจ้าล้วนเป็นผู้ทำร้าย! ตอนนี้เจ้ายังคิดจะให้ร้ายเสิ่นอี่ว์ ไม่อาจละเว้นโทษได้จริงๆ!”

ความโกรธของหนานหว่านเยียนไม่มีทางระบาย กู้โม่หานกลับมาหาเรื่องถึงที่เอง

“ข้าฆ่าคนตอนไหน เสิ่นอี่ว์เขาตายแล้วรึ?!” เธอพลันคว้าแขนเสื้อกู้โม่หานไว้ สายตาเย็นเยียบ “และ ในเมื่อเจ้าทนข้ามาได้หลายปีขนาดนี้ ก็ให้จดหมายหย่าร้างกับข้าซะ ต่อไปนี้ข้าหนานหว่านเยียนกับเจ้า และจวนอ๋องไม่เกี่ยวข้องใดๆกันอีก! เจ้าอยากจะแต่งงานกับใคร ก็ไม่มีใครขัดขวางอีก!”

“หนานหว่านเยียน บัดนี้เจ้ายังอยากจะใช้ละครชั่วร้ายใดๆมาเล่นงานข้าอีกรึ? จดหมายหย่าร้าง? น่าขันนัก! เจ้าหนานหว่านเยียน เจ้าใช้ทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้แต่งเข้าจวนอ๋อง วิธีการต่ำช้ายิ่งมีมากนับไม่ถ้วน!” กู้โม่หานยิ้มเย็นบอก “สตรีเช่นเจ้า จะยอมรับจดหมายหย่าร้างจากจวนอ๋องข้ารึ?”

พูดจบ เขาก็เหอี่ว์ยงหนานหว่านเยียนลงพื้นอย่างแรง แววตาไม่ได้ปิดบังความเกลียดชังที่มีต่อเธอเลย

เขาชักกระบี่ที่เอวออกมา ย่างสามขุมเข้าหาหนานหว่านเยียนที่มือกุมหน้าอกอยู่ “วันนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้หนี้ที่เจ้าติดค้างไว้!”

หนานหว่านเยียนเห็นอย่างนั้น ในใจรู้สึกสะท้านเยือก ถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

กู้โม่หานคิดจะฆ่าเธอจริงๆ เขาจะฆ่าเธอโดยไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีเลย!

เขาบีบเธอจนชิดมุมกำแพง จนไร้หนทางหนี

ปลายกระบี่ชี้มาที่คอหอยเธอ สีหน้าเขากราดเกรี้ยว “เจ้าอยากตายสบายๆ ข้าไม่ยอมให้เจ้าสมหวังหรอก ห้าปีมานี้ ความทุกข์ที่ข้าคิดถึงโหรวเอ๋อร์ ความทุกข์จากความเหงาที่เสด็จแม่หลับไม่ได้สติ ความทุกข์จากการที่เสิ่นอี่ว์พิษกำเริบใกล้ตาย สิ่งเหล่านี้เจ้าต้องได้ลิ้มรสมัน”

“ข้าจะให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!”

ระหว่างพูด เขาตวัดมืออย่างแรง เห็นว่าปลายกระบี่กำลังจะบาดผิวหนานหว่านเยียนอยู่แล้ว อวี๋เฟิงตกใจคว้าจับมือกู้โม่หานที่กุมกระบี่ไว้มั่น “ท่านอ๋อง! ไม่ได้เด็ดขาด!”

“เจ้าเป็นตัวอะไร? กล้ามาขวางข้า!” กู้โม่หานสะบัดเขาอย่างแรง จนทำอวี๋เฟิงล้มลงกับพื้น ในเวลาเดียวกัน กระบี่ในมือก็ขยับแทงอย่างไม่รีรอ และแทงเข้าไปที่หัวไหล่ของหนานหว่านเยียนอย่างหาทางหลบไม่ได้!

หนานหว่านเยียนแค่นเสียงหนัก ชุดสีอ่อนไม่นานก็ย้อมไปด้วยเลือดสดที่เด่นสะดุดตานัก

เธอกัดฟันแน่น มือกุมบาดแผลไว้ ดวงตาคู่นั้นที่เดิมส่องประกายมีชีวิตชีวาพลันเต็มไปด้วยความอัปยศและเคียดแค้น

“กู้โม่หาน! เจ้าว่าข้าเป็นสตรีจิตใจอสรพิษต่ำช้า ข้าว่าเจ้าต่างหากที่เป็นท่านอ๋องสารเลวที่ต่ำช้าเลวทรามเสียเอง! เจ้าแน่จริงอย่ามาขอร้องข้านะ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้เจ้าเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้!”

ท่านอ๋องสารเลว?!

อวี๋เฟิงตกใจอึ้งกิมกี่ไปเลย พระชายา นางรู้หรือไม่ว่านางด่าใคร?!

คนที่นางด่าคือท่านอ๋องเทพสงครามที่ได้รับความเลื่อมใสจากผู้คนมากที่สุดและมีชื่อเสียงนะ!

หนานหว่านเยียนทำให้กู้โม่หานเดือดจัด เขายิ้มเย็นบอก “ข้าหรือจะเสียใจ? เจ้าฝันไปเถอะ!”

เขาพลันคว้าเข็มขัดของอวี๋เฟิงขึ้นมา และสะบัดไปทางตัวหนานหว่านเยียนเต็มๆ!

เข็มขัดนี้เนื้อผ้าหยาบ อีกทั้งยังหนา กู้โม่หานใช้แรงเต็มที่ พริบตาเดียวก็ฟาดเข้าที่ร่างหนานหว่านเยียนเต็มแรง

ไม่นาน เสื้อผ้าของหญิงสาวก็ปรากฏรอยเลือดลึกรอยแล้วรอยเล่า…

หนานหว่านเยียนเจ็บจนสีหน้าซีดเผือด แต่กู้โม่หานแรงมากนัก ขนาดยังไม่ได้ใช้วรยุทธ์ เธอก็ไม่ใช่รคู่ต่อสู้ของเขาแล้ว!

สาวใช้ยืนมองทุกอย่างอยู่นอกคุกด้วยความสะใจ และเดินออกไปอย่างพอใจ

ชายาไร้อำนาจก็คือชายาไร้อำนาจ ชีวิตไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้าอีก!

อวี๋เฟิงเห็นอย่างนั้นก็เบิกตาโพลง “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องไม่ได้เด็ดขาด!”

เขาไม่สนใจสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยของตน พุ่งเข้าไปขวางกู้โม่หานที่กำลังบ้าคลั่ง “ท่านอ๋อง! อย่าตีอีกเลย! พระชายาเป็นคนช่วยองครักษ์เสิ่นจริงๆ!”

พอได้ยินอย่างนั้น กู้โม่หานยิ่งยิ้มเย็นไม่หยุด

“นางฆ่าคนยังไม่ทัน มีหรือจะช่วยคน?! หากนางช่วยคนจริง ข้าจะเด็ดหัวตนเองลงมาเลย!”

ยังไม่รอให้อวี๋เฟิงเอ่ยปาก ก็มีเสียงร้องอย่างลุกลนเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านนอกคุก “ท่านอ๋อง! องครักษ์เสิ่นฟื้นแล้ว! เขาบอกว่าพระชายาช่วยเขาไว้…”