บทที่ 95 จู่ๆเด็กคนนี้ก็เหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคน

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

“……”
ผ่านไปสองวินาทีได้ คิวคิวที่อยู่ด้านหลัง จึงค่อยๆเก็บขาเล็กๆกลับมา นั่งท่าแบบตาเฉิ่มชินจัง
ทำไมตาเฉิ่มนั่นนั่งแบบนี้เสมอ แน่นอน นั่นเพราะว่าแด๊ดดี้นิสัยไม่ดีคนนี้สอน
คิวคิวถอนหายใจ
ที่ยังดีคือ หลังจากเขาปรับท่านั่งของตัวเองให้ตรง แด๊ดดี้ก็ไม่พูดอะไรอีก ในที่สุดสองพ่อลูกก็กลับถึงเรืองรอง
“คุณชายเล็กกลับมาแล้ว หิวไหมคะ?น้าภาทำขนมที่คุณชายเล็กชอบกินด้วย เดี๋ยวไปเอาให้คุณชายเล็กดีไหมคะ?”
“ครับ ขอบคุณครับน้าภา”
คิวคิวตกลงด้วยรอยยิ้มตาหยี ใบหน้าเล็กๆที่สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์น้อยๆนั้น พี่ภาเห็นก็นิ่งไป
คุณชายเล็กยิ้มให้เธอเหรอ?
พระเจ้า คุณชายเล็กยิ้มแล้ว!ที่แท้คุณชายเล็กก็ยิ้มเป็น หล่อมากเลย!
พี่ภาเซอร์ไพรส์มาก วิ่งไปหยิบขนมที่ครัวทันที คิวคิวเห็นเธอไป ก็สะพายกระเป๋าเรียนใบเล็กเข้าไปในคฤหาสน์ เตรียมกลับไปที่ห้องชั้นสอง
เขาต้องไปโทรหาชินจัง เมื่อกี๊ตอนอยู่ในรถ เขาโทรแล้ว เขากลัวว่าแด๊ดดี้จะได้ยิน เลยตัดสายไป
“ชินจัง ลูกไปไหน?ไม่เปลี่ยนชุด?”
“อ๋า?”
คิวคิวที่กำลังปีนขึ้นไป ได้แต่หยุดลงอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยราวกับพระจันทร์เสี้ยวจ้องมองไปที่แด๊ดดี้
เปลี่ยนชุด?
เปลี่ยนชุดทำไมล่ะ?
คิวคิวไม่เข้าใจเลย แด๊ดดี้พูดหมายความว่าอะไร
แต่ในความเป็นจริง ถ้าเขารู้ว่าชินจังอยู่ในบ้านหลังนี้ เพราะแด๊ดดี้ที่เข้มงวดเรื่องความสะอาดอย่างมาก จนทำให้เขาเป็นคนที่เข้มงวดต่อสุขอนามัยส่วนตัวของตัวเองตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาก็น่าจะเข้าใจ
“ยังจะอ๋าอะไรอีก?เมื่อก่อนลูกกลับห้องตัวเองก็ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองที่ห้องฆ่าเชื้อไม่ใช่เหรอ?วันนี้เป็นอะไรไป?แม้แต่นี่ก็ลืมแล้วเหรอ”
แสนรักก็รู้สึกแปลก วันนี้ลูกชายคนนี้เป็นอะไรไป?ทำไมผิดปกติมากขนาดนี้?
คิวคิวกลัวทันที!
ห้องฆ่าเชื้อ?!!
งั้นตาเฉิ่มก็มีห้องฆ่าเชื้อในบ้านอีก?
คิวคิวยอมแพ้จริงๆ ด้วยความที่หมดหนทาง เขาได้แต่ก้าวเท้าเล็กๆลงมาจากบันไดอีกครั้ง:“ขอโทษครับแด๊ดดี้ ผมลืมไป ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
จากนั้นเด็กคนนี้ก็แบกกระเป๋าไปเล็กไปที่ห้องฆ่าเชื้ออีกครั้ง
แสนรัก:“……”
บังเอิญว่าตอนนี้ พี่ภาถือขนมเข้ามา เห็นฉากนี้ เธอก็เข้ามา:“คุณผู้ชาย ทำไมเหรอคะ?”
แสนรักขมวดคิ้ว อยากจะพูดอะไร แต่สุดท้าย หลังจากเขามองร่างเล็กๆที่ไปแล้ว ก็ไม่พูดอะไร จากนั้นขึ้นไปชั้นบน
สิบนาทีกว่าถัดมา ในที่สุดคิวคิวก็กลับมาที่ห้องชั้นสอง หยิบนาฬิกาโทรศัพท์โทรหาชินจัง
“ฮัลโหล ชินจัง?”
“พี่คะ พี่คะ แย่แล้ว หม่ามี๊จะพาพวกเรากลับเมืองเคลียร์พี่ชินจังไม่มีคนสนแล้ว”
คิดไม่ถึงว่า จู่ๆคนที่รับสายจะเป็นรินจังลูกรัก หลังจากเธอได้ยินเสียงของพี่ชายในสาย ก็พูดเสียงนุ่มนิ่มบอกคิวคิวเรื่องนี้ทันที
หม่ามี๊จะพาพวกเขาไป?ทำไม?
คิวคิวก็ร้อนใจทันที จากนั้น เขารีบถาม:“ทำไม?ทำไมหม่ามี๊จะพาพวกเรากลับไป?”
“เพราะว่าเธอเห็นพี่ชินจังเป็นพี่ไง หลังจากพี่ชินจังไปโรงพยาบาล ถูกศาสตราจารย์คนหนึ่งลากไปตรวจ จากนั้นพบว่าพี่ชินจังป่วยหลายโรค หม่ามี๊ก็เสียใจ คิดว่าเป็นพี่ไง ดังนั้น เธอจะพาพวกเรากลับเมืองเคลียร์รักษาอาการป่วยพี่!”
อย่าคิดว่าเด็กสาวคนนี้ดูน่ารักบ้องแบ๊ว พออธิบายเรื่องราวขึ้นมา ก็คิดไม่ถึงว่าจะชัดเจนมากขนาดนี้
คิวคิวฟังจบ ใบหน้าเล็กๆนั้นก็เปลี่ยนไปทันที!
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?ไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ พี่ต้องรีบกลับไป”
“ใช่ๆ หนูก็คิดว่าพี่ต้องรีบมา พี่รู้ไหม พี่ชินจังขังตัวเองไว้ในห้องนานมากแล้ว หม่ามี๊เรียกเขาก็ไม่ออกมา”
รินจังลูกรักก็มองประตูห้องที่ยังปิดอยู่ พร้อมกับเห็นด้วยกับความเห็นของพี่ชายไปด้วย
เวลานี้ ที่จริงแล้ว นอกจากจะกลับไปคิวคิว ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว
ดังนั้นคิวคิวจึงกำชับน้องสาวในสาย ให้เธอปลอบชินจังก่อน จากนั้นเขาจะหาโอกาสไปทันที อธิบายกับหม่ามี๊เรื่องนี้
ดูเหมือนว่า เรื่องราวจะผิดไม่อยู่แล้ว
หลังจากคิวคิววางสาย จู่ๆในใจก็หงุดหงิดอย่างมาก
กลับคิดไม่ถึงว่า เวลานี้พอดี แสนรักขึ้นมาข้างบน พอเขาเห็นประตูห้องนี้ปิด พอเดินไปถึงหน้าประตูก็เหยียดนิ้วที่เรียวยาวไปจับ:“ชินจัง ลูกทำอะไรอยู่?”
“อ๋า?แด๊ดดี้ ไม่ได้ทำอะไร ผมเล่นอยู่ในห้อง”
คิวคิวได้ยินเสียงของแด๊ดดี้ รีบเก็บอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นวิ่งมาเปิดประตู
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ขึ้นมาทำไม?แด๊ดดี้มาหาผมมีอะไรไหม?”
“……”
มองเห็นใบหน้าเล็กๆที่ยิ้มตาหยีแบบนี้ แสนรักก็รู้สึกแปลกๆเสมอ
ไอ้เด็กนี่ เขารู้จักยิ้มแบบนี้เมื่อไหร่กัน?เมื่อก่อนมักจะเย็นชาไม่ใช่เหรอไง?เพิ่งจะห้าขวบ ก็ไม่ชอบพูดไม่ชอบยิ้ม แม้แต่ท่าทางแสดงออกที่พอจะสดใสบ้าง ก็น้อยมากที่จะเห็นใบหน้านี้ของเขา
ตอนนี้เป็นอะไรขึ้นมา?
แสนรักจ้องใบหน้าเล็กๆที่สดใสนี้อยู่สักพัก แล้วจึงขมวดคิ้วพูดไปว่า:“อือ แด๊ดดี้จะมาบอกลูกว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป คุณน้าหมอคนนั้นจะไม่มาแล้ว”