

แด๊กซ์ดูตื่นตระหนกในขณะที่กำลังอุ้มแนนซี่ “มีใครเป็นหมอไหม? มีไหม?”

แนนซี่เป็นลมในอ้อมแขนเขา ดวงตาของเธอปิดสนิท

ทุกคนที่กำลีงพูดคุยกันรีบมาที่ทั้งสองแล้วตะลึง

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเธอถึงเป็นลม?

ทุกคนหวังจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างเส้นสายกับตระกูลแซนเดอร์ส แต่ไม่มีใครเลยที่เป็นหมอ!

ในตอนนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมา เธอคือ เฮเลน ดาร์วิน หลานสาวของตระกูลดาร์วิน เธอเป็นเด็กเรียนและปัจจุบันก็กำลังเรียนอยู่ในคณะแพทย์ศาสตร์ปีที่สอง

แด๊กซ์รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นเธอ เฮเลนตรวจชีพจรของแนนซี่ในสามวินาที เธอส่ายหัวแล้วกล่าว “มีบางอย่างไม่ปกติ ชีพจรของเธออ่อนมาก เธอเหลือเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง”

“คุณดาร์วิน คุณทำให้ผมกลัว คุณช่วยเธอได้ไหม?” ร่างของแด๊กซ์สั่นเทา เขาไม่เคยวิตกขนาดนี้มาก่อน เขากล้าแม้กระทั่งสู้กับคนนับร้อยมากแล้ว

“ด้วยความสามารถของฉันตอนนี้ เกรงว่าคงไม่ได้” เฮเลนถอนหายใจ

“อะไรกัน?” แด๊กซ์ตะลึง

เฮเลนเป็นนักเรียนแพทย์ระดับท๊อปในคลาสของเธอ ทักษะการแพทย์และความรู้ของเธอยอดยเยี่ยมเท่ากับหมอที่มีประสบการณ์ในโรงพยาบาลใหญ่ แด๊กซ์นั้นทั้งกังวลทั้งโมโหเมื่อได้ยินคำพูดของเฮเลน เขาจ้องเคนท์ “เคนท์ ตระกูลฮูห์ของนายจัดการทัศนศึกษา นายไม่ได้จัดรถพยาบาลไว้รอเหรอ?”

แด๊กซ์โมโหมาก เขาดูน่ากลัวไม่น้อย “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเมียฉัน ทั้งตระกูลฮูห์ของนายจะได้เจอปัญหาใหญ่แน่!”

เสียงตะโกนของเขาดังเหมือนฟ้าผ่า เคนท์ตะลึง ตัวของเขาเริ่มสั่น เขากล่าวอย่างตะกุกตะกัก ‘พ-พ-พี่ชายแด๊กซ์… ผมจะเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้ครับ”

แซนเดอร์สเป็นหนึ่งในตระกูลที่ควรไปทำให้พวกเขาหงุดหงิด!

เมแกนเองก็เริ่มกังวล แม้ว่าเธอจะอารมณ์เสียกับเคนท์ที่สร้างเหตุการณ์ฉลามปลอม ๆ เมื่อกลางวัน แต่เธอเริ่มเป็นห่วงเมื่อเห็นเคนท์ตัวสั่นอย่างแรง

เมื่อมองความมืดด้านนอกถ้ำ เคนท์ดูลำบากใจ

จุดมุ่งหมายของการทัศนศึกษานั้นคือการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ทุกคนควรได้ทานปลาปิ้งและใช้เวลาช่วงกลางคืนในถ้ำ ไม่มีรถที่เหลือไว้เลย ไม่ต้องพูดถึงหมอ นอกจากนี้ พื้นที่ที่พวกเขาอยู่ก็สันโดษมาก ถึงแม้พวกเขาจะสามารถโทรหารถพยาบาลเพื่อพาไปโรงพยาบาลได้ พวกเขาก็จะมาถึงในวันพรุ่งนี้เช้า

“ไม่ต้องเสียเวลาโทรหารถพยาบาล ฉันกลัวว่าก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึงที่นี่ พิษก็คงแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอแล้ว” แดร์ริลกล่าวอย่างสุขุม “แดร์ริล คุณช่วยภรรยาผมได้ไหม?” แด๊กซ์ถามอย่างกระวนกระวายเมื่อได้ยินเสียงของแดร์ริล

“ไม่ ไม่ เขาช่วยเธอไม่ได้…” ลิลี่นั้นกังวลและดึงไหล่ของแดร์ริลแล้วกล่าว “แดร์ริล หุบปาก”

ตลอดสามปีที่แต่งงาน เธอไม่เคยเห็นเขาอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการแพทย์เลย เขาจะไปช่วยชีวิตใครได้ยังไง?

นี่มันเป็นสถานการณ์ความเป็นความตาย

แดร์ริลจับมือลิลี่อย่างนุ่ในวลแล้วบอกให้เธออย่ากังวล จากนั้นเขาก็ยิ้มให้แด๊กซ์ “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ภรรยาของนายได้กินผลไม้ป่าเข้าไปรึเปล่า?”

แนนซี่นอนอย่างไร้การตอบสนองบนพื้นพร้อมกับทุกคนที่มองร่างของเธอ มีเพียงแดร์ริลที่สังเกตเห็นของเหลวสีขาวบนริมฝีปากสีแดงของเธอ
แด๊กซ์พยักหน้า “ใช่ เธอกินลูกพลัมที่ผมหยิบให้เธอจากต้นไม้ข้าง ๆ!”

ลูกพลัม? แดร์ริลหัวเราะ เธอต้องเข้าใจผิดไปกินผลโลหิตนักพรตแน่ มันเป็นส่วนผสมในการทำโอสถ แดร์ริลไม่คาดคิดว่าเขาจะพบมันในทริปนี้

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการช่วยชีวิตแนนซี่ก่อน เขาสามารถไปเก็บผลโลหิตนักพรตคราวหลังได้

ด้วยความคิดในหัว แดร์ริลสั่งแด๊กซ์ “โปรดพาภรรยาของนายมานั่งบนตักฉัน”

จากที่คัมภีร์โอสถแห้งอนันต์ได้กล่าวไว้ มันไม่ได้ยากมากนักในการนำพิษของผลโลหิตนักพรตออก เพียงแค่กินโอสถไตรสุริยะเข้าไป แล้วพิษก็จะถูกชะล้างหมด

มันไม่ได้ยากในการปรุงโอสถไตรสุริยะ เพราะมันเป็นโอสถระดับเริ่มต้น ส่วนผสมที่ต้องใช้มีน้ำ, รากไม้, และหนอน

อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการปรุงโอสถขึ้นมา และแดร์ริลต้องทำการสะกัดสนามพลังในร่างกายของแนนซี่เพื่อป้องกันพิษแพร่กระจายออกไปมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงต้องให้แนนซี่นั่งบนตักของเขา

ทุกคนรอบ ๆ ถึงกับโมโหเมื่อได้ยินแดร์ริลกล่าว ‘หมอนี่มันจะทำบ้าอะไร? เขาคิดว่าจะทำอะไรก็ได้เพราะฆ่าฉลามรึไง? กล้าดียังไงไปแทรกแซงปัญหาของตระกูลแซนเดอร์สแล้วบอกให้แนนซี่ไปนั่งบนตักเขา? เขาต้องบ้าแน่!’

จัสตินตะโกน “แดร์ริล นี่แกเปล่าเปลี่ยวจากการเป็นลูกเขยบ้านคนอื่นจนขาดผู้หญิงขนาดนี้เลยเหรอ? เมียแกไม่ยอมให้แกแตะเธอ แกเลยมาฉวยโอกาสจากภรรยาของแด๊กซ์งั้นเหรอ?”