ตอนที่ 188 เย่เฉินอยากจะเจอสวี่ฉู่หมิง

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ส่วนสวี่ฉู่หมิงคนนี้ เย่เฉินยังไม่ทันได้สืบเรื่องเขา

ทว่าคนผู้นี้มีอิทธิพลอย่างมากในตอนสิบปีก่อน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเสินเฉิง เขาแน่ใจว่าคนผู้นี้จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมาก

ส่วนผู้หญิงในประเทศนี้นั้นหลงใหลในผู้ชายที่ร่ำรวยและมีศักยภาพพร้อมแบบนี้อย่างมาก

เย่เฉินกล่าว “สิบปีก่อน ตอนที่บ้านคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากที่สุด เขาก็เป็นฝ่ายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคุณ ตอนนี้เขาก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในขณะที่คุณอับจนหนทาง คุณจะต้องรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตคุณแน่ๆ ใช่ไหม?”

คำพูดนี้ของเย่เฉินเจือกระแสหึงหวงอยู่ไม่น้อย แต่ว่าเขาก็ไม่มีสิทธิ์โกรธฉินหงเหยียน

ฉินหงเหยียนพอจะฟังออกว่าเย่เฉินหึงหวงตนเองขึ้นมาจึงกล่าวด้วยเสียงอ่อนหวาน

“ฉันขอบคุณเขามากจริงๆ ในระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมานี้ เขาช่วยฉันเอาไว้ได้มาก ถ้าหากไม่ได้เขา ตอนนี้ฉันอาจจะแต่งงานกับใครก็ไม่รู้และคงจะมีเงินเดือนไม่กี่พันหยวนต่อ นั่งรถไฟฟ้าเบียดเสียดกับคนอื่นบนรถเมล์ กลับบ้านมาซักผ้าเลี้ยงลูก โดยที่ไม่มีโอกาสได้รู้จักคุณเลย ถึงแม้ว่าฉันจะเคยอยู่กับเขามาสามปี แต่ว่าตอนนี้ฉันเห็นเขาก็เหมือนเห็นคนแปลกหน้า ไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้ว”

เย่เฉินยิ้มพลางกล่าวถาม “จริงเหรอ?”

ฉินหงเหยียนกล่าวพลางยิ้ม “แน่นอนสิ เขาแก่แบบนี้ ผมก็ขาวโพลนไปหมดแล้ว อีกสองปีก็คงหัวล้านแล้ว ไม่ได้ถึงหนึ่งในร้อยของที่รักของฉันด้วยซ้ำ ฉันมีแฟนที่หล่อขนาดนี้ ทำไมจะต้องไปชอบคนอื่นด้วย! เด็กโง่ คุณอย่าหึงเลยได้ไหมคะ?”

ฉินหงเหยียนปลอบเย่เฉินเหมือนเด็กผู้หญิง เพื่อไม่ให้เขาต้องเสียอารมณ์

ที่จริงเขาหายโกรธหญิงสาวนานแล้ว สิ่งที่เขาจินตนาการไปเองนั้นหนักหนากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมากทีเดียว

ตัวเย่เฉินเองก็มั่นใจอย่างมากว่า รูปร่างหน้าตา อายุหรือความสามารถของชายคนนั้น น่าจะไม่สามารถเทียบเคียงเขาได้เลย!

เกรงว่าต่อให้มีเงินมากกว่าเขา แต่เย่เฉินก็ชนะเขาได้!

จะเศรษฐีลำดับหนึ่งของเมืองเสินเฉิง แต่เมื่อเทียบกับตระกูลเย่แล้วก็ไม่คู่ควรให้ต้องเหลือบแล!

แน่นอนว่าสวี่ฉู่หมิงเองก็โลดแล่นในวงการมากนาน ทั้งความรู้ และแผนการต่างๆ รวมไปถึงความสามารถในการเข้าสังคมต่างๆ ของเขาล้วนแต่เหนือชั้นกว่าเย่เฉินมากนัก

ครั้งนี้สวี่ฉู่หมิงไม่เพียงแต่ช่วยฉินหงเหยียนแต่ยังช่วยเย่เฉินไปด้วยในเวลาเดียวกัน เขาช่วยคลี่คลายปัญหาระหว่างหลิ่วอวี่เจ๋อและเย่เฉิน

อีกทั้งเขายังไม่เรียกร้องให้ฉินหงเหยียนนอนกับตนเองเพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือจากเขา ถือเป็นการให้ความช่วยเหลือโดยไม่หวังสิงใดตอบแทน

เย่เฉินรู้สึกว่าสวี่ฉู่หมิงคนนี้ ถ้าไม่ใช่คนดีเลิศประเสริฐ ก็คงจะเป็นคนเจ้าแผนการ และวางแผนได้อย่างรัดกุมมากทีเดียว

เขาอยากจะเจอคนผู้นี้!

เย่เฉินกล่าว “หงเหยียน แฟนเก่าคุณคนนั้นช่วยผมเอาไว้มากเลย ผมอยากเลี้ยงข้าวเขา เพื่อขอบคุณเขา คุณคิดว่ายังไง?”

ฉินหงเหยียนประหลาดใจ “คุณอยากเจอเขา?”

เย่เฉินหัวเราะน้อยๆ แล้วพยักหน้า

ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ปกติจะไม่ยอมให้แฟนเก่ากับแฟนใหม่เจอหน้ากัน เหตุเพราะกลัวจะทำให้แฟนคนปัจจุบันหึงหวง

หน้าที่การงานของสวี่ฉู่หมิงเองในตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เย่เฉินเป็นแค่คนส่งของเท่านั้น ฉินหงเหยียนเกรงว่าในตอนที่กินข้าวด้วยกันจริงๆ สวี่ฉู่หมิงจะรังแกเย่เฉิน

แต่เย่เฉินเป็นฝ่ายเอ่ยปากแบบนี้ หล่อนเองก็ไม่อยากจะปฏิเสธ

ถ้าหากหล่อนปฏิเสธ เย่เฉินคงจะรู้สึกว่าตนเองกับสวี่ฉู่หมิงมีอะไรในกอไผ่ ไม่ได้บริสุทธิ์ใจเหมือนที่ตนเองเคยบอกเขา

ไม่อย่างนั้นทำไมถึงไม่ยอมให้พวกเขาได้พบหน้ากัน?

“ได้ค่ะ” ฉินหงเหยียนรับคำ

“ดูทีวีกันสักเดี๋ยวเถอะ กินซุปแก้เมาที่คุณทำแล้ว ฉันตาสว่างเลย” ฉินหงเหยียนกล่าว

“ก็ได้”

ฉินหงเหยียนยิ้มพลางชันตัวลุกขึ้นแล้วเปิดทีวีดู จากนั้นก็กลับไปนั่งที่โซฟาแล้วเย่เฉินก็นั่งดูทีวีอยู่ข้างๆ ฉินหงเหยียน

แล้วบังเอิญว่าในช่องเทียนไห่เว่ยซื่อกำลังฉายซีรี่ส์เรื่อง ‘THE BACHELOR’ ตอนที่ 17 พอดี ฉินหงเหยียนชอบสวีเจิ้งนักแสดงนำชายของเรื่อง ดังนั้นถึงได้นั่งดู

ทั้งสองคนไม่เคยดูซีรี่ส์เรื่องนี้มาก่อน ดูไปได้สักพัก พวกเขาก็ดูอย่างเพลิดเพลิน

เพราะฉากระหว่างนักแสดงนำชายและหญิงในซีรี่ส์นั้นคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของฉินหงเหยียนและเย่เฉินในตอนนี้

ตัวละครที่สวีเจิ้งแสดงนั้นไม่มีเงิน ส่วนตัวนางเอกที่เชอเซียวแสดงนั้นก็เป็นผู้บริหารบริษัทเหมือนฉินหงเหยียน เป็นผู้บริหารที่มีใบหน้าสะสวยและมีฐานะร่ำรวย

หนำซ้ำเจ้าหล่อนก็มีประวัติเหมือนฉินหงเหยียน ที่ก่อนนี้เคยเป็นคนรักของเศรษฐีสูงวัยคนหนึ่ง

บังเอิญตอนนี้เรื่องกำลังดำเนินมาถึงตอนที่ชายสูงวัยที่ร่ำรวยคนนั้น กลับมาตามตอแยนางเอก แถมยังเป็นฝ่ายขอนัดพระเอกกินข้าวด้วย

ในฉากตอนที่ทั้งสองคนกินข้าวกันนั้น ฉินหงเหยียนตึงเครียดจนนั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าจะขยับตัวในอ้อมกอดเย่เฉิน เหมือนทั้งสองคนในทีวีก็คือเย่เฉินและสวี่ฉู่หมิง!

ในทีวีชายสูงวัยที่ร่ำรวยคุยกับพระเอกว่า “นายไม่คู่ควรกับสวี่รั่วอวิ๋น (ชื่อนางเอก) หล่อนอยู่กับนายไปก็เพียงเพราะความเหงาเท่านั้นเอง ฉันเป็นคนสัญชาติอเมริกา มีบริษัทเป็นของตัวเอง นายจะเอาอะไรมาแข่งกับฉัน?”

ร้านอาหารที่พวกเขาเลือกรับประทานก็คืออาหารตะวันตกที่หรูหรา แต่พระเอกสั่งอาหารไม่เป็น และก็ไม่ได้ดื่มไวน์ แต่ดื่มเหล้าขาวหงซิงเอ้อร์กัวโถว

เขาเจียมเนื้อเจียมตัว ถึงแม้ว่าปากเขาจะโวยวายบอกจะต่อสู้กับคนมีเงิน แต่กลับมอมเหล้าตนเองไม่หยุด

สุดท้ายเขาดื่มเหล้าขาวหงซิงเอ้อร์กัวโถวคนเดียวจนหมดขวด โยนเงินที่คิดว่าน่าภาคภูมิใจนักหนาลงบนโต๊ะแล้วบอก‘ไม่ต้องทอน’ จากนั้นก็เดินออกไป

เพราะดื่มมากเกินไป เขาจึงอาเจียนออกมาอย่างอดไม่ได้

แล้วเศรษฐีสูงวัยก็ขับเบนซ์ S65 จากไปอย่างลำพองใจ

ตอนที่เห็นฉากนี้ ฉินหงเหยียนเองก็ปวดใจขึ้นมา!

เนื้อหาของซีรี่ส์เรื่องนี้ เหมือนกับเรื่องของหล่อน เย่เฉินและสวี่ฉู่หมิงเกินไปแล้ว!

ฉินหงเหียนเองก็เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเหมือนกัน สวี่ฉู่หมิงเองก็เป็นเหมือนชายสูงวัยในทีวี เป็นคนมีเงินที่มีหน้าที่การงานที่ดีและเคยเลี้ยงดูนางเอกมาก่อน กระทั่งรุ่นรถของพวกเขายังเหมือนกันเลย!

หล่อนกลัวว่าพรุ่งนี้ตอนทั้งสองคนกินข้าวกัน เย่เฉินจะเป็นเหมือนพระเอกที่รับบทโดยสวีเจิ้ง กลัวว่าเขาจะทนรับการเหน็บแนมจากสวี่ฉู่หมิงไม่ไหว แล้วจะมอมเหล้าตัวเองไม่หยุด แล้วตัวเขาเองจะรู้สึกไม่ดี!

“เย่เฉินไม่งั้นพวกคุณอย่ากินข้าวด้วยกันเลย”

ทันใดนั้นเองจู่ๆ ฉินหงเหยียนก็ปิดทีวี แล้วหันมองเย่เฉิน

เย่เฉินหัวเราะน้อยๆ “ทำไมล่ะ คุณกลัวว่าผมจะเป็นเหมือนพระเอกในซีรี่ส์หรือยังไง ที่แค่พอเจอแฟนเก่าคุณแล้วจะรู้สึกต่ำต้อย แล้วจะอวดเก่ง ทนรับแรงกดดันไม่ได้เหรอ?”

ฉินหงเหยียนไม่ตอบ แต่คำตอบนั้นย่อมใช่อยู่แล้ว

เย่เฉินในตอนนี้ไร้ซึ่งทรัพย์สมบัติใดๆ แต่สวี่ฉู่หมิงเองเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวย แถมคนรักของหล่อนคนนี้เป็นคนที่รักศักดิ์ศรีอย่างมาก พอเขาพบกับสวี่ฉู่หมิงจะต้องรู้สึกต่ำต้อยอย่างมาก!

เย่เฉินกล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณอย่าลืมสิ เรื่องที่ผมโดนขับออกจากตระกูลไม่ใช่ว่าทุกคนจะรู้เสียหน่อย ผมยังสามารถวางตัวเป็นคุณชายยตระกูลเย่ตอนอยู่ต่อหน้าแฟนเก่าคุณได้อยู่นะ ถ้าเขาอยากจะโอ้อวดเรื่องเงินทองตอนอยู่ต่อหน้าผม งั้นเขาก็จะโดนผมด่ากลับเจ็บแสบกว่าเดิม”

ฉินหงเหยียนระบายยิ้ม ทันใดนั้นเองก็หวนคิดถึงภาพในอดีตที่เขาวีดีโอคอลคุยกับเจ้าของ LV จนทำให้พวกเหวินเชี่ยนเชี่ยนตกใจมาแล้ว

ฉินหงเหยียนพยักหน้ารับ “อืม พอถึงตอนนั้นคุณก็แค่โทรหาเจ้าของ LV สักรอบ เพื่อให้เขารู้ว่าแฟนของฉันเก่งมาก ในวงสังคมของคุณล้วนแต่เป็นคนที่กระทั่งเขายังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำไป!”

ตอนนี้ฉินหงเหยียนสามารถปล่อยให้พวกเขาทั้งสองคนพบกันได้อย่างสบายใจแล้ว

สวี่ฉู่หมิงดูถูกเย่เฉินมาโดยตลอด เพราะคิดว่าเขาเป็นคนส่งพัสดุเท่านั้น

ฉินหงเหยียนเองก็อยากจะให้สวี่ฉู่หมิงได้รู้ ว่าแฟนของตนเองไม่ได้เนื้อตัวเปลือยเปล่า เขาเป็นคนที่เก่งมาก!

คุณตัดใจล้มเลิกความคิดที่อยากจะขอแต่งงานกับฉันในอีกครึ่งปีหน้าได้แล้ว!