บทที่ 21 ดินแดนลับที่สามสิ้นสุด ความแข็งแกร่งเพิ่มพูน

จอมบงการเทพยุทธ์

สองเผ่าพันธุ์โบราณที่ทรงอำนาจต่างถูกสังหารสิ้นภายในชั่วอึดใจ และไม่มีแม้แต่ร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ด้วยซ้ำ

ความเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจเช่นนี้ราวกับหลุดมาจากตำนาน

นอกวิหารสำริดโบราณ ภายในเมืองหิมะน้ำแข็ง

เมื่อได้เห็นสิ่งนี้ด้วยตาของตน เหล่ามนุษย์ที่อยู่ในเมืองก็ต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก พวกเขาคุกเข่าลงด้วยความยำเกรงและสรรเสริญนามของจอมจักรพรรดิโบราณ

“จอมจักรพรรดิโบราณได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อสังหารเผ่าพันธุ์โบราณแล้ว!”

“กล้าลบหลู่สุสานของจอมจักรพรรดิ จอมจักรพรรดิจะชุบชีวิตพวกเจ้าขึ้นมาและสังหารทิ้งอีกรอบอย่างแน่แท้!”

“ฮ่าๆๆ ตายได้ดี ตายได้ดี!”

ในเมืองหิมะน้ำแข็ง มีเสียงโห่ร้องกู่ก้องดังขึ้นมากมาย

ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข

การที่เผ่าวิหคและเผ่าราชสีห์เก้าเศียรมายังเมืองน้ำแข็งและคิดจะแสดงความเหนือกว่าภายในเมืองหิมะน้ำแข็งเช่นนี้นั้นย่อมเป็นการเย่อหยิ่งจองหองมากใช่หรือไม่?

และในตอนนี้ พวกมันทั้งหมดได้ค่าตอบแทนที่สาสมแล้ว

เผ่าพันธุ์ทั้งสองถูกทำลายสิ้น และไม่มีใครเหลือรอด!

…………

‘ได้รับแต้มตกใจ 57 แต้ม จากเฉินจิว!’

‘ได้รับแต้มตกใจ 154 แต้มจากกู่ฉาง!’

‘ได้รับแต้มตกใจ 389 แต้มจากจินผิงเต๋า!’

‘…………’

ภายนอกวิหารโบราณ ฉินมู่เก็บเกี่ยวแต้มตกใจอีกระลอก

ตอนนี้แต้มตกใจที่เขามีอยู่นั้นมีเกิน 500,000 แต้มแล้ว!

การเปิดเผยดินแดนลับครั้งที่สามนี้ ไม่เพียงแต่จะสังหารสิ่งมีชีวิตของเผ่าพันธุ์โบราณไปเป็นจำนวนมาก แต่เขาเองก็ยังได้รับแต้มตกใจเป็นจำนวนมากไปด้วยเช่นกัน นั่นหมายความว่าตอนนี้เขามีแต้มอยู่เป็นจำนวนมาก!

“เมื่อสิ่งมีชีวิตโบราณถูกสังหารจนหมดแล้ว ก็ถึงวาระที่แดนลับที่สามจะถูกซ่อนอีกครั้ง”

เพียงแค่ใจฉินมู่คิด วิหารสำริดโบราณก็เริ่มสั่นสะเทือน

ปัง!

แสงไฟวาบ และเสวี่ยหรูเหยียนที่ยังคงอยู่ในวิหารโบราณก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมาในทันที

จากนั้น วิหารสำริดโบราณก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก้อนดินรอบข้างลอยไปมา ราวกับผืนดินและสวรรค์ถูกโยกย้าย

ท่ามกลางฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจาย วิหารสำริดโบราณก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับว่าหลบซ่อนกลับเข้าไปในผืนดินอันไร้ที่สิ้นสุดอีกครั้ง ยากต่อการไล่ตาม

“เฮ้อ จบสักที”

เมื่อนึกถึงดินแดนลึกลับวิหารโบราณอีกครั้ง ฉินมู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แดนลึกลับทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

เขาสามารถเรียกมันออกมาได้ แน่นอนว่าเขาก็สามารถเรียกเก็บมันได้ตลอดเวลาเช่นกัน

ในการเรียกใช้แดนลับครั้งที่สามนี้ สิ่งที่ทำให้เสียแต้มตกใจไปมากที่สุดก็คือค่ายกลสังหารจักรพรรดิในวิหารโบราณแห่งนี้

แน่นอนว่าค่ายกลสังหารจักรพรรดินั้นยังไม่สมบูรณ์ ฉินมู่แลกมาได้แค่เพียงส่วนขอบของค่ายกลเท่านั้น

เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้ว ค่ายกลที่สมบูรณ์นั้นมีราคาหลายล้านแต้มตกใจ และเขาไม่สามารถซื้อได้ในตอนนี้

แน่นอนว่า เขาไม่จำเป็นต้องแลกค่ายกลสังหารจักรพรรดิที่สมบูรณ์มาก็ได้ การจะจัดการกับสิ่งมีชีวิตโบราณพวกนี้นั้น แค่ส่วนขอบของค่ายกลก็เพียงพอแล้ว

“แต่ว่า ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ก็ยังไม่เพียงพอ เขตแดนสวรรค์นิมิตยังคงอ่อนแออยู่”

ฉินมู่ส่ายหน้าเขาพร้อมที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตนแล้ว

แต่ในตอนนี้เขามีแต้มตกใจมากเพียงพอแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอยู่ตลอดเวลา แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มเป็นสองเท่าแล้ว ซึ่งก็มีประโยชน์ต่อการรักษาความปลอดภัยของตัวเขาเอง

“ระบบ เพิ่มความแข็งแกร่งของข้าไปให้ถึงระดับที่เก้าของเขตแดนมังกรแปลง”

ฉินมู่คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเพิ่มความแข็งแกร่งไปอีกเกือบสองเขตแดน

เขาไม่โลภเกินไป และไม่เลือกที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งไปให้ถึงเขตแดนผู้ทรงอำนาจนั่นเป็นเพราะมันจะใช้แต้มตกใจมากเกินไป

แม้ว่าฉินมู่จะมีแต้มตกใจเป็นจำนวนมาก แต่ทุกแต้มมีความสำคัญมาก และเขาอาจใช้มันเพื่อสร้างแดนลับในภายหลัง

ยิ่งไปกว่านั้น พลังในจุดสูงสุดของเขตแดนมังกรแปลงก็เพียงพอแล้ว และเขาไม่จำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งไปอีกพักหนึ่ง

และแน่นอนว่า นอกจากนี้แล้ว ฉินมู่ยังคงเลือกวิชายุทธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด

กระแสพลังอันทรงอำนาจกระจายออกมาจากร่างของฉินมู่ และความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขึ้นจากสวรรค์นิมิตระดับที่หนึ่ง

สวรรค์นิมิตระดับที่สอง…

สวรรค์นิมิตระดับที่แปด…

สวรรค์นิมิตระดับที่เก้า…

มังกรแปลงระดับที่เก้า…

หนึ่งลมหายใจ หนึ่งเขตแดน

ในท้ายที่สุด เขตแดนของฉินมู่ก็คงที่ในระดับที่เก้าของเขตแดนมังกรแปลง

แน่นอนว่าแต้มตกใจที่ต้องใช้ไปก็มากมายเช่นกัน

มันทำให้เขาเสียแต้มตกใจไปถึง 180,000 แต้ม!

ฉินมู่กำหมัดและหลับตารับรู้ถึงมัน เขารับรู้ได้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายพุ่งพล่านราวกับสายน้ำมหาสมุทร มันทรงพลังอย่างมาก!

เจ้าของร่าง: ฉินมู่

เขตแดน: มังกรแปลงเก้าสวรรค์

วิชายุทธ: วิหคชาดบรรพกาลสี่จู่โจม คัมภีร์ไร้เงาเร้นฟ้าดิน(บางส่วน), ผนึกขุนเขา, ผนึกตะวันจันทรา, ผนึกราชัน, มิติหิมะ, หมัดราชันประหาร, ดรรชนีสยบฟ้า

วิชาลับ: เทพเซียนเหินเก้าทิวา, ดาราฉายเก้าราตรี, เต๋าเร้นลับ, วิชาลับคุนเผิง

(* 鲲鹏 คุนเผิง คุน กับ เผิง วิหคในตำนาน นกยักษ์ เผิง เกิดจากการแปลงร่างมาจาก คุน )

แดนลับที่สร้าง: [เก้ามังกรลากโลง] [จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ] [วิหารสำริดโบราณ]

การเลื่อนระดับครั้งนี้ นอกจากการเพิ่มระดับแล้วนั้น ฉินมู่ยังได้รับวิชาลับและวิชายุทธ์ที่แข็งแกร่งมาอีกด้วย

วิหคชาดบรรพกาลสี่จู่โจม วิชานี้เป็นวิชาสังหารที่ทรงพลัง เมื่อใช้คู่กับหนึ่งในเก้าความลับ เต๋าเร้นลับ ความสามารถในการจู่โจมของฉินมู่ก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาล!

วิชาลับคุนเผิงเองก็มีความลับเกี่ยวกับความเร็วอยู่ภายในนั้น ด้วยวิชาลับนี้ เขาสามารถเดินทางหลายหมื่นลี้ได้ภายในชั่วพริบตา

แน่นอนว่าสิ่งที่ฉินมู่ชอบที่สุดคือ “คัมภีร์ไร้เงาเร้นฟ้าดิน”

เพราะมันเป็นสิ่งที่ฉินมู่เลือกแลกมาเองโดยเฉพาะ และมันเป็นวิชาที่ทรงพลังมากในการหลบซ่อน

แม้จะแลกมาแค่ส่วนหนึ่ง แต่มันก็ใช้แต้มของฉินมู่ไปถึง 50,000 แต้ม!

แน่นอนว่าความสามารถของมันก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน

ด้วยวิชานี้ กระทั่งผู้ที่แข็งแกร่งและมีพลังเหนือกว่าเขาหลายสิบเท่าก็ไม่สามารถตรวจจับการมีอยู่ของเขาได้

และนอกจากนี้ เขายังสามารถปรับเปลี่ยนกระแสพลังของตนได้ เพื่อการปลอมแปลงตนให้เป็นผู้แข็งแกร่งและปลอมแปลงตนว่าอ่อนแอ

เว้นเสียแต่ว่าความแข็งแกร่งของคนผู้นั้นจะเกินกว่าเขาหลายสิบเท่า ไม่เช่นนั้นคนผู้นั้นก็จะไม่สามารถมองผ่านการปลอมแปลงของฉินมู่ได้แม้แต่น้อย

ดังนั้นแล้ว “คัมภีร์ไร้เงาเร้นฟ้าดิน” จึงเป็นสิ่งที่ต้องมีติดไว้ วิชาขั้นเทพเพื่อการปลอมเป็นหมูเพื่อกินเสือ

ด้วยวิชาที่ทรงพลังและวิชาลับมากมาย รวมไปถึงแดนลับทุกๆ แดนแล้ว ฉินมู่มั่นใจอย่างมาก

แม้ว่าระดับของเขาในปัจจุบันนั้นจะเป็นเพียงเขตแดนมังกรแปลง แต่แม้จะพบเจอกับคนแข็งแกร่งกว่าเขาก็ไม่หวั่นเกรง!