บทที่ 15 ท่านอ๋อง ลงไม้ลงมือกับพระชายาไม่ได้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 15 ท่านอ๋อง ลงไม้ลงมือกับพระชายาไม่ได้
กู้โม่หานเห็นเสิ่นอี่ว์ไม่พูดอะไรอีก เลยไม่ได้พูดมาก “เรื่องหนานหว่านเยียน ข้ารู้ดีว่าควรทำอย่างไร ไม่ต้องให้เจ้ามาบอกว่าข้าควรจะทำอะไร ระยะนี้พักผ่อนให้มากๆ”

เพราะพอเขานึกถึงเด็กหญิงสองคนข้างกายหนานหว่านเยียน ในใจก็อดอ่อนยวบขึ้นมาไม่ได้

เสิ่นอี่ว์รับคำ ร่างของกู้โม่หานก็หายเข้าสู่ความมีด แต่กลับเห็นพ่อบ้านกาวยืนรออยู่นอกเรือน

กู้โม่หานคิ้วขมวดเล็กน้อย “พ่อบ้านกาว?”

พ่อบ้านกาวคำนักคารวะให้กู้โม่หานอย่างเคารพนบนอบ “ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยากมาเตือนท่าน พรุ่งนี้ท่านควรจะบอกเรื่องงานเลี้ยงในวังกับพระชายาได้แล้ว!”

เขาเห็นกู้โม่หานไม่มีปฏิกิริยาอะไร คิดว่าเขายังมึนตึงกับพระชายาอยู่ พ่อบ้านกาวเอ่ยขึ้นอีกว่า “ท่านอ๋อง วันนี้ท่านลงไม้ลงมือกับพระชายา ไม่อาจรับรองได้ว่าพระชายาจะไม่ผูกใจเจ็บ หากพระชายาไม่ยอมไปงานเลี้ยงในวังด้วย น่ากลัวจะทำให้ไทเฮาไม่พอใจ ถึงเวลาท่านอยากจะแต่งงานกับคุณหนูโหรว น่ากลัวจะ…”

พอได้ยินดังนั้น สีหน้ากู้โม่หานสะท้านเล็กน้อย ในใจยิ่งไม่พอใจและรังเกียจหนานหว่านเยียนมากขึ้น

แต่พอนึกถึงว่าโหรวเอ๋อร์ยังรอตนอยู่ กู้โม่หานเก็บความโกรธไว้ ตอบกลับไปทันทีว่า “รู้แล้ว เจ้าไปเถอะ เรื่องที่ข้าสั่งการไป พรุ่งนี้เจ้าไปจัดการให้ดีนะ”

“ขอรับ ข้าน้อยจะจัดการให้เรียบร้อย” พ่อบ้านกาวรับคำ ถึงได้ค้อมตัวถอยออกไป

….

ท้องฟ้าสว่างเล็กน้อย ที่เรือนเซียงหลิน

หนานหว่านเยียนง่วงเหงาหาวนอน เมื่อคืนเธอหลับไปตอนไหนไม่รู้ตัวเลย พอมองเด็กน้อยสองคนในอ้อมแขนอีกครั้ง ก็ไม่รู้ไปกอดกันกลมตอนไหน

เวลานี้ซาลาเปากับเกี๊ยวน้อยยังหลับปุ๋ยอยู่ บนใบหน้ามีรอยยิ้มบางอยู่

หนานหว่านเยียนทนไม่ไหวยื่นมือไปหยิกแก้มน้อยๆของเด็กทั้งสองเบาๆ “ฝันดีอะไรกันนะ ยิ้มหวานขนาดนี้”

ระหว่างพูด เธอค่อยๆย่องลงจากเตียง พลางหาวหวอดๆ

วันนี้เป็นวันแรกที่เธอหนานหว่านเยียนได้รับอิสระอีกครั้ง ต้องทำอาหารดีๆให้เด็กสองคนสักหน่อย

พอคิดอย่างนี้ หนานหว่านเยียนเปิดประตูออก และเห็นพ่อบ้านกาวยืนท่าทางนบนอบอยู่หน้าประตู ด้านหลังยังมีคนอีกกลุ่มใหญ่

“ข้าน้อยคารวะพระชายา” พ่อบ้านกาวโค้งตัว จากนั้นส่งสายตาให้คนกลุ่มข้างหลัง

สาวใช้หลายคนนั้นตามคารวะคำนับหนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนไม่มีฟอร์มอะไร ยิ้มละไมใส่พ่อบ้านกาว “พ่อบ้านกาว ลำบากท่านแล้ว”

พ่อบ้านกาวตอบอย่างหวาดกลัว “พระชายาเกรงใจข้าน้อยไปแล้ว คนนี้คือเซียงเหลียน ข้างนางคือเซียงอี่ว์ ต่อไปพวกนางสองคนจะรับผิดชอบดูแลความเป็นอยู่ของพระชายา ที่เหลือพระชายาเชิญสั่งการจัดวางได้สบาย”

พอมองตามมือพ่อบ้านกาวไป หนานหว่านเยียนเห็นสองคนที่ชื่อว่าเซียงเหลียนเซียงอี่ว์ใบหน้าคล้ายคลึงกัน อายุพอกัน น่าจะเป็นคู่ฝาแฝดอีกคู่หนึ่ง

เธออดแปลกใจไม่ได้ เมื่อคืนเธอขอแค่องครักษ์ ยังไงกู้โม่หานดันส่งสาวใช้ให้เธออีกหลายคน

สายตาของหนานหว่านเยียนขยับเล็กน้อย แต่กลับพยักหน้าราบเรียบ “เข้ามาเถิด”

คนทั้งหมดได้รับคำสั่ง พากันเดินเข้าไปในเรือนเซียงหลิน

พ่อบ้านกาวทำภารกิจสำเร็จก็ไม่เสียเวลาต่อ หลังจากเขาคารวะหนานหว่านเยียนเสร็จ ก็ออกไปจากเรือนเซียงหลิน

หนานหว่านเยียนจัดการง่ายๆ พบว่าอวี๋เฟิงก็มาด้วย ทั้งสองยิ้มให้กัน คือต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ

เธอส่งอวี๋เฟิงกับองครักษ์หลายคนไปเฝ้าหน้าประตู และให้คนที่เหลือทำความสะอาดที่พักพวกเธอ จากนั้นนำเซียงเหลียนไปที่ห้องครัว

ก่อนไป หนานหว่านเยียนกำชับเซียงอี่ว์ “ถ้าพวกเด็กตื่นแล้ว เจ้าก็ไปเปิดประตูเล็กให้เผ็ดไม่เผ็ด ก็คือหมาใหญ่สองตัวนั้น ปล่อยพวกมันออกมา”

ถึงเซียงอี่ว์จะมาทำงานที่จวนอ๋องแค่ครึ่งเดือน แต่ก็เคยได้ยินเรื่องของพระชายาคนนี้มาก่อน เลยไม่กล้ารีรอรับคำทันที

รอจนหนานหว่านเยียนนำเซียงเหลียนไปห้องครัว เซียงอี่ว์ถึงได้เปิดประตูเรือนในเบาๆ และเห็นเด็กน้อยสองคนที่งดงามน่ารักนอนหลับสนิทบนเตียง

นางไม่อยากรบกวน เลยถอยออกไปเงียบๆ วิ่งไปเรือนหน้าปัดกวาดเช็ดถู

ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม เซียงอี่ว์ได้ยินมีการเคลื่อนไหวในเรือน รีบโยนของในมือทิ้งและวิ่งเข้าเรือน

นางเดินเข้าไป และเห็นสองสาวพี่น้องเปิดประตูเล็กๆเอง กำลังเล่นสนุกกับเผ็ดไม่เผ็ด

เกี๊ยวน้อยรู้ตัวก่อน ดวงตากลมโตกลอกไปมา มองมาทางเซียงอี่ว์และถามว่า “ท่านคือพี่สาวที่จะมาวันนี้ตามที่ท่านแม่บอกกระมัง?”

“ข้าน้อย…” เซียงอี่ว์กำลังจะบอกว่าใช่ แต่ไม่รู้จะเรียกเด็กหญิงสองคนตรงหน้าว่าอย่างไรดี

เวลานี้เจ้าก้อนแป้งยิ้มให้นาง “พี่สาวมาเล่นเป็นเพื่อนพวกเราได้หรือไม่?”

เซียงอี่ว์หวาดหวั่น รีบโค้งตัวคารวะว่า “ข้าน้อยมิกล้า พระชายาเพียงกำชับให้ข้าน้อยมาปล่อยหมาให้นายน้อยทั้งสอง….”

ขอเพียงท่านอ๋องไม่ได้ประกาศฐานะของพวกนาง เด็กหญิงน่ารักสองคนนี้น่าจะเป็นนายน้อยกระมัง

ดวงตาเจ้าก้อนแป้งมีแววหม่นหมองเล็กน้อย เกี๊ยวน้อยพาไม่เผ็ดเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย “พี่สาว ข้าชื่อเกี๊ยวน้อย ท่านเรียกข้าว่าเกี๊ยวน้อยก็ได้ นางเป็นน้องสาวข้าเจ้าก้อนแป้ง เรียกซาลาเปาก็ได้!”

เซียงอี่ว์ยังคงเกร็ง “ข้าน้อยเซียงอี่ว์ คารวะนายน้อยทั้งสองเจ้าค่ะ”

เกี๊ยวน้อยรู้สึกว่าพี่สาวคนนี้เกร็งเกินไป เลยไม่เย้านางอีก และดึงมือเจ้าก้อนแป้งเดินออกจากเรือนด้านใน “พี่เซียงอี่ว์ ข้าจะพาซาลาเปาไปหาท่านแม่ ท่านจะไปหรือไม่?”

เซียงอี่ว์ตามขึ้นไป “พระชายาและเซียงเหลียนอยู่ที่ห้องครัว บอกว่าจะทำอาหารอร่อยให้นายน้อยทั้งสองเจ้าค่ะ”

เกี๊ยวน้อยได้ยินดังนั้น มองเซียงอี่ว์พลางยิ้มร่า “งั้นพี่เซียงอี่ว์ ไปเล่นที่เรือนหน้าเป็นเพื่อนพวกเราได้หรือไม่?”

ระหว่างพูด เกี๊ยวน้อยเข้ามาดึงมือเซียงอี่ว์ เด็กสองผู้ใหญ่หนึ่งพาหมาสองตัวไปที่เรือนหน้า

เซียงอี่ว์ตามมาข้างๆเงียบๆ มองดูท่าทางไร้เดียงสาของเด็กหญิงสองคนพลางสงสัยในใจ

มิใช่ผู้ใดต่างว่าพระชายาอุปนิสัยชั่วร้าย เจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ทำไมพอวันนี้มาเจอ พระชายามิเพียงนิสัยเป็นกันเอง และยังดูเกรงอกเกรงใจคนรับใช้อย่างพวกนางอีก ขนาดนายน้อยทั้งสองยังร่าเริงว่านอนสอนง่าย ไม่มีวางท่าเลยสักนิด

ทางนี้เซียงอี่ว์ในใจยังตีกลองรัว และเห็นผู้ชายท่าทางหล่อเหลาดูดีคนหนึ่งเข้ามาจากประตูใหญ่เรือนหน้า….