บทที่ 219 พนักงานของฉันมีความสามารถกันทุกคน แต่ชอบถ่อมตัวกันเกินไป

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

พอเปาซวี่เห็นว่าเผยเชียนหันมองตัวเองด้วยสีหน้าลังเลใจ เขาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

ไอ้ฉิบหาย อย่าบอกนะว่าเป็นฉันอีกแล้ว

ช่วงหยุดงานหนึ่งเดือนเต็มแบบได้รับเงินเดือนรอบก่อน เปาซวี่แทบกระอักเลือดตายเมื่อต้องตะลอนไปทั่วประเทศ พอกลับมาก็รู้สึกเหมือนได้เที่ยวในส่วนของปีนี้ไปเต็มที่แล้ว

ผ่านมาได้ไม่กี่เดือน เรื่องสยองแบบคราวนั้นจะเกิดขึ้นอีกรอบอย่างนั้นเหรอ

เปาซวี่รีบพูดขึ้น “บอสเผย ผมขอถอนตัวจากโอกาสนี้ด้วยความสมัครใจ! ยกรางวัลนี้ให้คนอื่นที่อยากได้มากกว่าผมเถอะครับ!”

เผยเชียนส่ายหัว “แล้วจะโหวตไปเพื่ออะไรถ้าจะโยนรางวัลให้กันไปมาแบบนี้ ผลออกมายังไงก็ต้องยึดตามนั้น เปลี่ยนแปลงไม่ได้

“ผมให้เวลาคุณเก็บกระเป๋าสองวัน”

เปาซวี่แสนลำบากใจ “บอสเผย ผมไปทุกที่ที่น่าสนใจในประเทศมาหมดแล้ว! เก็บมาหมดทุกที่ ผมมีรูปกับประวัติการเดินทางในแอปยืนยัน ไม่มีที่ไหนให้ผมไปได้อีกแล้ว!”

เผยเชียนยิ้มอ่อน “คุณไปทุกที่ที่น่าสนใจในประเทศมาหมดแล้วงั้นสินะ

“งั้นพรุ่งนี้ไปจัดการเรื่องวีซ่า ไปเปิดหูเปิดตานอกประเทศแทน ระหว่างเก็บเกี่ยวเรี่องวัฒนธรรมกับสิ่งแปลกตาต่างๆ คุณก็ใช้โอกาสนี้เรียนรู้เรื่องการพัฒนาเกมจากประเทศที่พัฒนาแล้วทางฝั่งตะวันตกมาด้วย”

เปาซวี่อยากจะพูดบางอย่างออกไป แต่เผยเชียนก็ขัดขึ้นก่อน “เอาตามนี้ พรุ่งนี้ไปจัดการเรื่องวีซ่าซะ”

เปาซวี่ “…”

อะไรวะเนี่ย!

เปาซวี่แสนทุกข์ใจ เขาไม่อยากไปจากที่นี่!

บอสเผย ผมยอมทำงานล่วงเวลาแทนก็ได้!

แต่สีหน้าของบอสเผยนั้นบ่งบอกชัดเจนว่าบอสตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก

กฎเรื่องการคัดเลือกพนักงานดีเด่นนั้นตั้งเอาไว้นานแล้ว เขาได้แต่ยอมจำนนต่อโชคชะตา

เปาซวี่คิดในใจว่ากลับมาเมื่อไหร่ เขาจะบอกทุกคนให้ชัดเจนว่าไม่ต้องโหวตเขาเป็นพนักงานดีเด่นอีก!

ฉันไม่สนทั้งงบตามฝันหนึ่งล้านหยวนกับหยุดงานหนึ่งเดือนแบบได้รับเงินเดือน ช่วยโหวตกันดีๆ หน่อย ไปโหวตคนที่เขาอยากได้นู่น!

แต่ตอนนี้สายไปแล้ว เขาทำได้แค่เก็บความคิดนี้ไว้บอกคนอื่นหลังจบช่วงหยุดงาน

เผยเชียนหันมองลู่หมิงเหลียงอีกรอบ “พูดอะไรสักหน่อยสิ”

ถ้าคนอื่นได้รับรางวัลพนักงานดีเด่น เผยเชียนคงจะรู้สึกยินดีจากใจจริง อาจจะหัวเราะให้กับความโชคร้ายของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

แต่คนที่ได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นดันเป็นลู่หมิงเหลียง ทำให้เผยเชียนใจหายอยู่หน่อยๆ

เขาจึงรู้สึกสองจิตสองใจ

ลู่หมิงเหลียงถือถ้วยรางวัลไว้ในมือพร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ผมไม่คู่ควรกับรางวัลนี้เลย ผลงานที่ผ่านมาเป็นเพราะบอสเผยช่วยชี้ทางภาพรวมให้ดำเนินไปสู่ความสำเร็จ ผมแค่ทำตามคำสั่งบอสเผยอย่างเคร่งครัดก็เท่านั้น

“ผมคิดว่าสำหรับใครก็ตามที่จะได้ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผน ขอแค่ทำตามแนวทางและกลยุทธ์ของบอสเผยตั้งแต่ต้นไปจนจบ คุณก็จะประสบความสำเร็จได้!

“ผมหวังว่าเถิงต๋าจะเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก ขอบคุณทุกคนมากครับ!”

เสียงปรบมือดังก้องออฟฟิศ เผยเชียนปรบมือตามทุกคนอย่างจริงใจ

ดูเขาสิ พูดได้ดีจริงๆ!

ถึงเผยเชียนจะไม่ได้เห็นด้วยกับคำพูดทั้งหมดของลู่หมิงเหลียง แต่ก็มีอยู่ประโยคหนึ่งที่ตรงใจเขามากๆ

ใครก็ตามที่จะได้ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนควรจะฟังที่บอสเผยบอกอย่างเคร่งครัด

นี่แหละที่เผยเชียนต้องการ!

สิ่งที่เขากังวลที่สุดคืออะไรน่ะเหรอ

เขากลัวว่าพนักงานจะไม่เชื่อฟังคำสั่ง!

พวกเขาพยายามอ่านใจเขาและสร้างองค์ประกอบใหม่ๆ ใส่เกมโดยที่ไม่ถามไถ่ก่อน สุดท้ายเกมที่ออกมาจึงผิดจากที่เผยเชียนคิดไว้ไปหมด!

เทียบกับลู่หมิงเหลียงแล้ว ถึงจะน่าเสียดายที่เกมออกมาประสบความสำเร็จ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทัศนคติของเขาดีกว่าหวงซื่อปั๋วและเปาซวี่หลายเท่า!

เสี่ยวลู่เป็นพนักงานที่ดีจริงๆ

เขาต้องตกรางวัลให้ซะแล้ว!

เผยเชียนยิ้มพร้อมกับถามออกไป “คิดไว้รึยังว่าจะเอาทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนไปทำอะไร”

ลู่หมิงเหลียงดูลังเลเล็กน้อย “เอ่อ… แผนของผมเป็นแบบนี้ครับบอสเผย

“กระบวนการค้นคว้าและพัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ผมว่าจะอยู่ทำต่อให้จบช่วงนี้ก่อน

“อีกอย่างผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองอยากทำอะไร ผมว่าผมไม่มีทักษะและความสามารถด้านอื่นนอกเหนือจากทักษะที่ใช้ในวงการเกม

“เพราะงั้นผมว่าเราเก็บเรื่องนี้ไว้คุยกันทีหลังได้ไหมครับ บอสเก็บเงินไว้ก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันตอนผมคิดออกว่าตัวเองอยากจะทำอะไร”

เผยเชียนขมวดคิ้ว

เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนเหรอ ไม่ได้สิ!

ฉันเตรียมเงินเอาไว้แล้ว นายจะไม่ใช้ได้ยังไง

อีกอย่างกฎก็ต้องเป็นกฎ จะให้มาแหกกฎในการคัดเลือกพนักงานดีเด่นครั้งที่สองได้ยังไง แบบนี้ต่อไปจะคุมอะไรได้ ธรรมเนียมการคัดเลือกพนักงานดีเด่นอันแสนดีเยี่ยมนี้จะไปต่อได้ยังไง

ถึงลู่หมิงเหลียงจะเป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ แต่ถ้าหยวนให้ คนอื่นๆ ก็จะหมดความเชื่อใจ ฉันก็จะคุมทีมได้ลำบาก! ฉันไม่มีทางเป็นคนแรกที่แหกกฎนี้หรอก!

เผยเชียนส่ายหน้าทันที “ไม่ได้

“ถ้าตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก ผมมีงานอื่นให้คุณทำ คุณไปเป็น CEO ที่นี่เฟิงโลจิสติกส์แทน”

ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป “หา แต่ผมไม่รู้เรื่องโลจิสติกส์เลยนะครับบอสเผย”

เผยเชียนยิ้มบาง ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ ก็ยิ่งดีสิ!

“ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ลองดูสักหน่อยเดี๋ยวก็จับทางได้เอง ประสบการณ์การทำงานที่เถิงต๋าพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคุณมีความสามารถด้านการจัดการ คุณไปลองดูก่อน ถ้าไม่ใช่ทางก็ค่อยเอาทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนไปเริ่มธุรกิจแวดวงอื่นแทน”

ลู่หมิงเหลียงยังลังเลใจอยู่เล็กน้อย

แต่พอเห็นแววตามุ่งมั่นของบอสเผย เขาก็รู้ว่ามีโอกาสน้อยมากที่ตัวเองจะได้ทำงานที่เถิงต๋าต่อ

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงต้องลองไปทำงานที่นี่เฟิงโลจิสติกส์ดูสักตั้ง!

ลู่หมิงเหลียงนิสัยต่างจากหวงซื่อปั๋ว หวงซื่อปั๋วเป็นคนที่มีไอเดียมากมายและชอบลองงานสายอื่นอยู่เสมอ เขาเข้าใจดีว่าตัวเองต้องการอะไร พอได้ทุนตามฝันไปก็ตั้งเฟยหวงสตูดิโอขึ้นมาทันที

ส่วนลู่หมิงเหลียงนั้นไม่ค่อยสนใจงานสายอื่น เป็นคนทำงานตามหน้าที่ ไม่ค่อยลองอะไรใหม่ๆ

แค่ดูจากเกมที่รับผิดชอบก็บอกความแตกต่างของสองคนนี้ได้ หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่มักใส่ไอเดียของตัวเองเข้าไปในเกม ส่วนลู่หมิงเหลียงจะทำตามคำสั่งของบอสอย่างเคร่งครัด

ลู่หมิงเหลียงคิดเรื่องนี้อยู่สักพัก ถึงจะไม่ได้สนใจเรื่องโลจิสติกส์เลย แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าตัวเองน่าจะมีความสามารถในการบริหารจัดการอะไรก็ตามที่บอสเผยเป็นคนลงทุน

แล้วถ้ามองด้านความก้าวหน้าในสายอาชีพ ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนนั้นมีโอกาสพัฒนาได้น้อยกว่าตำแหน่ง CEO ในบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่

ดังนั้นลู่หมิงเหลียงจึงไม่ปฏิเสธโอกาสนี้และยอมรับตำแหน่งไป

ยังไงบอสเผยก็บอกว่าถ้าไม่ใช่ทางก็ยังเอาทุนตามฝันหนึ่งล้านหยวนไปทำอะไรที่ตัวเองชอบได้

หลังจากจัดการกับพนักงานดีเด่นทั้งสองคนเสร็จ ปัญหาใหม่ก็บังเกิด

ตอนนี้ไม่มีหัวหน้าฝ่ายวางแผนแล้ว เผยเชียนต้องหาคนมารับตำแหน่งนี้แทน ไม่อย่างนั้นกระบวนการทำงานในบริษัทต้องติดขัดแน่

แต่ปัญหาคือพนักงานที่เขาคุ้นเคยดีในเถิงต๋าล้วนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกันอยู่แล้ว

หวงซื่อปั๋ว เปาซวี่ ลู่หมิงเหลียง หลินหวาน เผยเชียนมอบหน้าที่ให้พวกเขาไปหมดแล้ว

เผยเชียนจำหน้าพนักงานที่เหลือได้แค่ไม่กี่คน แต่ก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรมากนัก

พนักงานส่วนใหญ่ทำงานในตำแหน่งปฏิบัติการ จึงไม่ต้องมารายงานเรื่องต่างๆ กับเผยเชียนโดยตรง ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักคนเหล่านี้เท่าไหร่

แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขายังมีผลการคัดเลือกพนักงานดีเด่นอยู่ในมือ มีทั้งชื่อและคะแนนโหวตซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการใช้เลือกคน

ถ้าจะเลือกจากคนที่ได้คะแนนต่ำสุดก็คงจะเกินไป เพราะมีหลายคนที่ไม่ได้คะแนนโหวตเลยสักคะแนนเดียว คงจะแปลกน่าดูถ้าคนเหล่านี้ได้รับเลือก

เผยเชียนเลือกคนหนึ่งมามั่วๆ จากสิบอันดับแรกที่มีคะแนนโหวตอยู่ในระดับกลางๆ

“หลี่หย่าต๋า ผมเลือกคุณ!”

พนักงานหญิงสวมแว่นกรอบหนาที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมห้องเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง

เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมบอสเผยถึงเลือกเธอมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน เธออึ้งจนไม่รู้จะต้องทำตัวยังไงดี

เผยเชียนพอใจกับหัวหน้าฝ่ายวางแผนคนใหม่มาก

เขาสะดุดตากับชื่อของเธอจากรายชื่อพนักงานที่ยาวเป็นพืด

ชื่อเฮงดี!

ชื่อจีนของเธอคือหลี่หย่าต๋า แสดงว่าถ้าเขียนแบบตะวันตกก็จะเป็นหย่าต๋าหลี่

หย่าต๋าหลี่ออกเสียงคล้ายอาตาริ บริษัทชื่อดังที่เคยเป็นผู้นำวงการเกม เผยเชียนวางเป้าหมายสูงสุดไว้ว่าจะเป็นแบบพวกเขาให้ได้

หลี่หย่าต๋าหันมองรอบๆ แล้วเห็นบอสเผยส่งยิ้มให้

เธอชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบลุกยืนขึ้น “บะ บอสเผยคะ! ดิฉันมีประสบการณ์ไม่มากพอ…”

เผยเชียนดูไม่ค่อยพอใจนัก

อีกแล้วเหรอ!

ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเธอขาดประสบการณ์

ถ้าเธอมีประสบการณ์มากพอ ฉันคงไม่เลือกเธอหรอก!

ทุกครั้งที่เลื่อนขั้นใครสักคนขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน พวกเขามักจะใช้ข้ออ้างนี้ปฏิเสธไม่รับตำแหน่ง

เผยเชียนเริ่มหน้าบึ้ง

หลี่หย่าต๋าเห็นสีหน้าไม่พอใจของบอสเผยก็รู้ทันทีว่าตัวเองทำพลาดแล้ว หัวหน้าฝ่ายวางแผนคนก่อนๆ ก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเหมือนเธอ แถมทุกคนก็ทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี

จะให้มาล่มที่เธอได้ยังไง

แบบนั้นบอสเผยก็ต้องผิดหวังสิ!

หลี่หย่าต๋ารีบพูดต่อ “แต่ดิฉันจะทุ่มเทเต็มที่กับการพัฒนาเกมกลับใจคือฟากฝั่งค่ะ!”

เผยเชียนพยักหน้าด้วยความพอใจ

ต้องแบบนี้สิ

ขอแค่ทัศนคติผ่าน ฉันก็ไม่โทษเธอหรอกถ้าเกมออกมาล้มเหลวเพราะเธอขาดความสามารถ