ตอนที่ 144: กลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬ
เมื่อได้ยินอย่างนั้นทหารรับจ้างทั้งกลุ่มก็ตกใจและมองเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่ระมัดระวัง.
“ชายร่างขนาดกลางอายุประมาณ 20 ปี ใช้กระบี่ยาวเรียวสีเงินด้วยความเร็วสูง หัวหน้า ชายคนนี้มีลักษณะคล้ายกับภาพวาดที่ตระกูลเทียนซ่งติดประกาศไว้ที่สมาคมทหารรับจ้าง ข้ามั่นใจว่าชายคนนี้ใช่เจี้ยนเฉินแน่นอน” ทหารรับจ้างอีกคนบอกกับชายที่สวมชุดเต็มยศ
“ถูกต้องแล้ว หัวหน้า ข้าแน่ใจว่าชายนี้คือเจี้ยนเฉิน ตระกูลเทียนซ่งตั้งค่าหัวไว้ 10,000 เหรียญม่วงเป็นรางวัลให้กับคนที่จับเป็นเขา หากเราจับเขาได้ 10,000 เหรียญม่วงจะเป็นของเรา” ทหารรับจ้างรูปร่างผอมแห้งรีบพูด
ชายอีกคนพูดออกมาเบา ๆ ” ข้าคิดว่าเราคงไม่สามารถจัดการกับเจี้ยนเฉินคนนี้ได้ง่าย ๆ พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่าเขาต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับ 3 ได้ดีแค่ไหน ? “
เจ้ากลัวอะไร? ไม่ว่าเขาจะยอดเยี่ยมแค่ไหน เขาก็ตัวคนเดียว ในขณะที่พวกเรามีกันมากมาย อย่าบอกข้าว่าเจ้ากลัวคนตัวคนเดียว หากคำพูดของเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปในเมืองเวค กลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬของเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” ทหารรับจ้างอีกคนที่สวมชุดหนังพูดด้วยเสียงอู้อี้
“สิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง แม้ว่าเขาจะน่าทึ่งแต่เขาก็อยู่เพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น กลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬจะกลัวเด็กอายุ 20 ปีคนเดียวหรือ”
ในขณะนั้นคนที่ดูสงบนิ่งที่สุดก็อ้าปากพูด “เอาล่ะ ทุกคนหยุดเถียงกันได้แล้ว ฟังความคิดเห็นของหัวหน้าก่อน” หลังจากที่เขาพูดจบ ทุกคนก็หยุดพูดและหันไปมองคนที่อยู่หน้ากลุ่ม จากทุกคนในกลุ่มทหารรับจ้าง มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่สวมเสื้อผ้าซึ่งอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬ
หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬนั้นสูงมาก เขาสูงประมาณ 2.5 เมตรและมีโครงร่างโปร่ง ผมบนศีรษะของเขาถูกตัดสั้นบนใบหน้าขนาดใหญ่ แต่มันมองดูค่อนข้างธรรมดาและอาจจะมีปัญหาถ้าถามจ้องหน้าเขา เขาสวมเสื้อคลุมสีดำที่มีรอยขีดข่วนเล็กน้อยจากหนามในป่า
หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬจ้องการต่อสู่ระหว่างเจี้ยนเฉินกับสัตว์อสูรอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ใช้ความคิดสะท้อนผ่านดวงตา ในที่สุดเขาก็มาถึงข้อสรุป “ไม่ว่าเขาจะน่าทึ่งขนาดไหน เขาก็พึ่งจะอายุ 20 ปี เขาไม่สามารถสู้กับกลุ่มของเราทั้งหมดได้ นอกจากนี้สัตว์อสูรระดับ 3 ที่ต่อสู้กับเขาก็มีเพียงตัวเดียว เรารอให้เขาใช้พลังเซียนต่อสู้กับสัตว์อสูรจนหมดแรงก่อน แล้วค่อยเราจะจับตัวเขาและพาเขาไปยังตระกูลเทียนซ่งเพื่อรับรางวัล 10,000 เหรียญม่วง”
“หัวหน้า ช่างเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก เมื่อเรื่องนี้จบ กลุ่มของเราจะรุ่งเรืองอย่างแน่นอน 10,000 เหรียญม่วง ถึงเราจะต้องแบ่งกัน มันก็ยังเพียงพอที่จะใช้จ่ายไปได้ตลอดชีวิต” ชายคนหนึ่งถอนหายใจอย่างมีความสุข
“หลังจากเรื่องนี้เสร็จสิ้นข้าจะไปเมืองโรมานและให้แม่นางหยุนซิวดูแลข้าสักสองสามวัน” ทหารรับจ้างอีกคนหัวเราะ
“ฮ่า ฮ่า เจียลี่ เจ้าน้ำลายไหลทุกครั้งที่มีการกล่าวถึงหอนางโลมเมืองโรมาน มันเป็นความอัปยศที่เจ้าไม่เคยมีเงินพอจะสนุกกับความสุขนั้น รอจนกว่าเรื่องนี้เสร็จสิ้น เจ้าจะสามารถนำหยุนซิวกลับบ้านในฐานะฮูหยินโดยไม่มีปัญหาใด ๆ ” ชายคนที่มีหนวดเคราหัวเราะ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทหารรับจ้างคนก่อนหัวเราะแล้วจ้องมองเจี้ยนเฉินราวกับว่าเขากำลังจ้องมองภูเขาทองคำ
“อ่า ! “
ในขณะนั้นเสียงทะลักของเลือดดังมาแต่ไกล ทหารรับจ้างหันไปดูจึงเห็นเจี้ยนเฉินกำลังแทงเข้าที่คอของเต่าอสูร มีปราณกระบี่จำนวนมากที่ไม่เพียงแต่แทงเข้าไปในลำคอเท่านั้น แต่ยังเข้าสู่ร่างกายด้วยระเบิดก่อนที่จะกระทบกับอวัยวะภายในของมัน
เต่าอสูรตัวนั้นยังคงกรีดร้อง ร่างมหึมาของมันแข็งตัวและล้มลงกับพื้นอย่างช้า ๆ
“รีบไป”
เช่นเดียวกับสัตว์อสูรที่ตกลงมาบนพื้น หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬเดินนำกลุ่มของเขาไปยังเจี้ยนเฉิน
สีหน้าของเจี้ยนเฉินไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เขาดึงกระบี่วายุโปรยออกมาจากคอของสัตว์อสูรและเดินไปที่ท้องของมันราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็ใช้ปราณกระบี่จำนวนมากแทงลึกเข้าไปในท้องของมัน ทันใดนั้นแผลขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่ท้องขณะที่เจี้ยนเฉินแทงลึกเข้าไปภายใน แกนอสูรที่เปื้อนเลือดไหลออกมาพร้อมกับเลือดก่อนจะกลิ้งไปหยุดที่ด้านหน้าของเขา
เจี้ยนเฉินก้มลงไปที่พื้นนองเลือดและเช็ดเลือดออก เผยให้เห็นว่ามันเป็นผลึกเล็ก ๆ มันเป็นแกนของเต่าอสูร
กลุ่มทหารรับจ้างก็รู้สึกฉุนเฉียวในทันที่เห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้แยแสพวกเขาเลย และยังมองพวกเขาด้วยสายตาที่ดูถูก
หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมองเจี้ยนเฉินและพูดว่า “เจี้ยนเฉิน ข้าไม่สามารถระบุอายุของเจ้าได้ แต่เจ้าดูสงบมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช่นนี้ที่เจ้าควรรู้สึกกระวนกระวาย”
เจี้ยนเฉินเก็บแกนอสูรไว้ในเข็มขัดมิติอย่างสงบก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬ เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “พวกเจ้าเป็นใคร? พวกเจ้ารู้จักชื่อข้าได้อย่างไร ? “
เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น หัวหน้ากลุ่มเสือดาวทมิฬก็เผยรอยยิ้มเย็นชาพลางกล่าวว่า “พวกเราคือกลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬ เรารู้จักชื่อของเจ้าได้อย่างไรงั้นหรือ มันง่ายมาก ชื่อของเจ้าเป็นที่รู้จักในเมืองเวค ทุกคนรู้ว่าเจ้าเป็นใคร”
เจี้ยนเฉินทำหน้าบึ้งเล็กน้อย “พูดมา พวกเจ้าต้องการอะไร ? “
“เป้าหมายของเรานั้นง่ายดายมาก ตอนนี้ ถ้าเจ้ายอมไปกับเราดี ๆ “
ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะพูด ทหารรับจ้างอีกคนก็พูดขึ้นมา
“ถูกต้อง เราเพียงแค่ต้องการให้เจ้ามากับเรา เชื่อเราเถอะหนุ่มน้อย แล้วเราจะไม่ทำร้ายเจ้า” ทหารรับจ้างที่ผอมแห้งหัวเราะ
เจี้ยนเฉินเปิดเผยรอยยิ้มเย็นชา “พวกเจ้าจะพาข้าไปที่ไหน ? “
ไปไหนรึ? แน่นอนว่าเราจะกลับไปที่เมืองเวค” ชายคนหนึ่งพูดด้วยเสียงอู้อี้
เมื่อได้ยินชื่อเมืองนั้น เจี้ยนเฉินก็เดาได้ทันทีว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลเทียนซ่ง
“แล้วถ้าข้าไม่กลับไปกับพวกเจ้าล่ะ” เจี้ยนเฉินมองดูทหารรับจ้าง 20 คนด้วยน้ำเสียงที่สงบ ไม่ว่าพวกเขามองเขาในมุมใด ชายคนนี้ไม่ได้ดูน่ากลัวเลย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างเสือดาวทมิฬก็เริ่มหัวเราะ ทหารรับจ้างที่สูงที่สุดหยิบอาวุธเซียนของเขาออกมา มันเป็นหอกยาว 3 เมตร
“ถ้าเจ้าไม่กลับมากับเรา เราคงจะต้องใช้กำลัง เจี้ยนเฉิน ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่อยากรู้สึกทุกข์ทรมาน” หัวหน้ากลุ่มเสือดาวทมิฬพูดขึ้นมา
หลังจากได้ยินหัวหน้าของพวกเขาแล้ว ทหารรับจ้างคนอื่น ๆ ก็เริ่มนำอาวุธเซียนของตนออกมา ทำให้อากาศแปรปรวนไปกับพลังเซียนขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปหาเจี้ยนเฉิน