ตอนที่ 445 รักใคร่! (3) / ตอนที่ 446 รักใคร่! (4)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 445 รักใคร่! (3) 

 

 

เธอเสียเงินไปตั้งมากมาย แต่จัดการเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้! 

 

 

ตอนนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า อวี๋เยว่หานรู้แล้วว่ามีคนต้องการทำร้ายเหนียนเสี่ยวมู่ เขาจะต้องตามสืบจนรู้ต้นตอแน่ 

 

 

เหวินหย่าไต้นึกอะไรบางอย่างได้ จึงค้นหาซิมการ์ดที่ซ่อนไว้ในลิ้นชักออกมา เธอหักมันเป็นสอง แล้วโยนมันลงในโถส้วม 

 

 

และกดน้ำทิ้งมันไป 

 

 

หญิงสาวมองซิมการ์ดตรงหน้าหายไป ก่อนจะถอนหายใจออกมายืดยาว 

 

 

เมื่อกลับไปถึงห้อง ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง 

 

 

จางหมิงเยี่ยนกำลังกอดอก เดินเข้ามาจากข้างนอกอย่างหยิ่งยโส 

 

 

เป็นลูกตระกูลเหวินเหมือนกัน ทำไมเหวินหย่าไต้ถึงได้มีกินมีใช้ดีที่สุด แต่ลูกชายของเธอกลับไม่ได้เหยียบเข้ามาใยตระกูล และต้องพเนจรอยู่ข้างนอกนั่นตั้งหลายปี 

 

 

“เธอมองอะไร ใครให้เธอมาที่ห้องฉัน ไม่รู้จักเคาะประตูหรือไง! เป็นผู้หญิงชั้นต่ำ เป็นนังปิศาจแพศยาที่ไม่ได้รับการสั่งสอนจริงๆ!” เหวินหย่าไต้ทำหน้าบึ้งตึงทันทีที่เห็นอีกฝ่ายชัดเจน 

 

 

ตอนนี้ทั้งตระกูลเหวินกำลังตกต่ำ เพราะเรื่องที่เธอผิดใจกับคุณชายหาน แถมพ่อของเธอยังพาเมียน้อยกลับมาที่ตระกูลอีก… 

 

 

เหวินหย่าไต้มองจาวหมิงเยี่ยนครั้งหนึ่ง อยากจะฉีกอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ! 

 

 

ฝ่ายจางหมิงเยี่ยนเดินมาข้างหน้า ก่อนจะยิ้มเยาะ “ที่นี่คือตระกูลเหวิน และตระกูลเหวินเป็นของพ่อเธอ ฉันเป็นเมียของพ่อเธอ ฉันอยากไปที่ไหนก็จะไปที่นั่น” 

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เหวินหย่าไต้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟในทันที 

 

 

“คุณนายเหวินคือแม่ของฉัน แล้วเธอเป็นใครกันไม่ทราบ!” 

 

 

แทนที่จะโมโห จางหมิงเยี่ยนกลับหัวเราะ และมองหญิงสาวอย่างได้ใจ “พอดีว่าฉันมีลูกชายให้พ่อเธอได้ ต่อไปเขาจะได้สืบทอดตระกูลเหวิน แม่เธอทำประโยชน์อะไรให้ตระกูลได้บ้าง คลอดลูกสาวที่เอาแต่ใช้เงิน แถมตอนนี้ยังผิดใจกับตระกูลอวี๋อีก พ่อเธอไม่ไล่เธอออกจากตระกูลก็บุญโขแล้ว เธอยังคิดว่าตัวเองสูงส่งอีกเหรอ” 

 

 

“เธอว่าไงนะ?!” เหวินหย่าไต้กำหมัด และกัดฟันกรอด 

 

 

ตั้งแต่เล็กจนโต เธอได้รับการเลี้ยงดูสั่งสอนที่ดีที่สุดเสมอ 

 

 

สิ่งของทุกอย่างล้วนดีที่สุดในตระกูลเหวิน 

 

 

ถึงแม้พ่อจะไม่รักแม่ของเธอ แต่เขากลับรักเธอมาก เขามักจะอุ้มเธอ และบอกับเธอว่า ขอเพียงเธอมีความกล้า ต่อไปจะยกทุกอย่างในตระกูลเหวินให้เธอ 

 

 

แม้แต่ตอนที่เธอไม่ยอมเข้าไปทำงานที่บริษัทตระกูลเหวิน รั้นอยากจะอยู่ที่บริษัทตระกูลอวี๋ให้ได้ พ่อของเธอก็ยินดีที่จะสนับสนุนเธอ 

 

 

แถมยังชมว่าเธอเก่งด้วยซ้ำไป… 

 

 

จางหมิงเยี่ยนชำเลืองมองหญิงสาวครั้งหนึ่ง แววตามีแต่การถากถาง 

 

 

“ฉันพูดว่าอะไรไม่สำคัญหรอก แต่พ่อเธอบอกแล้ว ว่าในเมื่อเธอมัดใจคุณชายหานกลับมาไม่ได้ แทนที่จะไปทำให้คุณชายหานรำคาญใจต่อไป สู่เปลี่ยนเป้าหมาย ไปทำความรู้จักกับคุณชายอันหลีของตระกูลอันดีกว่า” 

 

 

“เธออยากให้ฉันไปดูตัวเหรอ ฝันไปเถอะ!” เหวินหย่าไต้หน้าถอดสี พร้อมกับตะคอกใส่จางหมิงเยี่ยน 

 

 

ตระกูลอันเป็นตระกูลที่เทียบไม่ได้แม้กระทั่งตระกูลเหวิน อันหลี คุณชายใหญ่ของตระกูลเหวินถูกส่งไปอยู่เมืองนอกเมื่อหลายปีก่อน พูดให้น่าฟังหน่อย ก็น่าจะเรียกว่าไปเรียนต่อ แต่ใครๆ ก็รู้ว่าต้องเกเรมาก ไม่มีทางสั่งสอนได้ถึงถูกส่งไปเมืองนอกไม่ใช่เหรอ 

 

 

เธอเป็นคุณหนูใหญ่ที่สูงส่งที่สุกของตระกูลเหวิน จะไปดูตัวกับผู้ชายพรรค์นั้นได้อย่างไร! 

 

 

“ก่อนหน้านี้ตระกูลอันอาจจะเทียบตระกูลเหวินไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉันได้ยินมาว่าตระกูลอันทำสัญญาร่วมงานครั้งใหม่กับบริษัทตระกูลอวี๋ ขอเพียงงานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ตำแหน่งของตระกูลอันจะต้องสูงเหมือนน้ำขึ้นแน่ๆ ถ้าได้รู้จักกับอันหลี ก็ถือว่าเธอได้เปรียบนะ” 

 

 

จางหมิงเยี่ยนเล่นนิ้วของตัวเอง พลางหัวเราะเยาะ 

 

 

“พูดขึ้นมาแล้วก็เป็นเพราะเธอไม่พยายาม ถ้าตอนนี้เธอยังไปเจอหน้าคุณชายหานได้เหมือนเมื่อก่อน การร่วมงานในครั้งนี้จะตกไปอยู่ในกำมือของตระกูลอันได้ยังไง” 

 

 

เหวินหย่าไต้ “…” !! 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 446 รักใคร่! (4) 

 

 

“ฉันพูดไปหมดแล้ว จะไปไม่ไปก็แล้วแต่เธอ แต่พ่อเธอบอกแล้ว ว่าถ้าเธออยู่ในประเทศแล้วไม่มีประโยชน์อะไร ก็จะจัดการส่งเธอไปเมืองนอกทันที คุณชายหานเห็นเธอแล้วจะได้ไม่ลำบากมาถึงตระกูลเหวินของพวกเรา” 

 

 

จางหมิงเยี่ยนพูดจบแล้วก็หมุนตัวเดินไป 

 

 

เหลือไว้เพียงเหวินหย่าไต้ที่หน้าซีดเผือด ได้แต่นั่งนิ่งเฉยหลังจากได้ยินเสียงปิดประตู! 

 

 

 

 

 

ตั้งแต่เหนียนเสี่ยวมู่ออกจากสถานีตำรวจ อวี๋เยว่หานก็จูงมือเธออยู่ตลอด 

 

 

ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถ ความกดอากาศลดต่ำลงเรื่อยๆ 

 

 

หญิงสาวนั่งอยู่ข้างๆ เขา ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์อยู่ตลอด นอกจากให้คนไปสืบหาตัวการที่ลักพาตัวเธอแล้ว ยังจัดบอดีการ์ดสี่คนให้เธอ แบ่งออกเป็นสองกะ คอยตามเธอตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วย… 

 

 

เธอพิงหัวลง และแอบส่งข้อความหาเพื่อนสนิทของตัวเอง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่: [อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองมีค่า แม้ฉันจะยังคงถังแตกเหมือนเดิม…] 

 

 

ถานเปิงเปิง: [คุณชายหานตัดสินใจเลี้ยงเธอแล้วเหรอ] 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่: [ถุย! นางฟ้าเลี้ยงตัวเองได้น่า เขาเพิ่งรับเลี้ยงบอดีการ์ดสี่คนมาปกป้องฉันต่างหาก…] 

 

 

ถานเปิงเปิง: [งั้นเธอจะดีใจอะไร เธอสู่บอดีการ์ดไม่ได้ด้วยซ้ำ] 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่: […] ตัดเพื่อน! 

 

 

“ส่งข้อความหาใคร” ครั้นอวี๋เยว่หานวางสาย เขาเห็นคนข้างกายกำลังทำแก้มป่อง พลางถลึงตามองโทรศัพท์มือถือ 

 

 

หลังจากได้ยินเสียงของเขา เหนียนเสี่ยวมู่ก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือทันที 

 

 

หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างไม่มั่นใจ “ไม่มีอะไร ก็แค่ดูไปเรื่อยเปื่อย” 

 

 

“…” 

 

 

“จริงสิ คุณสัมภาษณ์เสร็จแล้วเหรอ” เดิมทีเหนียนเสี่ยวมู่แค่อยากเปลี่ยนเรื่องพูด ผมปรากฏว่าเมื่อพูดขึ้นมาแล้ว เธอก็รีบควักโทรศัพท์มือถือมาดูข่าวบนอินเทอร์เน็ตในทันใด 

 

 

เป็นไปตามคาด ข่าวสัมภาษณ์ส่วนตัวอวี๋เยว่หานได้ลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

 

แม้จะมีแค่ข่าวเป็นตัวอักษร แต่ก็ยังคงมี ‘เหล่าแฟนคลับ’ กลุ่มใหญ่กรี๊ดกร๊าดเขาอย่างบ้าคลั่งอยู่บนอินเทอร์เน็ต! 

 

 

“มีอะไรน่าดู” ทันใดนั้น อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือมาบังหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอเอาไว้ 

 

 

และเตรียมจะแย่งมันไปจากเธอ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ปกป้องโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้ตามสัญชาตญาณ ก่อนจะชำเลืองเห็นอะไรบางอย่าง ทำเอาเธอถึงกับต้องเบิกตาโพลง! 

 

 

“เดี๋ยวก่อน! ปล่อยมือฉันก่อน!” 

 

 

เธอผลักมือของอวี๋เยว่หานออก แล้วสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองไปด้านล่างสุดของหน้าข่าวนั้น 

 

 

ก่อนจะชี้ไปที่รูปภาพด้านล่างสุด 

 

 

รูปภาพนั้นเผยให้เห็นเงาหลังเลือนรางของอวี๋เยว่หาน แต่เห็นหน้านักข่าวสาวที่สัมภาษณ์อยู่ฝั่งตรงข้ามเขาเต็มๆ! 

 

 

นักข่าวสาวแต่งกายทันสมัย แต่งหน้ามาสะสวย 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่นั่งอยู่ข้างๆ อวี๋เยว่หาน ตอนนี้เธอทำหน้าตาอิจฉา จนแม้แต่คนตาบอดก็ดูออก! 

 

 

เขายังกล้าบอกเธออีก ว่าคนที่สัมภาษณ์เป็นผู้ชาย 

 

 

คนหลอหลวง! 

 

 

เฮอะ! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ปิดหน้าเบราเซอร์ไปด้วยความโมโห แล้วยัดโทรศัพท์มือถือเข้าไปในกระเป๋า 

 

 

หญิงสาวกอดอก พลางเขยิบไปนั่งตรงที่ไกลจากเขาที่สุด ก่อนจะหันหน้าไปมองข้างนอกหน้าต่าง 

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่” 

 

 

“…” ผู้ชายพูดโกหกไม่คู่ควรจะเรียกชื่อของเธอ! 

 

 

ครั้นรถมาถึงคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ เหนียนเสี่ยวมู่เปิดประตูรถ และเดินปึงปังเข้าไปข้างใน 

 

 

ขณะที่เพิ่งเดินมาถึงห้องรับแขก อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือมาจับไหล่ของเธอไว้ 

 

 

หญิงสาวกำลังโมโห เธอจึงดึงมือของเขา แล้วเหวี่ยงเขาข้ามไหล่! 

 

 

ถ้าเป็นคนอื่นคงจะตอบโต้ไม่ทันแน่ 

 

 

แต่อวี๋เยว่หานตะลึงไปแค่หนึ่งวินาทีเดียวเท่านั้น ก่อนจะเอนตัวไปข้างหน้า และกอดเธอล้มตัวลงบนโซฟา ก่อนที่เธอจะเหวี่ยงตัวเขาออกไป 

 

 

เขาพลิกร่างกายสูงใหญ่ กดเธอไว้ในอ้อมอก แล้วขยับริมฝีปากบาง 

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ คุณใช้ความรุนแรงในครอบครัวเหรอ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พลันอึ้งงัน สีหน้าของเธองุนงงอยู่บ้าง ราวกับรู้ตัวว่าเมื่อครู่เพิ่งทำอะไรลงไป 

 

 

ในหัวของเธอปรากฏภาพที่เห็นก่อนหน้านี้ ทำเอาเธอต้องกัดริมฝีปาก 

 

 

“อวี๋เยว่หาน ฉันเหมือนจะจำเรื่องในอดีตได้แล้ว…”