หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.513 – ครึ่งชั่วโมง

 

ณ โลกเดิม

 

ภายในสหพันธรัฐรัฐบาลกลาง บริเวณชานเมืองของเมืองหลวง

 

วิลล่าบนภูเขา

 

ม่านรังสีแสงกระพริบไหว พร้อมกับร่างของกู่ฉิงซานที่ปรากฏขึ้น

 

วินาทีที่เท้าสัมผัสกับพื้น เขาก็เริ่มทำสมาธิ คิดถึงภาพของ ‘สมาคมกำปั้นเหล็กแห่งความยุติธรรม’ ทันที

 

ขณะเดียวกันกับความนึกคิดของเขา ด้ายเส้นบางๆก็ปรากฏขึ้นในความอากาศที่ว่างเปล่า

 

ด้ายบางๆที่ว่านี้ คือด้ายมิติที่กำลังเชื่อมต่อระหว่างเขา เชื่อมต่อกับสมาคมกำปั้นเหล็กในโลกมิติอนันต์อันไกลโพ้น

 

กู่ฉิงซานดึงด้ายบางๆที่ว่าจากในความว่างเปล่า

 

ด้ายมิติเริ่มทำการตอบสนองอย่างรวดเร็ว

 

มันเริ่มต้นที่จะพริ้วไหวด้วยอัตราเร็วที่เชื่องช้า

 

—คงเป็นเพราะระยะทางมันอยู่ไกลเกินไป

 

แม้ว่าสัญญาณโลกมิติอนันต์จะถูกเปิดใช้งานแล้วก็ตามที แต่ด้ายมิติยังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักเล็กน้อยเพื่อเตรียมการ

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในอากาศที่ว่างเปล่า กู่ฉิงซานก็พยักหน้าอย่างลับๆ

 

นับจากช่วงเวลานี้ไป สัญญาณกำลังเริ่มต้นกระบวนการเคลื่อนย้ายแล้ว

 

นี่เป็นกระบวนการที่ไม่สามารถย้อนกลับ หรือหยุดมันได้

 

เสี่ยวเหมียวกล่าวกับกู่ฉิงซานว่าตัวเขาน่าจะถูกส่งกลับมาในระยะเวลาราวๆ ครึ่งชั่วโมง

 

แล้วเขามีอะไรที่พอจะสามารถทำได้บ้างนะ ในครึ่งชั่วโมงนี้?

 

กู่ฉิงซานเหยียดแขนบิดขี้เกียจ

 

ดูเหมือนว่า … จะไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เลย

 

แต่แล้วจู่ๆสมองควอนตัมของเขาก็ส่องสว่างขึ้นทันใด

 

“ใต้เท้า ฉันมีความสุขเหลือเกิน ที่คุณกลับมาในเวลาที่เหมาะสมเช่นนี้” เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังขึ้น

 

“หืม? มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 

“พวกเรากำลังพบกับปัญหาใหญ่ .. ใหญ่มากๆ” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว

 

ข้อมูลจำนวนมากปรากฏขึ้นบนสมองควอนตัม

 

นับตั้งแต่วันที่เทพกับผีร้ายบุกเข้ามาในโลก ทุกๆเหตุการณ์สำคัญทั้งหมดที่เกิดขึ้น เริ่มปรากฏต่อหน้ากู่ฉิงซาน

 

“เทพกับผีร้ายบุกโลก?” กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว

 

“แล้วตอนนี้ผีร้ายกับเทพมีจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่? เวลาของฉันมีจำกัดมาก เตรียมเครื่องจั๊ม์ไว้พร้อมรึยัง ฉันจะได้รีบจัดการกับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”

 

ขณะเอ่ยถาม กู่ฉิงซานก็คว้าจับดาบพิภพจากในอากาศที่ว่างเปล่า

 

เขาพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้ในคราเดียว!

 

“ไม่ได้หรอกใต้เท้า เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว

 

ข้อมูลเพิ่มเติมปรากฏขึ้นบนจอม่านแสง

 

จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผีร้ายหลายหมื่นตนและผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพหลายร้อย กำลังแยกย้าย กระจายตัวกันออกไปทุกมุมโลก

 

และฟังจากบทสนทนาระหว่างทั้งสอง ก็ยังได้ข้อมูลมาว่าโลกอาชูร่ากับโลกจ้าวอสูรก็กำลังซ่อนตัว จับตาดูโลกใบนี้ด้วยความโลภอยู่เช่นกัน

 

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ปัญหามันไม่ง่ายดายจริงๆด้วย” กู่ฉิงซานดูข้อมูลที่ส่งมา เขาเริ่มรู้สึกปวดหัว

 

การเคลื่อนย้ายมิติกำลังดำเนินการอยู่ ดังนั้น-

 

-เขาจึงมีเวลาเพียงราวๆครึ่งชั่วโมงเท่านั้น!

 

มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนๆเดียว ที่จะเดินทางไปทั่วทั้งโลกในเวลาครึ่งชั่วโมง และจัดการรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ทั้งหมด

 

อาชูร่ากับจ้าวอสูรยังคงอยู่ในโลกของตนเอง และยังเลือกที่จะไม่บุกเข้ามา

 

พวกเขากำลังเฝ้าดูและเฝ้ารอคอยอย่างเงียบๆ

 

หากจะแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ให้จบโดยสมบูรณ์ กู่ฉิงซานจำต้องทุ่มเททั้งพลังงานและเวลาเป็นจำนวนมาก

 

-และเขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะทำเช่นนั้น

 

กู่ฉิงซานสูดหายใจลึก

 

เขามองดูข้อมูลต่างๆอย่างรอบคอบ และพยายามที่จะสงบใจให้เย็นลง

 

หลังจากเฝ้าดูเนื้อหาเหล่านี้และเริ่มคิดวิเคราะห์ถึงในทุกๆแง่มุมต่างๆ เวลา10นาทีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

อีก 20 นาที เขาจะถูกส่งกลับไป

 

กู่ฉิงซานหลับตาลง ยกมือขึ้นนวดหน้าผากของเขา

 

เขาค่อยๆพยายามนึกถึงข้อมูลทั้งหมดที่ตนพึ่งได้รับมาอย่างเงียบๆ

 

ในแต่ละเรื่องที่ผีร้ายกับเทพกระทำ ในแต่ละเรื่องที่พวกเขาพูดคุย ทั้งหมดล้วนปรากฏอยู่ในทะเลแห่งห้วงสติของกู่ฉิงซาน

 

“ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ … แต่ละผู้สืบสายโลหิตจะมีสกิลเทวะเป็นของตนเอง พวกเราที่เป็นผู้ฝึกยุทธจึงไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ วิธีอะไรกันนะถึงจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ทั้งหมดนี้ลงได้ … ” กู่ฉิงซานเอ่ยงึมงำ

 

และก็ปัญหานี้เช่นกัน ที่มันทำให้ซางหยิงฮ่าวต้องปวดหัวตลอดเวลา

 

เทพธิดากงเจิ้งถาม “ใต้เท้า ต้องการให้ฉันแจ้งทุกคนรึเปล่าว่าคุณกลับมาแล้ว”

 

“ไม่ เวลามีน้อยเกินไป ขอฉันคิดสักครู่นะ”

 

กู่ฉิงซานผุดลุกขึ้น และเดินไปรอบๆห้อง

 

เขากลับมาสงบลงได้ในที่สุด และเริ่มเค้นสมองขบคิดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

ไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ยังไงเขาก็จะต้องช่วยซูเซี่ยเอ๋อก่อนเป็นอันดับแรก

 

แต่ว่า –

 

หากเราสามารถคิดแผนการที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหาของโลกใบนี้ ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ก็คงจะช่วยเหลือทุกคนได้ไม่น้อย

 

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องดังกล่าวนี้ในจิตใจ กู่ฉิงซานก็กล่าวทันทีว่า “ช่วยนำชุดข้อมูลหมายเลข 7 , 93 , 136 ,385 กับ614 ให้ฉันดูอีกครั้งนึงซิ”

 

“น้อมรับคำสั่ง ใต้เท้า”

 

บนสมองควอนคัม ทุกๆวิดีโอและภาพข้อมูลต่างๆกระพริบไหวอย่างรวดเร็ว

 

ด้วยความรวดเร็วดังกล่าวนี้ มันเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถมองตามทันได้เลย

 

หากมีใครมาเห็นถึงฉากนี้ พวกเขาคงยากที่จะทำใจเชื่อ

 

“ช้าเกินไป ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลให้มากกว่านี้อีกสิ” เขาสั่ง

 

“รับทราบ ใต้เท้า” เทพธิดากงเจิ้งรับคำ

 

ทุกชนิดของข้อมูลบนจอม่านแสงถี่ระรัวขึ้นยิ่งกว่าเดิม คราวนี้จากกระพริบไหว เปลี่ยนเป็นโผล่ขึ้นมาเสี้ยวพริบตาเดียวมันก็หายไป

 

นี่มันเกือบจะเกินกว่าความเร็วที่มนุษย์จะสามารถทำความเข้าใจได้แล้ว!

 

กู่ฉิงซานเฝ้ามองดูอย่างระมัดระวัง เขาพยักหน้าบ้างเป็นครั้งคราว คล้ายกับกำลังยืนยันสถานการณ์ต่างๆ

 

ครู่หนึ่ง กู่ฉิงซานก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง

 

เขาเอ่ยเสียงกระซิบ “ไม่ว่าจะเป็นเทพหรือผีร้าย กระทั่งพวกอาชูร่ากับจ้าวอสูร พวกเขาทุกฝ่ายล้วนต้องการโลก แต่ไม่คิดจะทำลายมัน”

 

เทพธิดากงเจิ้งกล่าว “ใช่แล้วใต้เท้า เรื่องนี้มิสเตอร์ซางหยิงฮ่าวก็ได้ข้อสรุปเดียวกันเช่นกัน”

 

“เอ้า เขาก็รู้เรื่องนี้ด้วยแล้วหรอกหรอ” กู่ฉิงซานหัวเราะ “แล้วทำไมเขาถึงไม่ฆ่าเจ้าพวกนี้ซะล่ะ?”

 

“มิสเตอร์ซางหยิงฮ่าวได้งัดทุกกลยุทธ์ร้ายกาจออกมาใช้มากมาย แต่ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพแข็งแกร่งเกินไป จนกลยุทธ์ใดๆก็ไร้ผล”

 

“ผู้สืบสายโลหิตแข็งแกร่งเกินไปสินะ … ”

 

กู่ฉิงซานคิดและเอ่ยถาม “เย่เฟย์หยูล่ะไปอยู่ไหน? เขาเป็นผีดิบนักฆ่าไม่ใช่หรอ ทำไมคุณถึงไม่ช่วยทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น?”

 

เทพธิดาตอบ “ตามการคำนวณของฉัน แม้อัตราการพัฒนาของเขาจะรวดเร็ว แต่ตัดสินจากเวลาอันกระชั้นชิดแล้ว เขายังไม่เร็วพอที่จะช่วยโลกเอาไว้ได้”

 

“เพราะอะไร?”

 

“เพราะผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพที่แข็งแกร่งที่สุด มีพลังอำนาจเหนือล้ำเกินกว่าจินตนาการของมนุษย์ ตามการคาดคำนวณเวลาของฉัน สองวันต่อจากนี้โลกทั้งใบจะถูกยึดครองไปโดยผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ และมันสายเกินไปที่เย่เฟย์หยูจะพัฒนาขึ้นได้ทัน”

 

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้” กู่ฉิงซานพยักหน้ากล่าว

 

เวลาผ่านไปแล้ว 23 นาที

 

กู่ฉิงซานสัมผัสถึงด้ายมิติชัดเจนยิ่งขึ้น

 

ด้ายมิตินี้กำลังพยายามดึงกู่ฉิงซานเบาๆ มันต้องการที่จะนำพาเขาออกไปจากโลกใบนี้

 

เวลาจะหมดลงแล้ว!

 

กู่ฉิงซานสูดหายใจลึกๆ และหลับตาลงสักครู่

 

“พวกเขาไม่ได้พยายามทำลายโลก แต่พวกเขาต้องการมัน”

 

เขาเริ่มบ่นงึมงำ

 

นี่คือข้อมูลสำคัญที่สุดที่กู่ฉิงซานคิดได้

 

“ … ‘มนุษย์’ ไม่สามารถเอาชนะผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพได้”

 

“ ‘เย่เฟย์หยู’ ต้องการเวลามากกว่านี้ เพื่อที่จะพัฒนาให้มากยิ่งขึ้น … ”

 

กู่ฉิงซานลืมตาอย่างกระทันหัน

 

เขารู้สึกได้ถึงมัน!

 

ด้ายมิติกำลังเพิ่มแรงดึงขึ้น มันพยายามฉุดลากเขาอย่างหนัก

 

หลังจากนี้อีกหนึ่งหรือสองวินาที ด้ายมิติจะลากเขากลับไปยังสมาคมกำปั้นเหล็กแห่งความยุติธรรม!

 

เสี้ยววินาทีนั้นเอง กู่ฉิงซานก็โฉบสองมือลงไปพรมบนแป้มพิมพ์

 

ไม่มีเวลามากพอที่จะอธิบายแล้ว!

 

แม้กระทั่งประโยคที่สมบูรณ์ ก็ยังไม่อาจลงมือพิมพ์ได้!

 

เหลืออีกหนึ่งวินาทีเท่านั-

 

“มอบอำนาจสิทธิ์ทั้งหมดให้แก่เย่เฟย์หยู!”

 

กู่ฉิงซานตะโกนออกมา

 

เขาพิมพ์ไม่กี่คำลงบนแป้นพิมพ์ด้วยความเร็วปานสายฟ้า

 

แกร๊ก!

 

ยามเมื่อตัวอักษรสุดท้ายถูกเคาะลงไป ทั้งคนทั้งร่างของกู่ฉิงซานก็หายวับไปจากโลกนี้ทันที