เมื่อเห็นว่าที่ด้านนอกเต็มไปด้วยนักข่าว

สีหน้าของอวี้ฮ่าวหรานเปลี่ยนเป็นลำบากใจ ดูเหมือนว่าปัญหานี้มันจะใหญ่กว่าที่เขาคิดและนี่จะต้องเป็นฝีมือของหวังเจาแน่นอน…

“คุณไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก ทางที่ดีคุณควรรีบกลับขึ้นไปข้างบนไม่เช่นนั้นนักข่าวพวกนี้เล่นงานคุณอ่วมแน่”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นพร้อมกับโบกมือให้เฉิงกัวอันกลับขึ้นไป…

สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ต่อให้เฉิงกัวอันจะให้สัมภาษณ์หรือไม่ มันก็ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของบริษัทชิวเฮิงขึ้นมาเลย

“เอาแบบนั้นก็ได้ ฉันไม่คิดเลยว่าข่าวมันแพร่ไปไวขนาดนี้”

เฉิงกัวอันตอบกลับด้วยสีหน้าหม่นหมอง ถึงแม้ว่าเขาจะเคยผ่านอะไรมามาก แต่บริษัทชิวเฮิงเป็นผลงานครึ่งค่อนชีวิตของเขา หากมันถูกทำลายไปเขาคงทำใจรับได้ยาก…

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงสิ่งต่าง ๆ มันดิ่งลงเหวเร็วกว่าที่เขาคิดเยอะ

แค่เพียงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากอวี้ฮ่าวหรานจากไป ทุกสำนักข่าวต่างประโคมข่าวกันอย่างร้อนแรงถึงกรณีที่บริษัทชิวเฮิงผลิตยาไม่ได้มาตรฐานจนทำให้ผู้ใช้เกิดปัญหา

สิ่งนี้ทำให้หุ้นของบริษัทชิวเฮิงดิ่งลงเหวในทันที!

อีกด้านหนึ่ง อวี้ฮ่าวหรานได้ขับรถไปถึงบริษัทชี่ถงเรียบร้อยแล้วแต่ในเวลาเดียวกัน รถยี่ห้อ Bentley สุดหรูสีดำก็ขับสวนออกไปจากบริษัทพอดี

“ใครกันมาบริษัทของเราในเวลานี้ ฉันไม่คุ้นกับรถเบ๊นซ์ป้ายทะเบียนนั้นมาก่อนเลย?” ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่เบาะหลังของรถ Bentley เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย

“ผมไม่ทราบเช่นกันครับคุณฉี ผมเองก็ไม่เคยเห็นรถคนนี้ขับเข้ามาที่บริษัทของเราเช่นกัน” คนขับรถตอบกลับด้วยท่าทางสุภาพ

แน่นอนว่าคนที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ฉีถง ประธานบริษัทฉีถงที่อวี้ฮ่าวหรานต้องการจะพบตัว!

อวี้ฮ่าวหรานที่ไม่รู้ว่าตัวเองได้คลาดกับคนที่อยากเจอตัวไปแล้ว เขาขับรถตรงไปที่ประตูทางเข้าบริษัทแต่ถูกหยุดโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทอย่างรวดเร็ว

“คุณเป็นใคร? คุณมีบัตรผ่านรึเปล่า?”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าดุดัน และเมื่อเขาเห็นว่ารถของอวี้ฮ่าวหรานมีแต่รอยขีดข่วนเต็มไปหมด เขาก็ยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวชายหนุ่มที่ต้องการจะเข้าไปในบริษัทของเขา

ในทางกลับกัน เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ตัวเองถูกหยุดโดยพวกมดแมลงอีกแล้ว

ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ถูกหยุดโดยพวกต่ำต้อยพวกนี้เสมอ?

และยิ่งไปกว่านั้น หากเขาทำตามกฎระเบียบของบริษัทฉีถง กว่าที่เขาจะได้เจอกับตัวของฉีถง ป่านนั้นบริษัทของเฉิงกัวอันคงเละป่นปี้ไปแล้วแน่นอน!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงวางแผนที่จะดึงดูดความสนใจโดยการเล่นใหญ่สักหน่อย!

“เอี๊ยดดดด โครม!!”

อวี้ฮ่าวหรานกระทืบคันเร่งรถจนมิดและพุ่งชนประตูทางเข้าบริษัทฉีถงอย่างจังจนประตูพังและล้มลง

เมื่อประตูพัง อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถเข้าไปด้านในลานหน้าบริษัททันทีและเปิดประตูลงจากรถก่อนที่จะเดินมุ่งหน้าเข้าไปที่ตัวตึกสำนักงาน

“บ้าเอ๊ยแกเป็นใครกันวะ??!!”

“แกบ้ารึเปล่าที่มาทำลายประตูบริษัทเราแบบนี้!?”

“นี่แกไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลยรึไง!”

หลังจากอึ้งกับเหตุการณ์อยู่พักหนึ่ง บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างก็รีบกรูกันเข้ามาหาอวี้ฮ่าวหรานพร้อมกับตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล

อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ตอบกลับอะไร เขามองไปที่พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยแววตาเย็นชาแล้วจากนั้นเขาถีบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนที่กำลังจะเข้ามาล็อคตัวเขาอย่างรุนแรง

“พลั่ก!!”

ด้วยความรุนแรงของลูกถีบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นตัวลอยกระเด็นไปไกลมากกว่า 7 เมตร!

ถัดมา…ภาพแห่งความรุนแรงก็ปรากฏขึ้นกลางลานหน้าบริษัทฉีถง

อวี้ฮ่าวหรานกระโจนเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาทั้งเตะทั้งต่อยจนภายในพริบตาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนก็ลงไปนอนร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น…

“อ๊า….แขนฉัน แขนฉัน!”

“พอแล้ว ๆ อย่าทำผมอีกเลยพี่ชาย!”

ล้อเล่นหรือไง?!

พวกเขาถูกจ้างมาให้จัดการกับพวกตัวป่วนธรรมดา ๆ เท่านั้นไม่ใช่ต้องมาเจอกับสัตว์ประหลาดแบบนี้!

แค่เห็นว่าชายหนุ่มคนนี้สามารถจัดการพวกเขาได้ภายในพริบตามันก็ไม่มีใครในพวกเขาที่ต้องการจะต่อต้านอีกฝ่ายอีก…

พวกเขาไม่โง่พอที่จะเอาตัวไปเสี่ยงตายกับคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้

อวี้ฮ่าวหรานกวาดสายตามองไปยังพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นอนร้องโอดโอยอยู่ชั่วครู่ และเมื่อเห็นว่าไม่มีใครต้องการจะหยุดเขาอีกแล้ว เขาจึงเดินตรงเข้าไปที่ตึกสำนักงานของบริษัทฉีถงต่อ

“อ…เอ่อ…ค…คุณต้องการอะไร!?”

หญิงสาวที่อยู่ตรงโต๊ะประชาสัมพันธ์เอ่ยถามอวี้ฮ่าวหรานด้วยอาการสั่นกลัว ด้วยความช็อคจากเหตุการณ์ที่เธอเห็นด้านนอกเธอจึงขาชาวิ่งหนีไม่ได้ในตอนที่อวี้ฮ่าวหรานกำลังเดินเข้ามาด้านในตึก…

“ห้องประธานบริษัทของคุณอยู่ชั้นไหน? ผมต้องการผมกับเขา!”

อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่อยากจะเสียเวลาให้มากมายนัก

“อ…เอ่อ…”

หญิงสาวหวาดกลัวจนลนลานจนเธอนึกคำพูดไม่ออกไม่รู้ว่าควรจะตอบชายหนุ่มที่ดูโหดเหี้ยมคนนี้ยังไงดี

“ตอบมา!!”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อวี้ฮ่าวหรานตะคอกเสียงดังกดดัน

“ข..ข…ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ ต..แต่ว่าท่านประธานเพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง…ต…ตอนนี้มีแต่ผู้จัดการหวงที่เป็นคนดูแลบริษัทแทน…”

เมื่อโดนตะคอก หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากเข้าไปใหญ่ทำให้เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

“ถ้างั้นบอกมาว่าไอ้ผู้จัดการหวงอะไรนั่นอยู่ที่ชั้นไหน!”

“ผ…ผู้จัดการหวงอยู่ที่ชั้นสิบเอ็ด…ค่ะ…”

หลังจากได้รับคำตอบ อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจอีกฝ่ายทันที เขาเดินไปที่ลิฟท์อย่างรวดเร็ว

ที่ด้านหลัง หญิงสาวที่อยู่ตรงโต๊ะประชาสัมพันธ์มองตามหลังอวี้ฮ่าวหราน ด้วยแววตาสับสน เธอไม่แน่ใจว่าเธอควรจะโทรเรียกตำรวจดีไหม ถ้าหากเธอโทรเรียกตำรวจแล้วผู้ชายคนนี้ตามล้างแค้นเธอในภายหลังเธอจะทำยังไง?

ผู้ชายคนนี้ดูดุร้ายจริงๆ

ที่ชั้นสิบเอ็ดของตึกสำนักงานบริษัทฉีถง

ในทันทีที่ออกจากลิฟท์ อวี้ฮ่าวหรานเดินตรงไปที่ห้องของผู้จัดการหวงทันที เขาต้องการแก้ปัญหาของเฉิงกัวอันให้จบโดยไวที่สุด

ไม่ว่ายังไง เฉิงกัวอันและเฉิงชิวอวี้เคยช่วยเหลือเขาเอาไว้มาก และยิ่งไปกว่านั้นปัญหานี้มันน่าจะเป็นเขาที่เป็นต้นเหตุ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการเห็นบริษัทชิวเฮิงต้องมีปัญหาเพราะเขา!

อย่างไรก็มตามเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องของผู้จัดการหวง อวี้ฮ่าวหรานก็ได้ยินเสียงคนจากด้านใน

“ผู้จัดการหวง…ไม่เอาซี่…อย่าเพิ่งทำตอนนี้…อุ๊ย! กระดุมของฉันหลุดแล้วเลยเห็นไหม ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนะแถมสามีของฉันวันนี้เขา…”

“เอาน่า วันนี้ฉันอนุญาตให้เธอไม่ต้องทำงานอะไรทั้งนั้น ขอแค่เธอทำให้ฉันมีความสุขก็พอ…”

เสียงชายหญิงที่กำลังพลอดรักกันอยู่ข้างในทำให้ อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้ว

ฮึ่ม! คู่หญิงโฉดชายชั่ว!

โครม!!!

อวี้ฮ่าวหรานถีบประตูให้เปิดออกทันที…

แน่นอนว่าเมื่อประตูถูกถีบจนเปิดออก คู่ชายหญิงที่อยู่ข้างในถึงกับสะดุ้งโหยงและรีบหันมามองผู้ที่เข้ามาขัดจังหวะของพวกเขา