บทที่ 19 พ่อแท้ๆของเด็กๆคือเขา

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 19 พ่อแท้ๆของเด็กๆคือเขา
คนในห้องไม่รู้สถานการณ์ด้านนอกห้อง เสิ่นอี่ว์มองไปทางหนานหว่านเยียนด้วยแววตาประหลาดใจ พระชายาเหมือนจะเปลี่ยนไปไม่น้อย

“วิชาแพทย์ของพระชายาเก่งกาจเช่นนี้ หากมิใช่เพราะหน้าตาท่านมิเปลี่ยนเลย เสิ่นอี่ว์คงคิดว่าพระชายาเปลี่ยนคนแล้วแน่”

คำถามนี้ถามโดนใจกู้โม่หานนัก เขาเงี่ยหูฟังเต็มที่

หนานหว่านเยียนชะงัก เธอเปลี่ยนแปลงมากเกินไป คนที่รู้จักร่างเดิมอาจจะสงสัยเธอ

เธอระแวงขึ้นมาทันที แสร้งเปลี่ยนเรื่อง “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร เรื่องนี้น่ากลัวนัก ข้าจะเปลี่ยนคนกลางคันได้อย่างไร เจ้าว่าจริงหรือไม่”

ระหว่างพูด เธอหยิบยาและผ้าพันแผลออกมาจากในกระเป๋ายาออกมา “ถอดเสื้อผ้าออก ข้าจะดูแผลให้เจ้า”

เสิ่นอี่ว์ลังเลชั่วครู่ ก่อนจะเผยแผลที่บริเวณท้องออกมา

หนานหว่านเยียนลงมือทำแผลไปพลาง เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปพลาง “จริงสิ ท่านอ๋องจะแต่งงานกับหยุนอี่ว์โหรวรึ?”

ด้านนอกประตู กู้โม่หานพอได้ยินหนานหว่านเยียนถามเรื่องการแต่งงานของเขา อดยิ้มเย็นไม่ได้

หนานหว่านเยียนผู้นี้ยังรักเขาอยู่! ท่าทางไม่สนใจที่แสดงออกมาในสองวันนี้ อันที่จริงแล้วก็ยังรักเขาอย่างแทบเป็นแทบตายอยู่ดี!

เสิ่นอี่ว์ไม่คิดว่าหนานหว่านเยียนจะถามเรื่องนี้ เขาชะงักก่อนบอก “ใช่ ตอนนั้นหลังจากพระชายาเข้าสู่เรือนเซียงหลิน ท่านอ๋องก็ตกลงสัญญาห้าปีกับไทเฮา ห้าปีให้หลัง หากคุณหนูโหรวยังรอท่านอ๋องอยู่ และท่านอ๋องยังมีใจให้กับคุณหนูโหรวอยู่ ไทเฮาจะอนุญาตเรื่องการแต่งงานครั้งนี้”

“ห้าปีผ่านไป คุณหนูโหรวกับท่านอ๋องยังคงรักใคร่ต่อกัน ดังนั้นไทเฮาและฮ่องเต้มีพระราชโองการ อนุญาตให้ท่านอ๋องรับคุณหนูโหรวเข้าจวน”

เสิ่นอี่ว์เห็นหนานหว่านเยียนตั้งใจใส่ยาให้ตน สีหน้าไม่มีแววโกรธขึ้งหรือไม่พอใจใดๆเลย พลันเป็นห่วงว่า พระชายากำลังวางแผนการอะไรในใจอีกหรือไม่

“พระชายา ขออภัยที่ข้าน้อยพูดมากไป ยามท่านอ๋องยังเยาว์วัย คุณหนูโหรวเคยช่วยชีวิตเขา คุณหนูโหรวเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตท่านอ๋อง ดังนั้นพระชายาอย่าได้ทำให้ท่านอ๋องไม่พอใจอีกเลย หากท่านทำลายการแต่งงานของท่านอ๋อง ท่านอ๋องต้องไม่เอาท่านไว้แน่…”

เขารู้ว่าหนานหว่านเยียนต้องไม่ชอบฟังคำเหล่านี้แน่ แต่ตอนนี้พระชายาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขา ต่อให้เพื่อผู้มีพระคุณ เขาก็จำต้องพูดคำพูดเหล่านี้

ใครจะรู้ว่าหนานหว่านเยียนไม่รู้สึกอะไรเลย ยังคงใส่ยาที่แผลอย่างตั้งใจ

นางยังยิ้มละไมบอก “เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่สนใจท่านอ๋องของเจ้าเลยสักนิด ยิ่งไม่สนใจไปทำลายงานแต่งของเขาด้วย”

ร่างเดิมรักกู้โม่หาน ดังนั้นถึงได้อิจฉาริษยา ถึงได้ทำอะไรที่ไม่มีสติพวกนั้น

และการเผชิญหน้าผู้หญิงเสแสร้งชั้นสูงอย่างหยุนอี่ว์โหรว เธอไม่ลงมือง่ายๆแน่

แต่หยุนอี่ว์โหรวก็มีฝีมือพอตัว สามารถมองดูกู้โม่หานแต่งงานกับร่างเดิมมาถึงห้าปี ตนเองกลับไม่มีตำแหน่งหรือฐานะใดๆเลยสักนิด

ในขณะเดียวกับที่หนานหว่านเยียนแอบถอนหายใจ ก็แอบด่ากู้โม่หานในใจรัวๆ

ผู้ชายคนหนึ่ง ตอนเด็กไม่เพียงจมน้ำถูกร่างเดิมช่วยชีวิตครั้งหนึ่ง เท่าที่ดูตอนนี้ ยังโดนผู้หญิงเสแสร้งช่วยอีกครั้ง ผู้ชายอ่อนแอแบบนี้ ให้ผู้หญิงสองคนผลัดเวรกันไปช่วย ไม่รู้จริงๆว่าคนแบบนี้เป็นเทพสงครามแห่งซีเย่ได้อย่างไร…

และทั้งๆที่ร่างเดิมเป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขาด้วย เขากลับคิดถึงแต่ผู้หญิงเสแสร้งอย่างหยุนอี่ว์โหรว ในเรื่องนี้ไม่เพียงไม่จำความดีของร่างเดิม ยังรังเกียจเดียดฉันท์ใส่ร่างเดิมมากขึ้นอีก…. เรียกได้ว่าสองมาตรฐานชัดๆ!

ถึงหนานหว่านเยียนจะครุ่นคิดในใจมากมาย แต่มือเธอไม่ได้หยุดนิ่งเลย เธอหยิบผันพันแผลและผ้าฝ้ายออกจากในกระเป๋ายา และเอามาพันหน้าท้องเสิ่นอี่ว์อย่างระมัดระวัง

“เอาล่ะ จำไว้ว่าหลายวันนี้อย่าโดนน้ำ อย่าทำอะไรหักโหมรุนแรง อย่ากินของเผ็ด ห้ามดื่มเหล้า และห้ามฝึกยุทธ์ ของพวกนี้รอจนเจ้าหายดีแล้วค่อยว่ากัน”

หนานหว่านเยียนพูดเรื่องควรระวังออกมารัวๆ เสิ่นอี่ว์ยังไม่ทันรู้ตัว ก็เห็นนางหยิบยามาอีกขวดหนึ่ง

“นี่ ทาบนแผลทุกวัน เช้าเย็นอย่างละครั้ง ตอนกลางคืนข้าจะมาช่วยทาให้เจ้า และดูอาการเจ้าไปด้วย ตอนกลางวันเจ้าหาคนมาช่วยเจ้าแล้วกัน”

เสิ่นอี่ว์รับขวดยาจากมือนางมาด้วยสีหน้าซาบซึ้ง “ขอบพระทัยพระชายา”

แต่กู้โม่หานที่หน้าประตูกลับมีสีหน้าเขียวคล้ำแล้ว

ทั้งๆที่เขามาสืบความจริงเรื่องหนานหว่านเยียนแท้ๆ แต่ยืนอยู่ตรงนี้นานแล้ว เขาไม่ได้สังเกตมือของหนานหว่านเยียนเลย แต่กลับโดนบทสนทนาของทั้งคู่ดึงดูดไปโดยไม่รู้ตัว

กระทั่งยังครุ่นคิดวิเคราะห์ความจริงเท็จในใจคำพูดนาง แต่เป็นไปไม่ได้หรอกที่หนานหว่านเยียนจะไม่ทำลายงานแต่งของเขา! นางเป็นสตรีที่ชั่วร้ายนะ!

กู้โม่หานยิ่งคิดยิ่งร้อนใจ อยากจะดูให้แน่ชัด หนานหว่านเยียนกลับเริ่มเก็บข้าวของแล้ว

แต่พอคิดดูอีกที ท่าทางของหนานหว่านเยียนไม่เหมือนกำลังใส่กู่เลย บางทีนางอาจจะมีฝีมือรักษาจริงๆ?

บัดนี้ต่อให้กู้โม่หานไม่อยากเชื่อแค่ไหน ก็จำต้องยอมรับว่า—-

หนานหว่านเยียนไม่เหมือนก่อนแล้วจริงๆ

ในห้อง หนานหว่านเยียนทำท่าจะออกไป เสิ่นอี่ว์พลันเรียกเขาไว้ด้วยน้ำเสียงสงสัย

“พระชายา เสิ่นอี่ว์ยังอยากถามอีกว่า พ่อแท้ๆของเด็กน้อยสองคนนั่นใช่…เป็นลูกของท่านอ๋องหรือไม่?”

นี่เป็นสิ่งที่ท่านอ๋องอยากรู้ที่สุด และเขาเองก็อยากรู้มาก เด็กน้อยสองคนน่ารักขนาดนี้ หากเป็นลูกของท่านอ๋องจริงๆ ก็จะมีฐานะสูงส่ง และได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากราชวงศ์แน่นอน!

และความสัมพันธ์ระหว่างพระชายากับท่านอ๋องจะต้องดีขึ้นเพราะเหตุนี้แน่!

นี่เป็นเรื่องดียิ่งนักนะ!

พ่อแท้ๆของเด็กน้อยสองคน?

หัวใจของกู้โม่หานพลันโดนดึงกลับมา

เขาตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งตัวแนบชิดประตู เงี่ยหูผึ่ง รอฟังคำตอบหนานหว่านเยียน

“อันที่จริงพ่อของซาลาเปากับเกี๊ยวน้อย ก็คือกู้….”

กู้? กู้อะไร?

เสิ่นอี่ว์ตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ท่านอ๋องใช่หรือไม่?”

หัวใจของกู้โม่หานโดนหิ้วสูงถึงคอหอย นิ้วมือสั่นเทา…