บทที่ 327 ไม่สะดวกพบคุณ / บทที่ 328 มีเมตตากรุณา

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 327 ไม่สะดวกพบคุณ / บทที่ 328 มีเมตตากรุณา โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 327 ไม่สะดวกพบคุณ

ด้านในคฤหาสน์ตระกูลเยี่ย สิ่งที่เข้าสู่สายตาคือสวนแบบเปิดโล่งกว้าง ต้นหลิวเรียงรายเป็นแถว โคมไฟหลากสีสันส่องสว่าง บรรยากาศรื่นเริงยินดีอย่างที่สุด

พ่อบ้านของคฤหาสน์หลังนี้เป็นชายวัยกลางคนอายุมากคนหนึ่ง ดวงตาเล็กและยาวรีคู่นั้นกระจ่างใส

“พ่อบ้านหวง เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีนะครับ!”

ชายวัยกลางคนหลายๆ คนที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลอง ทักทายพ่อบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

พ่อบ้านพยักหน้ารับให้ทุกคนด้วยท่าทางที่ไม่เย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวจนเกินไป แต่หากพิจารณาอย่างละเอียด ก็จะได้เห็นแววตาภาคภูมิใจบางอย่างของความเป็นคนเหนือคนที่ซ่อนอยู่ในนัยน์ตา

รอบนอกด้านในสวนตระกูลเยี่ย ดารานักแสดงหนุ่มหน้าตาดีใต้สังกัดหวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนท์หลายคนรวมตัวซุบซิบกันอยู่ที่หนึ่ง

“ก็แค่พ่อบ้านไม่ใช่เหรอ ท่าทางเย่อหยิ่งเกินไปหน่อยมั้ง?”

ดารานักแสดงหนุ่มใต้สังกัดหวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนท์หลายคน เห็นท่าทางนั้นของพ่อบ้านก็ไม่ค่อยเข้าใจ

ทุกคนที่เอ่ยทักทายหวงหมิงคุนแทบทั้งหมดล้วนเป็นคนมีหน้ามีตาในเมืองหลวง

“ท่าทางเย่อหยิ่ง?” ดารานักแสดงรุ่นพี่คนหนึ่งหัวเราะ “พ่อบ้านหวงเขาเป็นถึงคนโปรดอันดับหนึ่งของคุณหนูเยี่ยอีอี อำนาจในตระกูลเยี่ยก็มากเอาเรื่อง ค่อนข้างมีตำแหน่ง อาศัยความสัมพันธ์กับเยี่ยอีอี ไปมาหาสู่กับคนใหญ่คนโตหลายๆ คน เขามีหน้ามีตามากกว่าพวกนายตั้งเยอะ”

หนุ่มน้อยเหล่านั้นลอบทึ่ง ตระกูลเยี่ยเป็นตระกูลที่ยอดเยี่ยม นึกไม่ถึงว่าพ่อบ้านตระกูลเยี่ยก็ยังมีประวัติความเป็นมาเช่นนี้อีก

พ่อบ้านที่ทำได้ถึงขั้นนี้ ก็นับว่าหาได้ยาก

หนุ่มน้อยทั้งหลายรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลเยี่ย จึงสำรวมอากัปกิริยาขึ้นมาก

เวลานี้เอง เยี่ยเส่าถิง เหลียงหวั่นจวินและเยี่ยมู่ฝานทั้งสามคนค่อยๆ เดินตรงเข้ามาในสวน ไปหยุดที่ด้านหน้าหวงหมิงคุน

“พ่อบ้านหวง รบกวนพาผมไปพบคุณพ่อหน่อยสิ” เยี่ยเส่าถิงมองหวงหมิงคุนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

หวงหมิงคุนได้ยินเสียงนี้ พลันหยุดความเกรงใจเหมือนอย่างที่มีให้กับคนอื่นๆ ปรายตามองเยี่ยเส่าถิง แววตาวาบอย่างผิดปกติ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ตอนนี้ท่านกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เกรงว่าจะไม่สะดวกพบคุณชายใหญ่ครับ…”

แม้ว่าหวงหมิงคุนจะเรียก “คุณชายใหญ่” สามคำนี้ ทว่าน้ำเสียงนั้นกลับเสียดหูอย่างมาก

บรรดาชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหน้าหวงหมิงคุน ได้ยินคำนี้จากหวงหมิงคุน สายตาพลันกวาดมองไปที่สมาชิกครอบครัวเยี่ยเส่าถิงทั้งสามคน เห็นเสื้อผ้าที่น่าเวทนาของทั้งสาม นัยน์ตาพลันฉายแววหัวเราะเยาะด้วยความดูแคลน ลอบยิ้มพลางส่ายศีรษะ

เจ้าของเยี่ยกรุ๊ปผู้ยิ่งใหญ่ในตอนนั้น บัดนี้นับว่าจบสิ้นแล้ว จนแม้แต่หวงหมิงคุนเองก็ยังไม่ยอมมองเขาตรงๆ เลย

คุณชายใหญ่สามคำนี้ เป็นคำถากถางขนาดไหนกันนะ

ใบหน้าเยี่ยมู่ฝานเปลี่ยนไปทันที  สายตาทั้งคู่จ้องหวงหมิงคุนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งเขม็ง หมัดทั้งสองข้างกายกำแน่น กำลังอยากที่จะเข้าไปพูดอะไรสักหน่อย กลับถูกมือของเหลียงหวั่นจวินดึงเอาไว้ มองเขาพลางขมวดคิ้วแล้วส่ายศีรษะ

สายตาเย็นชาของเยี่ยมู่ฝานจับจ้องที่ร่างของหวงหมิงคุน หมัดทั้งสองกำแน่นจนส่งเสียงกรอบๆ หากตอนนั้นเยี่ยเส่าถิงพ่อของเขาไม่เห็นค่า หวงหมิงคุนจะเดินมาถึงขั้นนี้ในตอนนี้เวลานี้ได้อย่างไร?!

เวลานี้พ่อของเขาตกอับ แม้แต่หวงหมิงคุนก็ยังซ้ำเติม!

ขณะที่บรรยากาศกำลังอึมครึม เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น

“พ่อบ้านหวง ไม่เจอกันนานเลยนะ!”

เหลียงเจียหาวกับฟางซิ่วหมิ่นและเหลียงซือหานลูกสาวปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้เอง

“คุณเหลียง!”

หลังจากหวงหมิงคุนเห็นเหลียงเจียหาว ใบหน้าเรียบเฉยพลันมีรอยยิ้ม ท่าทางเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

เหลียงเจียหาวเป็นน้องชายแท้ๆ ต่างมารดาของเหลียงเหม่ยเซวียนคุณนายใหญ่แห่งเยี่ยกรุ๊ปในเวลานี้ การรับรองคนในระดับนี้ย่อมแตกต่างไป หวงหมิงคุนสามารถมาถึงตำแหน่งในทุกวันนี้ได้ ย่อมต้องมีสายตาที่เฉียบแหลมระดับหนึ่ง

…………………………………………………

บทที่ 328 มีเมตตากรุณา

“ซือหาน ยังไม่ทักอีก!” ฟางซิ่วหมิ่นยิ้มตาหยีมองไปทางลูกสาว เหลียงซือหาน

“คุณลุงหวง สวัสดีค่ะ” เหลียงซือหานยิ้มให้หวงหมิงคุน

“เด็กดี!” หวงหมิงคุนยิ้มให้อย่างกระตือรือร้น “ซือหานยิ่งโตยิ่งสวยนะครับ”

ได้ยินดังนี้ ฟางซิ่วหมิ่นมีสีหน้าภูมิใจ ลูกสาวเธอจะไม่สวยได้หรือ

ยังไม่รอให้ฟางซิ่วหมิ่นพูดต่อ เธอหรี่ตาลง เห็นเยี่ยเส่าถิงอยู่ด้านหน้าตัวเอง รอยยิ้มบนใบหน้าเธอจางลงทันที ขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้นมา “พี่เขย พี่มาเร็วขนาดนี้เลยหรือ?”

เยี่ยเส่าถิงเห็นฟางซิ่วหมิ่นก็พูดตอบ “วันนี้งานฉลองวันเกิดพ่อ ฉันกลัวรถติดระหว่างทาง เลยมาก่อนเวลาหน่อย”

พอได้ยิน สีหน้าฟางซิ่วหมิ่นเคร่งขรึมขึ้นมาในทันใด เธอไม่มีรอยตีนกา มองเยี่ยเส่าถิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างประเมิน พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ฉันหมายความว่า พี่เขย พี่ออกมาก่อนแบบนี้ แล้วงานที่บริษัทล่ะ? วันนี้บริษัทมีสินค้าลอตหนึ่งเพิ่งเข้ามา สายหน่อยต้องเข้าโกดัง พี่ออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา จะทำยังไง?”

ฟางซิ่วหมิ่นพูดจาทิ่มแทง ไม่ไว้หน้าเยี่ยเส่าถิงต่อหน้าคนอื่นเลยสักนิด

แต่ละคำที่ตำหนิ ดังเข้าไปในหูของคนรอบข้าง ทำให้หลายคนแอบหัวเราะขึ้นมาทันใด เห็นสายตาเยี่ยเส่าถิง ก็ดูน่าเยาะเย้ยมากขึ้น

“น่าจะไม่มีอะไร ฉันเอากุญแจให้เสี่ยวจางแล้ว เสี่ยวจางจะอยู่กะดึกนานขึ้นแทนฉัน…” เยี่ยเส่าถิงพูดอย่างอดทน

“ให้เสี่ยวจางอยู่กะแทนพี่?” ฟางซิ่วหมิ่นหัวเราะเย็นชา

“พี่เขย! พี่พูดจาดูสบายจังเลย คนที่บริษัทรู้ความสัมพันธ์ของพวกเรา พี่ใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ถึงตอนที่เรื่องแพร่ออกไป คนอื่นที่ไม่รู้ จะคิดว่าพวกเราเอาแต่พรรคพวกเดียวกัน ถ้าบอกว่าเราเห็นแก่ความเป็นญาติกัน บีบพนักงาน แล้วพี่จะให้คนในครอบครัวโน้มน้าวคนอื่นได้ยังไง? คนอื่นจะไม่มาวิจารณ์เราลับหลังหรือ!” ฟางซิ่วหมิ่นไม่อายสายตาแปลกๆ ของคนรอบข้างเลย

“งั้น…เดี๋ยวดึกหน่อยฉันจะรีบกลับไปดูอีกรอบละกัน…” เยี่ยเส่าถิงถอนหายใจ

“กลับไปตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร? ไปๆ มาๆ เสียเวลาไปเท่าไร ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ตอนนี้พี่กลับไปจะทำอะไรได้? ช่างเถอะ… ใครให้พี่เป็น ‘พี่เขย’ ของพวกเรา ในเมื่อมาแล้ว ก็ช่างเถอะ!” ฟางซิ่วหมิ่นโบกมืออย่างรำคาญ ถึงแม้จะพูดว่าช่างเถอะ แต่ในคำพูดเธอ ไม่มีประโยคไหนที่ไม่ทิ่มแทงใจเยี่ยเส่าถิงเลย

เพราะคำพูดของแม่ เหลียงซือหานก็ส่งสายตารังเกียจไปทางเยี่ยเส่าถิง

“เอาล่ะๆ!” เหลียงเจียหาวมองไปทางฟางซิ่วหมิ่น “ไม่ดูเลยว่าวันนี้วันอะไร คนที่มาเป็นใคร ร้องโวยวายไป จะได้อะไรขึ้นมา!”

“แล้วจะเป็นอะไรไป… ฉันก็คิดเพื่อบริษัทไหม ธุรกิจบริษัทเราก็ไม่ใช่ว่าทำง่ายๆ เดิมทีเลี้ยงพี่สาวกับพี่ขายก็ถือเป็นความเมตตากรุณาอยู่แล้ว…” ฟางซิ่วหมิ่นเบะปากไม่พอใจ เหมือนได้รับความไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง

“พ่อ แม่ก็ไม่ได้พูดผิด แม่ก็ทำเพื่อครอบครัวของพวกเราไม่ใช่หรือ พ่อต่างหาก ทำไมถึงชอบไปช่วยคนนอก!” เหลียงซือหานช่วยพูดแทนฟางซิ่วหมิ่น

หวงหมิงคุนที่ได้ยินมาตลอดเห็นสีหน้าเยี่ยเส่าถิงย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ยิ้มพร้อมความเย้ยหยันฉายขึ้นมาในดวงตา แล้วพูด “คุณเหลียง คุณก็อย่าโทษมาดามเลย มาดามก็แค่เป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา อีกอย่างก็ไม่ได้พูดอะไรผิดด้วย”

เหลียงเจียหาวหัวเราะอย่างขมขื่นขึ้นมา และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ตัวเองเป็นคนกลาง ฝั่งหนึ่งก็ครอบครัว อีกฝั่งก็พี่สาว ลำบากใจจริงๆ

มองดูคนพวกนั้นเยาะเย้ยถากถางพ่อแม่กับตา เยี่ยมู่ฟานที่อยู่ข้างๆ สีหน้าหม่นหมองมานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อดึงเขาไว้อยู่ เกรงว่าเขาได้ชกใบหน้าที่น่ารังเกียจหลายคนนี้แตกไปนานแล้ว

…………………………………………………