สวี่ฉู่หมิงไม่ไว้หน้าเย่เฉินแบบนี้ ทำให้ฉินหงเหยียนไม่พอใจมาก

ในความทรงจำของหญิงสาว สวี่ฉู่หมิงไม่ใช่คนที่จะไร้มารยาทขนาดนี้ หรือว่าเย่เฉินทำให้เขารู้สึกต่ำต้อยขึ้นมาแล้ว?

ฉินหงเหยียนกล่าวว่า “คุณสวี่ แฟนของฉันรู้ว่าคุณช่วยฉัน แล้วก็รู้ด้วยว่าคุณเป็นคนร่ำรวย กลัวว่าจะทำให้คุณเสียหน้า จึงทุ่มเทเช่าเรือสำราญที่แพงที่สุดในโลกแล้วเลี้ยงอาหารคุณเพื่อจะแสดงความขอบคุณ”

“คุณไม่ไว้หน้ากันแบบนี้ เกรงว่าจะทำลายมาดท่านประธานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์กระมังครับ?”

สวี่ฉู่หมิงเองก็มีสีหน้าคล้ำเครียด เขามองเย่เฉิยแล้วกล่าว “เย่เฉินในเมื่อนายเก่งขนาดนี้ ขนาดเรือของ Bill Gates ยังเช่าได้ แล้วทำไมตอนที่ตระกูลหลิ่วหาเรื่องฉินหงเหยียน นายถึงไม่ยอมทำอะไร? นายทนดูฉินหงเหยียนเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่าจากการที่ไปสอบสัมภาษณ์ตามบริษัทต่างๆ แล้วล้มเหลวได้ยังไง? นายมันเป็นแฟนประสาอะไร? ”

เมื่อได้ยินสวี่ฉู่หมิงกล่าว หญิงสาวก็กล่าวอย่างลำบากใจ “ไม่ใช่แบบที่คุณคิด เย่เฉินเขาไม่ได้ละเลยฉัน…”

ฉินหงเหยียนอยากจะพูดแทนเย่เฉินแต่หญิงสาวรู้ดีว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในคmนนี้นั้นเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น

เขาใช้ประโยชน์จากสถานะของคุณชายของตระกูลเย่

แต่สำหรับตระกูลหลิ่วแล้ว จำเป็นต้องใช้เงินตราจริงๆ เย่เฉินถูกขับออกจากตระกูลแล้วย่อมไม่อาจทำเช่นนั้นได้

ทว่าที่ฉินหงเหยียนไม่รู้ก็คือ เย่เฉินเป็นแบบที่สวี่ฉู่หมิงพูดจริงๆ ทั้งๆ ที่เขาสามารถขัดขวางตระกูลหลิ่วได้ ทั้งๆ ที่เขาสามารถเปิดเผยตัวตนของคุณชายตระกูลเย่ของเขาได้ แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น

เย่เฉินวางแก้วไวน์ลงแล้วกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ดูไปแล้วคุณสวี่เองก็ไม่น่าจะชอบทานข้าวบนเรือเท่าไหร่นะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่บังคับคุณแล้วกัน ผมจะให้พนักงานไปส่งคุณที่ท่าเรือแล้วกัน”

เย่เฉินไม่จำเป็นต้องมาอธิบายเรื่องพวกนี้กับอีกฝ่าย ถ้าคุณเก่งมากก็ลองไปสืบเองสิ

ถ้าไม่มีปัญญาล่ะก็ คุณมันก็แค่เศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองเสินเฉิง มีสิทธิ์อะไรมาแอบถามความลับของผม?

บางทีเศรษฐีแสนล้านในสายตาคนธรรมดาเป็นคนที่พวกเขาต้องนอบน้อม ต่อให้เป็นข้าราชการก็ต้องเคารพพวกเขาอย่างมากทีเดียว

แต่ว่าในสายตาเย่เฉินแล้ว สวี่ฉู่หมิงเป็นแค่แมลงวันที่จะตบให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้

ฉินหงเหยียนและสวี่ฉู่หมิงประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะออกปากไล่สวี่ฉู่หมิงอย่างรวดเร็วแบบนี้

สวี่ฉู่หมิงเองกว่าจะเจอแฟนเด็กของฉินหงเหยียนได้ก็ยากเย็น วันนี้ยิ่งปักธงมาในใจว่าจะต้องทำลายศักดิ์ศรีของหมอนี่ให้ได้

ยังไม่ทันได้บรรลุเป้าหมาย จะให้เขาไปแบบนี้ได้ยังไงกัน?

แล้วอีกอย่างทำไมเย่เฉินถึงเช่าเรือลำนี้มาได้ เขาเป็นอะไรกับ Bill Gates กันแน่ สวี่ฉู่หมิงยังอยากจะลองถามเขาอยู่เลย

“ฮ่าๆ”

สวี่ฉู่หมิงจู่ๆ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทั้งที่ก่อนนี้ใบหน้าของเขานิ่งเฉยมาตลอด แล้วหันมากล่าวกับฉินหงเหยียน

“หงเหยียนเอ้ย สมแล้วที่เป็นฉันสอนเธอมากับมือ คิดไม่ถึงเลยว่าเลือกแฟนสักคนก็ยังโดนเด่นกว่าใครๆ มีเอกลักษณ์ดี ฉันชอบ!”

“มาสิ เย่เฉิน ฉันจะดื่มกับนายสักแแก้ว!”

สวี่ฉู่หมิงเป็นฝ่ายชูแก้วกับเย่เฉิน

เย่เฉินไม่พูดอะไรอีก เขายกแก้วไวน์ขึ้น แล้วทั้งสามคนก็ดื่มจนหมดแล้วค่อยๆ เริ่มสนทนากัน

……

ว่ายทาน

เพราะการปรากฏตัวของ Aqua เรือที่หรูหราที่สุดในโลกทำให้คนแห่กันมากันเต็มว่ายทาน!

ชาวเมืองเทียนไห่นั้น ต่างก็มาดูเรือที่เขาว่าหรูหราที่สุดในโลกลำนี้นั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

ซึ่งหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อก็อยู่ที่นี่ด้วย

หวังเจียเหยาเองก็มาที่ว่ายทานเบียดเสียดผ่านกลุ่มคน เดินไปยังตรงด้านในรั้วกั้น แล้วมองเรือสำราญที่กำลังแล่นอยู่ในแม่น้ำหวงผู่ ด้วยใจที่เต้นระรัว

“สวรรค์ เรือลำนี้จะสวยเกินไปแล้ว แถมยังเป็นสีเขียวที่ฉันชอบด้วย! ถ้าเป็นตอนกลางวันที่มีแสงแดดตกกระทบแล้วแล่นอยู่ในมหาสมุทรล่ะก็ สีเขียวโทนนี้คงสวยแน่ๆ เลยใช่ไหม?”

หวังเจียเหยาค่อนข้างชอบสีเขียว เดิมเย่เฉินเองก็ชอบสีนี้มากเช่นกัน แต่ต่อมาเพราะหวังเจียเหยาทำให้เขาพาลไม่ชอบสีนี้ไปด้วย

และก็ไม่รู้ว่าทำไม Bill Gates ถึงได้เลือกสีนี้

“อวี่เจ๋อ อวี่เจ๋อ รีบเอากล้องส่องทางไกลมาฉันเร็วๆ ฉันอยากจะเห็นว่าใครอยู่ในเรือกันแน่”

หวังเจียเหยาเองก็รบเร้าสามีไม่หยุด

หลิ่วอวี่เจ๋อเองดึกดื่นค่ำคืนยังสวมแมสและแว่นตา เพราะกลัวแฟนคลับของวังเหม่ยฉีจะจำเขาได้แล้วจะซ้อมเขาอีก

เขาเดินไปด้านข้าง แล้วตบลงบนบ่าของชายที่ถือกล้องส่องทางไกล “น้องชายขอยืมกล้องส่องทางไกลหน่อยสิ?”

ชายผู้นั้นโบกมืออย่างไม่สนใจ “ไม่ล่ะๆ ฉันกำลังดูอยู่ ในเรือนี่หรูหราจริงๆ”

หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “งั้นขอซื้อกล้องส่องทางไกลนายในราคาหนึ่งหมื่น จะขายไหม?”

ชายผู้นั้นรีบวางกล้องส่องทางไกลลงแล้วมองเขา “แน่ใจนะ? หนึ่งหมื่นเหรอ?”

หลิ่วอวี่เจ๋อไม่อยากจะพูดพล่ามมากมาย “เอามือถือออกมาสิ ฉันจะโอนให้นายเลย”

ซื้อกล้องส่องทางไกลนี้ในราคาหนึ่งหมื่น หลิ่วอวี่เจ๋อขาดทุนไปสิบเท่าได้ ดังนั้นอีกฝ่ายย่อมต้องยอมขายให้เขาอยู่แล้ว

เมื่อหลิ่วอวี่เจ๋อได้กล้องมาแล้ว ก็ส่งมันให้ภรรยาสาว

หญิงสาวรับกล้องส่องทางไกลมาอย่างรวดเร็วแล้วส่องไปที่เรือ

“ไม่รู้ว่าคนในเรือจะหน้าตาเป็นยังไง”

หวังเจียเหยาเองก็สนใจของหรูหรามากๆ พวกนี้อยู่แล้ว

แล้วเจ้ากรรม หญิงสาวดันส่องไปที่ตำแหน่งบริเวณที่เย่เฉิน ฉินหงเหยียนและสวี่ฉู่หมิงกำลังกินข้าวอยู่พอดี

หญิงสาวก็ตกใจจนพูดไม่ออกทันที!

“นั่น…นั่นมันเย่เฉินกับฉินหงเหยียน!”

หวังเจียเหยาตัวชา ทำไมเย่เฉินกับฉินหงเหยียนถึงไปอยู่บนเรือได้นะ?

ทำไมพวกเขาถึงขึ้นเรือหรูขนาดนี้ได้?

แต่หล่อนกลับทำได้เพียงยืนมองเรือลำนี้ที่ริมฝั่งแม่น้ำหวงผู่จากไกลๆ

หวังเจียเหยาไม่พอใจมาก หญิงสาวรู้สึกว่าคบกับเย่เฉินไป อนาคตตต้องยิ่งย่ำแย่ไปทุกที ถึงได้เลิกกับเขา

ผลกลายเป็นว่าพอเลิกกันแล้ว เย่เฉินกลับไปขึ้นเรือหรู ส่วนหล่อนเป็นฝ่ายยืนมองจากที่ไกลๆ แทนไปเสียได้

“อะไรนะ? จริงเหรอ?”

เมื่อหลิ่วอวี่เจ๋อได้ยินในสิ่งที่หญิงสาวกล่าว ก็รีบคว้ากล้องส่องทางไกลส่องไปที่เรือทันที

และแล้วเขาก็เห็นเย่เฉินและฉินหงเหยียนจริงๆ แต่ว่าเขาเองก็เห็นสวี่ฉู่หมิงด้วย!

เขาเข้าใจทันที “อ้อ ผมเข้าใจแล้ว เรือลำนี้สวี่ฉู่หมิงน่าจะเป็นคนจัดการ!”

“สวี่ฉู่หมิงเหรอ? คนวัยกลางคนที่กินข้าวอยู่กับสองคนนั้นก็คือสวี่ฉู่หมิง พี่น้องร่วมสาบานของปู่นาย แล้วก็เป็นคนที่เลี้ยงฉินหงเหยียนน่ะเหรอ?”

หวังเจียเหยาเมื่อครู่ก็เห็นสวี่ฉู่หมิง แต่หล่อนไม่รู้จักว่าอีกฝ่ายคือใคร

หลิ่วอวี่เจ๋อพยักหน้า “ใช่ เขานั่นแหละ”

“เรือสำราญลำนี้ของเขาใช่ไหม?” หวังเจียเหยาถามต่อ

หลิ่วอวี่เจ๋อพยักหน้า “ต้องใช่แน่ๆ คุณลืมแล้วเหรอผมเคยบอกคุณไงว่าสวี่ฉู่หมิงอยากจะแต่งงานกับฉินหงเหยียน เขาต้องทำให้ทั้งสองคนนั้นเลิกกันก่อนสิ ดังนั้นถึงได้เป็นฝ่ายเชิญเย่เฉินไปกินข้าว แถมยังจงใจเล่นใหญ่ขนาดนี่ด้วยการเอาเรือที่หรูที่สุดในโลกมาที่เทียนไห่ นั่นเพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพื่อให้เย่เฉินได้เห็นศักยภาพของเขาอย่างไรล่ะ!

ฮ่าๆ ตาแก่นี่ใช้ได้เลยนะ อายุก็ตั้ง 50 แล้วแต่เพื่อเลี้ยงสาวยังเล่นใหญ่ขนาดนี้ ผมว่าเย่เฉินน่าจะอายจนไม่กล้าพูดอะไรแล้วล่ะมั้ง ฮ่าๆ”

หวังเจียเหยารู้ว่าสวี่ฉู่หมิงร่ำรวยและมีอิทธิพล ต่อให้เรือแพงขนาดไหนเขาก็ย่อมมีปัญญาซื้อแน่

ดังนั้นหวังเจียเหยาจึงคิดว่าข้อสันนิษฐานของสามีถูกต้องแล้ว

หล่อนจึงตบลงบนบ่าสามีเบาๆ “ทำไมเรียกตาแก่อยู่ได้ ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่เลยนะ ถ้าคุณปู่ได้ยินเข้าจะด่านาย เรียกคุณอาสวี่สิ!”

จากนั้นหวังเจียเหยาก็คว้ากล้องส่องทางไกลขึ้นมา แล้วมองไปที่เรือลำนั้นอีกครั้ง

ครั้งนี้หล่อนไม่สนใจเย่เฉินและฉินหงเหยียนด้วยซ้ำ แต่เอาแต่มองสวีฉู่หมิง

“คุณอาสวี่หล่อจังเลย!” หวังเจียเหยาพึมพำชมเขาอย่างโง่งม