ตอนที่ 369 ไปพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์กับฉัน / ตอนที่ 370 คงจะเห็นศักยภาพในตัวฉัน

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 369 ไปพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์กับฉัน

พูดมาถึงประเด็นนี้แล้ว ทั้งจ้าวหงหลิงและตัวตัวล้วนอยู่ในความเงียบงัน

ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาแย่เกินไป แทบจะอยู่ในสภาพหมาจนตรอกแล้ว…

จ้าวหงหลิงเหลือบมองตัวตัวครู่หนึ่ง ตัวตัวรู้เลยว่าเธออยากพูดอะไร ไม่รอให้พี่หลิงเอ่ยปากพูด เธอพูดแทรกขึ้นมาทันที “พี่หลิง อย่ามาโน้มน้าวหนูนะ! หนูเคยบอกแล้วว่าพี่ไปที่ไหนหนูก็ไปด้วย! พี่อยู่ที่ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ หนูก็อยู่ที่ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์! ถ้าพี่ไปหนูก็ไป! ต่อให้จะเป็นบริษัทเล็กๆ หนูก็ยอมตามพี่ไป!”

จ้าวหงหลิงได้ยินเช่นนั้น ได้แต่ถอนหายใจด้วยความอึดอัด ไม่รู้ควรพูดอะไรดี

หลินเยียนเอามือเท้าคางไว้ มองไปทางจ้าวหงหลิงแล้วมองไปทางตัวตัว “เอ่อคือว่า…พี่หลิง ตัวตัว! ฉันมีเรื่องที่อยากปรึกษาหน่อยน่ะ!”

ตัวตัวมองไปทางหลินเยียน “เรื่องอะไรเหรอ?”

จ้าวหงหลิง “ว่ามาเลย”

หลินเยียนกระแอมเบาๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น “ยกเลิกสัญญากับฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์แล้ว ฉันจะไปที่พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์พวกเธอจะไปกับฉันไหม?”

จ้าวหงหลิง “…”

ตัวตัว “…”

จู่ๆ บรรยากาศเข้าสู่ความเงียบสงัดอย่างประหลาด

สักพักตัวตัวถึงเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก “แฮกๆๆ พี่เยียนเสียสติไปแล้วเหรอ???”

หลินเยียนคิดไว้แล้วว่าตัวตัวต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้ เธอพูดขึ้นด้วยความลำบากใจ “เปล่านะ ฉันจริงจัง จริงๆ แล้วที่ฉันมาหาพี่หลิงที่บริษัทวันนี้ ก็เพื่อพูดเรื่องนี้แหละ”

ตัวตัวมุมปากกระตุก “พี่เยียน ไม่ได้ว่านะ แต่เอาจริงๆ ต่อให้จะเพ้อฝันก็ต้องมีขอบเขตบ้าง!

พี่รู้ไหมว่าพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นบริษัทแบบไหนกัน? พี่รู้ไหมว่าดาราที่จะเข้าไปในพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ได้เป็นคนแบบไหนกัน? คนเทพๆ อย่างเจี่ยงซือเฟยยังไปได้แค่บริษัทวั่นจ้ง มีเดียภายใต้เคเอส เอนเตอร์เทนเม้นต์เลย! แค่นี้ยังเทียบนิ้วก้อยของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ติดเลยนะ!”

หลินเยียนลูบคางเบาๆ “เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?”

“แน่นอนสิ! พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ใช่บริษัทโมเดลลิ่งธรรมดานะ เขามีเจเอ็ม คอร์เปอเรชั่นหนุนหลังอยู่! ตระกูลเผยน่ะ!

นั่นเป็นบริษัทโมเดลลิ่งที่ดาราตัวท็อปอย่างไอดอลของพี่เผยหนานซวี่อยู่! จุดสูงสุดของอุตสาหกรรม!

มีแต่คนเก่งๆ อยู่ในนั้น! ดาราแนวหน้าเกือบครึ่งหนึ่งในวงการบันเทิงล้วนสังกัดพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์หมด! เป็นบริษัทโมเดลลิ่งเดียวที่มีอิทธิพลมากกว่าเคเอส เอนเตอร์เทนเมนต์เลยนะ!

เผยอวี้เฉิง เจ้าพ่อวงการธุรกิจ บิ๊กบอสที่ครอบครองแฟนคลับสาวๆ ในวงการบันเทิง บิ๊กบอสที่เหนือขั้นบิ๊กบอสเผยอวี้เฉิงน่ะ พี่รู้ใช่ไหม? เถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ก็คือเขานั่นแหละ! กองหนุนโหดที่สุดในวงการบันเทิง!” ตัวตัวพูดเป็นวิทยาทานให้หลินเยียนฟังอย่างไม่หยุดไม่หย่อน

หลินเยียนพยักหน้าเป็นการรับรู้ ฟังตัวตัวชื่นชมเผยอวี้เฉิงแบบนี้ มีความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก

“เผยอวี้เฉิงน่ะเหรอ รู้สิ!”

แฟนของเธอไงล่ะ เธอจะไม่รู้ได้ไง?

ฟังจบ หลินเยียนพูดต่อ “สรุปว่า พวกเธอจะไปกับฉันไหม?”

“พี่เยียน พี่คงจะบ้าไปแล้วสินะ…” ตัวตัวเผยท่าทางอ่อนเพลีย ไม่อยากจะคุยกับหลินเยียนอีกแล้ว “พี่หลิง ช่วยพูดอะไรหน่อยเถอะค่ะ! พูดให้เธอคิดได้ซะหน่อย อย่าเพ้อเจ้อวาดฝัน! อยากเข้าไปในพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ซะงั้น! บ้าไปแล้วจริงๆ!”

หลินเยียนเอามือเท้าคางไว้ยักคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยปาก “ถ้าฉันเข้าไปในพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ได้จริงๆ ล่ะ?”

ตัวตัวกรอกตามองบน “ก่อนหน้านั้นหนูเคยบอกว่าถ้าพี่ทำยอดเป็นอันดับหนึ่งภายในหนึ่งเดือน หนูจะยอมเป็นสาวรับใช้ของพี่ ชงชารินน้ำให้! ถ้าพี่เข้าพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ได้ ให้หนูเรียกพี่ว่าคุณย่ายังได้!”

หลินเยียนพยักหน้า “อ้อ งั้นเหรอ…ไม่คิดว่าฉันจะมีหลานสาวเพิ่มอีกคนทั้งที่อายุยังน้อยเลยนะ…”

หลินเยียนพูดไปด้วยแล้วหยิบสัญญาจากกระเป๋าผ้าแคนวาสเน่าๆ ออกมาไว้บนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าตัวตัวและจ้าวหงหลิง

ตอนที่ 370 คงจะเห็นศักยภาพในตัวฉัน

หน้าปกสัญญาฉบับนั้นที่หลินเยียนเอาออกมาเขียนไว้โต้งๆ ว่า

หนังสือสัญญาศิลปินพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์

ฝ่าย ก : บริษัท พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์

ฝ่าย ข : หลินเยียน

……

ตัวตัวชะงักไปสักพักแล้วรีบหยิบสัญญาฉบับนั้นขึ้นมาดูทันที

ถึงแม้เธอจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ฝ่าย ก ฝ่าย ข เธอยังพอเข้าใจได้อยู่

“พี่หลิงดูสัญญานี้เร็ว…” ตัวตัวรีบยื่นสัญญาให้จ้าวหงหลิง

จ้าวหงหลิงพลิกดูสัญญาอย่างตั้งใจ นี่มันคือหนังสือสัญญาของพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์จริงๆ ด้วย

“พี่หลิน อย่าบอกนะว่าสัญญาฉบับนี้พี่เป็นคนปลอมแปลงขึ้นมาเอง?” ตัวตัวไม่อยากจะเชื่อว่าพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์จะเซ็นคนอย่างหลินเยียน

มุมปากหลินเยียนกระตุกเล็กน้อย “ขอถามหน่อยว่าฉันปลอมแปลงมันขึ้นมาแล้วจะมีประโยชน์อะไรกับฉันเหรอ”

ตัวตัวคิดไปคิดมาก็เห็นด้วยว่าหลินเยียนไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรไร้สาระแบบนี้…

ซึ่งหมายความว่าสัญญาฉบับนี้เป็นของจริงงั้นเหรอ

ระหว่างนั้นหลินเยียนหยิบสัญญาอีกสองฉบับออกมาจากกระเป๋าแล้วเอ่ยปากขึ้น “พี่หลิงนี่เป็นสัญญาผู้จัดการของพี่ แล้วก็สัญญาผู้ช่วยของตัวตัว”

ตัวตัวหยิบสัญญาทั้งสองฉบับขึ้นมาดู จากนั้นสบตากับจ้าวหงหลิง ทั้งสองล้วนเผยสีหน้าเหลือเชื่อ

เหมือนมีความรู้สึกว่าขนมเปี๊ยะตกลงมาจากฟ้าแล้วโดนทับจนสลบไป

“หลินเยียน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” จ้าวหงหลิงถามขึ้น

เธอเองก็คาดไม่ถึงว่าหลินเยียนเอาสัญญาจากพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์มาได้ยังไง

ถึงขั้นเอาสัญญาของเธอและตัวตัวมาได้อีกด้วย…

พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวด ถ้าดาราไม่ดังจริงๆ จะไม่มีการดึงตัวเกิดขึ้น คนใหม่ที่รับเข้ามามีแต่โปรไฟล์ดีๆ ทั้งนั้น คุณลักษณะของผู้จัดการที่ต้องการก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน

ถึงแม้เธอเคยดูแลนักแสดงยอดเยี่ยมหญิงอย่างเจี่ยงซือเฟย ทำให้เธอทำงานอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าผู้จัดการศิลปินในฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ได้ แต่ถ้าอยู่ในพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ ผู้จัดการอย่างเธอมีเยอะแยะไป

หลินเยียนเองก็พูดความจริงไม่ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเธอไม่เชื่อใจพี่หลิงกับตัวตัว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเผยอวี้เฉิง คนรู้เรื่องยิ่งน้อยยิ่งดี

ดังนั้น หลินเยียนกลั่นกรองคำพูดแล้วเอ่ยปากขึ้น “จริงๆ ฉันก็ตกใจเหมือนกันนะ พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์คงจะมองเห็นศักยภาพในตัวฉันสินะ คงจะคิดว่าฉันต้องดังระเบิดแน่นอน!”

หลินเยียนยิ่งแถยิ่งคล่อง “ไม่คิดเลยนะว่าทุกวันนี้ยังมีบริษัทที่มองคนเป็นอยู่น่ะ!”

ตัวตัวฟังคำชื่นชมตัวเองของหลินเยียนแล้วหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย อดพูดไม่ได้ “คงจะมีใครในพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์มีปัญหาทางสมองถึงจะเห็นศักยภาพในตัวพี่เยียนสินะ”

หลินเยียนสะบัดหนังสือสัญญาในมือ “ฉันให้โอกาสเรียบเรียงคำพูดใหม่!”

ตัวตัว “…คงจะมีใครในพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์มีปัญหาทางสมองถึงได้เห็นศักยภาพในตัวคุณย่าสินะ”

ทีนี้หลินเยียนถึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “หลานรัก!”

ตัวตัว “…”

ขณะที่จ้าวหงหลิงกำลังจะเอ่ยปากพูด จู่ๆ ก็มีอีเมลเรื่องงานเด้งขึ้นมาในกล่องอีเมลของเธอ

“เกิดอะไรขึ้นอีกพี่หลิง” ตัวตัวรีบถามขึ้น

จ้าวหงหลิงนั่งมองอีเมลที่อยู่ในกล่องเมลแล้วพูดขึ้นด้วยความเลื่อนลอย “ฉันโดนไล่ออก หลินเยียนโดนยกเลิกสัญญาน่ะ”

ตัวตัวโมโหจนแทบระเบิด “คนพวกนี้มันไร้หัวใจจริงๆ! พวกเขามีสิทธิ์อะไรไล่พี่หลิงไป! แล้วก็ไอ้เกาจื้อเวยนั่น เป็นใครมาจากไหนกัน ทำมาเป็นได้ใจ! ตอนที่ยังเป็นลูกน้องพี่หลิงอยู่ จ๊ะจ๋าครับผมแทบทุกคำ ตอนนี้มีหน้ามาให้พี่หลิงเป็นลูกน้องเขาอีก แถมยังทำเหมือนเป็นคนใจบุญใจกว้าง พอไม่ตกลงก็ไล่คนอื่นออกจากบริษัทงั้นเหรอ! พี่หลิงเสียแรงเสียเวลากับบริษัทนี้ไปมากแค่ไหนแล้ว”

จ้าวหงหลิงมองดูกล่องอีเมลแล้วถอนหายใจเฮือกยาว ความหวังในก้นบึ้งหัวใจท้ายสุดนั่น สุดท้ายก็สิ้นสลายไปแล้ว…