บทที่ 189 ทาบทามให้ลูกสาว

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

ตั้งแต่ชั้นบนยันชั้นล่าง ทุก ๆ ที่ที่พวกเขาเดินผ่าน พนักงานต่างล้วนนินทาพวกเขากันทั้งนั้นและเฉิงชิวอวี้ก็ได้ยินพวกมันซะส่วนใหญ่

เธอเหล่มองไปยังผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอด้วยสายตาที่ไม่ปกปิดเลยว่าเธอชอบเขามาก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกพอใจที่ถูกทุกคนในบริษัทเข้าใจผิดแบบนี้

“ดูสิฮ่าวหราน ทุกคนเข้าใจเราผิดใหญ่แล้ว!”

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ตอบกลับอะไร เขาเอาแต่แสดงสีหน้าแปลกประหลาดเพราะเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเฉิงชิวอวี้กลับทำหน้าตาดีใจเมื่อถูกเข้าใจผิดแบบนี้?

มันเป็นคุณที่เสียหายไม่ใช่หรือไงกับการที่ถูกคนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้ คุณควรจะรู้สึกโกรธเคืองไม่ใช่เหรอ?

แต่แล้วทำไมคุณกลับยิ้มระรื่นได้แบบนี้กัน?

ตอนค่ำ

เมื่อกลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลเฉิง เฉิงชิวอวี้วุ่นวายอยู่ในครัวกับบรรดาคนรับใช้พักใหญ่ ๆ จนในที่สุดอาหารก็เริ่มถูกนำออกมาจัดวางบนโต๊ะ

อาหารที่ตั้งบนโต๊ะมีมากกว่าสิบอย่าง ถ้าหากอวี้ฮ่าวหรานไม่ได้เอ่ยปากห้ามเอาไว้อาหารบนโต๊ะคงมีมากกว่านี้ซะอีก!

“อืม…ไม่เพียงแต่คุณจะทำธุรกิจเก่งแล้ว คุณยังเก่งเรื่องในครัวอีกต่างหาก”

เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะที่หลากหลายและดูน่าทานเป็นอย่างมาก อวี้ฮ่าวหรานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าเฉิงชิวอวี้จะทำอาหารเก่งกว่าหลี่หรงซะอีก…

“ฮ่า ๆ ลูกสาวของฉันไม่ได้มีดีแค่นี้หรอก!”

เฉิงกัวอันหัวเราะพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“ลูกสาวของฉันมหัศจรรย์มาก ๆ เลยล่ะน้องอวี้ ไม่ใช่แค่ลูกสาวของฉันเก่งแค่การทำอาหาร เย็บปักถักร้อยลูกสาวของฉันก็ทำได้! จากในมุมมองของฉัน ลูกสาวของฉันเหมาะสมและคู่ควรกับน้องอวี้ที่สุด! ชายที่มากความสามารถจำเป็นต้องมีผู้หญิงที่คู่ควรคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง!”

เฉิงชิวอวี้หน้าแดงก่ำทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของพ่อเธอแบบนี้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังรู้สึกดีใจที่พ่อของเธอพยายามพูดเอ่ยชมเธอให้กับ อวี้ฮ่าวหราน

ความคิดเพ้อฝันมากมายผุดขึ้นในหัวของเธอ

นี่คือผู้ชายคนแรกที่เธอชอบในชีวิต!

กลับกัน สีหน้าของอวี้ฮ่าวหรานเปลี่ยนเป็นตะลึงงัน เขานึกไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยยกลูกสาวให้เขาแบบโต้ง ๆ ขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะพอดี!

แต่สาวที่โทรเข้ามาก็ทำให้เขาประหลาดใจเช่นกันเพราะผู้ที่โทรเข้ามาคือ…ฟ่านซีเหยียน!

พวกเขาไม่ได้สนิทกันถึงขนาดจะโทรหากันแบบนี้สักหน่อย?

อย่างไรก็ตามเขาจำเป็นต้องรับสายนี้เพื่อหลบหลีกสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนที่เขากำลังเผชิญอยู่ เขาลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินออกไปรับสายข้างนอกทันที

“นั่น…ใช่คุณอวี้ฮ่าวหรานใช่ไหม?”

“อืม ฟ่านซีเหยียน คุณโทรมามีเรื่องอะไร?”

“ฉันโทรมาเพื่ออยากจะขอบคุณอีกครั้ง ขอบคุณมากจริง ๆ ที่คุณช่วยฉันเอาไว้”

“อืม”

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ตอบกลับอะไรมากมายเพราะเขาไม่ได้สนิทกับอีกฝ่ายเหมือนกับเฉิงชิวอวี้ ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นนักร้องดังและสวยมากมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขาเลย

“คือว่า…” ฟ่านซีเหยียน รู้สึกกระอักกระอ่วนเช่นกันที่อีกฝ่ายไม่ค่อยคุยกับเธอเลย แต่เธอก็ยังสูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นว่า “คือฉันคิดมาอยู่นานแล้วว่าควรจะขอบคุณยังไงดี เอาเป็นว่าฉันขอขอบคุณ คุณด้วยการเลี้ยงข้าวสักมื้อได้ไหม? ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สามารถทำใจให้สงบได้เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันได้รับความช่วยเหลือจากคุณเปล่า ๆ โดยไม่ได้ตอบแทนแบบนี้”

“กินข้าวงั้นเหรอ? เอาไว้ผมขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน”

อวี้ฮ่าวหราน ไม่ค่อยอยากจะไปตามคำเชิญของอีกฝ่ายเท่าไหร่ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนดังก็ตาม

“งั้นเอาแบบนี้ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจแบบไหนพรุ่งนี้ฉันจะรอคุณอยู่ที่ภัตตาคารจินหัว ตอน 4 โมงเย็น ฉันหวังว่าคุณจะมาเจอฉันสักหน่อย”

เมื่อสังเกตได้จากน้ำเสียงว่าอีกฝ่ายดูลังเลเหมือนกับว่าไม่อยากมาเจอเธอ ฟ่านซีเหยียนจึงตัดสินใจบอกสถานที่และเวลานัดออกไปจากนั้นเธอวางสายโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายบอกปฏิเสธเลย

ในห้องทานอาหาร

“ลูกพ่อ เมื่อครู่พ่อแอบเดินไปฟังดู ดูเหมือนว่าคนที่โทรหาอวี้ฮ่าวหราน จะเป็นผู้หญิงที่ชื่อฟ่านซีเหยียน ผู้หญิงคนนี้เป็นคู่แข่งหัวใจของลูกหรือเปล่า?”

เฉิงกัวอันเดินกลับมานั่งที่โต๊ะและถามลูกสาวของตัวเองด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ฟ่านซีเหยียน? นี่พ่อจำไม่ได้งั้นเหรอว่าเธอคือนักร้องที่หนูไปดูคอนเสิร์ตกับอวี้ฮ่าวหราน?” เฉิงชิวอวี้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ

“แล้วถ้างั้นทำไมนักร้องที่ดังแบบนั้นถึงโทรหา…”

ก่อนที่เฉิงกัวอันจะทันได้พูดจบ เฉิงชิวอวี้พูดแทรกขึ้นก่อน “ฟ่านซีเหยียนไม่น่าจะชอบอวี้ฮ่าวหรานหรอก เธอเป็นถึงนักร้องดังเธอคงไม่สนใจคนอย่าง…”

อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงจุดนี้เฉิงชิวอวี้สะอึกทันที

คนอย่างอวี้ฮ่าวหราน… คนที่สมบูรณ์แบบเพียบพร้อมไปในทุก ๆ ด้าน…

ผู้หญิงที่รู้จักเขาดีคนไหนจะไม่ชอบเขากันบ้างล่ะ!!!

และยิ่งไปกว่านั้น ฟ่านซีเหยียนเคยถูก อวี้ฮ่าวหราน ช่วยเอาไว้ด้วยอีกต่างหากไม่ได้การแล้ว!

ยิ่งเธอคิดเธอก็ยิ่งมองเห็นความเป็นไปได้ว่าฟ่านซีเหยียนอาจจะกลายมาเป็นคู่แข่งของเธอในอนาคต!

คู่แข่งที่น่ากลัว!

หลังจากทานอาหารค่ำกันเสร็จเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมฝีมือการทำอาหารของเฉิงชิวอวี้อีกรอบและจากนั้นเขาจึงขอตัวกลับบ้านซึ่งเฉิงชิวอวี้ต้องการจะออกไปส่งเขา แต่เขาก็ปฏิเสธอย่างสุภาพไป

เป็นเวลาสี่ทุ่มพอดีเมื่อเขากลับไปถึงคอนโด

เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้อง อวี้ฮ่าวหรานประหลาดใจนิดหน่อยที่วันนี้ หลี่หรงไม่ได้อยู่รอเขาเหมือนวันอื่น ๆ ทุกคนปิดไฟนอนกันหมดแล้วและบรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็มืดสนิท

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินไปเปิดประตูห้องของเขาเอง เขากลับพบว่ามันถูกล็อคอยู่!

อวี้ฮ่าวหรานถึงกับงุนงง

“ช่างเถอะ คืนนี้นอนที่โซฟาก็ได้…”

หลังจากถอนหายใจด้วยความหดหู่อยู่พักหนึ่ง เขาก็พอจะเดาได้ว่านี่คงจะเป็นฝีมือของหลี่หรงที่หงุดหงิดเขาเนื่องจากเขาไม่ยอมกลับมากินข้าวเย็นสองวันติด

เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาจึงล้มตัวลงนอนที่โซฟาเพื่อพักผ่อน

เช้าวันต่อมา

ในห้องนั่งเล่น

“พ่อจ๋า พ่อไม่ได้ไปส่งหนูไปโรงเรียนมาหลายวันแล้วนะ แม่หรงไปส่งหนูตลอดเลย!”

ทันทีที่ถวนถวนเห็นหน้าพ่อของเธอ เธอก็อดไม่ไม่ได้ที่จะบ่นขึ้น

เมื่อเห็นว่าแม้แต่ลูกสาวของตัวเองยังบ่น อวี้ฮ่าวหรานจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าใจว่าทำไมหลี่หรงถึงโกรธ ช่วงนี้เขาละเลยหลายสิ่งที่บ้านมากเกินไปจริงๆ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาจึงอุ้มถวนถวนขึ้นมาบนอกและพูดว่า

“วันนี้พ่อไม่มีธุระอะไรแล้ว ให้พ่อพาถวนถวนไปสวนสนุกที่บริษัทพ่ออีกรอบดีไหม?”

เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์พอดี ดังนั้นถวนถวนจึงไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน

“เย้! ถวนถวน รักพ่อจ๋าที่สุดในโลกเล้ย!”

เด็กน้อยอารมณ์เปลี่ยนอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินคำว่าเธอกำลังจะได้ไปสวนสนุก เธอหอมแก้มอวี้ฮ่าวหรานฟอดใหญ่

อวี้ฮ่าวหรานพาถวนถวนไปถึงบริษัทเวลาประมาณ 9.30 น. เขาส่ง ถวนถวน ไปที่แผนกสวนสนุกของบริษัทก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินกลับไปที่ออฟฟิศของเขา

ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วถวนถวนจะตกลงมาจากสไลเดอร์จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่คราวนี้อวี้ฮ่าวหรานวางใจได้มากกว่าเดิมเพราะเขาได้สั่งให้คนติดตั้งเบาะโฟมที่พื้นเพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่งแล้ว

หลังจากเข้าไปนั่งในออฟฟิศของตัวได้ไม่เท่าไหร่ เผิงอิงอิงที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลก็เคาะประตูและเข้ามาหาเขา

“ท่านประธาน วันนี้ท่านมาซะเช้าเชียว”

เผิงอิงอิงเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและค่อย ๆ เดินเข้ามาหาด้วยกิริยาเย้ายวน

“ท่านประธานอวี้ วันนี้ฉันเพิ่งเปลี่ยนน้ำหอมมาใหม่ ท่านช่วยลองวิจารณ์สักหน่อยจะได้ไหมว่ากลิ่นของมันดีรึเปล่า?”

เผิงอิงอิงพูดขึ้นพลางโน้มตัวเข้ามาหาอวี้ฮ่าวหราน และด้วยการที่เธอใส่เสื้อคอเว้า ดังนั้นมันจึงทำให้เห็นเนินอกของเธอได้อย่างชัดเจน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอกำลังตั้งใจยั่วยวนอวี้ฮ่าวหราน!

“นี่คุณไม่มีงานจะต้องทำหรือไง?”

อวี้ฮ่าวหรานผลักอีกฝ่ายออกไปด้วยสีหน้ารำคาญ

“เอ่อ…ฉัน…”

เผิงอิงอิงแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง เธอไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะผลักเธอออกอย่างไรเยื่อใยขนาดนี้แถมยังใช้น้ำเสียงแข็งกับเธออีกต่างหากจนเธอทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหัวแล้วเดินออกไปจากห้อง

อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด

เขาไม่เคยมีความรู้สึกดีกับผู้หญิงคนนี้เลยสักนิด โดยเฉพาะการแต่งหน้าที่หนาเตอะและน้ำหอมที่กลิ่นฉุนแรงซึ่งมันทำให้เขาอยากจะอ้วกออกมา

ถัดมาหลังจากเผิงอิงอิงออกไปไม่นาน ผู้จัดการหวังก็เข้ามาหา อวี้ฮ่าวหราน ด้วยสีหน้าไม่พอใจอะไรสักอย่าง

“มีอะไร? ทำไมคุณถึงทำหน้าทำตาแบบนั้น?”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากหรอกท่านประธาน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับหัวหน้าแผนฝ่ายบุคคลใหม่ของเรา เผิงอิงอิง…ผมคิดว่าท่านคงจำเธอได้”