ตอนที่ 167 เจอกับหิมะถล่ม

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“คุณซูระวังตัวด้วยนะคะ หากทุกอย่างราบรื่นก็น่าจะไปถึงยอดเขายวี่ปี่ก่อนมืด” พี่่หลิวหญิงวัยกลางคนกำลังเตรียมอาหารแห้งให้ซูฉิงอย่างกระตือรือร้น
“ขอบคุณค่ะ” ซูฉิงสัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายและความกระตือรือร้นของผู้คนในหมู่บ้านเชิงเขา ซูฉิงรู้สึกอบอุ่นมาก
“ซูฉิงต้องระวังตัวนะ!” ยวี๋น่ายังคงกังวล
ซูฉิงยิ้มให้เธออย่างมั่นใจ “ไม่ต้องกังวล ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดฉันจะพาคุณอาฉีมาที่นี่ในพรุ่งนี้เช้า”
เตรียมของครบหมดแล้ว ซูฉิงก็สะพายกระเป๋าเป้บนหลังของเธอ และเดินเข้าไปในป่าลึก
ในตอนแรกหิมะตกลงมาเบาๆ เท่านั้น ซูฉิงต้องการไปถึงยอดเขายวี่ปี่โดยเร็วที่สุดเพื่อตามหาอาฉี เธอจึงรีบเดินอย่างรวดเร็ว
เมื่อเดินไปถึงกลางภูเขา จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดมา ท้องฟ้ามืดครึ้ม
ดูเหมือนว่าหิมะจะตกหนักขึ้น
ซูฉิงรีบเดินต่ออย่างรวดเร็ว เธอต้องรีบไปให้ถึงก่อนฟ้ามืด และเธอต้องหาอาฉีให้เจอโดยเร็วที่สุด
หลังจากนั้นไม่นาน หิมะก็ตกลงมาเป็นขนห่าน
หิมะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ และตรงหน้าของซูฉิงก็เป็นสีขาวโพลน ถ้าไม่ได้พกเข็มทิศมาด้วยเธอคงหลงทางไปแล้ว
ทำไมอากาศมันแย่แบบนี้!
ซูฉิงแอบบ่นในใจ และรีบเร่งฝีเท้าของเธอ
ลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เกล็ดหิมะที่ตกลงมาก็พัดแรงจนซูฉิงแทบลืมตาไม่ขึ้น
ห่างไปไม่ไกลนัก หิมะหนาบนยอดเขาดูเหมือนจะตกลงมาได้ทุกเมื่อ
แบบนี้ไม่ได้การแล้ว
ซูฉิงรู้สึกเสียใจที่เธอไม่ฟังคำพูดของชาวบ้านคนท้องถิ่น และไม่ยอมดูสภาพอากาศ ขึ้นเขามาแบบนี้รังแต่จะทำให้ช้าลงเปล่าๆ
เมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มมืด และพายุหิมะก็โหมกระหน่ำลงมาแล้ว ตอนนี้เธอเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว
ซูฉิงหยุดเดิน และครุ่นคิด เธอควรกลับไปก่อน และหาวิธีเอาเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปบนยอดเขาในวันพรุ่งนี้ดีกว่า แบบนี้ดูจะเป็นไปได้มากกว่า
เพราะไม่รู้ว่าพายุหิมะจะหยุดเมื่อไร
ซูฉิงตัดสินใจ และกำลังจะกลับ แต่จู่ๆ ก็มีเสียงดังราวกับระเบิดดังมาจากไกลๆ
เสียงเหมือนฟ้าร้องแต่ก็ไม่ใช่
ชูฉิงเดินตามเสียงไป และเห็นว่าบนยอดเขาฝั่งตรงข้ามหิมะหนากำลังเทลงมาและกลิ้งมาทางที่เธออยู่!
แย่แล้ว หิมะจะถล่มแล้ว! !
ซูฉิงตกใจมาก เธอมองดูรอบๆ อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันคิดอะไร
โชคดีที่มีถ้ำอยู่ข้างๆ เธอ
บางทีอาจจะเข้าไปหลบได้
แต่ถ้าหิมะหนาปิดทางเข้าถ้ำ มันก็อันตรายมากเลยไม่ใช่เหรอ?
ไม่ได้ เธอต้องทิ้งสัญญาณขอความช่วยเหลือไว้
เธอคิดได้อย่างรวดเร็วในใจ เมื่อซูฉิงเห็นต้นไม้ใหญ่ข้างเธอ เธอคิดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เธอรีบถอดผ้าพันคอรอบคอของเธอออกแล้วผูกไว้กับยอดต้นไม้ด้วยความว่องไว
จากนั้นเธอก็รีบเข้าไปหลบอยู่ในถ้ำ
ไม่กี่วินาทีต่อมา หิมะตกหนักที่ไหลลงมาจากบนภูเขาก็ปิดทางเข้าถ้ำ
ซูฉิงนวดขมับด้วยกังวล เมื่อเผชิญหน้ากับธรรมชาติ พลังของมนุษย์นั้นเล็กน้อยเกินไป
เธอหยิบมือถือออกจากกระเป๋ามาเปิดดู ตามที่คาดไว้ ไม่มีสัญญาณเลย
ซูฉิงเปิดไฟฉายอีกครั้ง และส่องไปรอบ ๆ
ถ้ำนี้ค่อนข้างใหญ่ ด้านในอุ่นมาก เปรียบเทียบกับเมื่อกี้นี้ที่นี่ดีกว่าพายุหิมะเมื่อกี้เยอะเลย
ซูฉิงถอดกระเป๋าเป้ออก และอาหารที่อยู่ข้างในก็เพียงพอสำหรับเธอที่จะอยู่รอดได้เป็นเวลาหลายวัน
ซูฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
ไม่นานยวี่น่าน่าจะรู้ว่ามีหิมะถล่มที่นี่ และเธอจะต้องหาวิธีมาช่วยเธออย่างแน่นอน
ครั้งนี้ซูฉิงโชคดีมากที่ยืนกรานให้ยวี่น่าอยู่ที่หมู่บ้าน
สิ่งเดียวที่เธอกังวลในตอนนี้คืออาการของคุณปู่ฮ่อ ท่านจะรอได้นานแค่ไหน
ซูฉิงกินอะไรเข้าไปนิดหน่อยก็รู้สึกดีขึ้นเยอะมาก เธอจึงไปหาที่ที่สะอาดเพื่อนั่งพัก
ไม่รู้ทำไมเธอถึงคิดถึงฮ่อหยุนเฉิงขึ้นมาอีกแล้ว
บนเกาะร้าง เธอและฮ่อหยุนเฉิงก็อยู่ในถ้ำเช่นกัน ทั้งสองนั่งพิงกัน และเขาพูดกับเธอว่า “ซูฉิง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะปกป้องเธอเอง”
ตอนนั้นมันดีจริงๆ
แต่ตอนนี้มีแค่เธอคนเดียว กำลังเผชิญกับภัยพิบัติเช่นนี้
ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงก็ต้องอยู่กับถังถังนั่นแหละมั้ง?
ความรู้สึกขมขื่นผุดขึ้นในใจของเธอ และซูฉิงก็เพิ่งตระหนักได้ว่าตอนนี้เธอกำลังคิดถึงฮ่อหยุนเฉิงอย่างบ้าคลั่ง
บางทียวี๋น่าอาจจะพูดถูก เธอไม่สามารถปล่อยมันไปได้ และเธอไม่ควรยอมแพ้ง่ายๆ
ถ้าถังถังเป็นผู้หญิงที่คู่ควรกับความรักจริงๆ เธอก็จะยอมรับชะตากรรมของเธอ ถอยออกมาเพื่อให้พวกเขาได้รักกัน
แต่ถ้าถังถังคนนี้เป็นตัวปลอม หรือถังถังไม่คู่ควรกับความรักของฮ่อหยุนเฉิง ทำไมเธอต้องยอมด้วยล่ะ?
…………
ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา
ตึกฮ่อกรุ๊ป ห้องทำงานประธาน
ฮ่อหยุนเฉิงทำงานที่โต๊ะทำงานของเขาจนดึกดื่น
ไม่รู้ทำไมตอนนี้จิตใจของเขาปั่นป่วนมาก และมีความรู้สึกไม่สบายใจที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ฮ่อหยุนเฉิงโทรหาพ่อบ้านหลี่ “อาหลี่ครับ คุณปู่เป็นอย่างไรบ้างครับ?”
พ่อบ้านหลี่ตอบกลับมาจากปลายสายด้วยเสียงที่เคารพ “ท่านผู้เฒ่าฮ่อไม่เป็นอะไรครับคุณชาย หมอหนีเพิ่งมาเพื่อตรวจ ก็บอกว่าทุกอย่างปกติดี”
“ครับ” ฮ่อหยุนเฉิงตอบเบาๆ “รบกวนด้วยนะครับ”
คุณปู่ไม่เป็นอะไร
งั้นความรู้สึกไม่สบายใจนี้มาจากไหนกัน?
หลังจากคุยโทรศัพท์กับพ่อบ้านหลี่เสร็จ ความรู้สึกนี้ไม่เพียงแต่ยังไม่หายไป แต่กลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฮ่อหยุนเฉิงคลายเนคไทออก เอนหลังพิงโซฟาแล้วหลับตา
ทันทีที่เขาหลับตา ภาพเรือนร่างที่สวยงามของซูฉิงก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา
ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงก็ตึงเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อเขานึกถึงการย้ายจากเมืองใหม่สุ่ยเยว่ไปที่บ้านของเฉินจุนเหยียน
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้วเบาๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ข่าวซุบซิบของซูฉิงและเฉินจุนเหยียนบางตาลงไปมากแล้ว
ดูออกเลยว่าสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ให้คนมาลบข่าว
ดวงตาที่เย็นชาของฮ่อหยุนเฉิงหรี่ลงเล็กน้อย ถ้าไม่กลัวเธอจะให้คนลบข่าวทำไม?
ตอนแรกซูฉิงถูกใส่ร้ายว่าผลักเซี่ยซิงซิงตกน้ำ เธอก็ยังไม่เป็นที่สนใจขนาดนี้เลย
หรือว่าซูฉิงคบกับเฉินจุนเหยียนจริงๆ?
เขาลุกขึ้นยืนด้วยความหงุดหงิดใจ ฮ่อหยุนเฉิงกำลังจะกลับ เมื่อเขาผ่านออฟฟิศเลขาเขาก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป
ออกฟิศใหญ่มืดสนิท มีเพียงตรงหัวมุมห้องเท่านั้นที่ยังมีแสงไฟเปิดอยู่
หัวใจของฮ่อหยุนเฉิงเต้นผิดจังหวะไปครู่หนึ่ง
ตำแหน่งที่ไฟเปิดอยู่นั้น…คือที่นั่งของซูฉิง!
หลังจากที่ซูฉิงยื่นจดหมายลาออกตอนกลางวันเธอก็ออกไปเลย หลายวันมานี้ฮ่อหยุนเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะเดิน “ผ่าน” ห้องนี้หลายครั้ง แต่ที่นั่งของซูฉิงก็ว่างเปล่าตลอด
หรือว่าตอนนี้เธอกลับมาแล้วงั้นเหรอ?
มุมปากของเขากระตุกยิ้มออกมาเบาๆ อย่างไม่ตั้งใจ และฮ่อหยุนเฉิงก็เดินเข้าไปทางแสงนั้น
บนเก้าอี้นั้น มีหญิงสาวในชุดสีแดงนั่งก้มศีรษะอยู่
ฮ่อหยุนเฉิงมองจากมุมบนลงไป ก็เห็นเพียงส่วนบนศีรษะของเธอเท่านั้น
ใช่ซูฉิงไหม?
เธอยอมกลับมาแล้วเหรอ?
ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือราว และจิตใจที่สับสน “ซูฉิง…”