ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 29

ลิเลียนพยักหน้า จากนั้นเธอก็รีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์และเอ็ดเขา “แกได้ยินแล้วใช่ไหม? รีบไปเป็นตัวประกันสิ มันยิ่งไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าขยะอย่างแกไม่ได้เป็นตัวประกัน แกอยู่ในตระกูลซิมเมอร์มาสามปีแล้วและเราได้ให้ข้าวให้น้ำและปฏิบัติต่อแกด้วยความเมตตา แล้วตอนนี้แกกำลังทำให้เราตกต่ำไปกับแก ถ้าแกยังปฏิเสธที่จะเป็นตัวประกัน ฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่!”

ฮาร์วี่ย์ดูเฉยชา แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าซีดเซียวของแมนดี้หัวใจของเขาก็อ่อนลง ใครบอกให้เขาตกหลุมรักเธออย่างหมดหัวใจเช่นนี้?

“ตกลง!” เขาหายใจเข้าลึก ๆ และไม่สนใจลิเลียน เขาเดินไปหาดอนและพูดเบา ๆ ว่า “ดอน ผมจะเป็นตัวประกันของคุณ ปล่อยภรรยาของผมไป”

แมนดี้ตกใจมาก เธอมองไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างไม่อยากจะเชื่อและพูดว่า “ไม่ อย่าทำแบบนี้…”

“ไม่ต้องกังวล คุณเป็นภรรยาของผมและผมจะปกป้องคุณเอง” ฮาร์วี่ย์ยิ้มอย่างอ่อนโยนและเดินเข้าไปหาดอน เขาปล่อยให้ดอนถือมีดจ่อคอเขา “ตอนนี้คุณจะปล่อยเธอไปได้แล้วใช่ไหม”

แมนดี้รู้สึกว่าตอนนี้น้ำตาของเธอเอ่อคลอเต็มดวงตาของเธอ แม้ว่าชายคนนี้ไม่มีความมั่งคั่งร่ำรวยและอำนาจมากมาย แถมยังไร้ประโยชน์ แต่เขาก็เต็มใจที่จะรับเป็นตัวประกันแทนเธอ

“แมนดี้ โอเคใช่ไหมลูก?” ลิเลียนวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เธอมองแมนดี้ขึ้นตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ แต่ฮาร์วี่ย์เขา…” แมนดี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างไรก็ตามเธอดูกังวลหลังจากมองไปที่ฮาร์วี่ย์ซึ่งถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ไม่ไกล

ลิเลียนไม่ได้มองไปในทิศทางนั้นและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรอก รอจนกว่าดอนจะหายโกรธเขาก็จะไม่เป็นไร ลูกควรอยู่ให้ห่างเข้าไว้”

“แต่แม่คะ…”

“ไม่เป็นไร เขาเป็นลูกเขยที่มาขออาศัยอยู่ในตระกูลเรา เราไม่ได้เลี้ยงดูเขามาตลอดสามปีนี้หรือ? ทำไมลูกยังห่วงใยเขา?” ลิเลียนพูดอย่างเย็นชา

“ใช่ ไปกันเถอะค่ะ!” ซีนเธียร์หยุดความคิดของแมนดี้ เธอกลัวว่าจะมีอะไรดลใจให้แมนดี้ลงมือทำอะไรบางอย่าง

“ไม่ ฉันจะไม่จากที่นี้ ยังไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องนี้เลย…” แมนดี้พูด อย่างไรก็ตามลิเลียนและซีนเธียร์ไม่สนใจเธอและลากเธอออกไป

สมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลซิมเมอร์มองหน้ากัน พวกเขาลังเลที่จะจ่ายเงินแม้ว่าก่อนหน้านี้แมนดี้จะเป็นตัวประกันก็ตาม ในขณะที่ตัวประกันเปลี่ยนเป็นฮาร์วี่ย์พวกเขาก็ไม่คิดไม่จ่ายเงินให้ดอนแน่นอน

แม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ยังพูดอย่างเย็นชาว่า “โยนพวกมันออกไป…”

ดอนตะลึง เขากัดฟันกรอดและพูดว่า “ไอ้แก่ แกไม่กลัวว่าหลานเขยของแกจะตายหรือไง”

“ฉันสามารถเปลี่ยนหลานเขยได้ทุกเมื่อที่ต้องการ มันไม่ได้มีค่าสูงถึงสิบล้าน ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปมันจะไม่ใช่หลานเขยของฉันอีกต่อไป!” หลังผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์พูดออกจบก็ไม่แม้แต่จะมองพวกเขา เขาหมุนตัวเดินกลับไปอย่างหมดความอดทนและจากไป ไอ้ขยะสองตัวนี้เป็นสิ่งที่อุจาดตาจริง ๆ

หลังจากนั้นไม่นานทั้งฮาร์วี่ย์และดอนก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโยนออกนอกประตู พวกเขาไม่ได้มองมาที่ทั้งสองคนด้วยซ้ำ เหมือนกับว่าชีวิตและความตายของฮาร์วี่ย์ไม่สำคัญอะไรสำหรับพวกเขาเลย

ฮาร์วี่ย์ไม่แสดงท่าทีใด ๆ ต่อการกระทำของพวกการ์ด ถึงอย่างนั้นดอนก็หัวเราะเยาะทันที “ฮาร์วี่ย์ นี่สถานะของแกในตระกูลนี้อย่างนั้นหรือ? ทำไมแกถึงคิดช่วยพวกเขาและเป็นตัวประกันแทนล่ะ? ฉันคิดว่าสถานะของแกในตระกูลซิมเมอร์แย่ยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก!”

“มันไม่ใช่ธุระของคุณ คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันรู้แค่ว่าแมนดี้เป็นภรรยาของฉัน เราจดทะเบียนสมรสด้วยซ้ำ แล้วคุณล่ะ? คืนนี้คุณอยากจะเป็นลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์ แต่จู่ ๆ ทำไมคุณถึงตกต่ำน่าอนาถใจขนาดนี้?” ฮาร์วี่ย์หัวเราะเบา ๆ และไม่สนใจมีดในมือของดอน

“เชื่อไหม ว่าฉันจะฆ่าแก!” ดอนตะโกนอย่างโกรธแค้น

ฮาร์วี่ย์พูดอย่างใจเย็นว่า “ลืมไปเถอะ ขยะอย่างคุณไม่มีทางที่จะทำได้ หากคุณกล้าทำ คุณคงจะลงมือทำตั้งแต่ รปภ. ไล่คุณออกมากก่อนหน้านี้แล้ว คุณคงจะไม่รอจนถึงตอนนี้”

“ดอน คุณอยากรู้ไหมว่าทำไมคุณถึงล้มละลาย?”