ตอนที่ 231 : ผลกำไร

ทุกคนรอคอยกันอย่างอดทน…เพราะเมื่อเก็บของจากอสูรกายยักษ์โบราณมาแล้ว เดาว่ามันคงถึงเวลาที่จะเดินทางกลับ

ครั้งนี้กินเวลานานหน่อย จนกระทั่งคืนต่อมาเจ้าหนูก็ได้กลับมาบนพื้นดิน แม้ว่าจะสูดเอาหมอกเลือดเข้าไปหลายอึก แต่ใบหน้าของเขาก็ยังซีดเซียวเพราะทำงานหนักเกินไป

พวกเขากลับไปรวมตัวกันที่ถ้ำ หวังเย่าได้เอาเหล้าออกมาเพื่อฉลองกับผลงานของพวกเขา

หวังเย่ารับกระเป๋ามิติมาจากเจ้าหนู ด้านในกระเป๋านั้นมีของอยู่เป็นจำนวนมาก มีฟันอยู่กว่า 20 ซี่ นอกจากนี้ก็ยังมีเนื้อที่ถูกตัดด้วยมีดทมิฬด้วย หวังเย่าลองใช้มีดทมิฬกรีดลงไปที่ฟันนั้นแต่ก็พบว่ามันไม่มีรอยเกิดขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะออกแรงเพิ่มจนพบว่าสุดท้ายมันก็ทิ้งรอยเอาไว้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“หัวหน้า ฉันบอกไม่ได้ว่ามันมีประโยชน์รึเปล่าแต่ฉันพบว่าฟันของมันแข็งจนอาวุธไม่อาจจะตัดให้ขาดได้ ฉันใช้เวลาไปอย่างมากกว่าจะเก็บมันมาได้ ” เจ้าหนูดื่มเหล้าและอธิบายออกมา

หวังเย่าพยักหน้า ฟันนี่ทั้งแข็งและหนักรวมถึงยังคมอย่างมากด้วย ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าจะใช้มันทำอะไร

ตอนนั้นเองที่เรื่องของผลทองและหงอคงลอยเข้ามาในหัว เขาจึงเรียกหงอคงออกมา องค์ประกอบของฟันกับผลทองนั้นคล้ายกัน เขาไม่รู้ว่าหงอคงจะควบคุมฟันพวกนี้ได้รึเปล่า

“หงอคง ลองดูสิ” หวังเย่าชี้ไปที่ฟันพวกนั้น

หงอคงเข้าใจความคิดของหวังเย่าทันที มันได้แผ่อาณาเขตราชาศิลาออกมา หินในระยะ 500 เมตรจะถูกมันควบคุมได้หมด ตอนนั้นเองฟันเหล่านั้นกลับลอยขึ้นด้วย และพุ่งไปปักใส่กำแพงถ้ำจนเกิดเสียงดังขึ้นมาพร้อมกับทำให้กำแพงนั้นเกิดหลุมลึกกว่า 10 เมตร

พลังของมันไม่ใช่น้อย ๆ เลย

ดังนั้นหวังเย่าตัดสินใจที่จะยกฟันพวกนี้ให้หงอคง แต่เขาจำเป็นต้องใช้กระเป๋ามิติเพราะฟันพวกนี้มีขนาดใหญ่และกินพื้นที่ในการเก็บ

นอกจากฟันพวกนี้แล้วก็ยังมีกรงเล็บอีก หวังเย่าคิดถึงสกิลฉีกของอสูรกายยักษ์โบราณและอดไม่ได้ที่จะหยิบกรงเล็บของมันขึ้นมา การที่ฟันของมันคมนั้นเขาไม่ได้แปลกใจแต่เล็บนี่ก็มีความสามารถที่ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย

ถ้าเอามันไปทำอาวุธ มันคงมีพลังไม่ใช่น้อย

หวังเย่าคิดสักพักก่อนจะหยิบเอากรงเล็บขึ้นมา 3 อันแล้วพูดกับเจ้าหนู “เจ้าหนู ครั้งนี้นายทำงานหนัก กรงเล็บพวกนี้เป็นของพวกนาย”

ทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้นและรีบรับกรงเล็บนั้นไป ด้วยไทแรนโนซอรัสที่พวกเขาเพิ่งได้มารวมถึงกรงเล็บพวกนี้ แม้ว่าจะเจอกับช้างยักษ์แต่พวกเขาก็สามารถหั่นมันเป็นชิ้น ๆ ได้

หวังเย่าหยิบกรงเล็บอีก 2 อันขึ้นมาและยกให้ลัวจ้าวฮว่าและหลงปู้หยู๋ สองคนนี้มีความสำคัญสำหรับเขา อนาคตพวกนี้ต้องเป็นคนสำคัญในกองทัพทหารของเขาเป็นแน่

หลงปู้หยู๋เป็นรองหัวหน้า ความแข็งแกร่งของเขาถือว่าสูง ส่วนลัวจ้าวฮว่าเองก็ทำได้ดีในครั้งนี้ เขามีพรสวรรค์ที่คู่ควรจะชื่นชม

อสูรกายยักษ์โบราณมี 6 ขา ดังนั้นมันจึงมีกรงเล็บ 6 อัน หวังเย่าจึงเลือกที่จะเก็บกรงเล็บที่เหลือไว้เอง

นอกจากฟันและกรงเล็บที่ได้จากอสูรกายยักษ์โบราณแล้ว มันยังมีดวงตาทั้งสองข้าง, ลูกแก้วพลังงานและลูกแก้วชีวิตรวมถึงไปเนื้อและเลือดของมันด้วย

เนื้อและเลือดของมันมีค่าต่อการวิจัย หวังเย่าได้ให้เจ้าหนูถ่ายรูปอสูรกายยักษ์โบราณเอาไว้รวมถึงถ่ายรูปของต่าง ๆ ที่ได้มา เขาจะนำมันไปเขียนรายงานและส่งให้กับฝ่ายตรวจสอบ

อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ผู้ตรวจสอบเท่านั้น แม้แต่ทหารรับจ้างก็สามารถส่งรายงานได้ เมื่อค้นพบกับสัตว์อสูรสายพันธุ์ใหม่ พวกเขาก็ควรที่จะเขียนรายงานส่งส่วนกลาง

ฝ่ายตรวจสอบนั้นจะให้คะแนนกับรายงานที่ส่งไป และคะแนนที่ได้มานั้นสามารถใช้แลกสิ่งของและสัตว์อสูรได้

ลูกแก้วพลังงานของอสูรกายยักษ์โบราณนั้นไม่ได้พิเศษอะไร แต่ลูกแก้วชีวิตของมันมีขนาดใหญ่มาก แม้แต่ลูกแก้วชีวิตของสัตว์อสูรระดับเดียวกันก็ยังมีขนาดเล็กกว่า

สำหรับตาของมันแล้ว มันเป็นของมีค่าในการศึกษาเพราะอสูรกายยักษ์โบราณนั้นมีสายตามองเห็นที่มืดในระยะหลายพันเมตร ในที่สว่างสามารถมองได้หลายแสนเมตร ความสามารถแบบนี้แม้แต่หวังเย่าก็ยังอิจฉา ถ้าทำการศึกษามันจริง ๆ แล้ว ไม่ต้องเดาเลยว่าต้องได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง

หวังเย่าตรวจสอบอยู่สักพักก่อนจะเก็บของทั้งหมดแล้วไปดื่มกับทุกคน สุดท้ายก็พากันแยกย้ายไปนอน

เป้าหมายในการมายังมิติดวงจันทร์ในครั้งนี้สำเร็จไปแล้ว นอกจากไม่พบสัตว์อสูรที่เหมาะกับจ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้มาในครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่า

หวังเย่าเริ่มคิดถึงผลกำไรที่ได้กลับมาในครั้งนี้

ไข่ไทแรนโนซอรัส 21 ใบ ยูนิคอร์น 11 ตัว ไข่ผึ้งแปดปีกหลายพันใบและผลเลือดกว่า 170 ผล, หัวใจแห่งพฤกษาและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ได้จากอสูรกายยักษ์โบราณรวมถึงผลึกที่ได้มาจากซากปิศาจซึ่งโดนตือโป๊ยก่ายใช้เป็นร่างกายและดูดซับพลังปิศาจที่หลงเหลือไปเป็นพลังงาน

โดยรวมแล้วผลกำไรครั้งนี้ก็ถือว่าดีพอสมควร

เพียงแต่เขากลับรู้สึกไม่พอใจ ในมิติดวงจันทร์แห่งนี้เขามีแฟน 2 คนมาด้วย แต่กลับปล่อยโอกาสนี้ให้เสียไปเปล่า ๆ แทนที่จะได้ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ด้วยกัน

ต้องรู้ก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหน หากมีความแข็งแกร่งมากเกินไป หรือพลังชีวิตที่สูง โอกาสที่จะมีลูกก็จะยากมาก

หากเขาไม่ใช้โอกาสนี้ทำลูกกับจ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมย งั้นมันคงน่าเสียดาย ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้แล้ว การกลับมายังมิติดวงจันทร์อีกครั้ง เกรงว่าคงจะไม่ง่าย เพราะมีหลายอย่างที่ต้องจัดการ

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ไข่จะพร้อมก็ต้องรอถึง 21 วัน ในมิติดวงจันทร์นี้มีธาตุลึกลับซึ่งต้องรอประมาณ 20 วัน หวังเย่าต้องอยู่รอที่นี่อีกแค่ 2 วันก็จะครบเวลาแล้ว หากเขาต้องกลับมาที่นี่ใหม่คงต้องรออีก 20 วัน

ในมิติดวงจันทร์นี้การมีลูกนั้นจะง่ายขึ้นกว่าเดิม หากต้องออกจากที่นี่ไปตอนนี้ก็คงน่าเสียดาย

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เขาคิดจะคุยเรื่องนี้กับแฟนทั้งสองคน แต่เมื่อคิดว่าเขากับจ้าวเมิ่งซีอายุแค่ 18 ปี ส่วนฟ่านฉิงเหมยก็แก่กว่าเขาแค่ 3 ปี พวกเขายังเด็กกันอยู่ มันยังเร็วเกินไปที่จะมีลูก

ตลอดทั้งคืนนั้นหวังเย่าแทบนอนไม่หลับ ไม่นานแสงอาทิตย์ก็สาดส่องเข้ามา

พวกเขาต้องเริ่มแผนการที่วางไว้

พวกเขาต้องเดินทางกลับบ้าน ซึ่งมันถือเป็นการเดินทางที่ยาวไกล