ฟางเจิ้งอึ้งงัน…ไม่นึกเลยว่าการปลุกเสกในตอนแรกจะให้ประโยชน์มากมายขนาดนี้ สำหรับเขาแล้วมือถือไม่ใช่เพียงเครื่องมือสื่อสาร แต่ยังเป็นเครื่องมือศึกษาเรียนรู้ มีมือถือถึงได้อ่านคัมภีร์ฟรีมากขึ้น เพียงแต่คาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากปลุกเสกแล้วมือถือจะร้ายกาจแบบนี้ แม้แต่ไวรัสระดับโลกยังแก้ได้ง่ายๆ

เมื่อเข้าใจทุกอย่างแล้ว ฟางเจิ้งเลยถามไปในทันใด “ระบบ ฉันช่วยคนอื่นทำลายไวรัสได้ไหม?”

“ได้ มือถือนายมีระบบผู้ช่วยเสียงอยู่นะ มันไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็ยังแยกแยะคำสั่งทั่วไปได้ อย่างเช่นแก้ไวรัสอีกฝ่ายหรือโจมตีใคร” ระบบตอบ

ฟางเจิ้งรีบเปิดระบบผู้ช่วยเสียง

‘สวัสดีผู้ใช้บริการที่เคารพ มีอะไรให้ช่วยไหม?’

“ช่วยฉันแก้ไวรัสทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ของทั้งโรงพยาบาลเซนต์แมรี่ประเทศเยอรมัน คลินิกฟีโดรอฟที่อังกฤษ โรงพยาบาลดาวอสที่รัสเซีย แล้วก็ช่วยส่งที่อยู่ของผู้โจมตีไปให้ตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วย” ฟางเจิ้งรีบพูด

“รับทราบ โปรดรอสักครู่”

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลเซนต์แมรี่

“สี่ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำไมไม่ปล้นกันเลยวะ? ไม่ใช่สิ เขาก็กำลังปล้นอยู่นี่!” ผู้อำนวยการตะโกนด้วยความโมโห

“ผู้อำนวยการครับ จะช้าไม่ได้แล้วนะครับ คนป่วยหลายคนต้องลงมือผ่าตัดเดี๋ยวนี้ แต่ว่า…เฮ้อ” หมอคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพูดเร่ง

“ผมรู้ แต่เงินล่ะ? ผมจะเอาเงินมาจากไหน? ต่อให้ระดมทุนก็ไม่มีทางเร็วขนาดนั้นหรอก!” ผู้อำนวยการดึงทึ้งเส้นผมร่วงลงมาหลายเส้น เขาร้อนใจจริงๆ แล้ว

แต่ในเบอร์มิงแฮมประเทศอังกฤษในแถบยุโรป ในห้องลับใต้ดินบางแห่ง

“ระดมเงินเป็นเรื่องของพวกคุณ คนตายเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม ผมต้องการเงิน ไม่ได้เงินก็จะไม่ปลดล็อกให้ เชื่อผมสิ ถ้าไม่ได้เงินจะมีคนตายมากกว่านี้ พวกคุณมีเวลาไม่มากแล้ว” เดวิดตาแดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น

“คุณทำแบบนี้ไม่ได้ คนพวกนั้นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย คุณต้องการแค่เงิน แต่ตอนนี้คุณกำลังฆ่าคน” ผู้อำนวยการตอบกลับ

“ก็อาจจะนะ แต่ว่าคุณไม่รู้สึกว่ามันเร้าใจเหรอ? ผมชอบไวรัสจำพวกนี้ มันทำให้ผมเจอความรู้สึกของการมีชีวิตอยู่ ความรู้สึกที่เหมือนกับพระเจ้า ผมควบคุมทุกชีวิต และพวกคุณคือลูกแกะของผม” เดวิดพูดด้วยความตื่นเต้น

“แกมันบ้าไปแล้ว!” ผู้อำนวยการด่าทอ ชั่วขณะที่ผู้อำนวยการไร้ซึ่งหนทางแก้ปัญหานั้น หน้าจอสีแดงตรงหน้าพลันหายไป!

“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น?” ผู้อำนวยการอึ้งงัน

“ผู้อำนวยการ แก้แล้วครับ ข้อมูลทั้งหมดถูกปลดล็อกแล้วครับ!” ช่างเทคนิคคนหนึ่งพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“หรือว่าฉันจะด่าจนเขาสำนึก? ดูท่าคงจะไม่ได้เรียนจิตวิทยามาเสียเปล่าแล้ว…” ผู้อำนวยการผมหงอกแต่กลางหัวล้านหัวเราะเหอะๆ

ผู้อำนวยการหัวเราะ แต่มีบางคนจะเป็นบ้า

“เป็นไปได้ยังไง? มิวแทนท์สตอร์มของฉันถูกคนแก้? นี่จะเป็นไปได้ยังไง?” เดวิดกระโดดขึ้นมา ทุบคีย์บอร์ดอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้เอง ประตูใหญ่ถูกคนถีบเข้ามาดังปัง ตำรวจสองนายถือปืนบุกเข้ามา ตะโกนเสียงดังว่า “หยุดอย่าขยับ ยกมือขึ้น!”

เดวิดพลันหันกลับมาตะคอกอย่างเดือดดาล “ออกไป! ไสหัวออกไปจากบ้านฉัน!”

“เงียบ อย่าขยับ! ไอ้เวรนี่แกหยุดเดี๋ยวนี้!” ตำรวจนายหนึ่งด่า

แต่เดวิดกลับเหมือนคลุ้มคลั่งไปแล้ว ตะโกนไม่หยุด พลันยกม้านั่งขึ้นมา…

ปังๆ…

เสียงปืนดังสองนัด เดวิดถึงจะสงบลง นอนแผ่บนพื้น เลือดนองทั่วร่าง แต่ก็ยังคงหัวเราะ “ฉันคือพระเจ้า…พระเจ้า…”

“ภารกิจสำเร็จ” ห้านาทีต่อมา ระบบผู้ช่วยเสียงกล่าวขึ้น

ฟางเจิ้งเอ่ย “ฟู่…ก็ดี ระบบ นี่ถือว่าช่วยคนไหม? ได้จับรางวัลรึเปล่า?”

“มีคนตายเพราะนาย มีคนรอดเพราะนาย นายคิดว่าควรได้รับรางวัลไหม?” ระบบถามกลับ

ฟางเจิ้งงงงวย “หมายความว่าไง ใครตายเพราะฉัน?”

“รอดูข่าวพรุ่งนี้เถอะ จากนั้นค่อยบอกคำตอบฉันมา” ระบบพูดจบแล้วก็เงียบหายไป

ฟางเจิ้งทำหน้ามึน นี่มันอะไรกัน? เขาไม่รู้ว่าหลังจากออกคำสั่งไปไม่นาน เดวิดก็เสียชีวิต

เมื่อหยิบมือถือขึ้นมา แฮกเกอร์ฝากข้อความไว้ให้เขา ถามไถ่สภาพการณ์

ฟางเจิ้งตอบไปว่า “คุณมาหาผิดคนแล้ว”

จากนั้นฟางเจิ้งจะออกคำสั่งให้ระบบผู้ช่วยเสียงไม่รับคำขอสนทนาจากอีกฝ่ายอีก แล้วนั่งลงใต้ต้นโพธิ์ นึกถึงคำถามของระบบ แต่เขาไม่รู้ว่าใครตายเพราะเขา ย่อมวิเคราะห์ต้นสายปลายเหตุไม่ได้

ฟางเจิ้งส่ายหน้า กลับกุฏิไปนอน

วันต่อมาฟ้าสาง ฟางเจิ้งหยิบมือถือออกมาเป็นอันดับแรก และเปิดอ่านข่าว ผลคือหัวข้อเปลี่ยนไปแล้ว! ยังคงเป็นสีแดง แต่เป็นสีแดงมงคล! ด้านบนมีอักษรตัวใหญ่แถวหนึ่ง!

‘ผู้สร้างแรนซัมแวร์เดวิด รอนถูกพบตัวแล้ว เดวิด รอนพยายามทำร้ายตำรวจจึงถูกวิสามัญ ตามที่เข้าใจกัน เขาเป็นโรคเครียดขนานหนัก เป็นโรคหวาดระแวง และยังเป็นโปรแกรมเมอร์สติเฟื่อง…’

“ตายแล้ว?” ฟางเจิ้งตกใจ ก่อนจะถอนหายใจ ประนมสองมือกกล่าว “อมิตาพุทธ”

แม้มีคนตายเพราะฟางเจิ้ง แต่ฟางเจิ้งกลับไม่รู้สึกเสียใจสักนิด ต่างจากที่เขาคิดไว้อย่างสิ้นเชิง จากนั้นเขาอ่านข่าวต่อ…

‘นี่คือขั้นตอนการไขขดีพิลึกครั้งนี้ ตามที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ประเทศเยอรมัน คลินิกฟีโดรอฟที่อังกฤษ และโรงพยาบาลดาวอสที่รัสเซียสามโรงพยาบาลกล่าว ตอนนั้นพวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย อีกทั้งตอนนั้นแทบทุกโรงพยาบาลต่างมีผู้ป่วยอาการหนักต้องรักษา ถ้าให้เป็นไปตามขั้นตอนต่อ คนไข้เหล่านี้จะมีอันตรายถึงชีวิต แต่ว่าจู่ๆ ทุกอย่างก็ถูกปลดล็อก…

จากข้อเท็จจริงของอธิบดีกรมตำรวจเบอร์มิงแฮมที่อังกฤษ จู่ๆ พวกเขาก็ได้รับข้อความอำพรางชื่อมาฉบับหนึ่ง ทั้งยังแปะขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของพวกเขาทุกคน เป็นการบังคับให้อ่าน ‘บนนั้นชี้ไปยังตำแหน่งที่อยู่ของผู้สร้างแรนซัมแวร์ พวกเราตรวจดูตามจดหมายด้วยความสงสัย แต่ไม่นึกเลยว่าจะไขคดีได้แบบนี้ พระเจ้าเมตตาพวกเราจริงๆ ขอบคุณแฮกเกอร์ฝ่ายดีที่ช่วยพวกเราคนนั้นด้วย’

เลื่อนลงไปข้างล่างจะเป็นข้อความที่ผู้ป่วยหนักกับครอบครัวฝากเอาไว้ คำพูดไม่เยอะ แต่ฟางเจิ้งอ่านแล้วรู้สึกจิตใจฮึกเหิม

“ถึงฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ว่าคุณให้ความหวังว่าจะมีชีวิตรอดกับฉัน ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณที่ช่วยสามีฉันไว้ พระเจ้า ฉันไม่รู้เลยว่าถ้าไม่มีเขาครอบครัวเราจะเป็นยังไง มันน่ากลัวมากๆ เลย…”

“ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ ฉันกลับมาเต้นรำได้อีกครั้งแล้ว”

“ขอบคุณ”

…………..

ฟางเจิ้งอ่านข้อความเหล่านี้พลางยิ้มเบิกบานกว่าเดิม แต่พออ่านถึงช่วงหลังๆ รอยยิ้มพลันห่อเหี่ยวลง

นี่คือประวัติย่อของเดวิด รอน เดวิดอาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีแต่ความรุนแรง บิดากินเหล้าเป็นชีวิตจิตใจ ทุกวันกลับมาจะทุบตีมารดาเขา สุดท้ายเดวิดเห็นแม่ถูกพ่อฆ่ากับตาตัวเอง! พ่อเดวิดเข้าคุก ศาลจึงหาผู้ปกครองคนใหม่ให้เขา

แต่นับจากวันนั้นมา เดวิดหมดอาลัยตายอยาก โดดเดี่ยว จะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกวัน และเขียนโค้ดที่พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงไม่เข้าใจ

เมื่ออายุสิบสอง พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเอาคอมของเขาไปซ่อนเพราะอยากให้เดวิดออกไปเล่น อยากให้เขาเดินออกจากเงามืด แต่วันนั้นพ่อแม่เลี้ยงเดวิดถูกวางยาพิษในอาหารจนตาย เดวิดเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ทว่าโรงพยาบาลช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้

เมื่ออายุสิบหกปี เดวิดไม่เคยไปโรงเรียนอีกเลย เขาออกไปข้างนอกน้อยมาก ทุกวันจะเหม่อลอยอยู่ในบ้าน แต่ปีนั้นเอง เขาชนะเลิศการแข่งขันโปรแกรมเมอร์ครั้งใหญ่ของประเทศอังกฤษมาได้

ตอนอายุสิบแปด เขาเขียนโปรแกรมแฮกเข้าบริษัทหนึ่งในอังกฤษ จึงถูกจับเข้าคุก

ห้าปีต่อมาเมื่อออกจากคุก บริษัทนั้นก็ปิดตัวลงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะเงินทุนพลันถูกโยกย้ายไป ส่งผลให้เงินทุนขัดสน เจ้าหนี้ตามมาหาถึงหน้าบ้าน…แต่ก็ตรวจสอบไม่ได้ว่าใครทำ

………

อ่านถึงตรงนี้ ฟางเจิ้งเก็บมือถือไป เขาผลักประตูเปิดออก เดินมาอยู่หน้าอุโบสถ ประนมสองมือโค้งตัวแสดงความเคารพป้ายหมื่นพุทธพลางสวดบทหนึ่ง “อมิตาพุทธ ฆ่าคือไม่ฆ่า ไม่ฆ่าก็คือฆ่า! ฆ่าคนเป็นบาป ช่วยคนเป็นบุญกุศล ฆ่าหนึ่งคนช่วยหลายคน เมื่อบุญกุศลเหนือกว่าความผิดไปมาก การฆ่าคนก็เป็นบุญกุศล แต่การฆ่าไม่เลือกหน้าคือความผิดบาป ในโลกมีความถูกต้องชอบธรรม มนุษย์มีกฎหมาย ทุกเรื่องมีกฎเกณฑ์ มีเหตุและผล อาตมาไม่ละอายใจ อมิตาพุทธ! ระบบ อาตมาต้องได้รับรางวัล”

“ยินดีด้วย นายได้รับอภินิหารเนตรปัญญา เนตรปัญญาจะทำให้มองเห็นบุญกุศลและแรงกรรมของคน”

“เอ่อ บุญกุศล แรงกรรม? ใช้แยกแยะคนดีคนชั่วรึเปล่า?” ฟางเจิ้งถามด้วยความไม่เข้าใจ

“นายจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้ แต่ประโยชน์ของมันไม่ได้มีแค่นี้ นายทำความเข้าใจเองเถอะ” ระบบตอบ

ฟางเจิ้งถูจมูก ยิ้มแห้งๆ พลางบอก “นายนี่มันเป็นระบบที่ไม่มีความรับผิดชอบเลย ถ้าอย่างนั้นถามนายจริงๆ ล่ะ ถ้าฉันบอกว่าฆ่าคนมีความผิด นายจะยังมีรางวัลให้ไหม?”