“หยุดพล่ามเพ้อเจ้อสักที!” วิลเลียมกรอกตาใส่แดร์ริล
“แดร์ริล เรากำลังช่วยพี่น้องสามคนนี้ ไม่ว่าแกจะชอบหรือไม่ก็ตาม แกจะลงไปจากรถก็ได้ถ้าแกไม่ชอบใจ”
นี่มันตลกอะไรกันกัน! แดร์ริลหมดคำพูดเลยทีเดียว
“แดร์ริล พี่น้องสามคนนี้ดูน่าสงสารมาก ให้พวกเขาขึ้นมาเถอะ” ลิลี่พูดเสียงเบาแล้วดึงแขนเขา ในขณะที่นั่งอยู่ข้างเขา
บางทีลิลี่อาจจะนั่งเงียบอยู่ถ้ามันเป็นเรื่องอื่น แต่เรื่องนี้มันเป็นความเป็นความตาย เธอจะไม่พูดได้ยังไง?
แดร์ริลส่ายหัวอย่างเชื่องช้าแล้วมองลิลี่
ผู้คนบนรถเริ่มวิพากษ์วิจารณ์แดร์ริลทีละคน
“ทำไมเราถึงยังคุยกับเขาอยู่อีก?” เคนท์หัวเราะ “ตระกูลของฉันจัดทริปนี้และเรียกบัสคันนี้มา ฉันจะให้พวกเขาขึ้นมา”
หลังจากเคนท์กล่าวจบ เขาก็รีบไปที่ประตูแล้วพลักมันเปิดออก
ในทันทีที่ประตูเปิด ฮิวจ์ก็พุ่งเข้ามาในรถพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาพลันควักมีดสั้นขึ้นมาแล้วจี้ที่คอของคนขับ “อ-อ-อย่า…แม้แต่จะขยับ” เขาด่าทอ
ทิมมี่เดินขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มเย็นชาและปืนสีดำแวววาวในมือ เขาตรวจดูรถบัสด้วยตาเหล่ของเขา “ห-ห-หยุด! นี่คือการ ป-ป-ปล้น” เขาติดอ่าง
วิธีการพูดของทิมมี่นั้นมันน่าขัน แต่ไม่มีใครเลยที่หัวเราะออกมาในตอนนั้น!
ผู้โดยสายทุกคนบนรถตกตะลึง คนที่ขี้กลัวนั้นร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นปืน หญิงสาวบางคนนั่งนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา
เฮ้อ
แดร์ริลถอนหายใจอย่างเงียบงัน เขาระอา
แฝดคู่นี้ร่วมมือกันดี พวกเขาคงทำมันมาหลายครั้งแล้ว มันสายไปแล้วที่จะพูดอะไรในตอนนี้
“ฮ่าฮ่า! พ-พ-พี่ชาย คนพวกนี้แ-่ง โ-โ-โคตรโง่เลย เรา จ-จ-จับพวกเขาได้ง่ายมาก” ทิมมี่ยิ้มเยาะ
พี่น้องสามคนนี้วางแผนนี้หลังจากที่ได้รับข่าวว่าเด็ก ๆ ของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดบางตระกูลของเมืองตงไห่วางแผนที่จะท่องเที่ยวในบริเวรนี้
ฮิวจ์พยักหน้าให้ทิมมี่ด้วยความพึงพอใจ
“หยุด พ-พ-พูดนอกเรื่องได้แล้ว” เขาอุทาน “ทุกแกทุกคน ส่งเงินมา!”
“ไม่อย่างนั้น อ-อ-อย่าโทษพวกเราว่า โ-โ-โหดร้าย” ทิมมี่โพล่งออกมา และโบกปืนไปมา
เคนท์ไม่พอใจพร้อมกับพูดออกมา “ค-ค-คุณผู้ชาย พวกเราไม่ได้พกเงินสดกันมาตอนที่ออกมา”
เคนท์กระวนกระวายมากและเริ่มพูดติดขัดภายใต้ความกดดันของแฝดทั้งสอง
เขาพูดถูก เด็กที่ร่ำรวยสมัยนี้ไม่พกเงินสดกันแล้ว
ทิมมี่จ้องเคนท์ เขาคิดว่าชายคนนี้ล้อเลียนเขา เขาพุ่งไปหาเคนท์แล้วตะโกน “ไอ้เ-ี้ย แ-แ-แกล้อเลียนฉันหรอ?”
ทิมมี่หยิบเครื่องรูดบัตรอออกมา ผลักมันใส่หน้าของเคนท์แล้วใช้ปืนจี้ใส่หัวของเขา
“เดี๋ยวนี้ใครจะอยากได้เงินสด? รูดบัตร ธ-ธ-ธนาคารของแกซะ เริ่ม จ-จ-จากแก! ทุกคนต้อง ร-ร-รูด 200 ล้านเหรียญ!”
อะไรนะ? 200 ล้านเหรียญ?
ไอ้โง่นี่บ้าเพราะความโลภรึยังไง? พี่น้องสามคนนี้วางแผนจะเปลี่ยนตัวตนแล้วหายตัวไปหลังจากปล้นเสร็จ
ทุกคนถึงกับตะลึง ถึงพวกเขาจะรวย แต่ 200 ล้าน ก็ถือว่าเป็นเงินที่มาก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าพูดออกมาในตอนนั้น
เคนท์มีปืนจ่อที่หัว เขาแทบจะฉี่ราดด้วยความกลัว เขาไม่สนใจความไม่สมเหตุสมผลใด ๆ แล้วรีบรูดบัตรธนาคารของเขาทันที และโดยพร้อมเพรียง พวกเขาทั้งหมดก็ยอมนำบัตรธนาคารของตัวเองออกมาเช่นกัน
พวกนี้ดูเหมือนมืออาชีพ
โจรสมัยนี้พกเครื่องรูดบัตรไปไหนมาไหนด้วยเหรอ?
แดร์ริลคิดในตอนนั้น
“คุณผู้ชาย พวกคุณค่อนข้างทันสมัยมากที่ใช้เครื่องรูดบัตร แต่การทำธุรกรรมในบัตรของเราจะถูกบันทึกไว้ พวกคุณไม่กังวลเหรอว่ามันจะถูกรายงานให้เจ้าหน้าที่ทางการ?”
ทิมมี่หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ เผยฟันที่มีคราบเหลืองออกมา “แ-แ-แกไม่เข้าใจ พ-พ-พวกเราได้ดัดแปลงเครื่องรูดบัตรนี้ด้วยความเชี่ยวชาญ ไม่มีทางที่จะ แ-แ-แกะรอยได้”
ทิมมี่เพิ่งจะตั้งสติได้ก่อนจะเกาหัว “เฮ้ย?! แ-แ-แล้วฉัน บ-บ-บอกพวกแกไปทำไม!? แกพูดมากไปแล้ว! ส่งเงินของแกมา!”
ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่แ-่งตลกเกินไปแล้ว