บทที่ 31 ข้าไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของเจ้าหรอก

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 31 ข้าไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของเจ้าหรอก
หนานหว่านเยียนรู้สึกบีบหัวใจขึ้นมา

ได้ยินคำพูด ไทเฮาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีหน้าไม่น่าดู สายตามองไปทางฮองเฮาราวกับดาบที่แหลมคม “ฮองเฮา ดูเรื่องงามหน้าที่เจ้าทำสิ!”

ฮองเฮาก็ยิ่งราวกับถูกฟ้าผ่า สีหน้าซีดขาว “รีบไปเรียกหมอหลวงมา! เรียกหมอหลวง!”

คำพูดของมามาเฒ่าคนนี้ กำลังตำหนิว่านางสอนผิด ให้สาวใช้ไปล้วงคอ กลับจะเอาชีวิตของพระชายาไม่ใช่หรอกหรือ!

พระมารดาขององค์ชายสิบและพระชายาล้วนไม่ใช่คนที่จะไปยั่วยุได้ง่ายๆ อำนาจที่เกี่ยวพันอยู่เบื้องหลังจนถึงตอนนี้นางยังไม่กล้าไปยุ่งด้วยเลย

วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของไทเฮา หากพระชายามาตายไป นางจะต้องถูกฝ่าบาทลงโทษอย่างแน่นอน——

“ทำอะไรให้มันว่องไวกันหน่อย! หากเกิดอะไรขึ้นกับพระชายา ข้าจะเอาความกับพวกเจ้า!” ฮ่องเต้กวาดตามองฮองเฮาอย่างโกรธเคืองครู่หนึ่ง สีหน้าท่าทางโกรธสุดขีด

บรรดากงกงไม่กล้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว รีบยกเสื้อตัวยาวขึ้นมา ก้าวเท้าก็หอบหายใจวิ่งออกไปข้างนอกทันที

หนานหว่านเยียนอาศัยจังหวะนี้สะบัดมือของหยุนอี่ว์โหรวออกไป ต้องการจะไปช่วยคน กู้โม่หานตอบสนองอย่างรวดเร็ว คว้าแขนของหญิงสาวเอาไว้ สายตาดุดัน “หนานหว่านเยียน เจ้ารนหาที่ตายหรือ?”

หนานหว่านเยียนเห็นว่าพระชายาสิบใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว ขมวดคิ้วอย่างแรงแล้วกล่าวว่า: “ท่านอ๋อง พระชายานี่คืออาหารเข้าไปในหลอดลม มีเพียงช่วงเวลาที่มีค่าไม่กี่นาทีในการช่วยเหลือเท่านั้น หากท่านขวางข้าเอาไว้อีก มันก็จะสายเกินไปจริงๆ!”

ไม่ว่าอย่างไรกู้โม่หานก็ไม่ยอมปล่อยมือ น้ำเสียงเด็ดขาด “พอได้แล้ว! ข้าไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของเจ้าหรอก!”

หนานหว่านเยียนใจร้อนอยากจะช่วยคน จู่ๆนางก็ก้มหน้ากัดไปที่มือของกู้โม่หานอย่างแรง อาศัยช่วงเวลาตอนที่กู้โม่หานกำลังเจ็บปวด นางใช้แรงดิ้นรนจนหลุดพ้น วิ่งเข้าไปฝั่งตรงข้าม

กู้โม่หานทำหน้าเคร่งขรึมทันที กล่าวด้วยความโกรธ: “หนานหว่านเยียน!”

ผู้หญิงคนนี้เป็นสุนัขจริงๆหรือไง จับอะไรได้ก็กัดหมด!

และเขาอยากจะไปขัดขวางอีกก็สายเกินไปแล้ว

หนานหว่านเยียนมาถึงข้างกายของพระชายาแล้ว เห็นสีหน้าท่าทางของพระชายาบิดเบี้ยวเจ็บปวด หายใจไม่ออก ก็รีบประคองพระชายาลุกขึ้นทันที ก้าวเท้าไปด้านหลังของนาง แขนทั้งสองข้างโอบรอบพระชายาเอาไว้ เริ่มการช่วยคน

ตอนนี้คงได้แต่ใช้วิธีปฐมพยาบาลแบบไฮม์ลิชเท่านั้น พระชายาถึงจะสามารถรอดชีวิต!

ทุกคนเห็นดังนั้น สีหน้าท่าทางต่างก็เปลี่ยนไป มามากับสาวใช้ที่อยู่ข้างกายของพระชายารีบร้อนขวางหนานหว่านเยียนเอาไว้ “พระชายา ไม่ได้!”

ฮองเฮาก็ยิ่งกล่าวตำหนิเสียงดุ: “หนานหว่านเยียน เจ้าบังอาจ! เจ้าอย่านึกว่าตนเองมีทักษะทางการแพทย์เล็กน้อยก็จะก่อกรรมทำชั่ว! รีบถอยไปเลยนะ!”

หนานหว่านเยียนยังไม่ปล่อยมือ วิตกกังวลอย่างจริงใจ “ฮองเฮา เสด็จย่าไทเฮา ตอนนี้พระชายาอยู่ในสถานการณ์วิกฤต หากไม่ได้รับการรักษาอีก ก็จะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ! หม่อมฉันทูลขอให้ทั้งสองพระองค์ทรงอนุญาต ให้การรักษาพระชายาด้วย!”

ไทเฮาสีหน้าลังเลตัดสินใจไม่ได้

ฮองเฮากลับคิดได้อย่างรวดเร็ว ถึงกับรับปากแล้ว

“ตกลง! ในเมื่อเจ้าเอาแต่บอกว่าสามารถช่วยได้ เช่นนั้นเจ้าก็ลองดู แต่หากพระชายาเป็นอะไรไป เจ้า——จะต้องชดใช้!”

หนานหว่านเยียนคนนี้ไม่มีความสามารถ หากว่าช่วยแล้วทำให้คนตายขึ้นมา จะได้ผลักความรับผิดชอบไปให้นางได้พอดี เช่นนี้ก็จะไม่มีใครเอะใจ เรื่องที่เมื่อครู่นี้นางเป็นคนสั่งให้สาวใช้ไปล้วงคอ

หยุนอี่ว์โหรวมองดูหนานหว่านเยียน ดูถูกเหยียดหยามในใจ

ในเมื่อหนานหว่านเยียนรีบร้อนจะรนหาที่ตายขนาดนี้ นางไม่ไปขวางดีกว่า ถึงเวลาถึงแม้จะถูกลงโทษ อ๋องอี้มีฐานะเป็นถึงท่านอ๋อง ผลกระทบที่ได้รับก็จะไม่มากเท่าไหร่ ขอเพียงนางคอยผลักดันอีกแรง ก็จะสามารถโค่นล้มหนานหว่านเยียนไปได้อย่างสิ้นเชิง!

กู้โม่หานคิดไม่ถึงว่าฮองเฮาจะรับปาก สีหน้าท่าทางของใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนไปกะทันหัน จ้องมองหนานหว่านเยียนอย่างดุดัน นัยน์ตากลับยังมีอารมณ์ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เล็กน้อย

ผู้หญิงบ้าคนนี้ จงใจจะสร้างปัญหาให้เขาจริงๆหรือ? !

หากนางรักษาพระชายาตายไปจริงๆ ทั่วทั้งจวนอ๋องอี้ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย!

จิตใจโหดเหี้ยมจริงๆด้วย ในงานเลี้ยงวันเกิดยังจะให้มีชีวิตผู้บริสุทธิ์ต้องมาตายไปด้วย!

ได้รับอนุญาตแล้ว มามากับสาวใช้ที่ขวางหนานหว่านเยียนอยู่ก็ถอยกันออกไป

มือข้างหนึ่งของหนานหว่านเยียนกำหมัดขึ้นมา ใช้นิ้วหัวแม่มือดันกึ่งกลางหน้าท้อง ซึ่งอยู่เหนือสะดือของพระชายาเอาไว้ มืออีกข้างหนึ่ง ฝ่ามือกดเอาไว้บนกำปั้น กระทุ้งเข้าข้างใน และขึ้นข้างบนด้วยความรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง

หลังจากห้าครั้งผ่านไป พระชายาก็ไม่ได้คายสิ่งแปลกปลอมออกมา หนานหว่านเยียนก็ไม่ได้ตื่นตระหนก ยังคงทำการเคลื่อนไหวต่อไปอย่างสงบ

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็พากันกลั้นหายใจ ชั่วขณะหนึ่งไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมา

มีคนกำลังรอดูเรื่องตลกของหนานหว่านเยียน บางคนกลับกำลังคาดหวังว่าหนานหว่านเยียนจะสามารถช่วยพระชายาให้รอดชีวิตได้จริงๆ

ในที่สุด ฝ่าบาทก็อดที่กล่าวถามเสียงเบาไม่ได้: “เจ้าหก หนานหว่านเยียนกำลังช่วยคนอยู่จริงๆหรือ?”

พฤติกรรมของหนานหว่านเยียนแปลกประหลาดไร้ที่เปรียบ กอดพระชายาเอาไว้เขย่าไปเขย่ามา ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะดีขึ้นเลย ใบหน้าของพระชายาถูกเขย่าจนแดงหมดแล้ว

กู้โม่หานกำหมัดแน่น กัดฟันกล่าวตอบ “ทูลเสด็จพ่อ นางรู้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

หากบอกว่าหนานหว่านเยียนไม่รู้ เช่นนั้นความผิดฐานทำร้ายพระชายาของนางก็จะเป็นจริงขึ้นมา

แต่หากพูดเช่นนี้ ถึงแม้หนานหว่านเยียนจะทำให้คนตายจริงๆ ก็สามารถพูดได้ว่าทำไปด้วยเจตนาดี อย่างน้อยยังสามารถลงโทษสถานเบาได้ ไม่ถึงกับถูกตีตาย

องค์ชายสิบที่อยู่ด้านข้างเดิมทีก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้วได้ยินคำพูด ก็โกรธจนกระทืบเท้า

“เสด็จพี่หก! นางรู้เพียงแค่เล็กน้อยท่านก็ให้นางมาช่วยคนแล้วหรือ? ! นางทำเช่นนี้กับหยิงหยิง หยิงหยิงใกล้จะถูกนางทรมานจนตายแล้ว!”

กู้โม่หานไม่รู้จะเผชิญหน้าอย่างไรกับการตำหนิของน้องสิบของตัวเองอย่างไร ได้แต่เม้มริมฝีปากนิ่งเงียบ

ดวงตาขอบหยุนอี่ว์โหรวสั่นไหวเล็กน้อย “องค์ชายสิบไม่ต้องเป็นกังวลไป ตอนนี้สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติ พระชายาก็แค่เจตนาดี ถ้าหาก ถ้าหากสามารถช่วยพระชายากลับมาได้จริงๆล่ะ?”

ถ้าหาก?

เขาไม่อยากให้ผู้หญิงที่ไม่เต็มเต็งแบบนี้มาทำลายหยิงหยิงของเขาหรอกนะ!

องค์ชายสิบพุ่งตัวเข้าไปข้างหน้าอย่างฉุนเฉียว มือใหญ่ข้างหนึ่งกำลังจะตบไปทางหนานหว่านเยียน “เจ้ามันนังผู้หญิงโหดเหี้ยม! เจ้ารีบปล่อยหยิงหยิงของข้าเลยนะ! เมื่อครู่หยิงหยิงยังชมว่าเจ้าสวยอยู่เลย! คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะร้ายกาจขนาดนี้!”

หนานหว่านเยียนในเวลานี้หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่มีเวลาสนใจคนอื่น ตั้งมั่นทำการกระทำนั้นซ้ำๆอย่างตั้งใจ

นางเอ่ยปากด้วยเสียงเย็นชา: “หยุดนะ! หากเจ้าอยากจะให้หยิงหยิงของเจ้ารอดชีวิต ก็ไปยืนรอด้านข้างดีๆ!”

ชั่วขณะหนึ่งองค์ชายสิบถูกนางหยุดเอาไว้ ชะงักงันอยู่กับที่ การกระทำในมือก็หยุดลงมา

พี่สะใภ้คนนี้ ทรงพลังอำนาจเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

หลังจากที่เขาตอบสนองกลับมา ดวงตาสีแดงเข้มคู่นั้นเบิกกว้างอีกครั้ง “ทำไมข้าจะต้องเชื่อคำพูดของเจ้าด้วย! เจ้ารีบปล่อยหยิงหยิงเลยนะ! มิเช่นนั้นข้าจะ……”

“อุ๊บ……” คำพูดขององค์ชายสิบยังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้น ทุกคนก็เห็นพระชายาคายกระดูกอ่อนกว้างสามนิ้วชิ้นหนึ่งออกมาจากปาก……