ตอนที่ 469 แม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว (3) / ตอนที่ 470 แม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว (4)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 469 แม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว (3) 

 

 

ครั้นได้ยินเธอพูด อวี๋เยว่หานก็จับมือเธอ ให้ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ก่อนจะเดินออกจากห้องอาหาร 

 

 

ขณะที่เพิ่งนั่งลงบนโซฟา เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้นอีก 

 

 

แม้จะบอกว่าเธอไม่กลัวฟ้าดินมาโดยตลอด แต่เธอใจเย็นกับเรื่องถูกขอแต่งงานไม่ได้จริงๆ 

 

 

“คุณตื่นเต้นอะไร” อวี๋เยว่หานเห็นท่าทางเหมือนจะเจอเรื่องใหญ่ของเธอ จึงหัวเราะเสียงเบา 

 

 

นิ้วเรียวยาวจิ้มปลายจมูกของหญิงสาว แล้วกดเธอให้นั่งลงบนโซฟา ชายหนุ่มรับกล่องมาจากมือของพ่อบ้าน มาวางลงในมือของเธอ “คุณดูเอาเอง” 

 

 

“…” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ประคองกล่องเครื่องประดับไว้ในมือ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว! 

 

 

หญิงสาวกลืนน้ำลายอย่างแรง 

 

 

ตอนที่หัวใจของเธอเต้นเร็วจนแทบจะเด้งออกมาข้างนอกนั้น ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าเปิดกล่องออก 

 

 

หลังจากมองเห็นสิ่งของข้างในชัดเจน ลูกตาของเธอพลันหดตัวทันที! 

 

 

เธอหยิบเข็มกลัดที่อยู่ข้างในออกมา พร้อมใบหน้างุนงง “ของขวัญที่คุณจะให้ฉัน คือเข็มกลัดเหรอ” 

 

 

ดูเหมือนเธอต้องการข็มกลัดเหรอ 

 

 

เขาวางแผนไว้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คิดทำการใหญ่ขนาดนั้น สุดท้ายแล้วให้เธอดูเข็มกลัดนี่เหรอ?! 

 

 

เดี๋ยวก่อน… 

 

 

อยู่ๆ เหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้สึกตัวได้ แล้วชำเลืองมองเข็มกลัดในมืออีกครั้งหนึ่ง 

 

 

รูปแบบและสีสันของเข็มกลัด ดูแล้วเหมาะจะมอบให้ผู้อาวุโส 

 

 

เขาคงไม่… 

 

 

“คุณอยากให้ของขวัญคุณย่าไม่ใช่เหรอ เข็มกลัดนี้เป็นสไตล์ที่เธอชอบด้วย” 

 

 

หญิงสาวถูกใจเข็มกลัดชิ้นหนึ่งในงานประมูล ทว่าเหวินหย่าไต้กลับซื้อมันไปได้ 

 

 

อวี๋เยว่หานจำได้ว่าเธอคิดจะเอาใจคุณย่า 

 

 

เขาเห็นทุกสีหน้าของเธออย่างชัดเจน สายตาของเขาเต็มไปด้วยประกายของความหยอกล้อ แล้วขยับริมฝีปากบางเล็กน้อย 

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ เมื่อกี้คุณคิดว่าในกล่องคืออะไร” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !! 

 

 

อ๊ากก 

 

 

เขาจงใจแน่ๆ! 

 

 

เธอรู้สึกได้ถึงการหัวเราะเยาะลึกๆ ให้กับความน่าอายและตื่นเต้นของตัวเองเมื่อครู่! 

 

 

เดี๋ยวเถอะ! 

 

 

ถ้าครั้งหน้าเขาถือแหวน พร้อมกับคุกเข่าลงหนึ่งข้าง เธอต้องใจเย็นอย่างหาใดเปรียบแน่นอน! 

 

 

 

 

 

วันนี้ไม่ต้องไปที่บริษัท 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กินดื่มอย่างเต็มที่ ขณะที่กำลังจะเตรียมมุดเข้าไปในผ้าห่มเพื่องีบหลับ อวี๋เยว่หานกลับอุ้มเธอไปที่ห้องหนังสือ 

 

 

เขาต้องทำงานเพิ่ม ส่วนเธอนั่งมองอยู่บนตักของเขา 

 

 

หญิงสาวไม่พอใจกับการจัดท่านั่งแบบนี้ จึงจะลุกขึ้นยืนจากบนตักของเขาในทันที ทว่าเพิ่งขยับตัว เธอก็ได้ยินอวี๋เยว่หานทำเสียงไม่พอใจอยู่ในลำคอ 

 

 

เสียงไม่พอใจนั้นไม่เหมือนกับในเวลาปกติ แต่เหมือน… 

 

 

ในใจของเธอปรากฏลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำของเขาจะดึงขึ้นที่ข้างหู “อย่าขยับมั่วซั่ว ไม่งั้นผมจะไม่ทำงาน ส่วนคุณก็ไม่ต้องนอน” 

 

 

‘…เอาแต่ใจ!!’ เหนียนเสี่ยวมู่คิดในใจ 

 

 

คำพูดข่มขู่ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่หดตัวกลับเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอย่างว่าง่าย ไม่กล้าขยับอีก 

 

 

ว่ากันว่าเวลาผู้ชายทำงานอย่างจริงจังจะดูหล่อที่สุด 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งตื่น จึงไม่รู้สึกง่วงโดยสิ้นเชิง 

 

 

ตอนนี้เธอเริ่มเบื่อเพราะไม่มีอะไร จึงเอียงคอมองเอกสารในคอมพิวเตอร์ไปกับเขาตามใจชอบ 

 

 

ชายหนุ่มบังเอิญก้มหน้าลงมองเธอ พบว่าเธอกำลังมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ เขาจึงเอ่ยปากถามความเห็นของเธอ 

 

 

เธอก็ไม่ปิดบัง ในใจคิดอย่างไร เธอก็พูดไปอย่างนั้น 

 

 

ทั้งสองคนเข้าคู่กันอย่างดี ราวกับรู้ความคิดในใจของอีกฝ่าย ทุกครั้งที่เอ่ยความคิดของตัวเองออกไป ก็มักจะได้รับการยอมรับจากฝ่ายตรงข้าม 

 

 

อวี๋เยว่หานมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เมื่อพูดถึงเรื่องงาน ทำเอานัยน์ตาสีดำของเขาหยั่งลึกขึ้น 

 

 

“ฉันไม่ดูแล้ว!” 

 

 

หญิงสาวดึงสติกลับมา เมื่อพบว่าตัวเองช่วยเขาอ่านเอกสารจนเหนื่อย เธอพิงอยู่บนหน้าอกของเขาด้วยความขี้เกียจ พลางมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา 

 

 

แสงอาทิตย์ลอดเข้ามาจากข้างนอกหน้าต่าง สาดส่องในห้องหนังสืออันโอ่โถง ทำเอาบรรยากาศอบอุ่นไปทั่วทั้งห้อง และขับเน้นเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบของเขาให้เด่นชัด 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองแล้วก็อดยื่นมือไปลูบใบหน้าของเขาไม่ได้… 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 470 แม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว (4) 

 

 

ครั้นเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไร เธอก็จงใจบีบแก้มของเขา 

 

 

หลังจากพบว่าสัมผัสที่มือจากผิวหนังของเขาค่อนข้างดีทีเดียว จึงกลับมาบีบแก้มตัวเองอย่างไม่พอใจ 

 

 

จากนั้นเธอถึงจะพูดด้วยความพึงพอใจ “แก้มของฉันนุ่มกว่านิดหน่อย…” 

 

 

หญิงสาวเพิ่งจะภูมิใจเสร็จ เธอก็พบว่าผู้ชายที่เมื่อครู่ยังอ่านเอกสารอยู่ ตอนนี้ก้มหน้าลงมองท่าทางหลงตัวเองของเธอแล้ว 

 

 

มุมปากของเขาทำมุมโค้ง เหมือนจะยิ้ม แต่ว่าไม่ใช่ ราวกับกำลังค้นคว้า ว่าความขี้อายของเธอหายไปไหนแล้ว… 

 

 

ใบหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่แดงระเรื่อขึ้นทันที เธอจึงหันหน้าเข้าใส่หน้าอกของเขา ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมเงยหน้า 

 

 

อวี๋เยว่หานกอดเธอเอาไว้ รู้สึกเพียงว่าในหน้าอกได้รับบางสิ่งบางอย่างมาเติมเต็มแล้ว 

 

 

หัวใจที่ว่างเปล่ามายี่สิบกว่าปี บัดนี้มีใครบางคนเข้ามาอยู่แล้ว 

 

 

ชายหนุ่มลูบเรือนผมของเธอด้วยความรักใคร่ ครั้นได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของตัวเองดังขึ้น เขาก็ยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมา 

 

 

หลังจากฟังปลายสายพูดอยู่สองประโยค เขาก็หลุบตาลงมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่ซุกอยู่ในอก ชายหนุ่มปล่อยมือเล็กน้อย ให้เธอนั่งดีๆ ด่อน 

 

 

จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือเดินออกไปข้างนอก… 

 

 

เงาร่างสูงโปร่งหายไปจากประตูห้องหนังสือในพริบตา 

 

 

สายจากใคร 

 

 

ทำไมเขาทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อย่างนั้น 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่นั่งรออยู่บนเก้าอี้สักครู่หนึ่ง เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานไม่กลับมา เธอก็เริ่มฟุบลงกับหน้าโต๊ะ พร้อมกับเอกสารใยคอมพิวเตอร์ของเขา 

 

 

หางตาเธอเหลือบเห็นกรอบรูปที่วางอยู่ข้างๆ คอมพิวเตอร์ จึงยื่นมือไปหยิบขึ้นมา 

 

 

เขารักเสี่ยวลิ่วลิ่วมากจริงๆ 

 

 

บนหัวเตียงในห้องนอนหลักของเขา บนโต๊ะหนังสือของตัวเอง ล้วนวางรูปของเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ทั้งหมด 

 

 

เจ้าก้อนข้าวเหนียวหน้าตาน่ารัก เครื่องหน้าอันประณีตถอดแบบมาจากอวี๋เยว่หานอย่างกับแกะ แต่กลับดูไม่ออกว่าแม่ของเธอหน้าตาเป็นอย่างไร 

 

 

แม่ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว… 

 

 

ในหัวของเหนียนเสี่ยวมู่พลันมีคำพูดตอนที่คุยกับเหวินหย่าไต้ผุดขึ้นมา 

 

 

จะเป็นตัวแทนหรือไม่ เธอไม่เชื่อ 

 

 

แต่เธออยากรู้มาโดยตลอด ว่าแม่ของเสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นคนอย่างไร 

 

 

ทำไมถึงทิ้งลูกสาวที่น่ารักไว้ แล้วหายตัวไป 

 

 

หญิงสาวนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ แต่สายตากลับเลื่อนไปยังลิ้นชักที่เหวินหย่าไต้พูดถึงโดยไม่รู้ตัว 

 

 

เธอจ้องมันอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมเลื่อนสายตา 

 

 

ก่อนจะตัดสินใจถามอวี๋เยว่หานตรงๆ หลังจากเขากลับมาแล้ว 

 

 

เหนียนเสี่ยวรู้สึกเบื่อมาก สายตาของเธอเลื่อนกลับไปที่ลิ้นชักชั้นล่างสุด โดยที่ไม่รู้ตัวอีกครั้ง 

 

 

จากนั้นก็ดึงลิ้นชักออกอย่างเรียบง่าย 

 

 

มันไม่ได้ล็อกไว้ 

 

 

ดูท่าทางไม่เหมือนสถานที่ที่ซ่อนของสำคัญฌอาไว้เลย 

 

 

แต่เธอก็นึกได้ในทันที ว่าคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ไม่ใช่สถานที่ที่คนอื่นจะเข้ามาได้ 

 

 

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้องหนังสือของอวี๋เยว่หานเลย 

 

 

ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยเอกสารสำคัญของบริษัทตระกูลอวี๋ หากไม่ได้รับการอนุญาตจากอวี๋เยว่หาน เกรงว่าแม้แต่แมลงวันสักตัวก็บินเข้ามาไม่ได้ อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องล็อกลิ้นชักของเขาจริงๆ 

 

 

“เธอดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่วทุกวัน ไม่เคยสงสัยเลยเหรอ ว่าแม่ของเสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นใคร” 

 

 

“ด้วยฐานะของคุณชายหาน ถ้าเป็นผู้หญิงที่เขาไม่ชอบ อย่าว่าแต่คลอดลูกให้เขาเลย แค่คิดจะแตะต้องเขาก็เป็นไปไม่ได้แล้ว!” 

 

 

“เธอเป็นแค่หนอนน่าสงสาร ที่เป็นตัวแทนของใครอีกคนมาตั้งแต่แรก…” 

 

 

คำพูดของเหวินหย่าไต้ดังก้องอยู่ข้างๆ หูซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

 

 

แม้เหนียนเสี่ยวมู่จะไม่เชื่อ แต่ในใจก็อยากเห็นผู้หญิงที่ให้กำเนิดลูกสาวกับอวี๋เยว่หาน 

 

 

เธอยื่นมือออกไปเปิดลิ้นชักชั้นสุดท้ายโดยที่ไม่รู้ตัว 

 

 

หญิงสาวเห็นรูปภาพของเสี่ยวลิ่วลิ่ววางอยู่ด้านบนสุด เส้นประสาทที่ขมวดเกร็งพลันคลายตัว 

 

 

ครั้นค้นลึกลงไป ก็พบแต่รูปภาพของเสี่ยวลิ่วลิ่วทั้งนั้น 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่แอบต่อว่าเหวินหย่าไต้อยู่ในใจ 

 

 

ไม่เคยมีคำพูดที่เป็นความจริงจากปากของผู้หญิงคนนั้นเลยจริงๆ! 

 

 

เธอกำลังจะปิดลิ้นชัก แต่พบว่าในมุมข้างในสุดเหมือนจะยังมีกระดาษบางๆ ถูกทับเอาไว้ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงัน ก่อนจะยื่นมือไปดึงออกมา และพบว่าเป็นภาพร่างใบหนึ่ง 

 

 

เมื่อมองเห็นคนบนภาพร่างชัดเจน ดวงตาของเธอก็หดตัวในทันที!