บทที่ 341 ของขวัญวันเกิดอัปมงคล / บทที่ 342 เป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 341 ของขวัญวันเกิดอัปมงคล / บทที่ 342 เป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 341 ของขวัญวันเกิดอัปมงคล

              “เยี่ยหวันหวั่น แกมันเหลวไหลสิ้นดี!”เวลานี้ฟางซิ่วหมิ่นพลันปรี๊ดขึ้นเสียงแหลม

“วันเกิดของคุณปู่ เธอกลับกล้าให้ของน่ากลัวน่ะขยะแขยงแบบนี้ เธอตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ร้ายกาจจริงๆ!” เมื่อเหลียงซือหานเห็นของขวัญที่เยี่ยหวันหวั่นนำมา ก็ลุกขึ้นยืนชี้นิ้วต่อว่าเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที

กลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ในตำแหน่งประธานของงาน แม้กระทั่งหลี่เยว่และโจวชิงกังทั้งสองคนก็ขมวดคิ้ว มองไปทางเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา

คืนนี้เป็นวันเกิดของคุณปู่ของเธอ เยี่ยหวันหวั่นกล้ามอบของอัปมงคลเช่นนี้ได้อย่างไร?

ต่อให้ไม่ใช่วันมงคลของเยี่ยหงเหวย ต่อให้เป็นช่วงเวลาปกติทั่วไป ก็มอบของนี้ให้กับผู้อาวุโสกว่าไม่ได้เด็ดขาด แล้วนี่จะเอามาอวยพรวันเกิดที่ไหนกัน? นี่มันเอามาแช่งกันชัดๆ!

รู้สึกได้ถึงสายตาเย็นเยียบของเยี่ยหงเหวย คิ้วของเยี่ยหวันหวั่นพลันขมวด หัวใจหนักอึ้ง

“คุณปู่ นี่ไม่ใช่ของขวัญที่หนูเตรียมมา”

“เยี่ยหวันหวั่น ของชิ้นนี้พ่อบ้านหวงบอกว่าเป็นของที่เธอให้ เธอกล้าให้แต่ไม่กล้ารับงั้นสิ คิดไม่ถึงว่าเธอจะร้ายกาจขนาดนี้! จะอย่างไรในตัวของเธอก็มีเลือดตระกูลเยี่ยไหลเวียนอยู่ ทำไมถึงได้กล้าทำเรื่องหยาบช้าแบบนี้ออกมาได้! ใจของเธอทำด้วยอะไร!” ฟางซิ่วหมิ่นไม่เปิดโอกาสให้เยี่ยหวันหวั่นได้โต้ตอบ พอได้ทีก็รีบขี่แพะไล่

ณ บนที่นั่งประธาน สายตาของผู้เฒ่าผู้แก่เกือบทุกคน ล้วนอยู่ที่เยี่ยหวันหวั่น มีเพียงผู้อาวุโสมากความรู้วัยประมาณแปดสิบคนหนึ่ง สายตาของเขากลับอยู่ที่ของที่ทำจากกระดูก ไม่ทันไรสีหน้าก็เผยความสงสัยใคร่รู้

ภายในโถงงานเลี้ยง แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายมองไปที่ของที่ทำจากกระดูกตรงหน้าเยี่ยหงเหวย แววตาประกายด้วยความฉงนระคนประหลาดใจ

ของขวัญของเยี่ยหวันหวั่น ทำให้ผู้คนได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ

การตำหนิว่ากล่าวของเหลียงซือหานกับฟางซิ่วหมิ่นแม่ลูก ถูกเยี่ยหวันหวั่นเมินเฉยอย่างอัตโนมัติ ใบหน้างดงามนั้นมีเพียงความนิ่งสงบ

เธอเองก็นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกพ่อบ้านหวงเล่นงานเสียได้

เยี่ยหวันหวั่นขจัดอารมณ์ความรู้สึกออกไป แอบคิดหาวิธีรับมือ

ร่างกายของเยี่ยหงเหวยเสมือนน้ำแข็งหมื่นปีที่ไม่ละลาย แววจาเยียบเย็นทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนผู้พบเห็นต้องตัวสั่นงันงก

บนที่นั่งประธาน กลุ่มแขกเหรื่อผู้เฒ่าผู้แก่ที่เยี่ยหงเหวยให้การรับรองด้วยตนเองพากันมองหน้ากันไปมา

อีกทางด้านหนึ่ง เยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหวั่นจวินนิ่งราวกับท่อนไม้ ด้วยความสัมพันธ์ของเยี่ยหวันหวั่น งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของผู้อาวุโส คงไม่มีทางเรียกหน้าคืนมาได้แล้ว

“เอาแว่นขยายมาส่องสิ”

ทันใดนั้นเอง ผู้อาวุโสมากความรู้คนหนึ่งหรี่ตา ทำลายความเงียบ

แม้ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสตั้งใจจำทำอะไร แต่ก็ยังมีคนหยิบแว่นขยายมาส่งให้เขา

รับแว่นขยายมาแล้ว ผู้อาวุโสไม่รอช้าหันไปพิจารณาของที่ทำจากกระดูกต่อ

การกระทำนี้ของผู้อาวุโสทำให้แขกเหรื่อในงานพากันงุนงง

“นี่…”

ผู้อาวุโสมองทะลุแว่นขยาย ส่งเสียงฉงนและตกใจออกมาเป็นพักๆ

เยี่ยหงเหวยและผู้เฒ่าผู้แก่บริเวณที่นั่งประธานล้วนประหลาดใจ

ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสลุกขึ้น ยกของที่ทำจากกระดูกขึ้นมาจากเยี่ยหงเหวย มาวางไว้หน้าตนเอง

“แพงมาก…” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสพึมพำอะไรอยู่เบาๆ นัยน์ตาเป็นประกาย

“ตาเฒ่าเยี่ย…ขอปรึกษานายเรื่องหนึ่งสิ…” ผู้อาวุโสมองไปทางเยี่ยหงเหวยแล้วเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเยี่ยหงเหวยดูงุนงง

“นายยกของชิ้นนี้ให้ฉันเถอะ…” พูดมาถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสพลันส่ายหน้า “ไม่สิๆ…ฉันเอามังกรทะยานมาแลกกับนายเป็นอย่างไร?”

หลังจากคำพูดนี้ของผู้อาวุโสออกมา ในโถงงานเลี้ยงพลันตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

จากนั้น หลังจากความเงียบช่วงสั้นๆ สิ่งที่ตามมาคือเสียงฮือฮา

“มังกรทะยาน…หรือว่าจะเป็นหนึ่งในผลงานที่ถูกซ่อนไว้ของอาจารย์นักแกะสลักโอวหยางอวี้?”

“ใช่แล้ว ผู้อาวุโสมากความรู้คนนั้นก็คือโอวหยางอวี้ตัวจริงเสียงจริง…”

…………………………………..

บทที่ 342 เป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง

“มังกรทะยานเป็นผลงานที่อาจารย์โอวหยางภูมิใจในสองปีนี้ แต่กลับ…”

แขกเหรื่อในงานต่างตกตะลึง ของขวัญของเยี่ยหวันหวั่นเป็นอะไรกันแน่ โอวหยางอวี้ถึงได้เอา ‘มังกรทะยาน’ มาแลกโดยไม่เสียดาย?

ไม่ต้องพูดถึงแขกเหรื่อทั้งหลายในงานเลี้ยง ใบหน้าของเยี่ยหงเหวยเองก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“ฮ่าๆๆ ตาเฒ่าเยี่ย คราวก่อนนายบอกว่าชอบมังกรทะยานชิ้นนั้นมากไม่ใช่เหรอ…มาๆ พวกเรามาแลกกันเถอะ!” นัยน์ตาของโอวหยางอวี้เปล่งประกาย พูดกับเยี่ยหงเหวย ทว่าดวงตาทั้งคู่กับจับจ้องอยู่ที่ของที่ทำจากกระดูกชิ้นนั้นไม่วางตาในสายตานั้นราวกับโชติช่วงร้อนแรง

เยี่ยหวันหวั่นที่ตอนแรกกำลังคิดหาวิธีรับมือมองโอวหยางอวี้อย่างงงวย

ฮะ เธอเป็นใคร เธออยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น…

โอวหยางอวี้ปรมาจารย์ด้านการแกะสลักจะใช้ ‘มังกรทะยาน’ แลกกัน ‘อะไรก็ไม่รู้’ ที่เธอซื้อมาจากตลาดของเก่าด้วยเงินหนึ่งร้อยหยวนอย่างนั้นเหรอ?

“ตาเฒ่าเยี่ย พวกเราตกลงตามนี้ ฉันจะเอาสิ่งนี้ไป พรุ่งนี้ให้คนยกมังกรทะยานมาให้” โอวหยางอวี้เลื่อนของที่ทำจากกระดูกชิ้นนั้นมาข้างหน้าตนเอง ดูจากลักษณะคงไม่คิดจะคืนแล้ว

เยี่ยหงเหวยเป็นหัวหน้าตระกูลเยี่ย มีไหวพริบถึงระดับไหน รีบเอ่ยทันทีว่า “เอามาให้ฉัน”

“ทำไม นายไม่แลกเหรอ? นายรังเกียจสิ่งนี้เพราะอัปมงคลไม่ใช่เหรอ?” โอวหยางอวี้ไม่พอใจในฉับพลัน

“ไม่แลกชั่วคราว” เยี่ยหงเหวยเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย

“นาย…ทำไมนายถึงขี้งกแบบนี้? อย่างนี้แล้วกัน มังกรทะยานบวกกับมยุเรศเหินอาคเนย์!” โอวหยางอวี้กัดฟัน

“มยุเรศเหินอาคเนย์?!”

“โต๊ะประธาน พลันมีเสียงประหลาดใจดังขึ้น”

‘มยุเรศเหินอาคเนย์’ เป็นผลงานเก่าก่อนของโอวหยางอวี้ แม้ว่าจะเทียบ ‘มังกรทะยาน’ ไม่ได้ แต่ก็ไม่ธรรมดาเลย

“ตาเฒ่าเยี่ย อย่าไปแลกกับเขาเด็ดขาด โอวหยางอวี้ไอ้แก่คนนี้ ไม่เคยเสียเปรียบใครมาก่อน!” ศาสตราจารย์หลี่เยวี่ยได้สติก่อนใคร จึงรีบเอ่ยเตือน

“ไม่แลก” เยี่ยหงเหวยเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น

ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของโอวหยางอวี้เต็มไปด้วยความผิดหวัง คืนสิ่งที่ทำจากกระดูกนั้นให้กับเยี่ยหงเหวยอย่างไม่ยินยอม ไม่ยอมละสายตาออกจากมัน

หลังจากโอวหยางอวี้คืนสิ่งของที่ทำจากกระดูกชิ้นนั้นให้กับเยี่ยหงเหวยด้วยท่าทางไม่ยินยอมอย่างที่สุดแล้ว ผู้เฒ่าผู้แก่ในตำแหน่งประธาน ก็พิจารณามองของสิ่งนั้นอย่างสงสัย

แต่น่าเสียดาย พวกเขามองอะไรไม่ออก

แม้แต่เยี่ยหงเหวยที่รู้เห็นมามากมีความรู้กว้างขวาง ก็มองอะไรไม่ออกเช่นเดียวกัน

“ตาเฒ่าเยี่ย หลานสาวคนนี้ของนายกตัญญูจริงๆ…ของขวัญอวยพรวันเกิดชิ้นนี้แพงหูฉี่เชียวนะ” โอวหยางอวี้อดใจไม่ไหวเอ่ยขึ้นมา

เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกละอายใจเล็กน้อย ปรมาจารย์ด้านการแกะสลักคนนี้ คงไม่ใช่แก่แล้วดวงตาฝ้าฟางหรอกนะ มองอะไรผิดไปหรือเปล่า…

“ตาเฒ่าโอวหยาง ของขวัญของหวันหวั่นคืออะไรกันแน่? มองไม่ออก” โจวชิงกังเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้

ได้ยินดังนั้น สายตาเยี่ยหงเหวยก็หม่นลง

โอวหยางอวี้จุดบุหรี่ สูดหายใจเข้าหลายครั้งแล้วเอ่ยว่า “ฝีมือการทำและระดับความชำนาญ เรียกได้ว่าสุดยอด จากงานฝีมือแบบนี้ บวกกับกระดูกระดับนี้ มีความหมายแฝงที่ไม่ธรรมดา เป็นงานของช่างฝีมือชั้นยอดในสมัยโรมันโบราณ ใช้เพื่อเปิดโชคชะตาให้ตำหนักจักรพรรดิ วางอยู่ในบ้านจะช่วยขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปได้”

โอวหยางอวี้เองก็มีความฉงยสงสัยอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน “แต่ว่า วัสดุแบบนี้กลับมองไม่ออกว่าของสำนักไหน แต่ฝีมือของงาน ไม่มีทางปลอมแน่ สำหรับฉัน เป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง”

“หืม?”

คำพูดของโอวหยางอวี้ เยี่ยหงเหวยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ รับฟังไว้ทั้งหมด อดไม่ได้ที่จะพิจารณาอย่างละเอียด

ความโกรธและความรังเกียจในดวงตา แทบสลายหายไป กลายเป็นความประหลาดใจด้วยความยินดีเข้ามาแทนที่

ยิ่งพิจารณาดู เยี่ยหงเหวยก็พบว่าสิ่งที่ทำจากกระดูกชิ้นนี้เหมือนจะดุดันดีทีเดียว

……………………………….