มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 10
ห๊ะ! มันเป็นไปได้ยังไง? จะมีใครที่มีอำนาจและอิทธิพลเหมือนกับนิเกลอยู่ในย่านการค้าเมย์เบอร์รี่นี้? ฮาร์เปอร์ นายกำลังพูดถึงตัวเองอยู่หรอ?”
ครั้งนี้แดนนี่ยิ้มเยาะออกมา
ฮาร์เปอร์ตอบกลับทันที “ฉันไม่ได้พูดว่านั่นคือฉันแต่ฉันแค่สงสัยเกี่ยวกับปัญหานี้ อีกอย่าง พวกเราบางคนได้โทรหาเพื่อนของพวกเราก่อนหน้านี้ บางทีทุกคนควรจะถามดูว่ามีเพื่อนเราบางคนได้ช่วยเหลือเราในเหตุการณ์นี้หรือเปล่า? เราควรจะทำให้แน่ใจว่าเราได้ขอบคุณถูกคนนะ”
“ดูมีเหตุผลเหมือนกันนะ”
อลิซมีสีหน้าที่เคร่งขรึมบนใบหน้าของเธอ
“ก็ได้ งั้นทุกคนโปรดตรวจสอบกับคนที่พวกเราได้โทรหาก่อนหน้านี้เช่นนั้นเราจะได้รู้แน่ชัดว่านิเกล ใช่คนที่ช่วยเหลือเราจริงหรือเปล่า”
อลิซยังเอ่ยถึงนิเกลด้วยท่าทีที่สนิทสนมอย่างมาก
หลังจากนั้น ทุกคนเริ่มโทรหาเพื่อนๆและครอบครัวของพวกเขา
ตอนนี้เองเจอรัลด์รู้สึกอึดอัดขึ้นมาหน่อย
เขาควรจะบอกความจริงกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีไหม?
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เจอรัลด์จะตัดสินใจว่าควรทำอย่างไรดี ทุกคนก็ได้ข้อสรุปของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นั่นเป็นเพราะว่าไม่มีเพื่อนของพวกเขาคนไหนเลยที่จะมีความสามารถในการช่วยเหลือพวกเขาแก้ปัญหานี้ได้
“อืมม ฉันแน่ใจว่านิเกลคือคนที่ช่วยพวกเราแก้ปัญหานี้ ฉันไม่คิดว่าจะมีคนอื่นๆที่มีอิทธิพลเท่ากับเขา ดังนั้น เลิกสงสัยเขาได้แล้ว!”
แดนนี่จ้องฮาร์เปอร์ด้วยสีหน้าที่เย็นชาบนใบหน้าเขา
“ก็ได้ ทำไมเรายังไม่ออกไป? นิเกลคงมารอพวกเราตรงทางเข้าแล้ว! อย่าทำให้เขารอนาน!” อลิซพูดขณะที่เธอมองจ้องไปที่ฮาร์เปอร์และเจอรัลด์
เธอรู้สึกดูถูกนิดๆอยู่ในใจ
เธอรู้สึกว่าฮาร์เปอร์พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเขากำลังอิจฉาสมรรถภาพของนิเกลอยู่
ในตอนนี้เอง ทุกคนมุ่งหน้าออกไปตรงทางเข้าของบาร์คาราโอเกะ
นิเกลได้จอดรถหรูของเค้าไว้ด้านหน้าและเขามีเพื่อนมาด้วยสองสามคน
“นาโอมิ เธอจะมากับพวกเราไหม?” อลิซถามขึ้นขณะที่จับมือของนาโอมิไว้
“ขอโทษนะอลิซ แต่ฉันรู้สึกไม่อยากจะไปที่ไหนต่ออีกแล้ววันนี้ ฉันจะไปที่นั่นเมื่อมีโอกาสอีกครั้งในอนาคต!”
นาโอมิ เป็นคนพูดตรงเสมอมาและเธอรู้สึกว่านิเกลค่อนข้างเสแสร้ง ดังนั้น เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่
เนื่องจากว่าอลิซไม่สามารถชักชวนนาโอมิให้มากับพวกเขาได้ เธอตัดสินใจทิ้งนาโอมิไว้และจากไปพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอแทน
พวกเขาแยกย้ายกันตรงทางด้านหน้าของบาร์คาราโอเกะ
เจอรัลด์มองส่งนาโอมิกับฮาร์เปอร์ขณะที่พวกเขาเดินจากบาร์คาราโอเกะไป
เขาเห็นสีหน้าที่ผิดหวังบนใบหน้าของพวกเขาได้อย่างเด่นชัดว่าพวกเขาเองก็อยากไปเยี่ยมชมที่เวย์แฟร์เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเม้น เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเขา ฮาร์เปอร์กับนาโอมิถึงได้อดทนเอาไว้
เจอรัลด์ อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ดังนั้น เจอรัลด์สัญญาไว้กับตัวเองว่าเขาจะพาทั้งสองคนไปชมที่เวย์แฟร์ เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเม้น อย่างแน่นอน เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้เห็นและเยี่ยมชมบ้านพักด้วยตัวของพวกเขาเองในสักวัน.
หลังจากชั่วโมงครึ่งถัดมา นิเกลและเพื่อนของเขาจอดรถหรูตรงทางด้านหน้าของเวย์แฟร์ เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเม้น
อลิซกับเพื่อนของเธอก้าวออกจากรถทีละคน
“หยุด ไม่อนุญาตให้พวกเธอเข้ามา!”
อย่างไม่คาดคิด ก่อนที่พวกเขาจะได้ก้าวเข้าไปในบ้านพีก มีผู้รักษาความปลอดภัยที่ได้รับการเทรนมาอย่างดีแต่งตัวด้วยชุดสีดำหยุดพวกเขาอย่างทันทีทันใด
“เอ๋ พวกคุณจำผมไม่ได้หรอ? ผมนิเกลไง พ่อของผมคืออดัม ฟิชเชอร์ ผมพาเพื่อนของผมมาเพื่อหาอะไรสนุก ๆ ทำกันวันนี้…”
นิเกล เอามือล้วงกระเป๋าและเขาส่งยิ้มขณะมองไปที่เหล่าผู้รักษาความปลอดภัย ประหนึ่งว่ากำลังคาดหวังบางสิ่งบางอย่างให้เกิดขึ้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า นิเกลนายคิดว่าตัวเองสูงส่งนักหรือไง มีเรื่องใหญ่บางอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวนายแต่นายยังอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับตัวเองงั้นหรอ? ฉันเกรงว่าคืนนี้คงไม่ใช่คืนเดียวหรอกที่นายถูกห้ามไม่ให้เข้ามาที่นี่ในเวลานี้ แต่เกรงว่านายจะไม่สามารถเข้ามาเหยียบที่แห่งนี้เวย์แฟร์เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเม้น ได้อีกต่อไปในอนาคต”
เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยยิ้มเยาะนิเกลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูกขณะที่พวกเขามองไปที่นิเกล
แต่พวกเขาก็รู้สึกสงสารนิเกลนิดๆ
ตอนนี้เอง อลิซและเพื่อนๆของเธอทำได้แค่ส่งสายตาหากันขณะที่บลอนดี้พยายามที่จะท้าทายเหล่าบอดี้การ์ด
เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณรู้ไหมเขาคือใคร? เขาคือนิเกล ฟิชเชออร์! ร้านอาหารแกรนด์ มาแชลในย่านการค้าเมเบอร์รี่เป็นของครอบครัวเขา!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายพูดถูก แต่นี่มันเป็นเรื่องในอดีต หลังจากวันนี้ ครอบครัว นายไม่ใช่เจ้าของร้านแกรนด์มาแชลอีกต่อไป อีกอย่าง ธุรกิจอื่นๆของครอบครัวนายก็ถูกทำให้ล้มละลายในวันนี้! ฉันเชื่อว่าพ่อของนายกำลังยุ่งในการจัดการเรื่องนี้กับตำรวจอยู่ที่สำนักงานธุรกิจ และทุก ๆ คนที่อยู่ที่ธนาคารอีกด้วย ฉันไม่อยากจะเชื่อว่านายจะมีอารมณ์มาทำอะไรแบบนี้…”
เหล่าบอดี้การ์ดยักไหล่ก่อนที่จะพวกเขาจะยิ้ม
นิเกลยากจะยอมรับก่อนที่จะตะคอกขึ้นมา “เป็นไปไม่ได้ คุณกำลังโกหกอยู่!”
หลังจากนั้น เขารีบร้อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรหาพ่อของเขา
หลังจากที่พยายามต่อสายหาพ่อของเขาหลายครั้ง ในที่สุดพ่อเขาก็รับโทรศัพท์
นิเกลรีบร้อนถามขึ้นมาว่าครอบครัวของเขากำลังเผชิญกับปัญหาจริงไหม
หลังจากนั้น สีหน้าบนใบหน้าของของนิเกลเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที
“ไม่! ไม่จริง! มันเป็นไปไม่ได้ มันต้องไม่ใช่อย่างนี้ มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?”
หลังจากนั้น โทรศัพท์นิเกลตกลงบนพื้น
ดูเหมือนราวกับว่าธุรกิจของครอบครัวของเขามาถึงทางตันเพราะพ่อของเขาได้ทำผิดกฏหมายบางอย่าง
บัญชีธนาคารของพวกเขาได้ถูกอายัดไว้แล้ว!
อีกนัยหนึ่ง นิเกลไม่เหลืออะไรแล้วตอนนี้!
อลิซและคนอื่น ๆ ไม่คาดว่าจะเกิดเรื่องพลิกพลันแบบนี้ขึ้นจริง ๆ
พวกเขารู้สึกอับอายอย่างมากในตอนนี้เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงดี
“เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย”
นิเกลนั่งอยู่ตรงหรือพื้นด้วยสภาวะงงงวย
นี่เขาเป็นแค่คนบ้านๆไปแล้วงั้นหรอตอนนี้?
ในตอนนี้เอง อลิซรู้สึกผิดหวังอย่างมากเมื่อเธอตระหนักถึงสถานการณ์ของนิเกล
เธอคิดว่าในที่สุดเธอก็ได้พบใครบางคนที่มีเงินและเหมาะสมที่จะเป็นแฟนกับเธอ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้พังทลายลงไปแล้วสำหรับนิเกล
แดนนี่ พ่อของนายรู้จักคนใหญ่คนโตไม่ใช่หรอ? นายช่วยฉันกับครอบครัวได้ไหม?
นิเกลทำอะไรไม่ถูกและไม่รู้จริงๆว่าเขาสามารถจะทำอะไรได้
“โถ่เว้ย! ครอบครัวฉันจะไปช่วยอะไรนายได้?”
แดนนี่โบกมือก่อนจะพูดขึ้น “นิเกล ฉันคิดว่านายควรจะกลับบ้านตอนนี้นะและไปดูพ่อของนาย ฉันไม่สงสัยเลยว่าทำไมพ่อของฉันพูดเสมอว่ากฎหมายจะเล่นงานพ่อของนายสักวันเร็วๆนี้! ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไม”
“อลิซ พวกเราควรจะทำอย่างไรดี”
พวกเด็กผู้หญิงไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำยังไงดีเพราะแรกเริ่มพวกเขาวางแผนที่จะมาหาประสบการณ์ที่เวย์แฟร์เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเม้น สักครั้งด้วยตัวเอง โดยไม่คาดคิด ว่าครอบครัวของนิเกลจะถูกทำให้ล้มละลายในตอนนี้!
“ฉันคิดว่าเราอยู่นี่ไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ในตอนนี้ พวกเราควรจะกลับบ้านก่อนนะ”
หลังจากนั้น อลิซรีบเรียกแท็กซี่ก่อนที่จะจากไปอย่างทันที
กลุ่มคนเริ่มสลายแยกย้ายไปทีละคนสองคน
ในตอนนี้ จริงๆแล้วแซคยืนสังเกตการณ์เหตุการณ์ทั้งหมดที่ถูกทำให้คลี่คลายตรงด้านหน้าของบ้านพัก
เขาต่อสายและพูดขึ้นมาว่า “สวัสดีดีครับ คุณเจสสิก้า เจอรัลด์ เพียงแค่ขอให้ผมริบร้านอาหารจากครอบครัวฟิชเชอร์ที่อยู่ในย่านการค้าเมย์เบอร์รี่ คุณคิดว่าจะเป็นอะไรไหมสำหรับคุณ ถ้าจะทำให้ครอบครัวเขาล้มละลายอย่างไม่ลังเลใจเลย?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชายฉันแค่ใจอ่อนเกินไป นี่ไม่ใช่วิธีที่ครอบครัวคลอฟอร์ดใช้กัน เขาไม่ควรที่จะใจอ่อนเกินไปกับศัตรูของเขา มิฉะนั้น ฉันคงจะกังวลเป็นอย่างมากถ้าเขาได้บริหารครอบครัวคลอฟอร์ดในอนาคต! น้องชายฉันควรจะเข้าใจได้แล้วว่าเขาร่ำรวยและมีอำนาจมากขนาดไหนตอนนี้!”
แซคพยักหน้าตอบรับ
แน่นอน เจสสิก้าจากครอบครัวคลอฟอร์ดได้ทำสิ่งที่ควรจะทำไปหมดแล้ว
ในความเป็นจริงแล้ว เจสสิก้าคือคนเดียวที่รู้วิธีที่ดีที่สุดในการสอนเจอรัลด์ ในการใช้ชีวิตในฐานะคนรวยและคนมีอำนาจว่าควรจะปฏิบัติแบบไหน ความจริงแล้ว ไม่ว่าเงินมากมายที่เขาได้จ่ายไป เขาก็ยังมีเหลืออีกเยอะ
นี่เป็นเพราะว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้เงินของครอบครัวคลอฟอร์ดจนหมดสิ้นได้
ครอบครัวคลอฟอร์ดเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์มากกว่าหนึ่งในสามของโลก
นี่มันเกินกว่าสิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถจินตนาการได้
***
ในตอนนี้เอง เจอรัลด์และนาโอมิได้กลับมาถึงหอของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากว่า ฮาร์เปอร์และเด็กผู้ชายคนอื่นรู้สึกเศร้าเล็กน้อย พวกเขาตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังร้านอินเตอร์เน็ต เพื่ออยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง
พวกเขาอยากเชิญเจอรัลด์ให้มาร่วมทีมลีเจนท์ออฟลีค ด้วยกัน ถึงแม้ว่าเขาก็ชอบเล่นเกมส์แต่เขาไม่เคยได้เล่นมันมาก่อนเพราะว่าเขาชินกับการใช้ชีวิตแบบคนจน และไม่เข้าใจเกมประเภทนี้สักเท่าไหร่
อีกอย่าง เจอรัลด์รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาหน่อยๆและเขาต้องการที่จะพักผ่อนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาปีนขึ้นเตียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
ทันทีที่เขาเหลือบไปเห็นเบอร์โทรบนหน้าจอ เจอรัลด์รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
ซาเวียนั่นเอง!
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็ตัดสินใจรับสายเธอ
“เจอรัลด์ ทำไมไม่รับสายฉันทันทีที่โทรศัพท์นายดังขึ้นหละ? นายกำลังทำอะไรอยู่?”
น้ำเสียงที่พูดขึ้นเบาๆของซาเวียผ่านปลายสาย
ทันทีที่เขาได้ยินเสียงของเธอ เจอรัลด์นึกถึงช่วงเวลในอดีตที่มีร่วมกันกับซาเวียขึ้นมาทันที
พวกเขาเคยโทรหากันและพูดคุยกันผ่านโทรศัพท์อย่างเช่นตอนนี้
“อืม มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยเธอได้งั้นเหรอ? เจอรัลด์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ฉันกำลังรอนายอยู่ตรงทะเลสาบข้างๆวิทยาเขต เจอรัลด์ถ้านายปฏิเสธที่จะมาพบฉัน ฉันจะกระโดดลงทะเลสาบและก็จมน้ำไป!”