บทที่ 226 ไม่ต้องเลือก![รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 226 ไม่ต้องเลือก![รีไรท์]

หวังอันแววตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิ เขาถือไพ่เหนือกว่าฉู่ชวิ๋น!

“เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือก ก็อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย” ฉู่ชวิ๋นเงียบและหรี่ตาลง เขายื่นมือออกมาจากนั้นในฝ่ามือก็ปรากฏคัมภีร์ไม้ไผ่โบราณ

“เอาไป” เพียงแค่สะบัด คัมภีร์ไม้ไผ่ก็ลอยไปหาหวังอัน

หวังอันรับคัมภีร์ไม้ไผ่มา เขาใช้มือข้างเดียวสะบัดเพื่อเปิดออกจากนั้นก็หัวเราะออกมายกใหญ่

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉู่ชวิ๋น แกมันไร้เดียงสาเสียจริง ไม่สมกับเป็นจอมมารเลย” ใบหน้าของหวังอันเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม เขายกมือขึ้นพร้อม

โคจรลมปราณที่รุนแรงและซัดออกไป อากาศกรีดร้องและฝ่ามือยักษ์ พุ่งเข้ากระแทกฉู่ชวิ๋นอย่างน่ากลัว จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิจู่โจมด้วยพลังลมปราณที่น่ากลัว ฉู่ชวิ๋นต้องถอยหลบออกมา

ตู้ม!

พื้นดินถูกฝ่ามือระเบิดออก ดินโคลนกระเด็นฝุ่นควันตลบ พื้นดินแตกแยกเป็นสองทาง

“จอมมารฉู่ กล้าดีมากนะที่มาฆ่าจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ในสำนักของฉัน แกต้องเอาชีวิตของแกมาชดใช้!!” เสียงดุดันราวกับเสียงฟ้าผ่า โซ่เส้นยักษ์ปรากฏกลางอากาศดูน่าเกรงขามและน่าตกตะลึง

ฉู่ชวิ๋นหลบไปเรื่อย ๆ พื้นดินถูกหวังอันระเบิดแบบไม่หยุดหย่อน

ตู้มมมมมม……!

ฝุ่นตลบคละคลุ้งไปทั่ว ดินโคลนปกคลุมพื้นที่ พื้นดินสั่นไม่หยุด ระเบิดออกเป็นหลุมเล็กหลุมใหญ่ไปเรื่อย ๆ ฉู่ชวิ๋นวิ่งหลบเหมือนกับแสงวิบวับกลางอากาศ

“จอมมารฉู่มันก็แค่ฉายาที่คนอุปโลกน์ขึ้นมา อย่ามัวแต่ซ่อนตัว กล้าออกมาสู้กันซึ่ง ๆ หน้าหน่อยไหม” หวังอันพูดออกมาแล้วยังคงปล่อยพลังต่อไป ฉู่ชวิ๋นเงียบและไม่แยแสใด ๆ ต่อคำพูดของหวังอัน

“จัดการไอ้แก่นี้แล้วโยนมันไปที่ถ้ำวิญญาณ” หวังอันกล่าว

“ท่านพ่อ ไม่ใช้ตาแก่นี้ล่อจับฉู่ชวิ๋นแล้วเหรอ ?” หวังซุนถาม

“ไม่ต้องหรอก” หวังอันยิ้ม เขานั้นไม่ได้สนใจอะไรฉู่ชวิ๋นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฆ่าจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับเก้า แล้วยังไง? ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ใช่จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ มันก็ไม่มีค่าอะไรอยู่แล้ว

ถ้าให้เดา ฉู่ชวิ๋นก็คงใช้วิชาสักอย่างปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้ เขาเลยไม่มีทางรู้ระดับพลังของอีกฝ่ายได้เลย แต่พอดู ๆ แล้ว ฉู่ชวิ๋นคงได้มากสุดก็ขั้นปรมาจารย์ระดับเก้า ยังไงก็เป็นแค่จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์จะบอกว่าอ่อนแอก็ไม่ผิด หวังซุนมองไปยังฉู่ชวิ๋นที่ยังหลบอยู่ เขามองด้วยความเหยียดหยาม นี่หรือจอมมารฉู่ เทียบกับลูกน้องของพ่อตัวเอง ก็ยังสู้หมาหน้าเขาบ้านไม่ได้เลย

เขาโน้มตัวลงไปดึงหลงอ๋าวขึ้นมา แล้วลากหลงอ๋าวไป

หลงอ๋าวหน้าแดงก่ำ เดือดดาลจนเหลือทน เขาเป็นถึงครึ่งก้าวสู่ขั้นจักรพรรดิกลับโดนจอมยุทธ์กาก ๆ ลากตัวไปตอนนี้เขาแทบจะหมดสติแล้ว

“ฉู่ชวิ๋น แกมันโง่จริง ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับคัมภีร์นี้ ฉันตัดสินใจให้แกกับตาแก่นี่ตายไปด้วยกันซะเลย” หวังอันพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว

เปลือกตาของฉู่ชวิ๋นหรี่ตาลง ร่างกายเริ่มปล่อยประกายออกมา

“ตายไปซะเถอะ” หวังอันพูดหยามพลางยกมือขึ้นแล้วเล็งไปที่ฉู่ชวิ๋น เขารู้สึกดูถูกฉู่ชวิ๋นสุด ๆ แม้มันจะเป็นเพียงฝ่ามือที่ซัดออกมา แต่พลังของมันก็รุนแรงมาก

ฉู่ชวิ๋นระเบิดลมปราณออกมา รอบตัวของเขามีพลังลมปราณล้อมรอบควันสีม่วงปรากฏ อากาศเพราะความหนาแน่นของลมปราณเขากำมือแน่นแล้วชกหมัดไปในอากาศ

ตู้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังจนน่าตกใจ พลังลมปราณทำให้ ลมกรรโชกเหมือนเสียงโห่ร้อง ปั่นป่วนสายลมจนกลายเป็นพายุ

หน้าตาหวังอันดูน่าเกลียดน่ากลัวไปในทันทีทันใด เขาโดนหมัดต่อยกระเด็นไปหลายร้อยเมตร

เช้ง!

ฉู่ชวิ๋นกระโดดเพื่อตามฆ่าหวังซุน

“แกกล้านักนะ!!” หวังอันร้องคำรามด้วยความโกรธ เขาถูกหลอกที่จริงแล้วฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่ง แต่แสร้งทำเป็นอ่อนแอ!

ตัวของฉู่ชวิ๋นอยู่กลางอากาศ เขาชกหมัดระเบิดควันสีม่วงใส่หวังอัน

หวังอันคำรามออกมา เขากำหมัดสองข้าง พลังลมปราณดุดัน จนน่ากลัวแม้แต่อากาศโดยรอบก็เริ่มบิดเบี้ยว

เขาปล่อยกำปั้นทั้งสองข้างออกมา เกิดเป็นโซ่สีม่วงต่อต้านกับพายุคลั่งระเบิด จนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่น่ากลัว

ฉู่ชวิ๋นทำสายตาเอื่อย ๆ เขาพูดเบา ๆ “ระเบิด!”

ตู้ม!

หวังอันกรีดร้อง คัมภีร์ที่เขาได้ จู่ ๆ ก็ระเบิดทันใดนั้น พายุก็หมุนกวาดเข้ามาปกคลุมท้องฟ้า

“ท่านพ่อ!” หวังซุนตะโกนเรียกด้วยความตกใจ

ฉู่ชวิ๋นสะบัดนิ้วเส้นไหมวิญญาณสีม่วงที่พุ่งออกมาราวสายฟ้า

ตู้ม!

ลิ่มเลือดกระจายว่อน สายตาของหวังซุนเบิกโพลง หงอยคอตก คอของเขาโดนเส้นไหมวิญญาณแทงทะลุผ่านราวกับเสียบเต้าหู

ตู้ม!

เงาหนึ่งพุ่งออกมาจากพายุเป็นหวังอัน เสื้อคลุมของเขาขาดรุ่งริ่ง หัวกระเซิง ตาสองข้างแดงก่ำ มองไปที่ฉู่ชวิ๋น ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

เมื่อเขาเห็นหวังซุนที่ตายไป ดวงตาแดงหลั่งเลือดออกมา แล้วโหวกเหวกเหมือนคนบ้า

“ฉู่ชวิ๋น! แกต้องตาย ถ้าฆ่าแกไม่ได้ฉันไม่ขออยู่เป็นคน!!”

“จะเอาชีวิตฉัน ก็เข้ามาอยากรู้เหมือนกันแกจะเก่งเหมือนปากหรือเปล่า” ฉู่ชวิ๋นพูดออกไปอย่างไม่สนใจ

หวังอันเดือดเหมือนเหล็กร้อน ตัวสั่นเพราะความโกรธ ปากกระอักเลือดออกมา เขาไม่คิดว่าคัมภีร์ไม้ไผ่ที่ฉู่ชวิ๋น ให้มันจะเป็นระเบิดแบบนี้!!

“ฉู่ชวิ๋น ไม่ว่ายังไงวันนี้ไม่แกก็ฉันต้องตาย!” หวังอัน ตะโกนก้อง เขาเสียสติไปแล้ว

ตู้ม!

ฟ้าดินสั่นสะเทือน อากาศรอบตัวหวังอันระเบิดแล้วม้วนตัวเป็นพายุคลั่ง ก้อนหินเม็ดทรายกระจุยกระจาย ดูน่าหวาดกลัว ใบหน้าหวังอันบิดเบี้ยวผิดรูป แววตาดุร้ายในมือก็ปรากฏง้าวออกมา ง้าวสั่นไหวเบา ๆ สะท้อนแสงสีเงินออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวน ความเย็นยะเยือกแพร่ออกไป ทำให้ผู้คนตัวแข็ง เพราะความหนาวเย็น ง้าววิเศษนั้น ทำให้ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจเล็กน้อย

โลกเปลี่ยนไปจริง แม้กระทั่งง้าววิเศษก็ยังปรากฏตัวขึ้นมา

หวังอันขยับง้าว จู่ ๆ ง้าวก็ปรากฏขึ้นมานับพันออกมา พุ่งแทงฉู่ชวิ๋นด้วยความเยือกเย็น ฉู่ชวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วประทับรอยนิ้วมือวิชาดัชนีสังหาร – กระบวนท่าสี่นิ้วกำราบมาร

ตู้ม!

อากาศสั่นสะเทือนก่อตัวเป็นพายุที่บ้าคลั่งล้อมรอบหวังอัน เวลาเหมือนถูกหยุดไปชั่วขณะ พลังลมปราณโบราณ สร้างสภาวะสุญญากาศแรงกดดันกดตัวลงมาอย่างน่ากลัว มันทำให้พื้นดินสั่นจนมีรอยแยกทอดยาวออกไปจากต้นภูเขาจนถึงตีนเขา

ตู้ม!

ง้าวบนฟ้าชนเข้ากับดัชนียักษ์ จนเกิดการระเบิดในเวลาต่อมา ทำเอาหูดับ ตับไหม้ เปลวไฟม้วนตัวเป็นขดแล้วกระจายเต็มท้องฟ้า เมฆกลายเป็นรูปเห็ดอย่างน่ากลัว พื้นดินแตกแยกเป็นสองซีกยาวกว่าร้อยลี้

ฉู่ชวิ๋นไม่รีรอสร้างกลุ่มควันสีม่วงมาล้อมรอบตัวเขา กำปั้นสองข้างเปล่งประกายแสงออกมา เขายกกำปั้นทั้งสองขึ้นแล้วพุ่งเข้าไป หวังอันมีง้าววิเศษอยู่ในมือ เขาจะประมาทไม่ได้

“ฉู่ชวิ๋น แกตายซะเถอะ!” หวังอันตะโกนออกมา เขาเหวี่ยงง้าวไปมาจนเกิดประกายไฟ

เต๊ง!

ฉู่ชวิ๋นชกหมัดข้างหนึ่งไปที่ตัวง้าว ง้าวสีเงินถูกหมัดระเบิดจะเกือบหลุดมือหวังอัน กำปั้นของเขาเต็มไปด้วยพลังลมปราณที่น่ากลัว

รอบตัวหวังอันมีพลังไหลพลุ่งซ่าน เขาเรียกง้าวออกมามากมาย จากนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋น รอบตัวฉู่ชวิ๋นมีแสงสีม่วงออกมา แล้วง้าวทั้งหลายก็สลายตัวไป ง้าวที่แปลกประหลาด สามารถโจมตีได้ด้วยตัวมันเอง ?

ฉู่ชวิ๋นรู้สึกสนใจมันขึ้นมา กำปั้นสองข้างรัวหมัดอย่างรวดเร็ว พร้อมควันสีม่วงที่ปรากฏออกมารอบ ๆ

เต๊ง!

ควันสีม่วงเข้าไปรวมกับง้าว ทำให้อากาศลุกเป็นไฟ จนเกิดระเบิดตามมา

ตู้มตู้ม…..!

หวังอันโดนหมัดต่อยจนตัวกระเด็นถอยหลัง สองมือถือง้าวด้วยความสั่นสายตาหวาดกลัว พละกำลังของฉู่ชวิ๋นน่ากลัวเกินไปแล้ว ถ้าในมือไม่มีง้าวหมัดนั่น คงจะบดขยี้แขนเขาจนเละเป็นเศษเนื้อ

“ไปตายซะ!” หวังอันสติเตลิด เขารวบรวมสติมุ่งไปที่ง้าว แสงสีเงินวาบออกมาทันใดนั้น ง้าวก็ปล่อยเงาออกมามากมายราวกระสุนปืน

ฉู่ชวิ๋นสลัดตัวเองออกจากเงาพวกนั้นและปล่อยหมัดออกไป ควันสีม่วงออกมาจากกำปั้น ระเบิดออกไปไกลนับร้อยเมตร

ตู้ม!

ในอากาศมีหมอกเลือดออกมาปกคลุมพื้นดินจนเปลี่ยนเป็นสีแดง หมอกเลือดนี้คือ จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับเก้า ท่านหนึ่งที่แอบย่อตัวเข้าไปใกล้หลงอ๋าว แต่ก็โดนฉู่ชวิ๋นระเบิดตัว จนตายกลายเป็นหมอกเลือด!!

ฉู่ชวิ๋นกระโดดไปหาหลงอ๋าว สองมือประทับรอยนิ้วมือ แล้ววาดเขตแดนเอาไว้เพื่อปกป้องหลงอ๋าว

ตู้ม!

พื้นดินระเบิดออกเกิดเป็นรอยแยกที่น่ากลัวทอดยาวไปไกลนับร้อยลี้

หวังอันเริ่มหวาดกลัว ความว่องไวของฉู่ชวิ๋นมันมากมายเกินไป ในตอนที่เขาใช้ง้าวยิงเงาออกไป ฉู่ชวิ๋นก็ยังหันไประเบิดผู้อาวุโสในสำนักของเขาจนตายได้อีก ทั้งยังมีสร้างเขตแดนคอยปกป้องหลงอ๋าวเอาไว้ หวังอันกำง้าวแน่น จิตใจสั่นไหว ฉู่ชวิ๋นว่องไวจนเขารู้สึกกลัว

เขาไม่พอใจ อยากจะด่ากราดออกไป ฉู่ชวิ๋นเจ้าเล่ห์เกินไป สั้น ๆ คือมันเลวมาก ดูยังไงก็รู้ว่าพลังของอยู่ในขั้นจักรพรรดิ แต่แกล้งปกปิดพลังเอาไว้ แถมยังใจจืดใจดำเอาส่งคัมภีร์ของปลอมให้ ทั้งหมดนี้เป็นอุบายของพวกคนชั่วเท่านั้น!

“ฉู่ชวิ๋น แกมันน่ารังเกียจสิ้นดี ไม่สมกับเป็นจอมมารเลย” หวังอันอัดอั้นไว้ไม่ไหวแล้วต้องตะโกนออกมา

“เพ้อเจ้อ เพราะเป็นจอมมารก็เลยต้องทำแบบนี้ต่างหาก” เพื่อเป็นปกป้องหลงอ๋าว ฉู่ชวิ๋นไม่คิดอย่างอื่น พลังของเขาทวีความน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ จิตสังหารคละคลุ้งไปทั่ว มือของหวังอันชุ่มเหงื่อ ในใจคิดแผนการ

เชว้ง!

ฉู่ชวิ๋นพุ่งแหวกอากาศเพียงก้าวเดียว เขาก็กระโดดมาได้ไกลร้อยลี้มุ่งตรงไปหาหวังอัน กำปั้นสองข้างเปล่งประกายแสงสีม่วงออกมา เขายกกำปั้นขึ้นชกหมัดระเบิดออกมาไม่หยุด

หวังอันกวาดฟันง้าวไปทั่วจนเกิดประกายไฟ หมายตัดข้อมือของฉู่ชวิ๋น

เต๊ง!

ง้าวปะทะกำปั้น พลังงานที่น่ากลัวแผ่กระจายออกมา ทั้งสี่ทิศเต็มไปด้วยระเบิดลมปราณ ง้าวโดนกำปั้นของฉู่ชวิ๋นดัดจนโค้งงอจนรูปทรงเหมือนกับคันธนู ง้าวนี้มันคือของวิเศษ แน่นอนว่ามันไม่มีวันแตกสลาย แต่ตอนนี้มือของหวังอันฉีกขาดเลือดสาดกระจาย ตัวตกลงไปที่พื้นดินไถเป็นร่องลึก ฉู่ชวิ๋นเหมือนกับเงาตามตัว เขาขยับเข้าไปใกล้แล้วยกหมัดขึ้นและชกออกมา

ตู้ม!

พลังหมัดแหวกอากาศ เสียงระเบิดดังราวกับฟ้าผ่า ร่องระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ของหวังอันระเบิดออกมา คนที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกระเบิดร่างกระเด็น

เต๊ง เต๊ง…..!

ตอนนี้ฉู่ชวิ๋นราวคนบ้า รัวหมัดออกมานับสิบ กลุ่มควันสีม่วงพุ่งออกไปในอากาศ แล้วในอากาศก็เต็มไปด้วยระเบิดลมปราณ

หวังอันร้องออกมา ง้าวหลุดจากมือ เลือดสาดกระเซ็นกลางอากาศ ตัวเขากระเด็นออกไปไกล

ตู้ม!

ร่างของเขาไปกระแทกเข้ากับหินช่องหนึ่งที่เรียงตัวเหมือนห้อง แล้วทันใดนั้นกองหินก็ถล่มลงมา ฝุ่นควันตลบ หวังอันถูกหินขนาดใหญ่หล่นทับฝังร่างของเขา

จากที่ไกล ๆ ผู้อาวุโสสำนักจิตวิญญาณอสรพิษกลุ่มหนึ่งที่เฝ้าดูอยู่ต่างหวาดผวา มือเท้าแข็ง หัวสมองชา แล้วก็มีคนที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

พวกเขาแสดงสีหน้าหวาดกลัว เหงื่อท่วมตัว ลีลาการต่อสู้ขอฉู่ชวิ๋นบ้าคลั่งเกินไปแล้ว ตัวเขาจัดการจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิหวังอันมาฆ่าไม่ต่างอะไรกับหมูหมา ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นหรือตาย แต่ก็สรุปได้สั้น ๆ ว่าน่ากลัวมาก

ฉู่ชวิ๋นเหาะไปมาหยิบง้าวขึ้นมา เพียงแค่สัมผัส ความเย็นก็แพร่กระจายออกมาพร้อมแสงสีเงินวูบวาบ แค่แกว่งไปมาเบา ๆ ก็ราวกับมันจะปล่อยพลังออกมาแล้ว

ฉู่ชวิ๋นแทรกลมปราณจำแลงเข้าไป ทำให้ง้าวสั่นไหวและกระแสลมปราณสีม่วงพุ่งไปตามลำตัวของง้าวราวมังกรกำลังเริงระบำ เป็นภาพที่น่าทึ่งมาก

จากนั้นฉู่ชวิ๋นจึงเหวี่ยงง้าว ทำให้มีเงาสีม่วงพุ่งออกมาจากปลายง้าว

ตู้ม!

บ้านพักของสำนักที่ห่างออกไปร้อยเมตรพังทลายลงมา พร้อมฝุ่นตลบอบอวล

“พวกเราจะทำยังไงดี ?” ผู้อาวุโสของสำนักจิตวิญญาณอสรพิษ ถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าสำนัก ?” ผู้อาวุโสอีกคนสั่นเทา

ดวงตาของทุกคนสั่นไหวและทุกคนก็เข้าใจแล้วว่า จอมมารฉู่น่ากลัวขนาดไหน

พวกเขาไม่รู้ว่าหวังอันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ บางคนที่ฉลาดพอก็เลือกที่จะยืนตัวแข็งอยู่กับที่ เพราะถ้าหนีไปเขาอาจตายได้

“จอมมารฉู่โหดร้ายเกินไป ด้วยข่าวลือของของเขา ครั้งนี้เจ้าสำนักคงไม่รอดแล้วล่ะ” มีคนพึมพำ

“มีข่าวลือว่า จอมมารฉู่เมื่อตัดสินใจฆ่าก็เด็ดขาดมาก เขาไม่ปล่อยเจ้าสำนักไปแน่ ๆ”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะทำยังไงดีล่ะ ? ฉันไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกับจอมมารฉู่เลยนะ ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย”

ขั้นปรมาจารย์ระดับเก้าคิดบางอย่าง และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เวลานี้เจ้าสำนักคงหนีไม่พ้นแล้วล่ะ ฉันไม่มีความคับข้องใจกับจอมมารฉู่ ทุกท่านก็ด้วย ดังนั้นอย่ากังวล แล้วเจอกันโอกาสหน้านะ” หลังจากที่เขาพูดจบแล้วเขาก็หนีไปอย่างรวดเร็ว คนอื่นได้แต่มองอย่างตะลึงงัน หน้าด้านมาก! แต่หากพวกเขาจำไม่ผิด

ฉู่ชวิ๋นเป็นคนที่โหดร้ายที่สุด เมื่อพูดถึงวิธีการของฉู่ชวิ๋นพวกเขาก็ขนลุกซู่ แต่ไอ้บ้าจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ระดับเก้า พูดออกมาได้ไม่มีความคับข้องใจกับจอมมารฉู่ แล้วก็หนีไปเลยมันไร้ยางอายจริง ๆ ที่นี่สำนักเอ็งนะเว้ย!!