ตัวหมากไป่หนิงปิง

แปลโดย iPAT

 

มองไปที่ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อ ไป่หนิงปิงระวังตัวเป็นอย่างมาก

 

หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ ไป่หนิงปิงสามารถกำจัดร่างหญิงสาวที่ทำให้เขารู้สึกลำบากใจมาอย่างยาวนาน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ตระหนักถึงความลึกเกินหยั่งถึงของชายชราม่านเยี่ยนซื่อ

 

แน่นอนว่าไป่หนิงปิงไม่แยแส การแสดงออกของเขาเป็นเพียงการตรวจสอบเท่านั้น

 

กระทั่งความปรารถนาที่จะต่อสู้กับฟางหยวนก็เป็นเพียงฉากหน้าที่เขาปรุงแต่งขึ้นเช่นเดียวกับการตรวจสอบผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อ

 

แม้เวลาจะผ่านไปเพียงไม่กี่ปี แต่ไป่หนิงปิงก็เลิกกังวลเกี่ยวกับฟางหยวนไปแล้ว

 

การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะทำให้ไป่หนิงปิงได้เปิดหูเปิดตา เขาได้เห็นสิ่งต่างๆและได้สัมผัสกับเรื่องอัศจรรย์มากมาย

 

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยตรวจสอบประวัติของผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่ออย่างลับๆ แต่เขากลับไม่พบสิ่งใดเลย

 

ไป่หนิงปิงไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดชายชราผู้นี้จึงช่วยเขา เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะแต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่พอใจที่ถูกควบคุม

 

ไป่หนิงปิงเคยคิดที่จะออกเดินทาง แต่หลังจากนิกายเงาทุ่มเทความพยายามกับเขา แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยไป่หนิงปิงไปโดยง่าย นอกจากนั้นยิ่งฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากเท่าใด ไป่หนิงปิงก็ยิ่งมีความสุขและรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างไร้ประโยชน์

 

การต่อต้านกับสวรรค์พิภพและผู้คนอย่างไม่สิ้นสุดคือความสุขของเขา

 

สิ่งหนึ่งที่ไป่หนิงปิงไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตก็คือหลบหนีจากการเผชิญหน้ากับอันตราย

 

เผชิญหน้ากับคำถามของไป่หนิงปิง ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อนำวิญญาณอมตะดวงหนึ่งออกมาและกล่าวอย่างผ่อนคลาย “เมื่อเจ้าทำตามที่ข้าบอก ข้ารับประกันว่าฟางหยวนจะกลับมาภาคใต้อย่างแน่นอน”

 

ดวงตาของไป่หนิงปิงส่องประกายเย็นเยียบ “ดูเหมือนเจ้าจะรู้ที่อยู่ของฟางหยวนอย่างชัดเจน แต่เมื่อข้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะและถามเจ้า เจ้ากลับบอกว่าไม่รู้”

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อหัวเราะเบาๆ

 

เขาไม่ตอบคำถามแต่กล่าวต่อ “ทางทิศใต้ของภูเขาหนาเหม่ย ทิศตะวันออกของภูเขาหลี่ชิว ไม่ไกลจากถ้ำมังกรศิลา มีภูเขาไร้นามแห่งหนึ่ง มันเป็นภูเขาสูงและมีแม่น้ำพาดผ่านเป็นทางยาว ไปที่ยอดเขาและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดวงนี้ เมื่อเจ้าทำสำเร็จ รีบออกมาจากยอดเขา ภูเขาลูกนี้จะกลายเป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับผู้อมตะ หากผู้อมตะล่วงล้ำเข้าไป พวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย”

 

ไป่หนิงปิงมองวิญญาณอมตะดวงนี้และกล่าวเสียงเย็น “เจ้ายังไม่ได้ให้คำตอบข้า”

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเจ้า เมื่อเจ้าทำภารกิจนี้สำเร็จ ฟางหยวนจะกลับมา ข้อตกลงที่เจ้าทำกับนิกายเงาระบุว่า เพียงเมื่อฟางหยวนตาย เจ้าจึงจะได้รับอิสรภาพ เจ้าจำได้หรือไม่?” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อเผยรอยยิ้มบาง

 

ไป่หนิงปิงเงียบไปชั่วขณะก่อนจะรับวิญญาณอมตะจากชายชรา

 

เขาก่นเสียงเย็นและบินจากไป

 

หลังจากสองวัน ไป่หนิงปิงจึงบรรลุถึงภูเขาที่ม่านเยี่ยนซื่อบอก

 

“ภูเขาลูกนี้ดูธรรมดามาก เหตุใดเขาจึงเลือกที่นี่?” ไป่หนิงปิงงุนงง

 

ในความเป็นจริงไป่หนิงปิงคาดเดาไว้หลายสาเหตุ เขาคิดกระทั่งว่าชายชราพยายามทำร้ายเขา

 

“แต่เขาใช้จ่ายทรัพยากรมากมายเพื่อช่วยให้ข้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ มีความเป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะคิดสังหารข้าในเวลานี้”

 

ไป่หนิงปิงส่ายศีรษะก่อนจะคิดอีกอย่าง “เหตุใดตาแก่ม่านเยี่ยนซื่อจึงช่วยเหลือข้า? เหตุใดต้องเป็นข้า? เพราะสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดงั้นหรือ?”

 

ไป่หนิงปิงเคยคิดเช่นนี้แต่เขารู้สึกว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น

 

ไป่หนิงปิงเริ่มตรวจสอบภูเขาแต่ไม่พบร่องรอยของค่ายกลวิญญาณใดๆ

 

นี่ทำให้เขายิ่งสงสัยและลังเล

 

หากเป็นกับดัก มันจะเป็นเรื่องน่าอายที่เขานำตนเองไปสู่ความตาย

 

แต่ทันใดนั้นไป่หนิงปิงกลับเกิดความคิดบางอย่าง “ตาแก่ม่านเยี่ยนซื่อจะไม่ส่งข้ามาที่นี่หากไม่มีเหตุผล เขาเก็บซ่อนแรงจูงใจที่แท้จริงเอาไว้ แต่เรื่องนี้ไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด ดังนั้นข้าอาจชะลอเวลาให้ช้าลงและค่อยๆตรวจสอบ”

 

หากนี่เป็นเรื่องเร่งด่วน ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อจะกระตุ้นให้เขารีบทำงาน ดังนั้นไป่หนิงปิงจึงหยุดเคลื่อนไหวและรอให้คนนิกายเงาเริ่มกังวล

 

ผู้อมตะชุดคลุมดำปรากฏตัวขึ้นด้านข้างศาลาหินบนยอดเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หยาบกระด้าง “เยี่ยนซื่อ ไป่หนิงปิงจากไปเกือบครึ่งเดือนแล้วแต่เขายังไม่ได้ทำสิ่งใด เขาจะหลบหนีหรืออาจพบปัญหาบางอย่างหรือไม่?”

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อยังมองกระดานหมากรุกหินอ่อนอย่างสบายใจ

 

กระดานหมากรุกหินอ่อนด้านหน้าชายชราเป็นกระดานหมากรุกที่มีชื่อเสียง มันถูกสร้างขึ้นจากพลังงานแห่งเต๋า ตอนนี้ตัวหมากบนกระดานถูกคลี่คลายไปมากกว่าช่วงเวลาก่อนที่ไป่หนิงปิงจะจากไป

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อใช้นิ้วคำนวณบางสิ่งก่อนที่เขาจะเปิดปากกล่าวกับผู้อมตะชุดคลุมดำ “ไป่หนิงปิงยังอยู่ที่นั่น เขายังไม่เคลื่อนไหวเพราะสงสัยว่าภารกิจนี้อาจมีอันตราย ดังนั้นเขาจึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้”

 

ผู้อมตะชุดคลุมดำเร่งกล่าว “แต่เราไม่สามารถรอ ตอนนี้ผู้อมตะจากสิบนิกายโบราณรวมถึงผู้บ่มเพาะสันโดษมากมายไปรวมตัวกันอยู่ที่น้ำตกสวรรค์แล้ว ทูตน้ำเงินและคนอื่นๆสามารถอดทนได้อีกเพียงสามวัน หลังจากนั้นวังสวรรค์อาจกระทำการบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อแผนการของเรา”

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อพยักหน้าเห็นด้วย “สิ่งที่เจ้ากล่าวสมเหตุสมผล สถานการณ์ปัจจุบันต่างจากแผนการเดิมของเราอย่างมาก ความคืบหน้าของเราช้าเกินไปจริงๆ”

 

“เจ้าควรส่งข้อความไปกระตุ้นไป่หนิงปิง หากเขาไม่ให้ความร่วมมือ เราจะทำให้เขากลับเป็นมนุษย์! เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเพราะความช่วยเหลือของพวกเรา แต่เขาเป็นเพียงผู้อมตะเทียม เราไม่ควรปล่อยให้เขาหยิ่งผยองเกินไป หลังจากกลับเป็นมนุษย์ เขาจะกลายเป็นสตรีอีกครั้ง เด็กน้อยมักไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ หากไม่ให้บทเรียน เราจะไม่สามารถใช้งานเขา!” ผู้อมตะชุดคลุมดำแนะนำ

 

“เจ้าคิดว่าเหตุใดข้าจึงเลือกใช้งานเขา?” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อหัวเราะและสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดวงดาวถูกลบออกจากกระดานหมากรุกหินอ่อนทันที

 

หากฟางหยวนเห็นสิ่งนี้ เขาจะตกใจเป็นอย่างมาก

 

สามารถทำเช่นนี้หมายความว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์เอก

 

ผู้อมตะชุดคลุมดำกล่าวต่อด้วยความสงสัย “เยี่ยนซื่อ เจ้าไม่ได้เลือกไป่หนิงปิงเพราะสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดงั้นหรือ?”

 

“ไม่ นั่นไม่เกี่ยว” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อหัวเราะ “นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ความจริงก็คือเขาเป็นผู้หลบหนีจากโชคชะตา”

 

“กระไรนะ!? เขาเป็นหนึ่งในนั้นงั้นหรือ?” ผู้อมตะชุดคลุมดำตกใจ

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่ออธิบาย “แผนการใหญ่ของเราเริ่มขึ้นมานานนับแสนปี ศัตรูที่แท้จริงของเราไม่ใช่วังสวรรค์แต่เป็นสวรรค์ ดังนั้นข้าจึงมอบภารกิจนี้ให้กับไป่หนิงปิง เขาเป็นผู้หลบหนีจากโชคชะตา อาจกล่าวได้ว่าเขาสามารถหลบหนีจากเจตจำนงสวรรค์ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีคุณสมบัติที่จะเป็นตัวหมากเบี้ยของพวกเรา”

 

“เป็นเช่นนั้น” ผู้อมตะชุดคลุมดำไม่สงสัยอีกต่อไป

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อกล่าวต่อ “เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถจัดการไป่หนิงปิงได้อย่างเด็ดขาด นี่ทำให้เขากลายเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพของเรา เราจะให้เขาเป็นผู้เปิดฉากโจมตี สิ่งที่เราต้องทำมีเพียงรับมือเจตจำนงสวรรค์อย่างเต็มความสามารถ หลังจากไป่หนิงปิงออกเดินทาง ข้าไม่ได้ติดตามการเคลื่อนไหวของเขา แต่เจ้าสามารถมั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ยื้อเวลานานไปกว่านี้”

 

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะกลับไปนอนต่อ” ผู้อมตะชุดคลุมดำป้องหมัดขึ้นและจากไป

 

ไป่หนิงปิงรออยู่บนยอดเขาและมองไปทางศาลาหินของม่านเยี่ยนซื่อเป็นครั้งคราว

 

“หลายวันผ่านไปแต่ตาแก่ม่านเยี่ยนซื่อยังไม่เร่งรัดข้า ดูเหมือนเขาจะไม่รีบร้อน แต่นั่นก็สมเหตุสมผล หากเขาเร่งรีบ เขาจะระบุวันเวลาที่แน่ชัด”

 

ไป่หนิงปิงรู้สึกหดหู่ใจอย่างช่วยไม่ได้

 

หลังจากทั้งหมดการตรวจสอบครั้งนี้ล้มเหลว!

 

เขามองภูเขาด้านล่างและครุ่นคิด ‘ข้าตรวจสอบภูเขาลูกนี้มาหลายครั้งแล้วแต่กลับไม่พบร่องรอยของค่ายกลวิญญาณ เห้อ…หากสิ่งนี้ทำให้ข้าพบอันตราย ข้าก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้และโทษได้เพียงความด้อยสามารถของตนเองเท่านั้น”

 

ไป่หนิงปิงถอนหายใจขณะลอยอยู่กลางอากาศ

 

‘ไป!’ ด้วยหนึ่งความคิด วิญญาณอมตะถูกกระตุ้นการทำงานอย่างลับๆ

 

แต่วิญญาณอมตะยังนอนสงบนิ่งอยู่บนฝ่ามือของไป่หนิงปิงโดยไม่ขยับเขยื้อน

 

เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ดูเหมือนวิญญาณอมตะดวงนี้จะต้องการพลังงานอมตะจำนวนมาก”

 

ไป่หนิงปิงส่งพลังงานอมตะให้มันอย่างต่อเนื่องและทำให้มันเริ่มส่องประกายขึ้นเล็กน้อย

 

หน้าผากของไป่หนิงปิงปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขารู้สึกกังวล ‘ข้าใช้องุ่นเขียวอมตะไปแล้วหลายร้อยผลแต่ยังไม่สามารถกระตุ้นการทำงานของมัน!’

 

หลังจากชั่วครู่วิญญาณอมตะดวงนั้นจึงปลดปล่อยลำแสงขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ลำแสงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆก่อนจะโค้งตัวกลับลงมาบนยอดเขา

 

“บึม!”

 

การปะทะทำให้แสงสว่างระเบิดออกไปในวงกว้าง

 

ไป่หนิงปิงปิดเปลือกตาและเร่งล่าถอย

 

เขาไม่ต้องใช้พลังงานอมตะอีกต่อไปแต่เขายังต้องตรวจสอบผลลัพธ์

 

ดังนั้นเขาบินห่างออกไปเพียงห้าลี้ก่อนจะหยุดอยู่กลางอากาศ

 

เขาเห็นฉากที่น่าอัศจรรย์!

 

“นี่คือ…สายธารแห่งกาลเวลา?”

 

ดวงตาของไป่หนิงปิงเบิกกว้างขึ้น

 

หลังจากชั่วครู่ภาพของสายธารแห่งกาลเวลาก็ค่อยๆเลือนหายไปขณะที่เงาร่างสองสายกระโดดออกมา

 

สิ่งสำคัญก็คือคนทั้งสองกำลังต่อสู้กัน!

 

การเคลื่อนไหวของพวกเขาทำให้ไป่หนิงปิงตกใจมาก

 

หนึ่งในสองเป็นชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ เขาอาละวาดราวกับสัตว์ร้ายในตำนาน สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือเขาเป็นผู้อมตะระดับแปด!

 

อีกหนึ่งเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดแต่ดูเหมือนเขาจะใช้ท่าไม้ตายบางอย่างสร้างกลุ่มเมฆหมอกปกปิดตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ สิ่งเดียวที่สามารถมองเห็นมีเพียงดอกบัวสีแดงที่กลางหน้าผากของเขาเท่านั้น